You are on page 1of 2

นางสาวกนกทิพย์ พงษ์ศิริยะกุล 09500983

Caprolactam
คาโปรแลคตัมเป็ นผลิตภัณฑ์ท่ีได้มาจากไซโคลเฮกเซน (บางส่วนจะได้จากฟี นอล
และโทลูอีน) โดยมีเบนซีนเป็ นสารตั้งต้นในการผลิต
คาโปรแลคตัมเป็ นวัตถุดิบที่สำาคัญสำาหรับการผลิตไนล่อน 6 ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม
ต่อเนื่ องต่างๆ มากมาย โดยประมาณ 60% ของคาโปรแลคตัมจะนำามาผลิตเส้นใยไนล่อน
6 และอีกประมาณ 40% จะนำาไปผลิตเป็ นเม็ดพลาสติกไนล่อน 6 และไนล่อน 6 แบบฟิ ล์ม
- ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากเส้นใยไนล่อน 6 เช่น เสื้อผ้า ชุดว่ายนำ้า ผ้าร่ม
ผ้าใบ แห อวน พรม
- ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากเม็ดพลาสติกไนล่อน 6 เช่น พลาสติกสำาหรับงาน
วิศวกรรม ชิน้ ส่วนยานยนต์คุณภาพสูง ทั้งในส่วนของตัวรถ และส่วนประกอบ
ของเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนตัวถังรถจักรยานยนต์ ผ้าใบยางรถยนต์
- ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากไนล่อน 6 แบบฟิ ล์ม เช่น บรรจุภัณฑ์สำาหรับ
อาหาร ทำาสายไฟ และสายเคเบิ้ล
นอกจากนั้นคาโปรแลคตัมบางส่วนยังถูกใช้ในการทำา Cross-linking ของโพลิยูรี
เทน และใช้
ในกา รสัง
เคราะห์ ไล ซีน
(Lysine) อีกด้วย

กราฟแสดงราคา Benzene และ Caprolactam ในภูมิภาคเอเชีย 2009- 7 June 2010


(http://www.yarnsandfibers.com)

จากกราฟเบื้องต้นเป็ นแสดงให้เห็นถึงราคาของเบนซีนและคาโปรแลคตัมใน
อุตสาหกรรมไนล่อน ซึ่งเราจะพบว่าราคาของคาโปรแลคตัมในปี 2010 มีมูลค่ามากกว่า
ราคาเบนซีนซึ่งเป็ น feed stock ดังนั้นหากเราทำาการผลิตคาโปรแลคตัมเราจะได้กำาไร
จากการผลิตเป็ นสองเท่าตัวจากราคา feed stock
เป็ นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าราคาของเบนซีนจะผันผวนตามราคานำ้ามันดิบ และ
จากข้อมูลของสำำนักข่ำวซินหัวเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2010 รายงานว่าสัญญาณนำ้ามันดิบ
ตลาด NYMEX จะพุ่งขึ้นเหนื อระดับ 76 ดอลลาร์/บาร์เรล ฉะนั้นราคาของเบนซีนและคา
โปรแลคตัมย่อมจะดีดตัวสูงขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน
ปั จจุบันตลาดรองรับคาโปรแลคตัมที่ใหญ่ท่ีสุดได้แก่ประเทศจีนและอินเดีย ทั้งนี้
ประเทศจีนเป็ นประเทศที่มีแนวโน้มการขยายอุตสาหกรรมสิ่งทอและยานยนต์เพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ ดังนั้นจีนจึงเป็ นประเทศหลักสำาหรับตลาดคาโปรแลคตัมที่น่าสนใจมาก ที่ผ่านมา
จีนจะนำาเข้าโปรแลคตัมจากยุโรปและอเมริกา แต่ด้วยราคาของคาโปรแลคตัมที่สูงอยู่
แล้วบวกกับค่าขนส่งระยะไกลทำาให้ผู้ประกอบการในจีนลดการนำาเข้าจากยุโรปและ
อเมริกาลง ดังนั้นหากเราทำาการผลิตคาโปรแลคตัม เพื่อส่งออกก็จะทำาให้เราได้เปรียบ
ทั้งในเรื่องของระยะทางและค่าขนส่ง โดยหากเรามีกำาลังการผลิตที่เพียงพอต่อความ
ต้องการของตลาดจีนแล้ว เราก็จะกลายเป็ นผ้ส ู ่งออกหลักให้กับประเทศจีนแทนยุโรปและ
อเมริกาได้อย่างแน่ นอน นอกจากจีนแล้วอินเดียก็เป็ นตลาดศักยภาพที่น่าสนใจอย่างยิง ่
เนื่ องจากประเทศอินเดีย มีจำานวนประชากรมากเป็ นอับดับ 2 ของโลกรองจากประเทศจีน
และอินเดีย ยังเป็ นประเทศที่มี ความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูง มีการขยายตัว
ทางการค้าและการลงทุนสูงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอ และยานยนต์ท่ีมี
อัตราเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นความต้องการในการนำาเข้าสารคาโปรแลคตัมซึ่งเป็ น
วัตถุดิบของ อุตสาหกรรมดังกล่าวจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่ อง โดยเมื่อปี 2009 อินเดียนำาเข้า
สารคาโปรแลคตัมมากกว่า 24,000 ตัน มูลค่าไม่ต่ ำากว่า 2 พันล้านบาท (ที่มำ:กรมกำร
ค้ำต่ำงประเทศ) และจากการสำารวจตลาดทั่วโลกพบว่า ความต้องการคาโปรแลคตัมใน
ตลาดโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-2.5% ต่อปี
ปั จจุบันพบว่าในประเทศไทยมีโรงงานผลิตคาโปรแลคตัมอยู่เพียงแห่งเดียวคือที่
บริษท
ั อูเบะของญี่ปุ่น และ การผลิตคาโปรแลคตัมของบริษท
ั อูเบะนี้ ยังมีจุดประสงค์หลัก
เพียงเพื่อใช้เป็ น Feed stock ในอุตสาหกรรมต่อเนื่ องอื่นๆของบริษทั อูเบะเองเท่านั้น ดังนั้น
บริษท ั อูเบะ จึงมีปริมาณการส่งออกคาโปรแลคตัมไม่เพียงพอต่อความต้องการของ
ประเทศจีน อินเดีย และประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย
ดังนั้น ด้วยปั จจัยสนับสนุนการผลิตอันได้แก่ คาโปรแลคตัมมีมูลค่าสูง เป็ นที่
ต้องการของตลาดทั่วโลก และมีแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง
แนวความคิดที่จะเป็ นผ้ส ู ่งออกหลักให้กับประเทศที่มีความต้องการคาโปรแลคตัมมาก
เป็ นอันดับหนึ่ งของโลกอย่างประเทศจีนจึงสรุปได้ว่าคาโปรแลคตัมเป็ นผลิตภัณฑ์ท่ีน่า
สนใจหากจะลงทุนผลิต เพราะจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับเราได้อย่างรวดเร็วและ
ยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

You might also like