ศิลปะของการเป็นผู้นํา
()
About this ebook
"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"
Dag Heward-Mills
Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.
Related to ศิลปะของการเป็นผู้นํา
Related ebooks
เรียนภาษาเกาหลี - รวดเร็ว / ง่ายดาย / ประสิทธิภาพ: คำศัพท์สำคัญ 2,000 คำ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะการเลี้ยงดูแกะ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsพลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคู่มือศึกษา: 1 เปโตร: การศึกษาพระคัมภีร์ทีละข้อ 1 เปโตรบทที่ 1 ถึง 5 Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsวันนี้ฉันกำลังจะตาย: ทางเลือกในชีวิต Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาคนที่ กล่าวโทษคุณ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsวิธีการอธิษฐาน Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsรับการทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคู่มือศึกษา: ปัญญาจารย์: การศึกษาพระคัมภีร์ของปัญญาจารย์บทที่ 1 ถึง 12 แบบข้อต่อข้อ Rating: 0 out of 5 stars0 ratings
Reviews for ศิลปะของการเป็นผู้นํา
0 ratings0 reviews
Book preview
ศิลปะของการเป็นผู้นํา - Dag Heward-Mills
บทที่ 1
ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำ
เพราะดูสิ องค์เจ้านายคือพระยาห์เวห์จอมทัพ จะทรงนำไปเสียจากเยรูซาเล็มและจากยูดาห์ ซึ่งสิ่งหล่อเลี้ยงและการจุนเจือ คือสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นอาหาร และสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นน้ำดื่มนักรบและทหาร ผู้วินิจฉัยและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้ใหญ่นายกอง และคนมีตำแหน่งสูง ที่ปรึกษาและคนเล่นไสยศาสตร์ที่เจนจัด ทั้งผู้ชำนาญการทำอาถรรพณ์และเราจะทำให้เด็กๆ เป็นเจ้านายของเขา และทารกจะปกครองเขาทั้งหลายและประชาชนจะบีบบังคับกันและกัน แต่ละคนจะบีบบังคับคนอื่น และแต่ละคนจะบีบบังคับเพื่อนบ้านของตน เด็กๆ จะโอหังต่อผู้อาวุโส และคนเลวต่อคนมีเกียรติเมื่อคนหนึ่งคนใดบังคับพี่น้องของเขา ในบ้านของบิดาของเขา กล่าวว่า เจ้ามีเสื้อคลุมอยู่แล้ว ให้เจ้าเป็นผู้นำของเรา และซากหักพังนี้จะอยู่ใต้กำมือของเจ้า
แต่ในวันนั้นเขาจะคัดค้านว่า ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้แก้ไข ในบ้านของข้าพเจ้าไม่มีทั้งอาหารและเสื้อคลุม พวกท่านอย่าแต่งตั้งข้าพเจ้า เป็นผู้นำของประชาชนเลย
ส่วนชนชาติของเรานั้น เด็กๆ เป็นผู้บีบบังคับเขา และผู้หญิงปกครองเหนือพวกเขา โอ ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้นำของเจ้าทำให้เจ้าหลงทาง ทั้งทำให้วิถีทางของพวกเจ้าสับสน
อิสยาห์ 3:1-7,12
ใครบ้างที่ต้องพึ่งพาผู้นำ?
1. คริสตจักรขึ้นอยู่กับผู้นำของคริสตจักร
ในคริสตจักรที่ขาดผู้นำที่แท้จริงก็จะก่อให้เกิดปัญหาความบาปและคนกระทำชั่วที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับผู้นำคริสตจักรเทียมเท็จ การขาดผู้นำที่แท้จริงในคริสตจักรจะทำให้คนมากมายสูญเสียจิตวิญญาณของพวกเขา ตายและตกนรกไปในที่สุด กลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ผู้นำที่แท้จริงในคริสตจักรจะนำฝูงชนให้ชักชวนคนให้เชื่อและทำงานการประกาศ เมื่อไรก็ตามที่ผู้นำคริสตจักรทำให้คริสตจักรเลิกใส่ใจต่อผู้หลงหายและวิญญาณที่กำลังจะตาย ศาสนาเทียมเท็จและความเชื่ออีกแบบหนึ่งนั้นจะค่อยๆ เข้ามาและยึดครองคริสตจักรเสีย
ร่างกายที่ปราศจากศีรษะ ก็ไม่ถือว่าเป็นร่างกาย คริสตจักรหากปราศจากผู้นำที่แท้จริงก็เป็นความน่าสลดยิ่ง! ชนชาติที่ไร้ซึ่งผู้นำที่แท้ก็เหมือนโดนสาป! แท้จริงแล้วชนทุกชาติจะผงาดหรือล่มสลายล้วนแต่ขึ้นอยู่กับผู้นำของชาตินั้นๆ
โดยส่วนมาก สถานการณ์ที่เลวร้ายภายในคริสตจักรอาจจะเกิดจากการขาดผู้นำที่ดี ความแตกแยกในคริสตจักรและเรื่องอื้อฉาวทั้งหลายมักจะเป็นผลที่เกิดจากการขาดผู้นำที่เข้มแข็ง ข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวมาแล้วนั้นบอกให้เรารู้ว่าพระเจ้ากำลังจะสาปแช่งแผ่นดินด้วยการเอาผู้นำออกไป ผู้นำคือผู้ที่จะทำให้คริสตจักรผงาดขึ้นหรือล่มสลายลง เมื่อมีผู้นำที่ดีและเข้มแข็งแล้วนั้น คริสตจักรก็จะเติบโตขึ้นเป็นคริสตจักรขนาดใหญ่ หากมีผู้นำที่แย่ คริสตจักรก็ไปได้ไม่ไกลถึงแม้จะมีศิษยาภิบาลที่ได้รับการเจิมอยู่ก็ตาม บางครั้งท่านก็เห็นได้ว่ามีผู้รับใช้ที่ได้รับการเจิมอย่างดีแต่คุณสมบัติของความเป็นผู้นำค่อนข้างแย่ พันธกิจของคนผู้นั้นก็จะมีความสับสนวุ่นวายเพราะคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่ไม่ดี
ความเป็นผู้นำเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องทางโลกที่ผู้รับใช้ของข่าวประเสริฐจำเป็นต้องเข้าใจ ความสามารถในด้านการอ่านเขียนไม่ได้เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ แต่เป็นทักษะทางโลกที่ต้องเรียนรู้ หากไม่สามารถอ่านเขียนได้ก็หยุดอยู่กับที่ในโลกนี้ เช่นเดียวกันกับความเป็นผู้นำ! หากไม่มีความรู้และทักษะของความเป็นผู้นำแล้วนั้น พันธกิจของคุณก็จะไม่พัฒนา
2. ทุกชนชาติขึ้นอยู่กับผู้นำของชาตินั้นๆ
ในข้อพระคัมภีร์นี้ พระเจ้าทำนายถึงการพิพากษาต่อเยรูซาเล็มและยูดาห์ที่หนักหน่วง พระเจ้าตัดสินพระทัยที่จะลงโทษและทำลายชาติเหล่านี้ พระองค์จะทำอย่างไร? ข้อพระคัมภีร์ได้พูดไว้อย่างชัดเจน
เมื่อหลายปีก่อน ผมถามเพื่อนว่าจะลงคะแนนเสียงให้กับใครในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เขาลังเล ดังนั้นผมใช้คำถามอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นอีก ผมถามว่า จะลงคะแนนเสียงให้ประธานธิบดีเอ็กซ์หรือเปล่า?
เขาจึงตอบว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างดาวิดลูกชายสี่ขวบของคุณ กับประธานาธิบดีเอ็กซ์ ผมขอลงคะแนนเสียงให้ลูกชายคุณอย่างแน่นอน
เขายังพูดต่ออีกว่า ผมขอลงคะแนนเสียงให้แพะมาเป็นประธานาธิบดีของเราดีกว่าที่จะโหวตให้คนนั้น
เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นลูกชายของผมหรือแพะก็ไม่สามารถที่จะช่วยประเทศชาติของเราได้ การที่มีผู้นำเป็นเด็กหรือทารก หรือเหมือนอย่างที่เพื่อนคนนี้พูดว่าแพะ ก็ถือว่าเป็นการแช่งสาป ผลของการที่มีผู้นำที่ไม่เหมาะสมและไม่มีความเป็นผู้นำคืออะไร? พระคัมภีร์มีคำตอบให้ว่า
และประชาชนจะบีบบังคับกันและกัน แต่ละคนจะบีบบังคับคนอื่น และแต่ละคนจะบีบบังคับเพื่อนบ้านของตน เด็กๆ จะโอหังต่อผู้อาวุโส และคนเลวต่อคนมีเกียรติ
(อิสยาห์ 3:5).
ท่านไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้ที่ไหนเลยหรือ การบีบบังคับ ความอยุติธรรม การข่มขู่คุกคาม และความชั่วร้ายทุกชนิดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว? อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการกบฎขึ้นในแอฟริกา และวัยรุ่นหลายพันคนที่ติดยาในยุโรปและอเมริกา? ในประเทศชาติที่มีผู้นำที่ดีเพียงน้อยนิดหรือไม่มีเลยนั้น ท่านจะสังเกตเห็นการเกิดขึ้นของผู้นำเผด็จการ ผู้ก่อการกบฎ และเหล่านักค้าสงคราม
3. ชุมชนขึ้นอยู่กับผู้นำของชุมชนนั้นๆ
พระเจ้าจะเอาผู้นำทุกระดับออกไปจากชุมชน ชุมชนจะไม่มีผู้นำเหลืออยู่เลย พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทราบหลักการนี้เป็นอย่างดี เมื่อไม่มีผู้นำก็ไม่เกิดความก้าวหน้าใดๆ! ไม่มีผู้นำ ก็ไม่มีการพัฒนา! ไม่มีผู้นำ ก็ไม่มีพระพร! ไม่มีผู้นำก็ไม่มีการปลดปล่อย! พระเจ้าทราบดีว่าชุมชนจะตกอยู่ในการพิพากษาถ้าหากพระองค์เอาเหล่าผู้นำออกไปจากพวกเขา เพราะว่าทุกสิ่งจะดีหรือร้ายก็ขึ้นอยู่กับผู้นำ
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้ปลดปล่อยการลงโทษที่แย่ที่สุดอย่างหนึ่งที่ใครบางคน ประเทศชาติหรือกลุ่มคนจะได้รับ นั่นก็คือการขาดผู้นำ ถ้าท่านได้อ่านอย่างละเอียดในข้อพระคัมภีร์นี้ ท่านก็จะเห็นว่าพระเจ้าได้ทำนายถึงการเอาผู้นำในทุกระดับออกไปจากชุมชน
…องค์เจ้านายคือพระยาห์เวห์จอมทัพ จะทรงนำไปเสียจากเยรูซาเล็มและจากยูดาห์ ซึ่งสิ่งหล่อเลี้ยงและการจุนเจือ คือสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นอาหาร และสิ่งหล่อเลี้ยงทั้งหมดซึ่งเป็นน้ำดื่มนักรบและทหาร ผู้วินิจฉัยและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้ใหญ่นายกอง และคนมีตำแหน่งสูง ที่ปรึกษา …
หากท่านได้ศึกษาตามรายการนี้อย่างละเอียด ท่านก็จะตระหนักได้ว่าชุมชนนั้นไร้ซึ่งผู้ที่จะสามารถนำคนในด้านต่างๆได้ อย่างน่าตกใจ ทั้งศิษยาภิบาล นักการเมือง พลเมืองอาวุโส คนที่ฉลาดปราดเปรื่อง คนเหล่านี้ถูกนำออกไปจากชุมชนแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าสังคมไร้ผู้นำ (headless society)
4. ทุกๆ ครอบครัวขึ้นอยู่กับผู้นำ
ครอบครัวจะมั่งมีขึ้นหรือยากจนลงก็ขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำของคนเป็นบิดา การพิพากษาที่รุนแรงอย่างหนึ่งซึ่งพระเจ้าสามารถกระทำกับคนของพระองค์คือการนำผู้นำในทุกระดับออกไปจากพวกเขา อย่างที่เรารู้กันดี ธรรมชาติชิงชังความว่างเปล่า และในที่ของผู้นำที่แท้นั้น พระเยโฮวาห์ได้ทำนายถึงผู้นำเทียมเท็จที่จะเกิดขึ้นด้วย
และเราจะให้เด็กๆ เป็นเจ้าชายของพวกเขา และทารกจะปกครองเหนือพวกเขา … (แปลจากฉบับ NASV)
แทนที่บิดาจะทำหน้าที่ของการนำ เด็กๆ และทารกจะเป็นผู้นำทาง เด็กๆ และทารกเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ไม่ได้เรื่องและใช้การไม่ได้ เด็กไม่สามารถแม้แต่จะควบคุมการขับถ่ายของตนเองอย่างเห็นได้ชัด แล้วจะปกครองประเทศชาติได้อย่างไร
5. ทวีปก็ขึ้นอยู่กับผู้นำของทวีป
การถกเถียงที่ผมมักจะถกเถียงกับเพื่อนบ่อยๆ คือเรื่องของทวีปแอฟริกา ผมประหลาดใจอยู่เสมอในเรื่องการขาดพัฒนาการและระดับความยากจนในแอฟริกา ผมถามตัวเองว่า นี่อะไรกัน เราจะสร้างถนนเองไม่ได้หรือ? ทำไมเราจึงต้องให้บริษัทต่างชาติมาสร้างถนนและห้องน้ำให้เรา?
ถ้าหากไปในประเทศฝั่งยุโรปแล้วพบว่ามีบริษัทต่างชาติที่มีส่วนในการสร้างถนนและห้องน้ำในประเทศนั้นถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ทำไมถึงมีความทุกข์ยากและโรคภัยไข้เจ็บมากมายในประเทศที่กำลังพัฒนา?
มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายถึงสภาพของประเทศชาติที่ยากจนและไม่มั่นคง บางท่านก็บอกว่าเป็นคำสาปสำหรับคนผิวดำ บ้างก็อ้างว่าขาดประชาธิปไตย และบางท่านก็คิดว่าเป็นเพราะคำสาปของทวีปแอฟริกา ผมเชื่อว่าเหตุผลหลักของภาวะความยากไร้คือการขาดผู้นำที่ดีนั่นเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้นำที่ดี ท่านจะเห็นการพัฒนาในหลายทางและจะเห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง การขาดผู้นำจะสามารถเห็นได้ชัดในสองวงการ คือท่านจะเห็นการขาดผู้นำในวงการทางโลกทั่วไป และท่านก็จะสามารถสังเกตเห็นการขาดผู้นำในวงการฝ่ายวิญญาณหรือคริสตจักร เมื่อไม่มีผู้นำในวงการคริสตจักร ท่านจะเห็นสัญญาณอย่างเดียวกันกับพันธกิจที่ไม่ก้าวหน้า ความยากไร้ การขาดการสอนและการขาดความรู้ และความบาปที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย
ในทุกด้านของชีวิตจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำ ในวงการทางโลกจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำตัวจริง ในวงการคริสตจักรก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำ คำอธิษฐานของผมคือที่พระเจ้าจะยกท่านและคนอื่นๆ ขึ้นให้เป็นผู้นำที่แท้จริงสำหรับคนในรุ่นนี้! แน่ทีเดียวที่ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำ!
บทที่ 2
เลือกที่จะเป็นผู้นำที่ดีที่มีน้อยนักในโลกนี้
หากท่านเชื่อว่าท่านได้รับการทรงเรียกสำหรับงานพันธกิจ นั่นแสดงว่าท่านได้รับการทรงเรียกให้เป็นผู้นำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหนังสือเล่มนี้สำคัญสำหรับชีวิตของท่าน เพื่อให้ท่านเป็นผู้นำที่ดีเพื่อองค์พระเยซูคริสต์ เปาโลเขียนถึงทิโมธีและบอกให้เขาทำบางสิ่งเพื่อจะเป็นผู้นำที่ดี มีทั้งผู้ปรนนิบัติที่ดีและไม่ดี จงเลือกเป็นผู้ปรนนิบัติที่ดี!
..... ท่านก็จะเป็นผู้ปรนนิบัติที่ดีของพระเยซูคริสต์ .....
1 ทิโมธี 4:6
หากท่านต้องการที่จะเกิดผลในพันธกิจ ท่านจะต้องศึกษาการเป็นผู้นำ ไม่ว่าเมื่อใดที่ผมเข้าไปในร้านหนังสือ ผมพบว่าตนเองมักจะตรงดิ่งไปที่แผงหนังสือความเป็นผู้นำ ผมอ่านหนังสือในเรื่องนี้มานับไม่ถ้วน ผมได้ศึกษาในหัวข้อที่สำคัญทั้งหมด ผมปรารถนาจะเป็นผู้นำที่ดี และอยู่ๆ สิ่งที่ดีคงไม่ตกมาถึงเราเองเหมือนส้มหล่น ท่านจะต้องศึกษาและค้นคว้าในทุกสิ่งที่ต้องเรียนรู้
เห็นได้ชัดว่ารอบตัวเรานั้นไม่มีผู้นำที่ดีมากเท่าไร เพราะถ้ามี ท่านและผมก็คงชี้ตัวให้เห็นได้ง่ายๆ! ผมเชื่อว่ามีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้มีผู้นำที่โดดเด่นเพียงไม่กี่คน แต่ให้เรามาดูเหตุผลที่คนไม่อยากเป็นผู้นำแต่แรก!
เอาชนะอุปสรรคเพื่อให้ได้เป็นผู้นำ
1. เอาชนะการไม่ตระหนักต่อการทรงเรียกให้เป็นผู้นำของท่าน
พวกเขาไม่รู้เพราะไม่มีใครบอก! พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าพวกเขามีความสามารถที่จะนำ บางคนคิดว่ามีเพียงคนจำนวนน้อยนิดที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ ผมไม่เชื่อว่ามีคนเพียงจำนวนน้อยนิดที่เกิดมาเพื่อนำคน ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่เกิดมาด้วยความสามารถที่จะนำคนได้ เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะยอมลำบากเพื่อจะเป็นผู้นำต่างหาก
อย่างนั้นแหละ คนที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนแรก และคนที่เป็นคนแรกจะกลับเป็นคนสุดท้าย"
มัทธิว 20:16
เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการ ทรงเลือกก็มีน้อย"
มัทธิว 22:14
พระคัมภีร์สอนว่ามีหลายท่านถูกเรียกให้รับใช้ ผู้ใดก็ตามที่ยอมจำนนอยู่ในพันธกิจขององค์พระเยซูคริสต์ก็เป็นผู้นำโดยอัตโนมัติ ผู้รับใช้ของข่าวประเสริฐจะต้องแสดงถึงคุณสมบัติและความสามารถของการเป็นผู้นำตลอดเวลา
หากท่านถูกเรียกมาสู่งานรับใช้ของพระองค์ นั่นแสดงว่าท่านถูกเรียกให้เป็นผู้นำ ท่านไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้!
2. เอาชนะคำกล่าวหาที่ยับยั้งไม่ให้ท่านเป็นผู้นำ
ผู้นำมักจะถูกกล่าวหาว่ามีความทะเยอทะยาน พวกเขามักจะถูกกล่าวหาว่ามีแรงจูงใจที่ไม่ดี ผมประหลาดใจเมื่อได้ยินบางคนกล่าวหาว่าผมทำพันธกิจก็เพื่อเงิน แต่พระเจ้าตรัสกับผมว่าการที่ผมจะถูกกล่าวหานั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้นำที่ดีทุกคนมักจะมีศัตรูมากมาย ธรรมชาติของผู้นำที่ดีคือการวางแผนแนวทางและรักษาทิศทาง ซึ่งหมายความว่าท่านอาจจะข้ามเส้นและทำให้คนบางส่วนเจ็บปวดได้
และใครก็ตามที่ไม่ได้แบกกางเขนของตนตามเรามา คนนั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้
ลูกา 14:27
เมื่อหลายปีก่อน ผมบอกพี่น้องคนหนึ่งว่าผมไม่อยากเป็นผู้นำในกลุ่มสามัคคีธรรมกลุ่มหนึ่ง ผมบอกเขาว่าผมเป็นคนเงียบๆ และชอบความเป็นส่วนตัว ผมบอกเขาว่าผมไม่ต้องการจะสั่งสอนหรือนำ แต่พระเจ้าก็มีแผนการอีกอย่างให้กับผมและวันนี้ผมก็เป็นผู้นำคนหนึ่งในบ้านของพระเจ้า การเป็นผู้นำจะต้องยอมเสียสละชีวิตส่วนตัวอันมีค่าของตนเอง ผมมีความเป็นส่วนตัวน้อยลง คนส่วนมากทราบหลายเรื่องเกี่ยวกับตัวผม คนทั่วไปพูดถึงผมในบ้านและในรถของพวกเขา เช่นเดียวกับผู้นำทุกคนผมเป็นที่ยกย่องและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น นี่เป็นสิ่งที่ผู้นำต้องเจอ จึงเป็นเหตุผลที่คนหลบเลี่ยงจะเป็นผู้นำ แต่พระเยซูตรัสว่าท่านจะต้องแบกกางเขนและติดตามพระองค์ การเป็นคริสเตียนต้องเกี่ยวข้องกับการเสียสละ จึงจะสมควรที่จะเป็นผู้นำภายในคริสตจักร
3. เอาชนะความกลัวที่จะเสื่อมเสียชื่อเสียง
มีผู้นำหลายคนที่ต้องจบลงด้วยการเสื่อมเสียชื่อเสียงหลังจากที่รับบทบาทหน้าที่การเป็นผู้นำ หลายท่านต้องประสบกับความเจ็บปวดแสนสาหัสและมีประสบการณ์อันขมขื่น บ้างก็ถูกทำลายโดยกลุ่มคนที่ตนเองนำ
ส่วนตัวผมเห็นผู้นำหลายคนที่รับใช้มาหลายปีได้รับการตอบแทนด้วยสิ่งแย่ๆ ผมเคยเห็นคริสตจักรหลายแห่ง (ขอย้ำว่าหลายแห่งจริงๆ) ไล่ศิษยาภิบาลที่เป็นผู้นำพวกเขามาหลายปีออกไป ผมเห็นศิษยาภิบาลถูกหัวเราะเยาะและถูกทำให้อับอายโดยสมาชิกที่พวกเขาได้ทำงานรับใช้มาหลายปีและต้องเสียสละอย่างมากมาย ผมได้เห็นศิษยาภิบาลไม่เป็นที่ยอมรับด้วยประเด็นอย่างเช่น เรื่องรถ เรื่องบ้าน ช่างน่าเศร้า! เราทุกคนรู้ว่าพระเยซูถูกตรึงหลังจากที่ใช้เวลาสามปีครึ่งทำพันธกิจ นั่นคือรางวัลสำหรับการเป็นแสงสว่างให้กับผู้คนของพระองค์เอง
ในประเทศของผม ก็มีประมุขแห่งรัฐหลายท่านที่เสียชีวิตอย่างผิดวิสัยหลังจากที่ได้ปกครองประเทศชาติมาหลายปี เราเห็นผู้พิพากษาถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นหลังจากที่พวกเขาได้ตัดสินในเรื่องที่คิดว่าถูกต้องดีแล้ว แล้วใครกันเล่าที่จะอยากเป็นผู้นำในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้? เมื่อท่านศึกษาชะตาชีวิตของผู้นำรอบๆ ตัว ก็เป็นธรรมดาที่คนจะหลบเลี่ยงการเป็นผู้นำและเลือกที่จะมีชีวิตเงียบๆอย่างสงบสุขและไม่เปิดเผยตัวตน ผมเข้าใจว่าทำไมคนจึงอยากอยู่ห่างๆ โลกของนักการเมืองจอมโกหกและผู้นำที่คดโกง
ในหนังสือเล่มนี้ ผมขอร้องให้ท่านรับหน้าที่ของการเป็นผู้นำแบบคริสเตียน ผมขอร้องให้ท่านรับการทรงเรียกที่จะเป็นผู้นำภายในคริสตจักร เพราะเป็นสิ่งที่คุ้มค่า! ความท้าทายต่างๆ ก็เหมือนกับการเป็นผู้นำทางโลก ข้อกล่าวหาก็มักจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เป็นสิ่งที่คุ้มค่า!
ผู้นำทางโลกทำงานเพื่อให้ได้รางวัลแบบมนุษย์ทั่วไปเช่นเงินและชื่อเสียง แต่รางวัลเหล่านี้จะพินาศไป เมื่อท่านทำงานเพื่อพระเยซู ท่านจะได้รับรางวัลที่คงอยู่ถาวรชั่วนิรันดร์
.... พวกเขาทำเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ที่ร่วงโรยได้ แต่มงกุฎของเราจะไม่ร่วงโรยเลย
1 โครินธ์ 9:25
มีหลายครั้งที่ผมเผชิญกับความเจ็บปวดในการเป็นผู้นำ แต่เมื่อได้คิดถึงรางวัลที่รอคอยสำหรับผู้ที่สัตย์ซื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าแล้วนั้น ผมก็ได้รับกำลังใจ ผมรู้ว่าสักวันหนึ่งผมจะปิติยินดีในทุกๆ สิ่ง
โดยจับตามองที่พระเยซูผู้เบิกทางความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงสู้ทนต่อกางเขน เพื่อความยินดีที่อยู่ต่อหน้าพระองค์ ทรงถือว่าความอับอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญ และพระองค์ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ผู้ทรงยอมทนต่อการคัดค้านของคนบาป เพื่อท่านจะไม่อ่อนล้าและไม่ท้อใจ
ฮีบรู 12:2,3
4. เอาชนะปมด้อยของตนเอง
บางคนคิดว่าพวกเขาไม่ได้ดีพร้อมตามมาตรฐานของการเป็นผู้นำ บ้างก็คิดว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติของผู้นำ บ้างก็รู้สึกว่าตนเองมีปัญหาส่วนตัวมากมายเกินกว่าที่จะเป็นผู้นำได้ พวกเขาไม่อาจจะนึกภาพตนเองรับปัญหาของคนอื่นๆ ได้
ผมมีข่าวดีสำหรับท่านในวันนี้! พระเจ้าไม่ทำงานกับคนที่คิดว่าตนสมบูรณ์แบบ พระองค์ทำงานกับคนที่มีความตั้งใจจริง พระองค์ทรงดูที่หัวใจและพระองค์เข้าใจถึงความอ่อนแอในความเป็นมนุษย์ของท่าน หากพระเยซูจะเน้นที่ความสมบูรณ์แบบแล้วนั้น ผมอยากให้ท่านมั่นใจว่าคงไม่มีใครเลยสักคนที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอต่อตำแหน่งผู้นำในคริสตจักร ดูเปโตรเป็นตัวอย่าง เขาทรยศองค์พระเยซูถึงสามครั้งเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่เขาจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาทั้งสบถสาบานและแช่งสาปราวกับว่าไม่เคยได้รับการสั่งสอนมาก่อน ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังใช้เขาได้ ดูสาวกคนอื่นๆ ที่ถกเถียงกันในเรื่องตำแหน่งในสวรรค์ ใครจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด?
พวกเขาถาม
..... มีการโต้เถียงกันในพวกสาวกว่าใครในพวกเขาที่นับว่าเป็นใหญ่
ลูกา 22:24
หลังจากที่ได้โต้เถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ พวกเขาก็ทอดทิ้งพระเยซูในขณะที่พระองค์ต้องการพวกเขามากที่สุด ท่านจะวางใจคนเหล่านี้ไหม? ท่านจะใช้คนพวกนี้ไหม? ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังวางใจและใช้พวกเขา ท่านไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดีพร้อมเพื่อเป็นผู้นำ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ก็คงจะไม่มีผู้นำในโลกนี้หรือในคริสตจักร แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีบรรทัดฐานใดๆ เลย พระเจ้าคาดหวังมาตรฐานสูงสุดด้านคุณลักษณะและคุณธรรม แต่พระองค์ก็ยังทำงานกับคนที่ไม่สมบูรณ์พร้อมด้วย
พระเจ้ามองดูที่หัวใจ จึงควรให้แน่ใจว่าหัวใจของท่านนั้นถูกต้องและพระเจ้าจะสามารถใช้คุณได้
... เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ทอดพระเนตรเหมือนที่มนุษย์ดู เพราะมนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระยาห์เวห์ทอดพระเนตรจิตใจ
1 ซามูเอล 16:7
5. เอาชนะความเห็นแก่ตัว
คนส่วนมากก็สนใจเพียงแต่ตนเอง พวกเขามีความสุขที่ได้รับความรอด พวกเขาสุขใจที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาสุขใจที่มีความเจริญรุ่งเรือง แต่พวกเขาไม่อาจจะใส่ใจคนอื่นได้ ถ้าฉันปกติดีแล้ว
พวกเขาคิดว่า ทุกสิ่งก็จะดี
นั่นเป็นวิญญาณแห่งความเห็นแก่ตัว
คนที่เห็นแก่ตัวก็จะไม่ใส่ใจที่จะเข้ารับการฝึกอบรมหรือยอมเสียสละเพื่อจะเป็นผู้นำ เขาจะไม่ยอมเผื่อกำลังที่จะช่วยผู้อื่น ถ้าพระเยซูได้เลือกที่จะอยู่ในความสบายบนฟ้าสวรรค์ แล้วคุณจะเป็นอย่างไรในวันนี้? พระองค์เป็นขึ้นมาจากอุโมงค์ฝังศพและคุณไม่อาจแม้แต่จะลุกจากที่นอน ผมขอสั่งห้ามวิญญาณแห่งความขี้เกียจและเห็นแก่ตัว! ขอบคุณพระเจ้าสำหรับมิชชันนารี ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคนที่เดินทางไปในที่แสนไกลจากบ้านเรือนตนเอง ไปยังวัฒนธรรมต่างชาติเพียงเพื่อจะช่วยเหลือคนอื่นๆ
บทที่ 3
ชื่อภาษาอังกฤษสี่สิบประการสำหรับผู้นำ
พระองค์จะทำลายผู้นำทั้งหลาย นักรบและทหาร ผู้วินิจฉัยและผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนายและผู้ใหญ่นายกอง และคนมีตำแหน่งสูง ที่ปรึกษาและคนเล่นไสยศาสตร์ที่เจนจัด ทั้งผู้ชำนาญการทำอาถรรพณ์และเราจะทำให้เด็กๆ เป็นเจ้านายของเขา และทารกจะปกครองเขาทั้งหลาย
อิสยาห์ 3:2-4 (แปลจากฉบับ NLT)
ในภาษาอังกฤษมีคำเหมือนสำหรับคำว่า ผู้นำ
เยอะแยะมากมาย ชื่อที่ใช้เรียกก็จะแสดงถึงรูปแบบของผู้นำที่มีอยู่ในโลกนี้แตกต่างกันออกไป มีผู้นำอยู่ในกิจกรรมทุกด้าน และในกิจกรรมแต่ละด้านนั้นก็เรียกชื่อของผู้นำต่างกัน ผู้นำที่อยู่ในเรือเรียกว่ากับตัน ผู้นำที่อยู่ในเครื่องบินก็เรียกว่านักบิน ขณะที่ผู้นำของเหล่าทหารก็เรียกว่านายพล ในโลกของการเมืองผู้นำของประเทศจะเรียกว่าประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรี ขณะที่ผู้นำของมหาวิทยาลัยจะเรียกว่าอธิการบดี ในโลกของศาสนา ผู้นำในคริสตจักรเรียกว่าศิษยาภิบาล ขณะที่ผู้นำในมัสยิดจะเรียกว่าอิหม่าม ผู้นำของหมู่บ้านต่างๆ ของอาหรับจะเรียกว่าชีค และผู้นำของหมู่บ้านต่างๆ ของกานาจะเรียกว่าหัวหน้า
เหล่านี้คือรายชื่อและตำแหน่งของผู้นำเพียงส่วนเล็กน้อย รายชื่อและตำแหน่งเหล่านี้สำคัญเพราะท่านจะต้องเล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำแม้จะอยู่ในอีกวงการหนึ่งภายนอกโลกปกติของท่าน
โดยปกติ ผู้นำมักจะรู้กันว่าเป็นผู้นำแม้จะอยู่ในคนละวงการกัน ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าซึ่งไม่ได้เชื่อในพระคริสต์หรือในคริสตจักรเห็นความสามารถในการเป็นผู้นำของผม เขายังสามารถแยกแยะได้ว่าผมเป็นผู้นำที่ควรต้องฟัง เขาไม่รู้ถึงหลักการด้านศาสนาหรือด้านวิญญาณของผมแต่เขาเห็นถึงทักษะความเป็นผู้นำและขอให้ผมไปแบ่งปันทักษะเหล่านี้กับผู้ไม่เชื่อพระเจ้าคนอื่นๆ ถ้าหากท่านเป็นผู้นำทางศาสนา ท่านจะรู้จักเพื่อนผู้นำด้วยกันได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ผู้ไม่เชื่อพระเจ้าหรือผู้นำทางศาสนาอื่นๆ
ในทางกลับกัน ถ้าหากท่านไม่ใช่ผู้นำ ถึงท่านจะเจอผู้นำท่านก็ดูไม่ออกว่าเขาคือผู้นำ ตัวอย่างเช่น นักการเมืองหลายท่านในตำแหน่งของรัฐบาลไม่รู้หรือเห็นคุณค่าของผู้นำในวงการอื่นๆ เพราะพวกเขาเองไม่ได้เป็นผู้นำ การเป็นนักการเมืองและพูดในสิ่งที่เอาใจทุกคนเพื่อให้เป็นที่โปรดปรานเป็นสิ่งที่แตกต่างจากการนำคนอื่นมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนา
จากข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวไปเบื้องต้น ท่านจะสังเกตเห็นผู้นำประเภทต่างๆ ที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม การลงโทษของพระเจ้าคือการนำผู้นำทุกประเภทออกไปจากชุมชนนั้น
1. เหล่าผู้นำที่เรียกว่ากับตัน
2. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าหัวหน้า
3. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้บังคับบัญชา
4. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าประธานาธิบดี
5. เหล่าผู้นำที่เรียกว่านายกรัฐมนตรี
6. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้เลี้ยง
7. เหล่าผู้นำที่เรียกว่านายพล
8. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ว่าราชการ
9. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้นำร่อง
10. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าศิษยาภิบาล
11. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าเจ้านาย
12. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าหัวหน้า
13. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้จัดการ
14. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่
15. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ปกครอง
16. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าพลเมืองที่มีเกียรติ
17. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ให้คำปรึกษา
18. เหล่าผู้นำที่เรียกว่านักบิน
19. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้อำนวยการ
20. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ที่เหนือกว่า
21. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้อาวุโส
22. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้นำหน้า
23. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ควบคุมดูแล
24. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้บริหาร
25. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้กำกับ
26. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าเจ้านาย
27. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าขุนนาง
28. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้บงการ
29. เหล่าผู้นำที่เรียกว่ากษัตริย์
30. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้บุกเบิก
31. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้อาวุโส
32. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าอธิการบดี
33. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าชีค
34. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้พิพากษา
35. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญ
36. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้ชำนาญเฉพาะทาง
37. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าวีรบุรุษ
38. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าเลขาธิการ
39. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าผู้เบิกทาง
40. เหล่าผู้นำที่เรียกว่าคนชั้นสูง
บทที่ 4
พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับการเป็นผู้นำอย่างไร
การเป็นผู้นำเป็นหัวข้อที่สำคัญในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ส่วนมากไม่ได้ใช้คำว่าผู้นำเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเหตุนี้หัวข้อเรื่องการเป็นผู้นำจึงตกเป็นหน้าที่ของนักพูดสร้างแรงบันดาลใจและกลุ่มคนที่มีความสนใจทางโลกอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในเรื่องคำและคำศัพท์อื่นๆที่ใช้แทนที่คำว่าผู้นำจะช่วยให้ท่านได้เห็นถึงหัวข้อนี้ที่อยู่ในพระคัมภีร์ ข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้เปิดเผยให้เห็นถึงคำบรรยายหลากหลายที่เกี่ยวกับผู้นำในพระคัมภีร์
1. อัครทูตเปาโลเรียกการเป็นผู้นำว่าคณะผู้ปกครอง โดยการรวมไว้ในรายการนี้ การเป็นผู้นำถือว่าเป็นพระคุณจากพระเจ้า
พระเจ้าทรงตั้งบางคนไว้ในคริสตจักร คือหนึ่ง บรรดาอัครทูต สอง บรรดาผู้เผยพระวจนะ สาม บรรดาอาจารย์ ต่อจากนั้น ผู้ทำการด้วยฤทธานุภาพ ต่อจากนั้น ของประทานในการรักษาโรค พวกที่ให้ความช่วยเหลือ คณะผู้ปกครองและพวกที่รู้ภาษาแปลกๆ
1 โครินธ์ 12:28 (แปลจากฉบับ NASV)
2. เปาโลอธิบายว่าผู้นำคือผู้ครอบครอง โดยการรวมไว้ในรายการนี้ การเป็นผู้นำถือว่าเป็นของประทานจากพระเจ้า
ถ้าเป็นผู้เตือนสติก็จงเตือนสติ ผู้ที่ให้ ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง ผู้ที่ครอบครอง ก็จงครอบครองด้วยเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตา ก็จงแสดงด้วยใจยินดี
โรม 12:8
3. รูปแบบการเป็นผู้นำตามพระคัมภีร์นั้นแตกต่างจากการเป็นผู้นำที่โลกนี้กำหนด
แต่พวกท่านจะไม่เป็นอย่างนั้น ในพวกท่านคนที่เป็นใหญ่ต้องเป็นเหมือนเด็ก และคนที่เป็นนายต้องเป็นเหมือนผู้ปรนนิบัติ
ลูกา 22:26
4. ในพระคัมภีร์ ผู้ที่ถือว่ามีคุณสมบัติที่จะนำคริสตจักรได้คือผู้ที่สามารถนำผู้หญิงคนหนึ่งได้ โดยการรวมไว้ในรายการนี้ การเป็นผู้นำถือว่าเป็นการคุ้มครองดูแลของคนบางคน (ไม่ใช่ผู้ชายทุกคน)
(เพราะถ้าชายคนไหนไม่รู้จักปกครองครอบครัวของตน คนนั้นจะดูแลคริสตจักรของพระเจ้าได้อย่างไร?)
1 ทิโมธี 3:5
5. ผู้นำของอิสราเอลครั้งหนึ่งถูกเรียกว่าผู้วินิจฉัย ในอีกช่วงหนึ่งก็ถูกเรียกว่ากษัตริย์ รูปแบบการเป็นผู้นำและความสำเร็จทั้งหลายของพวกเขาถูกบรรยายไว้ในพระธรรมผู้วินิจฉัยและพงศ์กษัตริย์
แล้วพระยาห์เวห์ทรงให้เกิดผู้วินิจฉัย ผู้ช่วยเขาทั้งหลายให้พ้นมือผู้ที่ปล้นเขาแต่เขาทั้งหลายก็ยังไม่เชื่อฟังบรรดาผู้วินิจฉัยของเขา เพราะพวกเขาเล่นชู้กับพระอื่น และกราบไหว้พระเหล่านั้น ไม่ช้าเขาก็หันไปจากทางซึ่งบรรพบุรุษของเขาผู้ได้เชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์ได้ดำเนิน แต่เขาทั้งหลายไม่ได้ทำอย่างนั้นพระยาห์เวห์ทรงตั้งผู้วินิจฉัยขึ้นเมื่อไร พระยาห์เวห์ก็สถิตกับผู้วินิจฉัยเมื่อนั้น และทรงช่วยเขาทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรูตลอดชีวิตของผู้วินิจฉัย เพราะพระยาห์เวห์ทรงสงสารเขาทั้งหลาย เมื่อทรงฟังเสียงคร่ำครวญของเขาเนื่องด้วยผู้ข่มเหงและบีบบังคับแต่เมื่อผู้วินิจฉัยนั้นสิ้นชีวิต เขาทั้งหลายก็หันกลับไปทำชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษของเขาโดยติดตามปรนนิบัติ และกราบไหว้พระอื่นๆ เขาไม่เคยละความชั่วที่เคยทำ หรือทิ้งทางดื้อดึงของเขา
ผู้วินิจฉัย 2:16-19
พระยาห์เวห์สถิตกับพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทมาแล้วอย่างไร ก็ขอสถิตกับซาโลมอนอย่างนั้น และขอทรงทำให้บัลลังก์ของซาโลมอนใหญ่ยิ่งกว่าบัลลังก์ของพระราชาดาวิดเจ้านายของข้าพระบาท
1 พงศ์กษัตริย์ 1:37
บทที่ 5
การเป็นผู้นำในแบบที่ท่านต้องหลีกเลี่ยง
ส่วนชนชาติของเรานั้น เด็กๆ เป็นผู้บีบบังคับเขา และผู้หญิงปกครองเหนือพวกเขา โอ ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้นำของเจ้าทำให้เจ้าหลงทาง ทั้งทำให้วิถีทางของพวกเจ้าสับสน
อิสยาห์ 3:12
พระเจ้าประกาศว่าผู้หญิงและเด็กจะปกครองเหนือชนชาติของพระองค์ รูปแบบการใช้สำนวนของข้อพระคัมภีร์นี้ทำให้เราเชื่อว่าการที่กลุ่มคนถูกปกครองโดยผู้หญิงหรือเด็กนั้นเป็นการลงโทษหรือการสาปแช่ง ดูเผินๆแล้ว สิ่งนี้ฟังดูค่อนข้างจะรุนแรงแต่ถ้าได้คิดไตร่ตรองและใคร่ครวญถึงความหมายของข้อพระคัมภีร์นี้ จะช่วยให้เราได้พัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำ แท้จริงแล้ว นี่คือคำสาปแช่งสองประการที่เราต้องทำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงในทุกกรณี
เราต้องเคยได้ยินคำพูดที่ว่า คุณนิสัยเหมือนเด็กๆ!
เราต้องเคยได้ยินคำพูดที่ว่า คุณทำตัวเป็นเด็กๆ!
เราต้องเคยพูดมาก่อนว่า ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ
คำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะคนที่โตแล้วบางครั้งก็ทำตัวเป็นเด็ก น่าเสียดาย บรรดาผู้นำในตำแหน่งสูงๆ ทำตัวเหมือนเด็กบ่อยครั้งและส่งผลกระทบต่อทุกๆ คนที่อยู่รอบตัวพวกเขา
เช่นเดียวกันนี้ ผู้นำหลายท่านก็ปฏิบัติตนราวกับว่าเป็นผู้หญิงในเรื่องการตัดสินใจและรูปแบบความเป็นผู้นำของเขา ผู้หญิงที่ไม่ได้ถูกหล่อหลอมด้วยพระวจนะของพระเจ้าและพระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถกลายเป็นมนุษย์ที่แย่มากหากต้องอยู่ภายใต้การปกครองของเธอ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงจำเป็นจะต้องอ่อนโยนลงและลดความเกรี้ยวกราดลงเพื่อที่จะเป็นผู้นำที่เหมาะสม คู่ควร และน่าพิศมัย
1. เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะพัฒนารูปแบบการเป็นผู้นำที่เหมือนกับการเป็นผู้นำแบบเด็ก
2. เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะพัฒนารูปแบบการเป็นผู้นำที่เหมือนกับการเป็นผู้นำแบบผู้หญิง
บทที่ 6
ความเป็นผู้นำแบบเด็ก
ส่วนชนชาติของเรานั้น เด็กๆ เป็นผู้บีบบังคับเขา และผู้หญิงปกครองเหนือพวกเขา โอ ชนชาติของเราเอ๋ย ผู้นำของเจ้าทำให้เจ้าหลงทาง ทั้งทำให้วิถีทางของพวกเจ้าสับสน
อิสยาห์ 3:12
1. ลักษณะความเป็นผู้นำแบบเด็กจะแสดงออกโดยความไม่เป็นระเบียบ
และเราจะทำให้เด็กๆ เป็นเจ้านายของเขา และความวุ่นวายจะปกครองเขาทั้งหลาย
อิสยาห์ 3:4 (แปลจากฉบับ NLT)
หากเราไม่สามารถจัดห้องนอนของตนเองให้เป็นระเบียบได้ เราก็เป็นเด็ก หากเราไม่สามารถทำความสะอาดที่อยู่ของเราได้ เราก็เป็นเด็ก หากเราไม่สามารถทำให้บ้านเมืองของตนเองสะอาดเรียบร้อยได้ เราก็เป็นเด็กถึงแม้ทุกคนจะเรียกเราว่านายกเทศมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีก็ตาม
เราจะต้องศึกษาความเป็นผู้นำ ทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และปฏิบัติตามหลักการของความเป็นผู้นำอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะนำคนอื่นๆ ด้วยแนวคิดแบบเด็ก ความเป็นผู้นำแบบเด็กทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายและไม่มีระเบียบตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ เมื่อไรก็ตามที่เราเห็นความยุ่งเหยิง ความอลหม่าน ความไม่เป็นระเบียบ และความสับสน เราสามารถคาดเดาได้ว่ามีผู้นำแบบเด็กที่ปกครองอยู่
2. ลักษณะความเป็นผู้นำแบบเด็กจะแสดงออกโดยการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาร้ายแรงและอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก หาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการของเด็ก
1 โครินธ์ 13:11
เราต้องศึกษาความเป็นผู้นำ ทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และปฏิบัติตามหลักการที่เหมาะสมของความเป็นผู้นำ ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะนำคนอื่นๆ ด้วยแนวคิดแบบเด็ก ความคิดแบบเด็กถูกครอบงำโดยการขาดความเข้าใจในปัญหาร้ายแรง และอันตรายที่อยู่ตรงหน้าตนเอง
คนที่ไม่มีผู้นำมักจะกินอยู่ในที่สกปรกและห้องน้ำที่ไม่สะอาด เด็กเล็กๆ อยู่กับดินทรายและไม่เข้าใจว่าคืออะไร ถ้าเด็กถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง ก็จะทำให้เกิดความสกปรกและความเลอะเทอะมากขึ้นไปอีก จึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครจะปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง เด็กๆ จะไม่ทำความสะอาด กวาดหรือเช็ดอะไรเลย
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าประเทศที่มีเด็กเป็นผู้นำก็จะมีห้องน้ำที่สกปรกและท่อน้ำเสียเต็มไปด้วยขยะอันตราย ลักษณะสำคัญของเมืองที่ปกครองโดยเด็กๆก็คือของเสียและขยะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตซึ่งสามารถพบเห็นได้ในทุกๆ ที่ ผู้นำที่เป็นแบบเด็กไม่สามารถรู้สึกถึงการเชื่อมโยงกันของกับดักที่จะทำให้ถึงแก่ความตายกับสวัสดิภาพของประชาชน ถึงแม้เขาจะรู้ในเรื่องนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือให้พ่อและแม่เป็นคนหาทางออกให้นั่นเอง
ประเทศชาติทั้งหลายที่ปราศจากผู้นำก็ได้ทำลายระบบการศึกษาภายในประเทศของตนเองโดยที่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทำจะมีผลที่ตามมาอย่างไร
3. ลักษณะความเป็นผู้นำแบบเด็กจะแสดงออกโดยการไม่เข้าใจอะไรที่มีความซับซ้อนแม้เพียงเล็กน้อย
พี่น้องทั้งหลาย อย่าเป็นเหมือนเด็กในด้านความคิด ..... และจงเป็นเหมือนผู้ใหญ่และมีสติปัญญาในการเข้าใจถึงทุกสิ่ง
1 โครินธ์ 14:20 (แปลจากฉบับ NLT)
เราจะต้องศึกษาความเป็นผู้นำ ทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และปฏิบัติตามหลักการที่เหมาะสมของความเป็นผู้นำ