Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

หลายคนได้รับการทรงเรียก
หลายคนได้รับการทรงเรียก
หลายคนได้รับการทรงเรียก
Ebook157 pages21 minutes

หลายคนได้รับการทรงเรียก

Rating: 0 out of 5 stars

()

Read preview

About this ebook

"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"

Languageภาษาไทย
Release dateJul 3, 2018
ISBN9781641356558
หลายคนได้รับการทรงเรียก
Author

Dag Heward-Mills

Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.

Related to หลายคนได้รับการทรงเรียก

Related ebooks

Reviews for หลายคนได้รับการทรงเรียก

Rating: 0 out of 5 stars
0 ratings

0 ratings0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    หลายคนได้รับการทรงเรียก - Dag Heward-Mills

    บทที่ 1

    ทำไมคุณจึงยังมีชีวิตอยู่

    เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ประกอบการดีซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เราประพฤติตามนั้น

    เอเฟซัส 2:10

    ครั้งหนึ่งผมได้คุยกับคนขับรถแท็กซี่ชาวอังกฤษที่พาผมเดินทางไปรอบๆใจกลางกรุงลอนดอน ผมถามเขาว่าเชื่อในพระเจ้าหรือไม่

    เขาตอบว่า ไม่แน่นอน ผมไม่เชื่อในพระเจ้า

    แล้วผมจึงถามเขาว่า คุณเชื่อว่ามีนรกไหม

    ไม่มีแน่นอน! เขาโต้ตอบ

    ผมพูดต่อว่า คุณเชื่อในสวรรค์ไหม

    ผมไม่เชื่อในเรื่องอะไรแบบนั้น

    แล้วคนขับรถแท็กซี่พูดกับผมว่า ขอผมถามคุณหน่อย

    ได้สิ ผมยินดี ถามมาได้เลย ผมตอบ

    เขาถามผมว่า คุณเชื่อในสวรรค์ไหม?

    เชื่อแน่นอน ผมตอบ

    งั้นผมขอถามคุณอีกคำถาม เขาถาม ถ้าคุณเชื่อว่าคุณจะได้ไปสวรรค์ ทำไมคุณไม่ฆ่าตัวตายแล้วไปสวรรค์ตอนนี้เลยล่ะ คุณจะได้หลุดพ้นจากใบเรียกเก็บเงินที่ต้องจ่าย หนี้สินและปัญหาของโลกนี้

    ผมตกใจ ผมไม่คิดว่าจะมีใครถามเช่นนั้น แต่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลอยู่ ถ้าสวรรค์ยิ่งใหญ่จริง ผมทำอะไรอยู่บนโลก? ทำไมผมไม่ฆ่าตัวตายและออกจากโลกที่น่าหดหู่ตอนนี้เลย

    ผมคิดในใจว่า เป็นคำถามที่ดี แต่ก่อนที่ผมจะมีโอกาสตอบเขา เราก็ไปถึงจุดหมายก่อน

    ตั้งแต่การพูดคุยกับคนขับรถแท็กซี่วันนั้น ผมได้ตอบคำถามนี้กับที่ประชุมมากมาย ทำไมเราถึงไม่ไปสวรรค์ทันทีหลังจากได้รับความรอดแล้ว!

    แม้ว่าพระเจ้าจะได้สัมผัสชีวิตของเราและประทานพระสัญญาของสวรรค์ ก็ยังมีงานที่เราต้องทำบนโลก มีสิ่งที่เราต้องทำให้สำเร็จเพื่อพระเจ้า พระเจ้าทรงคาดหวังให้เราตอบสนองความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์โดยการมอบตัวของเราเพื่องานของพระองค์

    เมื่อเรามาถึงพระเยซู พระองค์ทรงนำภาระความบาปและความมืดของเราออกไปและประทานภาระของพระองค์แก่เรา บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน (มัทธิว 11:28-29) ภาระของพระคริสต์คืออะไร? เป็นภาระของวิญญาณที่หลงหายในโลกนี้

    เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คริสเตียนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตของตนเองโดยไม่รู้ว่าเหตุผลที่พวกเขามีชีวิตอยู่ก็เพื่อที่จะทำบางสิ่งให้พระเจ้า พวกเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อจะได้สร้างบ้านและได้มีสิ่งที่ดีต่างๆบนโลก พวกเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อจะได้เงินมากขึ้นและส่ำสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้ เรามีเหตุผลเดียวที่จะมีชีวิตอยู่และนั่นก็คือเพื่อรับใช้พระผู้ช่วยให้รอดผู้ซึ่งสละทุกสิ่งเพื่อเรา เป็นความจริงอันน่าเศร้าที่การสอนจำนวนมากในพระกายของพระคริสต์นำคริสเตียนออกจากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา

    "ให้นึกถึงพระเจ้าของเรา พระผู้ช่วยให้รอดของเรา และกษัตริย์ของเรา พระองค์ผู้ซึ่งสละทุกสิ่ง พระองค์ทรงยอมทุกอย่าง...เพื่อให้เราได้เป็นสหายของพระองค์" ¹ ผมรู้ว่าเราไม่ค่อยนึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดของเราและกษัตริย์ของเรา เราไม่ค่อยนึกถึงพระองค์ผู้ซึ่งสละทุกอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ค่อยสละอะไร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราปราศจากผลและเป็นหมันในราชอาณาจักร

    เนื้อเพลงจากทอมมี่ วอคเกอร์ ให้นึกถึงพระเจ้าของเรา

    บทที่ 2

    คริสเตียนหลายคนได้รับการทรงเรียก

    ถ้าคุณเป็นพระเจ้าและคุณมีผู้คนหกพันล้านคนให้ช่วยให้รอด คุณจะทำอย่างไร? คุณจะส่งหนึ่งหรือสองคนเพื่อช่วยพวกเขาหรือคุณจะส่งหลายคน? แน่นอน คุณจะส่งหลายคนไปสู่ทุ่งนาเก็บเกี่ยว และนั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำ พระองค์ได้ทรงเรียกหลายคน! อย่าหลงผิดไปเมื่อเห็นศิษยาภิบาลสองสามคนนั่งอยู่แถวหน้าของคริสตจักร คนมักจะมองว่าคนที่ได้รับการทรงเรียกนั้นมีน้อย หรือว่าที่ประชุมส่วนใหญ่ไม่ได้รับการทรงเรียก แท้จริงแล้วตรงกันข้ามเลย หลายคน ไม่ใช่เพียงศิษยาภิบาลสองสามคนที่ได้รับการทรงเรียกให้ทำงานช่วยโลกให้รอด

    ข้อเท็จจริงห้าประการเกี่ยวกับการทรงเรียกของพระเจ้า

    1. หลายคนได้รับการทรงเรียก

    เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการทรงเลือกก็มีน้อย"

    มัทธิว 22:14

    คำว่า "หลายคนได้รับการทรงเรียก" หมายความว่าอย่างไร?

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนจำนวนมากได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนหมู่มากในรับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนจำนวนเยอะๆได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนหลายคนได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนจำนวนนับไม่ถ้วนได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนเยอะแยะได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนส่วนใหญ่ได้รับการทรงเรียก

    หลายคนได้รับการทรงเรียกหมายความว่าคนส่วนมากได้รับการทรงเรียก

    น่าเศร้าที่ศิษยาภิบาลส่วนใหญ่ปฎิบัติต่อสมาชิกในคริสตจักรเหมือนคนที่ไม่ได้รับการทรงเรียก พวกเขามองว่าคนเหล่านั้นเป็นคนที่ทำอะไรเพื่อพระเจ้าไม่ได้มาก ศิษยาภิบาลส่วนใหญ่สอนสมาชิกให้มี ชีวิตที่ดีขึ้น คำสอนส่วนใหญ่เกี่ยวกับตัวเราเอง ชีวิตของเรา การสมรสของเรา บ้านของเรา การเงินของเรา เป็นต้น การสอนแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสมาชิกคริสตจักรที่ใหญ่ เห็นแก่ตัวและไม่เกิดผลในทุกวันนี้

    ศิษยาภิบาล อัครสาวก ผู้ประกาศและอาจารย์ต้องเตรียมธรรมมิกชนให้พร้อมเพื่อที่ว่าธรรมิกชนจะสามารถทำงานเพื่อการรับใช้ได้ แม้กระทั่งผู้ประกาศที่โดยพื้นฐานแล้วถูกคาดหวังให้เก็บเกี่ยวดวงวิญญาณก็ยังมีงานสำคัญอันดับแรกในการเตรียมธรรมิกชนให้พร้อมเพื่อการรับใช้ พระองค์จึงให้บางคนเป็นอัครสาวก บางคนเป็นศาสดาพยากรณ์ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาล และอาจารย์ เพื่อเตรียมวิสุทธิชนให้ดีรอบคอบ เพื่อช่วยในการรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น (เอเฟซัส 4:11-12)

    2. มีการทรงเรียกให้เกิดผล

    "คุณไม่จำเป็นต้องได้ยินการทรงเรียก คุณได้รับการทรงเรียกแล้ว"

    คีธ กรีน

    เราได้รับการทรงเรียกให้ทำอะไร? เราได้รับการทรงเรียกให้เป็นอัครสาวก ศาสดาพยากรณ์ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐและอาจารย์หรือ? คำตอบนั้นก็คือ ไม่ใช่ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้มีการทรงเรียกอย่างสูงอันน่าทึ่งนี้ เราเพียงแค่ได้รับการทรงเรียกให้เกิดผล

    ท่านไม่ได้เลือกเรา แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผลและเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อพวกท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่งนั้นแก่ท่าน

    ยอห์น 15:16

    ถ้าเราจะดูคำสอนคริสเตียนไปจนถึงบทสรุปแล้ว คริสเตียนส่วนใหญ่จะเสียสละและทำบางสิ่งเพื่อพระเจ้า ลักษณะที่น่าเศร้าที่สุดและอาจจะน่าเกลียดที่สุดของคริสเตียนหลายคนในปัจจุบันคือเราทำเพียงน้อยนิดเพื่อพระคริสต์ เราได้รับความรอดโดยการกระทำอันยอดเยี่ยมที่แสดงถึงความรักและพระคุณ แต่เราไม่พร้อมที่จะเสียสละอะไรเพื่อช่วยคนอื่นๆ น่าเศร้าที่เห็นคริสเตียนหลายคนใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าโดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

    3. บางคนได้รับการทรงเรียกโดยวิธีที่น่าตื่นเต้น

    ขณะที่เซาโลเดินทางไปใกล้จะถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้นมีแสงสว่างส่องมาจากฟ้าล้อมรอบตัวท่านท่านก็ล้มลงที่พื้นและได้ยินพระสุรเสียงตรัสว่า "เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม?"เซาโลจึงทูลถามว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นใคร?" พระองค์ตรัสว่า "เราคือเยซูผู้ที่เจ้าข่มเหงจงลุกขึ้นเถิดและเข้าไปในเมือง จะมีคนบอกให้เจ้าทราบว่าเจ้าต้องทำอะไร"

    กิจการ 9:3-6

    อัครทูตเปาโลได้รับการทรงเรียกโดยวิธีที่น่าตื่นเต้นและเร้าใจ เขาเห็นแสงสว่างส่องมาจากสวรรค์และได้ยินเสียงตรัสกับเขา เขาล้มลงไปที่พื้นและมองไม่เห็นไปหลายวัน น่าเสียดายที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่บางคนแบ่งปันประสบการณ์ที่มี ทุกคนจะอยากมีประสบการณ์แบบเดียวกัน ทุกคนอยากจะเห็นแสงและได้ยินเสียง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่เชื่อว่าได้รับการทรงเรียก แต่เราไม่สามารถจำกัดพระเจ้าได้และเราไม่สามารถคาดหวังให้พระองค์ทำซ้ำอีกโดยวิธีเดียวกันที่สามารถคาดเดาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

    ผมจำได้ว่าเคยอ่านเกี่ยวกับที่เคนเนธ แฮกกิ้นได้รับการรักษาจากโรคหัวใจและฟื้นคีนชีพหลังจากตายแล้ว วันหนึ่งผมป่วยและพยายามจะทำให้เกิดประสบการณ์เดียวกัน สหายที่รักผมบอกคุณได้เลยว่าผมเกือบสูญเสียชีวิตของตัวเองในการพยายามมีประสบการณ์เดียวกับที่เคนเนธ แฮกกิ้นมี เชื่อผมเถิดว่า พระเจ้าทรงมีวิธีที่แตกต่างกันในการรับมือกับคนที่แตกต่างกัน

    4. บางคนได้รับการทรงเรียกโดยวิธีที่ปกติธรรมดา

    และพระองค์ตรัสว่า จงออกไปเถิด ไปยืนอยู่บนภูเขาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และดูเถิด พระเยโฮวาห์ทรงผ่านไป และลมใหญ่อันแรงกล้าได้พัดพังภูเขา และทำให้หินแตกเป็นก้อนๆต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ แต่พระเยโฮวาห์มิได้สถิตในลมนั้น ภายหลังลมก็แผ่นดินไหว แต่พระเยโฮวาห์หาทรงสถิตในแผ่นดินไหวนั้นไม่ ภายหลังแผ่นดินไหวก็เกิดไฟ แต่พระเยโฮวาห์หาทรงสถิตในไฟนั้นไม่ ภายหลังไฟก็มีเสียงเบาๆ (1 พงศ์กษัตริย์ 19:11-12)

    การมีประสบการณ์กับพระเจ้าในรูปแบบที่เร้าใจนั้นเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ เราทุกคนต่างต้องการมีประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นกับพระเจ้า ในฐานะที่เป็นนักเทศน์ ผมปรารถนาที่จะมีประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเพื่อที่ว่าผมจะได้มาเล่าให้ที่ประชุมฟังถึงสิ่งที่ผมได้ประสบมา ผมมักจะรู้สึกว่านั่นจะทำให้ผมดูมีพลังอำนาจมากขึ้น ขอพระเจ้าเมตตา!

    ในการคาดคะเนของผม คนส่วนมากได้รับการทรงเรียกในวิธีปกติธรรมดาและนี่ทำให้พวกเขาเพิกเฉยต่อการทรงเรียก เมื่อผมเทศนาเกี่ยวกับการที่คนได้รับการทรงเรียก ผมรู้ว่ามันได้ปลุกบางอย่างที่อยู่ลึกภายในพวกเขา หลายคนได้รับการทรงเรียกแต่พวกเขาไม่รู้เท่านั้น พวกเขามองหาการทรงเรียกโดยวิธีที่น่าตื่นเต้น แต่การทรงเรียกมักจะมาโดยวิธีธรรมดา ผู้เผยพระวจนะชั้นผู้ใหญ่อย่างเอลียาห์ทำผิดโดยการมองหาการทรงเรียกจากพระเจ้าโดยวิธีที่น่าตื่นเต้นและเร้าใจ ถ้าคุณยังคงมองหาการทรงเรียกของพระเจ้าในแบบนั้น คุณจะพลาดพระพรของคุณ ...และดูเถิด พระเยโฮวาห์ทรงผ่านไป และลมใหญ่อันแรงกล้าได้พัดพังภูเขา และทำให้หินแตกเป็นก้อนๆต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ แต่พระเยโฮวาห์มิได้สถิตในลมนั้น ภายหลังลมก็แผ่นดินไหว แต่พระเยโฮวาห์หาทรงสถิตในแผ่นดินไหวนั้นไม่ ภายหลังแผ่นดินไหวก็เกิดไฟ แต่พระเยโฮวาห์หาทรงสถิตในไฟนั้นไม่ ภายหลังไฟก็มีเสียงเบาๆ และเมื่อเอลียาห์ได้ยิน ท่านก็เอาผ้าคลุมหน้าไว้ ออกไปยืนอยู่ที่ปากถ้ำ และดูเถิด มีเสียงมาถึงท่านว่า เอลียาห์เอ๋ย เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่" (1 พงศ์กษัตริย์ 19:11-13)

    5. บางคนได้รับการทรงเรียกโดยผ่านทางความปรารถนาของพวกเขา

    คำกล่าวนี้สัตย์จริง คือว่าถ้าใครปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ

    1 ทิโมธี 3:1

    นี่เป็นวิธีที่ผมได้รับการทรงเรียก ผมไม่ได้มีประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่ผู้คนจะพูดถึง ผมมักจะประหลาดใจอยู่เสมอเมื่อผมได้ยินวิธีที่ผู้คนได้รับการทรงเรียกของพวกเขาในการรับใช้ ผมไม่ได้พบกับพระองค์ในรูปแบบอันน่าเร้าใจนั้นแต่ผมเชื่อด้วยความจริงใจว่าผมได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า ผมไม่ได้เห็นแสงสว่างหรือได้ยินเสียง พระเยซูไม่เคยปรากฏแก่ผมและสั่งการให้ผมเข้ามาสู่โลกแห่งการรับใช้ แต่ผมเชื่อด้วยใจจริงว่าผมได้รับการแต่งตั้งเพื่อการรับใช้

    ผมนึกถึงครั้งหนึ่งตอนที่พี่น้องชายคนหนึ่งมาอยู่ที่บ้านผมในช่วงสุดสัปดาห์ ไม่กี่เดือนต่อมาเขาบอกผมถึงการที่เขาได้พบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าในบ้านของผม เขาเป็นแขกของผมและเขาพักอยู่ชั้นบนกับครอบครัวคนอื่นๆ เขาอธิบายว่าคืนหนึ่งประตูก็เปิดทันทีและพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เข้ามาในห้อง เขาเล่าให้ฟังว่าพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใส่บางสิ่งไว้ในมือของเขาและบอกเขาว่าพระองค์ได้ทรงแต่งตั้งเขาเพื่องานยิ่งใหญ่

    ผมไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ผมได้ยิน พระเยซูทรงปรากฏแก่ผู้มาเยี่ยมเยือนในบ้านของผม! ขณะที่ผู้ชายคนนี้เล่าให้ฟังต่อไปถึงการที่เขาได้พบกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ผมโกรธมากยิ่งขึ้นแต่ไม่สามารถแสดงความโกรธได้ ผมต้องแสร้งทำเป็นว่าดีใจกับการที่เขาได้พบพระเยซู

    นี่คือสิ่งที่ผมอธิษฐานตลอดมา ผมคิดในใจ ผมโกรธองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะผมมีเหตุผลว่า ทำไมพระเยซูทรงเสด็จมาที่บ้านผมและผ่าน (ผม) ซึ่งเป็นเจ้าของ เจ้าบ้านและผู้มีอำนาจในที่ดินและไปเยี่ยมเยือนคนหนึ่งที่มาพักในฐานะแขกเท่านั้น

    องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรมเลย ผมคิด

    ผมได้อธิษฐานมานานหลายปีว่าพระเยซูจะทรงปรากฏกับผม ผมปรารถนาจะเป็นเหมือนเคนเน็ธ แฮกกิ้นที่สามารถอธิบายการมาเยี่ยมเยือนส่วนตัวของพระเยซูและช่วงเวลาแห่งการสนทนากันกับองค์พระผู้เป็นเจ้าในเรื่องราวหลากหลายเกี่ยวกับการรับใช้ได้ ทำไมสิ่งนี้จึงไม่เกิดขึ้นกับผม? ทำไมสิ่งนี้จึงเกิดกับผู้มาเยือนในบ้านของผม?

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1