ประกาศ! เรียกร้อง!! ยึดครอง!!!
()
About this ebook
"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"
Dag Heward-Mills
Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.
Related to ประกาศ! เรียกร้อง!! ยึดครอง!!!
Related ebooks
บอกพวกเขาถึง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsหลายคนได้รับการทรงเรียก Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsไลคอส พันธกิจการรับใช้แบบฆราวาส Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsการสูญเสีย การทนทุกข์ การเสียสละ และการตาย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsความ หมาย ของการ เป็นผู้เลี้ยง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsจริยธรรม ของผู้รับใช้ ฉบับที่สอง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาลูกชายที่อันตราย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsฤทธิ์อํานาจแห่งพระโลหิต พระโลหิตของพระเยซู Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาคนที่ เย่อหยิ่ง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsขั้นตอน สู่การทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะ การ เลียนแบบ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอันตรายฝ่ายวิญญาณ Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอานักคาโซ (ฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ฤทธิ์เดชเพื่อการบังคับ! Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsบรรดาคนที่ลืม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsทําไมคริสเตียนที่ไม่ถวายสิบลดจึงยากจน...แล้วคริสเตียนที่ถวายสิบลดมั่งคั่งได้อย่างไร Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคําหนุนใจ สําหรับ ลูกสาว ทั้งหลาย Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsวิธีการ บังเกิดใหม่ และ รอดพ้น จากนรก Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsอิทธิพล อันหอมหวาน แห่ง การทรงเจิม Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsศิลปะแห่งการฟัง Rating: 0 out of 5 stars0 ratingsคริสตจักรขนาดใหญ่ Rating: 0 out of 5 stars0 ratings
Reviews for ประกาศ! เรียกร้อง!! ยึดครอง!!!
0 ratings0 reviews
Book preview
ประกาศ! เรียกร้อง!! ยึดครอง!!! - Dag Heward-Mills
ตอนที่ 1
เข้าใจความหมายของการประกาศ! เรียกร้อง! ยึดครอง!
บทที่ 1
กุญแจไขสู่การทะลุทะลวง
แต่คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ...
ฮีบรู 10:38
ความหมายของการ ประกาศ เรียกร้อง และยึดครอง
การ ประกาศ เรียกร้อง และยึดครอง
เป็นคำที่อธิบายถึงการใช้ความเชื่ออย่างง่าย คริสเตียนทุกคนต้องมีความเชื่อและต้องใช้ความเชื่อ ความเชื่อคือเหตุผลของการทะลุทะลวงและการอัศจรรย์ในชีวิตของเรา ความเชื่อคือเหตุผลสำหรับการตอบคำอธิษฐาน กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ผู้คนที่มีความเชื่อย่อมมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าคนที่ไม่มี ผมสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคริสเตียนที่ดำเนินโดยความเชื่อกับคริสเตียนที่ไม่ดำเนินโดยความเชื่อ
คนที่มีความเชื่อย่อมต้องเผชิญกับความผิดหวัง ความเจ็บป่วย และความล้มเหลวในชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน แต่ผมสังเกตเห็นการอวยพร ความอุดมสมบูรณ์ และชีวิตที่ยืนยาวนั้นมีอยู่ในท่ามกลางคนเหล่านั้นที่มีความเชื่อสำหรับสิ่งเหล่านั้น
แต่คนชอบธรรมของเรานั้นจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ และถ้าเขาหันกลับ เราจะไม่มีความพอใจในคนนั้นเลย
ฮีบรู 10:38
พระเจ้ากำลังตรัสว่าถ้าหากคุณออกห่างจากความเชื่อ พระองค์จะไม่ทรงพอพระทัยคุณ มีคนที่คิดว่าความเชื่อไม่สำคัญ พวกเขามักจะออกห่างจากข่าวสารและผู้คนแห่งความเชื่อ พวกเขารู้สึกว่าต้องย้ำเกี่ยวกับความอดทน ความสุภาพอ่อนโยน และความบริสุทธิ์มากกว่า ผมเชื่อว่าสิ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญ และทั้งหมดนี้มีบทบาทพิเศษเจาะจงในชีวิตของคริสเตียน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราควรลดบทบาทที่สำคัญของความเชื่อในชีวิตของคริสเตียน ความจริงที่ว่าหัวใจนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายไม่ได้หมายความว่าไตทั้งสองข้างไม่ได้มีความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งสองอย่างล้วนมีความสำคัญอย่างเดียวกัน และทั้งสองอย่างล้วนมีบทบาทที่พิเศษเจาะจง
ความเชื่อเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เป็นกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งที่มีบทบาทในชีวิตของคริสเตียน พระคัมภีร์บอกว่าถ้าปราศจากความเชื่อก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้
แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็นที่พอพระทัยเลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้านั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์
ฮีบรู 11:6
เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่เราสังเกตเห็นได้ว่าพระวจนะของพระเจ้าไม่ได้กล่าวว่าถ้าปราศจากความรักก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าถ้าปราศจากสันติสุขก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
พระคัมภีร์กล่าวอย่างชัดเจนถึงความจริงนี้ว่า โดยปราศจากความเชื่อก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า!
ความเชื่อในพระเจ้าของอับราฮัมถูกนับว่าเป็นการกระทำที่ชอบธรรม อับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าเอลชัดดายทรงสามารถประทานบุตรให้แก่เขาแม้ในเวลาที่แก่ชรา อับราฮัมมีความผิด เขาโกหกเรื่องภรรยาของเขาและยอมมอบเธอให้กับกษัตริย์ผู้ไม่เชื่อพระเจ้าถึงสองครั้ง
ถึงแม้ว่าเขาโกหกและมีความขลาดกลัว พระเจ้าก็ยังทรงพอพระทัยอับราฮัมอย่างมากเหตุเพราะเขามีความเชื่อในคำสั่งต่าง ๆ ของพระองค์
โดยมาตรฐานของเรา อับราฮัมอาจไม่มีคุณสมบัติดีพอ หรือในความคิดเห็นของเรา อับราฮัมอาจไม่ใช่คนที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของพระเจ้า ความยิ่งใหญ่ของเขาเป็นผลมาจากความเชื่อของเขา
ท่านเชื่อมั่นว่า พระองค์ทรงฤทธิ์สามารถกระทำให้สำเร็จได้ตามที่พระองค์ตรัสสัญญาไว้ ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้าทรงถือว่าความเชื่อของท่านเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน
โรม 4:21, 22
เพื่อนคริสเตียนที่รัก พระเจ้าทรงมีความสุข ประทับใจ และพอพระทัยเมื่อคุณเชื่อในพระองค์ เมื่อคุณเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงรักษาคุณ คุณก็ทำให้พระเจ้ามีความสุข เมื่อคุณเชื่อว่าพระเจ้าจะทำให้คุณเจริญก้าวหน้า คุณก็ทำให้พระเจ้าตื่นเต้น เมื่อคุณเชื่อว่าการทะลุทะลวงของคุณกำลังมาถึง พระเจ้าทรงพอพระทัยคุณ เมื่อคุณมีความเชื่อว่าคุณจะมีชีวิตยืนยาว พระเจ้าทรงถูกกระตุ้นให้ยืดชีวิตของคุณออกไป เมื่อคุณเชื่อว่าพระเจ้าเพิ่มพูนและทำให้คุณบริบูรณ์ คุณก็ได้กระตุ้นในส่วนลึกของเอลชัดดาย คุณทำให้พระองค์เทน้ำนมแห่งการอวยพรของพระองค์เข้ามาในชีวิตของคุณ
ผมเห็นคุณกำลังเดินอยู่ในพระพรอันยิ่งใหญ่ของพระเยโฮวาห์! ผมเห็นคุณกำลังชื่นชมกับชีวิตที่ครบบริบูรณ์ในพระเจ้า! ผมเห็นคุณเป็นอิสระจากความเจ็บป่วยและโรคภัย! ผมเห็นอำนาจของคำแช่งสาปถูกทำลายไปจากชีวิตของคุณ! ผมเห็นว่าพระเจ้าทรงพอพระทัยคุณเพราะคุณเชื่อในพระองค์!
นับจากวันนี้ อย่าได้สงสัยพระวจนะของพระเจ้าแม้แต่ตอนใด จงยอมรับว่าพระเจ้าทรงกล่าวถึงคุณว่าเป็นแชมป์เปี้ยน เคลื่อนไปกับถ้อยคำแห่งความเจริญรุ่งเรือง การรักษา และความบริบูรณ์ ระลึกไว้เสมอว่าพระเจ้าทรงมีความสุขเมื่อคุณเชื่อในพระองค์
พระเจ้าไม่ได้เป็นพระเจ้าแห่งความยากจน ตั้งแต่ผมได้มารู้จักกับพระเจ้า ผมไม่เคยลดลงในทางใดเลย ผมไม่ได้อ่านเจอเรื่องการลดน้อยลง ความล้มเหลว การถดถอย และความจำกัดในพระคัมภีร์ ผมเห็นแต่ความอุดมสมบูรณ์ การยกชู และการช่วยกู้จากศัตรูทั้งหลายของผม ผมเห็นพระเจ้ากำลังยกชูผมขึ้นทุกวัน! พระเจ้าไม่ได้ทรงนำคุณมาถึงพระคริสต์เพื่อลดคุณให้ต่ำลงและเป็นที่ดูหมิ่น พระองค์ได้นำคุณมาถึงพระคริสต์เพื่อยกชูและสถาปนาคุณขึ้นในชีวิตที่ครบบริบูรณ์ พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อเราจะมีชีวิตและเป็นชีวิตที่ครบบริบูรณ์ (ยอห์น 10:10)
พระเยซูอวยพรคนที่มีความเชื่อ
ภายใต้พันธกิจของพระเยซู มีคนจำนวนมากที่มีประสบการณ์กับการทะลุทะลวงในชีวิตส่วนตัว พวกเขาเป็นใคร? และทำไมพวกเขาจึงได้รับการอัศจรรย์เหล่านี้?
คุณจะคิดถึงสิ่งที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับหญิงที่มีโลหิตตก นี่คือหญิงที่ทนทุกข์มาเป็นเวลาสิบสองปีโดยไม่มีการทะลุทะลวงเกิดขึ้นเลย เธอเข้ามาหาพระเยซูและได้รับการอัศจรรย์ที่ไม่ธรรมดา เคล็ดลับของการทะลุทะลวงของเธอคืออะไร? พระเยซูให้คำตอบในมาระโก 5:3
...ลูกหญิงเอ๋ย ที่หายโรคนั้นก็เพราะลูกเชื่อ...
มาระโก 5:34
บารทิเมอัสชายตาบอดได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ เขาเป็นคนที่ทำเสียงหนวกหูรบกวนที่ประชุม แต่พระเยซูทรงสนใจเขาและรักษาเขาให้หาย อะไรคือเคล็ดลับ? เคล็ดลับของเขาคือความเชื่อในพระเจ้า เขาได้รับการรักษาโดยการประกาศ เรียกร้อง และยึดครอง! ดูว่าพระเยซูตรัสสิ่งใดต่อบารทิเมอัส
...ความเชื่อของท่านทำให้ท่านหายปกติแล้ว
มาระโก 10:52
หญิงที่ทำบาปที่เทผอบน้ำหอมบนเท้าของพระเยซูก็ได้รับการอัศจรรย์ในเรื่องการให้อภัยด้วยเช่นกัน ทำไมพระเยซูจึงให้อภัยแก่เธอ? พระเยซูตรัสกับหญิงคนนี้ว่า
...ความเชื่อของเธอทำให้เธอรอด จงไปเป็นสุขเถิด
ลูกา 7:50
คนโรคเรื้อนได้รับการรักษาแต่มีเพียงคนเดียวที่กลับมาขอบพระคุณ คนที่กลับมาได้รับการรักษาให้หายอย่างสมบูรณ์ ทำไมชายที่เป็นง่อยคนนี้ได้รับพระพรพิเศษ? พระเยซูตรัสด้วยถ้อยคำเดียวกันกับเขา
...จงลุกขึ้นและไปเถิด ความเชื่อของท่านทำให้ตัวท่านหายปกติแล้ว...
ลูกา 17:19
มีชายตาบอดสองคนมาหาพระเยซูและร้องขอความเมตตาของพระเจ้า พระเยซูทรงสัมผัสและรักษาพวกเขา อะไรที่ทำให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับบางคน? พระองค์ตรัสสิ่งใดกับชายทั้งสองคนนี้?
...ให้เป็นไปตามความเชื่อของพวกท่านเถิด
มัทธิว 9:29
คุณเคยสังเกตเห็นว่าพระเยซูตรัสว่า ความรักของท่านทำให้ท่านได้รับการรักษา
ไหม?
พระเยซูไม่เคยตรัสว่า ความบริสุทธิ์ของท่านช่วยท่านให้รอด
พระองค์ไม่เคยตรัสว่า ให้เป็นไปตามความอดทนของท่านเถิด
ทำไมพระเยซูไม่ตรัสว่า คุณสมบัติที่ดีของท่านทำให้ท่านได้รับการรักษา
หรือ?
ขออย่าเข้าใจผมผิด! ผมไม่ได้พูดว่าความดีงามเหล่านี้ไม่สำคัญ! ผมกำลังพูดว่าความเชื่อของคนทำให้พระเยซูทรงประทับใจ ผมกำลังแสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงชี้ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าความเชื่อของพวกเขาได้นำการทะลุทะลวงมาให้พวกเขา ด้วยเหตุนี้พระคัมภีร์จึงบอกว่าถ้าไม่มีความเชื่อแล้วก็ไม่สามารถทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้เลย
คุณเคยคิดถึงชายเหล่านั้นที่รื้อหลังคาบ้านของคนอื่นเพื่อหย่อนเพื่อนที่เป็นง่อยของเขาลงไปหาพระคริสต์? เป็นไปได้ว่าพวกเขาเคยเป็นขโมยที่รื้อหลังคาบ้านของผู้คน เป็นไปได้ว่าพวกเขาเป็นได้รัดคิวคนอื่นและโกงแถวของคนอื่น แต่พระคัมภีร์บอกเราว่าพระเยซูทรงมองเห็นความเชื่อของพวกเขาและทรงตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขาทันที
เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นความเชื่อของพวกเขา พระองค์จึงตรัสว่า เพื่อนเอ๋ย บาปต่างๆ ของท่านได้รับการยกโทษแล้ว
ลูกา 5:20
พระเยซูไม่ได้มองเห็นความผิดของพวกเขาในการรัดคิวหรือรื้อหลังคาบ้านของคนอื่น พระองค์มองเห็นความเชื่อของพวกเขา! พระเจ้ามองเห็นความเชื่อของคุณ! นี่คือเวลาที่คุณจะลุกขึ้นและเชื่อในสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ในพระวจนะของพระเจ้า ให้เป็นไปตามความเชื่อของท่านเถิด!
บทที่ 2
พัฒนาความเชื่อที่แท้จริง
เมื่อผมยังเป็นคริสเตียนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ความคิดของการมีความเชื่อนั้นช่างดูไกลเกินจริงสำหรับผม มันดูเหมือนไม่สมจริงนักกับการสั่งภูเขาให้เคลื่อนลงไปในทะเล ใครจะนึกภาพนั้นออกได้หรือ? ถึงแม้พระเยซูก็ไม่เคยย้ายภูเขาที่ล้อมรอบเยรูซาเล็มไปยังที่อื่น
ความเชื่อดูเหมือนเป็นบางสิ่งที่คนที่หวั่นไหวทางอารมณ์เท่านั้นทำกัน มันเหมือนบางสิ่งที่มีแต่คนที่ไม่ทำงานและไม่ติดดินเท่านั้นที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ บางครั้งภาพของคนที่มีความเชื่อคือ
คริสเตียนที่ขี้เกียจที่ไม่เต็มใจทำงานแต่อยากให้สิ่งดีเกิดขึ้นอย่างมหัศจรรย์ แต่ความเชื่อไม่ใช่สิ่งทั้งหมดเหล่านี้!
ความเชื่อคืออะไร?
ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น
ฮีบรู 11:1
ความเชื่อคือความมั่นใจเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่หวังไว้ ความเชื่ออาจเป็นสิ่งสำคัญหรืออาจไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไรนักก็ได้ มันขึ้นอยู่กับพื้นภูมิของคุณ ถ้าหากคุณเติบโตขึ้นมาในสังคมที่ชอบวิจารณ์และไม่เชื่อพระเจ้า คุณก็จะมีความเชื่อน้อยในเรื่องเหนือธรรมชาติ เมื่อคุณบังเกิดใหม่แล้วก็ตาม คุณก็จะได้รับตามขนาดความเชื่อหนึ่งจากพระเจ้า
...แต่จงคิดอย่างสุขุมสมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน
โรม 12:3
สิ่งนี้มีความหมายว่าทุกคนมีขนาดของความเชื่อ คุณอาจพูดว่า ฉันไม่เชื่อเรื่องอะไรเลย!
แต่มันไม่ใช่ความจริง! ทุกครั้งที่คุณนั่งบนเก้าอี้คุณก็กำลังใช้ความเชื่อที่มีต่อเก้าอี้นั้น คุณเชื่อว่ามันจะไม่หัก ด้วยเหตุนี้คุณจึงนั่งลงไปโดยไม่ต้องคิดทบทวน ทุกครั้งที่คุณนั่งในรถยนต์หรือเครื่องบิน คุณกำลังใช้ความเชื่อที่มีต่อเทคโนโลยี คุณกำลังใช้ความเชื่อที่มีต่อคนขับและนักบินที่กำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับด้วย
ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม คุณมีขนาดของความเชื่อระดับหนึ่ง การพัฒนาความเชื่อเป็นเรื่องสำคัญ ความเชื่อเป็นเรื่องที่ล้ำลึกและเรามีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อ ผมรู้จักคนที่ใช้ความเชื่ออย่างมากและความเชื่อนี้ส่งผลทำให้เกิดการทะลุทะลวงอย่างมากมาย แต่ก็มีคนที่ใช้ความเชื่ออย่างเดียวกันแต่ไม่เห็นผลอย่างเดียวกันด้วย ผมไม่มีคำตอบสำหรับทุกสิ่งและไม่มีใครที่มี พระคัมภีร์อธิบายว่าความเชื่อเป็นความล้ำลึก
และจะต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในข้อล้ำลึกของความเชื่อ ด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์
1 ทิโมธี 3:9
มันคือหน้าที่ของเราที่จะแสวงหาพระเจ้าและเรียนรู้ทุกสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากพระองค์
คริสเตียนทุกคนมีระดับความเชื่อที่แตกต่างกัน การรู้ว่าความเชื่อของคุณนั้นสามารถขึ้นไประดับสูงกว่าหรือลงไปต่ำกว่าได้โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างนั้นสำคัญยิ่งนัก ก่อนที่คุณจะประกาศ เรียกร้อง และยึดครองได้นั้น คุณจำเป็นต้องรู้ว่าความเชื่อของคุณอยู่ระดับใด เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดหวังให้เด็กสามขวบขับรถยนต์ เขาจะได้รับอนุญาตให้ขี่ได้แค่จักรยานสามล้อคันหนึ่งเท่านั้น เพราะเขาไม่สามารถขับรถยนต์ของผู้ใหญ่ได้!
แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนต่ำต้อยกว่า ประเด็นสำคัญคือเด็กชายคนนั้นยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับมือกับรถยนต์จริง ๆ ได้ เมื่อเขาอายุมากขึ้นและเป็นผู้ใหญ่มากพอ เขาก็จะสามารถรับมือกับสิ่งที่ใหญ่กว่าได้
มีคริสเตียนจำนวนมากที่เชื่อพระเจ้าสำหรับสิ่งต่าง ๆ เกินจากระดับความเชื่อของพวกเขา คุณต้องรู้ระดับความเชื่อของคุณ มีหลายสิ่งที่ผมไม่อธิษฐานเผื่อ มีสิ่งต่าง ๆ ที่ผมไม่ใช้ความเชื่อกับสิ่งเหล่านั้น