ศิลปะการเลี้ยงดูแกะ
()
About this ebook
"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"
Dag Heward-Mills
Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.
Related to ศิลปะการเลี้ยงดูแกะ
Related ebooks
พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอานักคาโซ (ฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ฤทธิ์เดชเพื่อการบังคับ! Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsไลคอส พันธกิจการรับใช้แบบฆราวาส Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsหลายคนได้รับการทรงเรียก Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsการตั้งคริสตจักร Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsวิธีการอธิษฐาน Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsขั้นตอน สู่การทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsความผิดพลาด 10 ประการ ที่ศิษยาภิบาลมักทํา Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsฤทธิ์อํานาจแห่งพระโลหิต พระโลหิตของพระเยซู Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsทําไมคริสเตียนที่ไม่ถวายสิบลดจึงยากจน...แล้วคริสเตียนที่ถวายสิบลดมั่งคั่งได้อย่างไร Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอันตรายฝ่ายวิญญาณ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคนที่ ละทิ้งคุณไป Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาคนที่ลืม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบอกพวกเขาถึง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคริสตจักรขนาดใหญ่ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอิทธิพล อันหอมหวาน แห่ง การทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะ การ เลียนแบบ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะแห่งการฟัง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsวิธีการ บังเกิดใหม่ และ รอดพ้น จากนรก Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคู่มือศึกษา: 1 โครินธ์ เล่ม 1: การศึกษาพระคัมภีร์ 1 โครินธ์บทที่ 1 ถึง 8 แบบข้อต่อข้อ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคู่มือศึกษา: 1 เปโตร: การศึกษาพระคัมภีร์ทีละข้อ 1 เปโตรบทที่ 1 ถึง 5 Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคนหนึ่งในพวกท่าน เป็ นมารร้าย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsจริยธรรม ของผู้รับใช้ ฉบับที่สอง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาคนที่ เย่อหยิ่ง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะของการเป็นผู้นํา Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsความ หมาย ของการ เป็นผู้เลี้ยง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsรับการทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะในการทําพันธกิจ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคําหนุนใจ สําหรับ ลูกสาว ทั้งหลาย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาลูกชายที่อันตราย Rating: 0 out of 5 stars0 ratings
Reviews for ศิลปะการเลี้ยงดูแกะ
0 ratings0 reviews
Book preview
ศิลปะการเลี้ยงดูแกะ - Dag Heward-Mills
ตอนที่ 1
บทที่ 1
อะไรที่ทำให้แกะนอนลง
มาเถิด ให้เรานมัสการและกราบลง ให้เราคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์ของพระยาห์เวห์ผู้ทรงสร้างเรา เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเรา และเราเป็นประชากรแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์ และเป็นแกะแห่งพระหัตถ์ของพระองค์…
สดุดี 95:6-7
ในพระวจนะของพระเจ้า ประชากรของพระองค์ถูกเรียกว่าแกะ พระเยซูทรงอธิบายว่าเราเป็น แกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจกับชีวิตและพฤติกรรมของแกะ เพื่อที่จะสามารถนำแกะเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องมองตัวเองเป็นเหมือนแกะในความสัมพันธ์กับพระเจ้า และในความสัมพันธ์กับศิษยาภิบาลของคุณ นอกจากนี้ คุณยังต้องมองสมาชิกคริสตจักรของคุณเป็นเหมือนแกะ เพื่อที่จะเข้าใจพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น ในพระธรรมสดุดี บทที่ 23 เราจะเห็นว่า ดาวิดอธิบายถึงชีวิตของแกะจากประสบการณ์ของตนเองในฐานะคนเลี้ยงแกะ คำอธิบายที่ชัดเจนของ ชีวิตแกะ
นี้มาจากปากของคนเลี้ยงแกะชาวอิสราเอลที่มีประสบการณ์ที่มองภาพตัวเองว่าเป็นแกะขององค์พระเจ้าเอง
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
พระองค์ทรงคืนความสดชื่นแก่ชีวิตข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
แม้ข้าพระองค์จะเดินฝ่าหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์สถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์ปลอบโยนข้าพระองค์
พระองค์ทรงจัดเตรียมโต๊ะอาหารให้ข้าพระองค์ ต่อหน้าต่อตาคู่อริของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ถ้วยของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไป ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์สืบไปเป็นนิตย์
สดุดี 23:1-6
ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ค้นพบว่ามีสภาพที่คล้ายคลึงกันหลายอย่างในชีวิตของแกะ ที่ดับเบิ้ลยู ฟีลิป เคลเลอร์ ผู้ที่เป็นผู้เลี้ยงแกะสมัยใหม่ได้เปิดเผยให้เห็น เขาได้ทำงานในฐานะเป็นเจ้าของแกะและฟาร์มแกะในบริติชโคลัมเบียเป็นเวลา 8 ปี เขามีประสบการณ์ในการเลี้ยงแกะในสภาพแวดล้อมสมัยใหม่ และให้การยืนยันอย่างน่าอัศจรรย์ในการเปิดเผยของพระธรรมสดุดี 23
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
สดุดี 23:1-2
แกะจะนอนลงภายใต้สถานการณ์บางอย่างเท่านั้น คุณต้องสามารถทำให้แกะในคริสตจักรของคุณนอนลงและอยู่กับคุณได้ คุณต้องทำให้ฝูงแกะที่ตื่นกลัวรู้สึกมั่นคงและปกป้องรักษาคนในครอบครัวที่อยู่รอบข้างคุณ จากประสบการณ์ของเขาในฐานะคนเลี้ยงแกะ ฟีลิป เคลเลอร์ ได้บอกถึงบางอย่างที่จะทำให้แกะนอนลง ในแต่ละประเด็นในสี่ประเด็นสำคัญข้างล่างนี้แสดงให้เห็นว่า ทำไมบางคนไม่สามารถอยู่ในคริสตจักรได้ ความตึงเครียดกับสมาชิกคนอื่นๆ ความกลัว การโจมตีของมาร และการขาดอาหารที่ดีจากธรรมาสน์เป็นเหตุผลทั้งหมดที่ว่าทำไมแกะไม่ปักหลักอยู่ในคริสตจักร ฟีลิป เคลเลอร์ กล่าวว่า :
1. แกะจะนอนลงเมื่อพวกมันปราศจากความกลัว เนื่องจากความขลาดกลัวของพวกมัน พวกมันจึงไม่ยอมที่จะนอนลงจนกว่าพวกมันจะไม่หลงเหลือความกลัวอยู่เลย แกะเป็นสัตว์ที่ขลาดกลัวและตื่นตระหนกได้ง่าย แม้แต่การจู่โจมของสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ข้างหลังพุ่มไม้ก็สามารถทำให้แกะทั้งฝูงแตกตื่นได้ เมื่อใครทำให้แกะตัวหนึ่งตกใจก็จะทำให้อีกหลายสิบตัวพลอยตกใจกลัวอย่างไม่ลืมหูลืมตาไปด้วย โดยไม่รอที่จะมองดูสิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจ
2. แกะจะนอนลงเมื่อไม่มีความตึงเครียดกับตัวอื่นๆ ในฝูง เพราะพฤติกรรมทางสังคมภายในฝูง แกะจะไม่นอนลง จนกว่าพวกมันจะปราศจากความขัดแย้งกับตัวอื่นๆ ในฝูง
3. แกะจะนอนลงเมื่อพวกมันไม่ได้ถูกแมลงหรือปรสิตรบกวน ถ้าแกะถูกแมลงหรือปรสิตรบกวน แกะก็จะไม่นอนลง แต่เมื่อปราศจากสัตว์ที่รบกวนเหล่านี้ พวกมันก็พักผ่อนได้
4. แกะจะนอนลงเมื่อปราศจากความหิวโหย แกะจะไม่นอนลงตราบใดที่พวกมันยังรู้สึกต้องการหาอาหาร พวกมันต้องปราศจากความหิว การจะพักผ่อนได้ต้องมีความรู้สึกที่ไม่มีความกลัว ความตึงเครียด การทำให้รำคาญ และความหิวโหย¹
บทที่ 2
ทำไมแกะจึงต้องการน้ำ
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
สดุดี 23:1-2
ฟีลิป เคลเลอร์ผู้เลี้ยงแกะสมัยใหม่ของเรา เขาอธิบายประสบการณ์ของเขากับแกะ และบอกถึงการที่แกะต้องการน้ำจำนวนมากในการที่จะมีชีวิตตามปกติ เขาสังเกตเห็นว่า เมื่อแกะไม่ได้รับน้ำของพระวิญญาณที่พวกมันต้องการ พวกมันจะแสวงหาน้ำในทุกที่ที่ไม่ถูกต้อง นี่สอนเราว่า ผู้เลี้ยงทุกคนต้องดูแลและให้น้ำแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์กับแกะ ศิษยาภิบาลต้องเป็นฝ่ายวิญญาณและการดูแลที่เต็มด้วยฤทธิ์อำนาจจากการทรงเจิมพระวิญญาณบริสุทธิ์ การขาดการทรงเจิมในการรับใช้จากธรรมาสน์ คือเหตุผลว่าทำไมสมาชิกคริสตจักรจึงเสาะหาช่องทางจากแหล่งอำนาจที่เกี่ยวกับเวทมนต์คาถาและอำนาจลึกลับ
ฟีลิป เคลเลอร์ กล่าวว่า:
เช่นเดียวกับร่างกายที่มีความจำกัดและจำเป็นต้องได้รับน้ำ พระคัมภีร์ชี้ให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า วิญญาณของมนุษย์มีความจำกัดและต้องการน้ำแห่งพระวิญญาณของพระเจ้านิรันดร์ เมื่อแกะกระหายน้ำ พวกมันก็จะกระวนกระวายและออกไปหาน้ำ ถ้าพวกมันไม่ได้ถูกนำไปยังน้ำที่ดี พวกมันก็มักจะลงเอยด้วยการดื่มน้ำจากหลุมบ่อที่เป็นมลพิษที่พวกมันรับเอาพวกปรสิตเข้าไปภายในร่างกาย อย่างเช่น ไส้เดือนฝอย พยาธิใบไม้ในตับ และเชื้อโรคชนิดอื่นๆ
พวกมันทำให้ผมระลึกถึงฝูงแกะที่รวมกัน ที่วันหนึ่งผมเคยเฝ้าดูพวกมันถูกนำลงไปยังธารน้ำในภูเขาที่งดงาม น้ำที่มาจากการละลายตัวของหิมะที่เป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์และใสสะอาดที่ไหลระหว่างฝั่งธารน้ำที่มีต้นไม้ที่สวยงามเป็นทิวแถว แต่ระหว่างทางมีแม่แกะที่ดื้อรั้นกับลูกแกะหลายตัวหยุดลง และดื่มน้ำจากบ่อเล็กๆ ที่สกปรกเป็นโคลนข้างทาง น้ำสกปรกและปนเปื้อนไม่เพียงแต่เกิดจากโคลนที่ปนเปื้อนจากฝูงแกะที่เดินผ่านมา แต่ยังมีทั้งมูลสัตว์และน้ำปัสสาวะของฝูงก่อนๆ ที่ผ่านไป พวกแกะที่ดื้อรั้นเหล่านี้ยังคงแน่ใจว่าน้ำในบ่อนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดที่สามารถหาได้
ในน้ำเองก็สกปรกและไม่เหมาะให้พวกมันดื่ม ยิ่งกว่านั้น ก็ยังเห็นได้ชัดว่า ยังมีการปนเปื้อนของไส้เดือนฝอยและไข่พยาธิใบไม้ในตับ ที่ในที่สุดก็จะเป็นปัญหากับพวกมันด้วยพวกปรสิตที่อยู่ภายในนั้น และเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการทำลาย
มีแหล่งน้ำที่สำคัญสำหรับแกะ 3 แห่ง ได้แก่ น้ำพุและลำธาร น้ำค้างบนใบหญ้าและบ่อลึก ร่างกายของสัตว์อย่างแกะจะประกอบด้วยน้ำประมาณโดยเฉลี่ย 70 เปอร์เซ็นต์ น้ำถูกนำมาใช้เพื่อรักษาการเผาผลาญของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ น้ำเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ทุกเซลล์ที่มีส่วนทำให้อวัยวะทำหน้าที่ในชีวิตให้เป็นปกติ
เพราะเหตุนั้น น้ำจึงเป็นตัวกำหนดความสามารถในการอยู่รอด ความแข็งแรง และการมีชีวิตชีวาของแกะ²
บทที่ 3
แกะอ่อนแรงหมายความว่าอะไร
จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่อง
พระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของข้า
สดุดี 42:11
คนเลี้ยงแกะสมัยใหม่ของเรายังอธิบายถึงประสบการณ์เกี่ยวกับแกะ และเล่าให้ฟังว่า แกะอ่อนแรงหมายความว่าอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่รู้ว่า แกะไม่สามารถช่วยตัวเองได้อย่างไร และมันไม่สามารถยืนด้วยขาของมันเองได้โดยปราศจากความช่วยเหลือ ความเหมือนกันระหว่างแกะจริงๆ กับคนจริงๆ เห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบายมากเลย
ฟีลิป เคลเลอร์เล่าประสบการณ์ของเขาในฐานะเจ้าของแกะที่ทำงานกับแกะจริงๆ เขาพูดว่า :
การอ่อนแรงเป็นคำที่คนลี้ยงแกะชาวอังกฤษใช้เรียกแกะที่นอนหงายท้องและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกด้วยตัวมันเอง แกะที่อ่อนแรงน่าสงสารมาก มันนอนหงายท้องและเท้าชี้ฟ้าอยู่ หนังของมันถลอกเนื่องจากการพยายามที่ลุกขึ้นมายืน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ บางครั้ง มันก็จะร้องเบาๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่โดยปกติทั่วไป มันจะนอนอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในความสิ้นหวังที่น่ากลัว
ถ้าเจ้าของแกะมาถึงที่เกิดเหตุไม่ทันเวลา แกะก็จะตาย นี่เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่คนเลี้ยงแกะต้องคอยระมัดระวังที่จะเฝ้าดูฝูงแกะของเขาทุกๆ วัน คอยนับพวกมัน เพื่อดูว่าทุกตัวสามารถยืนขึ้นได้ด้วยขาของมันเองได้ ถ้าหนึ่งตัวหรือสองตัวหายไป บ่อยครั้ง ความคิดแรกที่แว่บเข้ามาในใจของเขาคือ แกะตัวหนึ่งในฝูงแกะของฉันกำลังอ่อนแรงอยู่ที่ไหนสักแห่ง ฉันต้องไปตามหาและทำให้มันยืนด้วยตัวมันเองได้อีกครั้ง
ไม่เพียงแต่คนเลี้ยงแกะเท่านั้นที่สามารถมองเห็นแกะที่อ่อนแรง แต่พวกนักล่าก็มองเห็นด้วย อีแร้ง สุนัข หมาป่าและเสือภูเขาสัตว์พวกนี้ทุกตัวรู้ดีว่าแกะที่อ่อนแรงเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ และความตายก็อยู่ไม่ไกล
ความรู้ว่าแกะตัวใดที่อ่อนแรงจะช่วยตัวเองไม่ได้ และมันก็ใกล้ตายและเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ชึ่งทำให้ปัญหาแกะอ่อนแรงเป็นเรื่องปัญหาร้ายแรงในการจัดการ ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะกระตุ้นความสนใจและความเอาใจใส่อย่างจริงจังของเขาต่อฝูงแกะได้เท่าความจริงที่ว่า แม้แต่แกะที่ตัวใหญ่ที่สุด อ้วนที่สุด แข็งแรงที่สุด และบางครั้งแกะที่มีสุขภาพดีที่สุดก็สามารถกลายเป็นแกะที่อ่อนแรงได้และอาจจะเสียชีวิตได้ จริงๆ แล้ว มักจะเป็นแกะอ้วนที่อ่อนแรงได้ง่ายที่สุด
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แกะที่หนัก อ้วน หรือมีขนยาวจะนอนลงอย่างสบายในหลุมเล็กๆ หรือแอ่งในพื้นดิน มันอาจจะพลิกตัวไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อเหยียดตัวหรือผ่อนคลาย ในทันใดนั้น จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายมันก็เปลี่ยนไป จึงทำให้มันหงายท้องจนเท้าของมันไม่แตะพื้นอีกต่อไป มันอาจจะรู้สึกหวาดกลัวและเริ่มตะกุยตะกายอย่างรุนแรง บ่อยครั้ง การทำเช่นนี้มีแต่ทำให้แย่ลง มันพลิกตัวต่อไปอีก ตอนนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะยืนด้วยขาของมันเองได้
ขณะที่มันนอนดิ้นรนอยู่ที่นั่น ในกระเพาะอาหารของมันก็เริ่มสร้างแก๊สขึ้นมา เนื่องจากมีการขยายตัว ก็มักจะทำให้มีการไหลเวียนโลหิตช้าลงและหยุดไหลเวียนไปสู่ส่วนปลายของร่างกายโดยเฉพาะขา ถ้าอากาศร้อนจัดและแดดจัดมาก แกะที่อ่อนแรงก็อาจจะตายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอากาศเย็นและมีเมฆมากและมีฝนตก ก็อาจจะอยู่รอดในสภาวะแบบนี้ได้อีกหลายวัน
คนเลี้ยงแกะจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการตามหาแกะตัวเดียวที่หายไป บ่อยครั้งมากที่เขาจะมองเห็นมันได้ในแต่ไกล ว่ามันหงายท้องและนอนอยู่อย่างช่วยตัวเองไม่ได้ เขาก็จะเริ่มวิ่งไปหามัน อย่างเร่งรีบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะทุกนาทีมีความสำคัญ ความรู้สึกของคนเลี้ยงแกะจะผสมผสานด้วยความกลัวและชื่นชมยินดี ความกลัวว่ามันอาจจะสายเกินไป และความชื่นชมยินดีที่ได้พบมันในที่สุด
ทันทีที่คนเลี้ยงแกะมาถึงแกะที่อ่อนแรง อย่างแรกที่เขาทำทันทีคือการเอาตัวมันขึ้นมา เขาจะพลิกตัวแกะไปข้างๆ อย่างนุ่มนวล นี่จะการช่วยลดความดันของก๊าซในกระเพาะอาหาร ถ้าแกะได้คว่ำตัวลงนานพอ คนเลี้ยงแกะก็จะต้องยกมันขึ้นให้ยืนด้วยขาของมัน จากนั้น เขาก็ทำให้แกะกางขาออก คนเลี้ยงแกะจะพยุงตัวให้ตรงไว้ และถูขาของมันเพื่อให้การไหลเวียนโลหิตมาที่ขาของมันกลับมาเป็นปกติ การทำแบบนี้มักใช้เวลาไม่มากนัก เมื่อแกะเริ่มเดินได้อีกครั้ง มันก็มักจะสะดุด เดินโซเซและจะทรุดตัวลงไปอีก
แกะจะค่อยๆ ฟื้นความสมดุลได้ทีละเล็กทีละน้อย มันก็จะเริ่มเดินอย่างมั่นคงและมั่นใจ ไม่นานนัก มันจะวิ่งไปอยู่รวมกับตัวอื่นๆ โดยไม่มีความกลัวและความท้อแท้ ให้โอกาสอีกครั้งที่จะมีชีวิตต่อไปอีก พวกแกะอ่อนแรงได้ด้วยเหตุผลแตกต่างกัน
1. แกะที่เลือกจะนอนลงในแอ่งบนพื้นดินที่ให้ความสบาย อ่อนนุ่ม มักจะเริ่มอ่อนแรง ในสถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องง่ายที่มันจะพลิกตัวหงายท้องได้
ในชีวิตคริสเตียน มีอันตรายร้ายแรงในการมองหาสถานที่ที่สบายๆ มุมสบาย ตำแหน่งที่สะดวกสบายที่ไม่มีความยากลำบากเลย ไม่จำเป็นต้องอดทน ไม่จำเป็นต้องมีวินัยในตนเอง
2. การมีขนมากเกินไปสามารถทำให้แกะอ่อนแรงได้ บ่อยครั้ง เมื่อขนแกะเริ่มยาวมากและหนักมากด้วยโคลน มูลสัตว์ เมล็ดพืชที่มีหนาม และเศษขยะอื่นๆ จะทำให้แกะอ่อนแรงได้ง่ายมากขึ้น เพราะการรับน้ำหนักกับขนของมันเองอย่างแท้จริง
ขนแกะ
ในพระคัมภีร์แสดงให้เห็นภาพของชีวิตเก่าของตนเองในคริสเตียน นี่คือการแสดงทัศนคติที่อยู่ภายในออกมาให้เห็น ซึ่งเป็นการทำตามใจปรารถนา ความหวังและความทะเยอทะยานของเราเอง พื้นที่ชีวิตของเราที่เรามีการติดต่อกับโลกรอบตัวอยู่ตลอดเวลา ในที่นี้คือที่ที่เราพบว่า การยึดติดกับการสะสมของสิ่งต่างๆ ที่เป็นทรัพย์สมบัติ ความคิดทางโลกที่ถ่วงให้หนัก ได้ฉุดลากและดึงเราลงมา
มันเป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญ ที่ไม่มีมหาปุโรหิตคนใดได้รับอนุญาตให้สวมผ้าขนแกะ ในขณะที่เขาเข้าไปในอภิสุทธิสถาน นี่เป็นการพูดถึงตัวเองที่เย่อหยิ่งและพอใจในตัวเอง แต่พระเจ้าไม่ทรงยอมทนต่อเรื่องนี้
เมื่อแกะอ่อนแรง เพราะมันมีขนยาวเกินไปและหนัก คนเลี้ยงแกะต้องมีขั้นตอนในการแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขาจะตัดขนมันให้สะอาดและป้องกันอันตรายของการเสียชีวิตของแกะ นี่ไม่ใช่กระบวนการที่น่ายินดี แกะไม่ชอบการตัดขนอย่างมาก นอกจากนี้ มันยังหมายถึงการทำงานหนักสำหรับคนเลี้ยงแกะ แต่ก็ต้องทำ
3. การอ้วนเกินไปอาจทำให้แกะอ่อนแรงได้ มันเป็นความจริงที่รู้กันดีว่า แกะที่มีน้ำหนักเกินจะไม่ดีต่อสุขภาพหรือการมีลูกดก และแน่นอนว่า ความอ้วนมักจะทำให้อ่อนแรงได้มากที่สุด น้ำหนักของพวกมันทำให้เป็นการยากที่พวกมันจะว่องไวและปราดเปรียวด้วยขาของพวกมันได้ ผู้เลี้ยงแกะเคยสงสัยว่า แกะของเขากำลังอ่อนแรง เพราะพวกมันอ้วนมากเกินไป และเขาต้องใช้เวลายาวนานในการแก้ไขปัญหา เขาดูแลแม่แกะอย่างเข้มงวดมากขึ้น พวกมันจะได้รับเมล็ดข้าวน้อยลงและพวกมันจะถูกจับตาดูสภาพทั่วไปอย่างใกล้ชิดมากขึ้น จุดมุ่งหมายของคนเลี้ยงแกะ คือการมองเห็นว่าแกะมีความแข็งแรง อดทนและมีพลัง และไม่อ้วน ไม่มีแรง และอ่อนแอ ³
บทที่ 4
ทำไมแกะจึงจำเป็นต้องมีการชี้นำ
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
พระองค์ทรงคืนความสดชื่นแก่ชีวิตข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
สดุดี 23:1-3
ถ้าหากไม่มีการชี้นำให้กับสมาชิกคริสตจักรของเรา พวกเขาก็จะหลงทางไปและชีวิตของพวกเขาก็จะถูกทำลาย หลายคนมีรูปแบบการทำลายตนเองที่สร้างขึ้นในชีวิตของพวกเขา คนเลี้ยงแกะสมัยใหม่เผยให้เห็นว่า แกะจำเป็นต้องได้รับการชี้นำอย่างไร เขาบอกเราว่า เมื่อแกะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง พวกมันก็จะหลงทางไปและทำลายตัวเองด้วยรูปแบบการทำลายตนเองในเชิงลบ
เขาเล่าให้ฟังว่า :
ความเข้าใจผิดอย่างมากเกี่ยวกับแกะที่คนทั่วไปคิดว่าพวกมันสามารถ ไปที่ไหนก็ได้
แต่ความจริงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามเลยทีเดียว ไม่มีสัตว์เลี้ยงชนิดใด ที่จะต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวังมากกว่าและมีรายละเอียดมากกว่าแกะอีกแล้ว เช่นเดียวกับแกะโง่ที่มีนิสัยในการเดินตามกันไปโดยไม่ลืมหูลืมตาไปตามทางเล็กๆ เดียวกัน จนทางนั้นกลายเป็นร่องลึกที่ถูกกัดกร่อนเป็นลำห้วยขนาดใหญ่ ซึ่งก็เป็นเหมือนกับมนุษย์เราที่ยึดติดอยู่กับนิสัยเดิมๆ ที่เราเห็นได้ว่าเป็นการทำลายชีวิตคนอื่น
เราทุกคนหลงทางไปเหมือนแกะ ต่างคนต่างหันไปตามทางของตนเอง และพระยาห์เวห์ทรงวางความผิดบาปของเราทุกคนลงบนตัวท่าน
อิสยาห์ 53:6
แกะต้องได้รับการจัดการด้วยการดูแลอย่างชาญฉลาด เมื่อแกะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง พวกมันก็จะไปตามทางของมันเอง และตามความคิดแปลกๆ ของนิสัยที่ทำลายตัวมันเอง
1. ถ้าหากไม่มีการชี้นำ แกะจะเดินไปตามเส้นทางเดียวกันจนกว่าทางเหล่านั้นจะกลายเป็นร่องลึก แกะจะแทะเล็มหญ้าลงไปในพื้นดินจนกระทั่งรากหญ้าเสียหายหมด ในสถานที่อย่างนั้น รากหญ้าจะขึ้นมาบนพื้นดิน เหลือแต่ความแห้งแล้งไว้เบื้องหลัง การทำรุนแรงอย่างนั้น หมายถึงการทำให้สูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน และมีความเสี่ยงจากการกัดกร่อนให้ดินเสียหาย
2. ถ้าหากไม่มีการชี้นำ แกะจะกินหญ้าที่เนินเขาเดียวกัน จนกว่าเนินเขาเหล่านั้นจะกลายเป็นทะเลทรายที่ไร้ประโยชน์ ทั้งพื้นดินและเจ้าของก็ได้รับความเสียหาย ในขณะที่ฝูงแกะก็เริ่มผ่ายผอม เหนื่อยอ่อนและเจ็บป่วย การป้องกันที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียวที่คนเลี้ยงแกะต้องจัดการกับฝูงแกะของเขา คือ การทำให้พวกมันเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ พวกมันต้องเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปยังอีกทุ่งหญ้าหนึ่งเป็นระยะๆ
3. ถ้าหากไม่มีการชี้นำ แกะจะก่อให้เกิดมลพิษต่อพื้นดิน จนกระทั่งพื้นดินนั้นจะเสียหายด้วยเชื้อโรคและปรสิต
เนื่องจากพฤติกรรมของแกะและความชื่นชอบในพื้นที่บางแห่งของพวกมัน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเหล่านี้ก็จะกลายเป็นที่ก่อให้เกิดพวกปรสิตทุกชนิดได้อย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาอันสั้น แกะทั้งฝูงก็สามารถติดเชื้อจากหนอน ไส้เดือนฝอยและโรคผิวหนังได้ ⁴
7 เครื่องหมายที่แสดงว่าคุณกำลังติดตามผู้เลี้ยง
1. ความเจริญรุ่งเรือง เครื่องหมายแรกที่แสดงว่า คุณกำลังได้รับการนำจากผู้เลี้ยงคือความเจริญรุ่งเรือง ความรุ่งเรืองมาสู่คนที่เชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
สดุดี 23:1
2. ความสงบ เครื่องหมายที่สองที่แสดงว่าคุณกำลังได้รับการนำจากผู้เลี้ยง คือ ความสงบ การพักผ่อนและความมั่นใจ
…พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
สดุดี 23:2
3. อาหารฝ่ายวิญญาณ ผู้ใดที่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เลี้ยงก็ได้รับการเติมเต็มด้วยพระวจนะของพระเจ้า
พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด…
สดุดี 23:2
4. การปลอบโยน การได้รับการปลอบโยนเป็นพระพรอีกอย่างหนึ่งของการใกล้ชิดกับผู้เลี้ยงของคุณ
แม้ข้าพระองค์จะเดินฝ่าหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์สถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์ปลอบโยนข้าพระองค์
สดุดี 23:4
5. การทรงเจิม คนที่ติดตามผู้เลี้ยงจะได้รับการทรงเจิม การทรงเจิมคือเครื่องหมายที่แสดงว่า คุณได้ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง
…พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ถ้วยของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
สดุดี 23:5
6. ความดีและความรักมั่นคง ถ้าคุณติดตามผู้เลี้ยง คุณต้องคาดหวังสิ่งที่ดีและสิ่งที่เต็มด้วยความรักมั่นคงที่จะทำให้ชีวิตของคุณอุดมสมบูรณ์ ความดีและความรักมั่นคงในชีวิตของคุณเป็นเครื่องหมายแสดงว่าคุณกำลังติดตามผู้เลี้ยง
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไป...
สดุดี 23:6
7. ความชื่นชมยินดีนิรันดร์ ความชื่นชมยินดีนิรันดร์เป็นส่วนของคนเหล่านั้นที่ติดตามผู้เลี้ยง
...ข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์สืบไปเป็นนิตย์
สดุดี 23:6
บทที่ 5
ทำไมแกะจึงต้องการทุ่งหญ้าเขียวสด
พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
สดุดี 23:1-2
อีกครั้งหนึ่ง