บรรดาคนที่ กล่าวโทษคุณ
()
About this ebook
"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"
Dag Heward-Mills
Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.
Related to บรรดาคนที่ กล่าวโทษคุณ
Related ebooks
คนหนึ่งในพวกท่าน เป็ นมารร้าย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsความผิดพลาด 10 ประการ ที่ศิษยาภิบาลมักทํา Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะการเลี้ยงดูแกะ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsพลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะของการเป็นผู้นํา Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคนที่ ละทิ้งคุณไป Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsรับการทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคริสตจักรขนาดใหญ่ Rating: 0 out of 5 stars0 ratings
Reviews for บรรดาคนที่ กล่าวโทษคุณ
0 ratings0 reviews
Book preview
บรรดาคนที่ กล่าวโทษคุณ - Dag Heward-Mills
บทที่ 1
ผู้ที่กล่าวหาทั้งหลาย
และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์กล่าวว่า "บัดนี้ความรอดและฤทธิ์เดช และอาณาจักรของพระเจ้าของเรา และสิทธิอำนาจของพระคริสต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะว่าผู้กล่าวหาพี่น้องของเรา ถูกโยนลงไปแล้ว คือผู้ที่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของเราทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น
วิวรณ์ 12:10
ถึงแม้ว่ามารร้ายเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นผู้คอยกล่าวหาพี่น้อง แท้จริงแล้วมันก็คือคนกล่าวหาที่อยู่ท่ามกลางพวกพี่น้อง
ในประสบการณ์ความเป็นผู้นำของคุณ คุณจะพบเจอผู้คนหลายรูปแบบ บางทีหนึ่งในนั้นอาจเป็นศัตรูที่น่ากลัวมากที่สุดที่คุณอาจได้เผชิญหน้าก็คือ ผู้กล่าวหาในท่ามกลางพวกพี่น้อง
ปัญหานั้นมาในหลายระดับที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือการเผชิญหน้ากับผู้กล่าวหาในท่ามกลางพวกพี่น้อง
ในจุดสูงสุดในการทำพันธกิจของคุณ คุณจะต้องต่อสู้กับผู้กล่าวหา การกล่าวหาคือกลยุทธ์สูงสุดของซาตานที่จะรับมือกับศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะได้
ศาสตราวุธที่ร้ายแรงที่สุดของซาตาน
ซาตานมีลวดลายในการทำงานมากมาย มันอาจจะมาหาคุณในรูปแบบผู้ล่อลวง ผู้มุสา ฆาตกร หรือผู้ล่อลวง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมันใช้การเป็นผู้กล่าวหาจัดการกับคุณ สนามรบก็ได้ถูกยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงสุดที่เกิดขึ้นได้
วิธีการนี้ได้เกิดขึ้นในชีวิตของพระเยซูคริสต์ ในขั้นต้น มารร้ายมาหาพระองค์ในรูปแบบผู้ล่อลวง พระเยซูถูกล่อลวงในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาสี่สิบวัน ซาตานโกหกพระองค์ในถิ่นทุรกันดารนั้นและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะล่อลวงพระองค์
ตลอดการทำพันธกิจของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าถูกมารร้ายโจมตีในรูปแบบของฆาตกร มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรก
(ยอห์น 8:44) ในหลายๆ โอกาส ซาตานพยายามฆ่าพระเยซูผ่านทางฝูงชนที่วุ่นวายแต่พระองค์ก็ทรงหลบหนีไปได้
พวกเขาจึงลุกขึ้นและผลักไสพระองค์ออกจากเมือง และพาพระองค์ไปที่หน้าผาของเนินเขาที่เมืองนั้นตั้งอยู่ ตั้งใจจะผลักให้พระองค์ตกลงไปแต่พระองค์ทรงฝ่าพ้นพวกเขาและเสด็จจากไป
ลูกา 4:29-30, NASB
ในอีกโอกาสหนึ่ง มารร้ายพยายาทำให้พระเยซูจมน้ำในทะเลสาบกาลิลี แต่มันก็ทำไม่สำเร็จเพราะพระเยซูทรงสั่งห้ามพายุนั้นเสีย พระเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ทำให้เกิดพายุ ไม่เช่นนั้น พระเยซูก็คงสั่งห้ามพระสติปัญญาของพระเจ้าโดยการสั่งห้ามพายุนั้น
ขณะกำลังแล่นไปนั้นพระองค์บรรทมหลับ และเกิดพายุหนักขึ้นกลางทะเล น้ำก็ทะลักเข้าเรือจนทุกคนตกอยู่ในอันตรายพวกเขาจึงมาปลุกพระองค์ร้องว่า พระอาจารย์ พระอาจารย์ เรากำลังจะจมน้ำตาย
พระองค์จึงทรงตื่นขึ้นห้ามลมและคลื่น แล้วคลื่นลมก็หยุดเงียบสงบ
ลูกา 8:23-24
มาในเครื่องแบบของผู้กล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดพันธกิจของพระเยซูก็มาถึงจุดจบเมื่อซาตานได้สวมเครื่องแบบผู้กล่าวหา พระเยซูต้องอดทนต่อคำกล่าวหาที่รุนแรงตลอดทั้งสัปดาห์ เริ่มจากวันอาทิตย์ใบตาลจนกระทั่งพระเยซูทรงถูกตรึงที่กางเขน ในมัทธิว 21:1-17 คุณจะได้เห็นว่าพระองค์ได้เสด็จเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มอย่างภาคภูมิด้วยชัยชนะและทรงชำระพระวิหาร คุณจะสังเกตเห็นการสอบสวนและข้อกล่าวหาต่างๆ ได้เริ่มต้นหลังจากวันที่พระเยซูทรงเสด็จมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม (มัทธิว 21:23)
ครั้งนี้มารได้ดึงเอาอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดออกมาปล่อยใส่เพื่อต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า ในที่สุดอาวุธในรูปแบบการกล่าวหาก็ถูกนำมาใช้ ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนงานเทศกาลปัสกา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ในพระวิหารไต่ถามและสอบสวน (ถูกกล่าวหา)โดยพวกฟาริสี
ขณะนั้นพวกฟาริสีก็ไปและปรึกษากันหาทางทำให้พระองค์ทรงติดกับดักด้วยคำพูดจึงใช้บรรดาศิษย์ของตนกับพวกเฮโรดไปทูลพระองค์ว่า ท่านอาจารย์ เราทราบว่าท่านเป็นคนซื่อสัตย์ สั่งสอนทางของพระเจ้าตามความจริงโดยไม่ได้เอาใจใคร เพราะท่านไม่ได้เห็นแก่หน้าใครเพราะฉะนั้นขอโปรดให้เราทราบว่าท่านคิดอย่างไร? การส่งส่วยให้แก่ซีซาร์นั้นควรหรือไม่?
พระเยซูทรงทราบเจตนาร้ายของพวกเขาจึงตรัสว่า "คนหน้าซื่อใจคด พวกท่านมาทดลองเราทำไม?
มัทธิว 22:15-18
องค์พระผู้เป็นเจ้าถูกตั้งคำถามในทุกแง่มุมเกี่ยวกับพันธกิจและชีวิตของพระองค์
เป็นเวลาหลายวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าต้องอดทนต่อความชั่วร้ายและความหน้าซื่อใจคดของคนเหล่านั้นที่ซักถามพระองค์ในพระวิหาร ในยี่สิบสี่ชั่วโมงสุดท้ายของพระองค์ พระองค์ก็ยังถูกกล่าวหาที่ลานบ้านของมหาปุโรหิต ที่ศาลของปีลาต และในพระราชวังของเฮโรด
พระเยซูได้เจอการถูกกล่าวหาในระดับที่รุนแรงที่ต้องตอบสนองหลายอย่าง พระองค์ตอบคำถามเหล่านั้นในพระวิหารอย่างชัดถ้อยชัดคำและทำให้ผู้กล่าวหาเหล่านั้นเสียหน้า
เมื่อได้ฟังแล้วพวกเขาก็ประหลาดใจ จึงละพระองค์ไว้และกลับไป
มัทธิว 22:22
พวกเขาไม่เคยได้ยินอะไรอย่างนี้มาก่อน
เจ้าหน้าที่ตอบว่า ไม่เคยมีใครพูดเหมือนอย่างคนนั้นเลย
ยอห์น 7:46
อย่างไรก็ตาม เมื่อพระองค์อยู่ในศาลของปีลาตและต่อหน้าผู้ปกครองชาวต่างชาติ พระองค์ไม่ตอบคำถามอะไรเลยที่พุ่งใส่พระองค์
แต่พระองค์ไม่ได้ตรัสตอบสักคำเดียว เจ้าเมืองจึงประหลาดใจยิ่งนัก
มัทธิว 27:14
อย่างที่คุณเห็น ซาตานมีหลายหน้ากากที่ใช้ในการโจมตี ในส่วนนี้ของหนังสือ เราจะรับมือกับพวกผู้กล่าวหาที่ถูกมารร้ายใช้เพื่อที่จะข่มขู่คุณ บางที่คุณอาจจะทนทุกข์กับการกล่าวหาด้วยเรื่องภัยพิบัติในพันธกิจ หลายครั้งคุณก็ไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว พระเจ้าจะให้สติปัญญากับคุณที่จะต่อสู้กับศัตรู
การกล่าวหาคืออะไร?
การกล่าวหาคือการฟ้องหรือกล่าวหาเพื่อต่อต้านใครสักคน คือการโยนความผิดและชี้นิ้วไปยังคนคนหนึ่ง การกล่าวหาคือคำประกาศว่าคุณกำลังคิดว่าบางคนมีความผิดในการทำผิดบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรม
คำกล่าวหาที่มุ่งไปยังคนนั้น มักทำให้เกิดการถอดใจและยอมรับในความผิด มีเพียงแต่คนที่ใจแข็งเท่านั้นที่จะสามารถทนต่อข้อกล่าวหาเหล่านั้นได้นาน
ถึงแม้ว่าการกล่าวหาจะออกมาจากปากของมนุษย์ แต่คำเหล่านั้นก็ถูกเจิมโดยผู้กล่าวหาพวกพี่น้องเอง ซาตานคือผู้กล่าวหาในท่ามกลางพวกพี่น้อง
พวกที่มักถูกใช้ให้เป็นผู้กล่าวหาคือใคร?
ในประเทศของผม บางคนนั้นมักถูกจ้างให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บางคนถูกจ้างให้เป็นคนขายเนื้อและขายเคบับ ก็เช่นเดียวกับที่บางคนถูกซาตานใช้ให้เป็นผู้กล่าวหา คนพวกนี้อยู่ในประเภทที่ผมเรียกว่า เพื่อนที่คุ้นเคย
ของการกล่าวหา
แม้แต่เพื่อนสนิทผู้ที่ข้าพเจ้าไว้วางใจ ผู้รับประทานอาหารของข้าพเจ้าก็ยกส้นเท้าใส่ข้าพเจ้า
สดุดี 41:9
เพื่อนที่คุ้นเคยคือคนคุ้นเคยในชีวิตของคุณเช่น เพื่อน สามี ภรรยา ลูกชาย ลูกสาว คนรัก ศิษยาภิบาลที่ร่วมงานกัน สมาชิกในคริสตจักร นักเขียน เพื่อนในชั้นเรียน และอื่นๆ เพื่อให้ข้อกล่าวหานั้นมีผลกระทบมากพอ จึงต้องหาช่องทางผ่านทางคนใกล้ตัว
ทำไมไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น?
ข้อกล่าวหานั้นไม่ใช่คำพูดที่จริงหรือเท็จไม่ใช่หรือ? ถ้าหากคำเหล่านั้นไม่จริง ทำไมคุณไม่เพิกเฉยซะละ? แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเสมอไป
การกล่าวหานั้นถูกเจิมมาจากนรก การกล่าวหาเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ การกล่าวหาคือธนูดอกเล็กๆที่อาบด้วยยาพิษของซาตาน ทันทีที่ยาพิษนั้นแล่นเข้าสู่เลือดในร่างกายของคุณ มันจะแพร่กระจายไปจนทั่ว แล้วโจมตีหัวใจของคุณ เหมือนกับยาพิษธรรมดาทั่วๆไปที่แพร่ได้รวดเร็ว คุณจะได้รับผลกระทบอย่างมากมายแม้เพียงลูกดอกเล็กๆ
ผมเคยเห็นคนที่เป็นเหมือนยักษ์ใหญ่ของพระเจ้าต้องสะท้านโดยข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงที่ดูไม่สำคัญอะไรต่อผู้เห็นเหตุการณ์ และนั่นก็คือพลังของการกล่าวหา เป็นอาวุธที่น่างงงวยและส่งผลกระทบที่พิศวง แท้จริงแล้วการกล่าวหาคือศาสตราวุธทางฝ่ายวิญญาณ
การชี้หน้า
แล้วความสว่างจะพุ่งออกมาแก่เจ้าเหมือนรุ่งอรุณ และการรักษาแผลของเจ้าจะมีขึ้นอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมของเจ้าจะเดินนำหน้าเจ้า และพระสิริของพระยาห์เวห์จะระวังหลังเจ้าแล้วเมื่อเจ้าทูล พระยาห์เวห์จะทรงตอบ เมื่อเจ้าร้องทูล พระองค์จะตรัสว่า เราอยู่นี่ ถ้าเจ้าจะเอาแอกออกไปจากท่ามกลางเจ้า รวมทั้งการชี้หน้า และคำพูดอธรรม
อิสยาห์ 58:8-9, NASB
การกล่าวหายังถูกเรียกอีกว่า การชี้หน้า
เหมือนการปลดปล่อยความชั่วร้ายด้วยการชี้นิ้ว เพื่อความสว่างในชีวิตของคุณและพันธกิจจะค่อยๆ ริบหรี่ลง แล้วความสว่างของคุณจะพุ่งออกมาเหมือนรุ่งอรุณ และการรักษาจะมีขึ้นถ้าเอาการชี้หน้าออกไป!
พันธกิจจะเจริญรุ่งเรืองไม่ได้เมื่อคนที่ชี้หน้าถูกปล่อยให้เติบโตขึ้นอยู่ใกล้ๆ ความมืดมากมายในพระกายของพระคริสต์คือผลของการกล่าวหาที่ไม่หยุดหย่อนที่เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องชายหญิงด้วยกัน ระหว่างสามีกับภรรยา และอื่นๆอีกมากมาย
คุณต้องรู้จักผู้คนรอบๆตัวคุณที่ถูกใช้เพื่อกล่าวหาคุณ ผู้นำที่ดีทุกคนต้องเข้าใจหลักการของการถูกกล่าวหา คุณอาจจะท้อแท้หรืออ่อนใจในพันธกิจผ่านการกล่าวหามากมาย! พันธกิจของคุณสามารถถูกนำไปผิดทางจากการถูกกล่าวหา ผมได้มีประสบการณ์กับตัวเองด้วย บางทีนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดของหนังสือเล่มนี้และผมอธิฐานเพื่อที่คุณจะศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
พระธรรมวิวรณ์แสดงให้เห็นว่าพระเจ้ารับมือกับผู้กล่าวหาพี่น้องอย่างเด็ดขาด สิ่งนี้ได้แสดงให้เราเห็นประโยชน์ที่น่าทึ่งสี่ประการในการทำให้การกล่าวหาเงียบลง ในประโยชน์สี่อย่างนี้ เราเห็นทุกสิ่งที่เราปรารถนาจากพระเจ้า คือ กำลัง ความรอด