You are on page 1of 140

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 1

เรือ
่ ง Holidays in England
หน่วยย่อย Have you ever been to______?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6
เวลา 15 คาบ ( 5 ชัว
่ โมง )
---------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

Have you ever been to______? เป็นประโยคคำาถามทีใ่ ช้

ถามถึงสถานที ่ ว่าเคยหรือไม่ Have you ever been


to______? เป็นประโยค Present perfect tense ซึง่ เป็น

เหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน
้ ในอดีตแต่ก็ดำาเนินเนือ
่ งมาจนถึงปัจจุบัน

2. จุดประสงค์การเรียนร้้

นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนใช้ประโยค Have you ever been to______?


ได้อย่างถ้กต้อง

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถตอบรับหรือตอบปฏิเสธได้ถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำา และบอกความหมายของคำา

ศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้ได้

3. นักเรียนสามารถเรียงลำาดับเนือ
้ เรือ
่ งตามเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน
้ ก่อน –

หลังได้ถ้กอย่างต้อง

4. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญของเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

1
3. เนือ
้ หา

คำาศัพท์

China England Frence


America Australia Germany
India
A : Have you ever been to______?
B : Yes, I have.
No, I haven't.
A : Has she / he ever been to______?
B : Yes, she / he has.
No, she / he hasn't.

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. คร้กล่าวทักทายนักเรียนในชัน

คร้ : Good morning / Good afternoon


everybody.
นร . : Good morning / Good afternoon teacher.
คร้ : How are you?
นร . : I’m fine, thanks. And you?
คร้ : I’m fine, thanks.
2. นักเรียนด้แผนทีป
่ ระเทศบนกระดานดำา พร้อมทัง้ ตอบคำาถามคร้

คร้ : What country is it?

2
นร . : It’s England.
จากนัน
้ คร้ชีแ
้ ผนทีไ่ ปยังบริเวณประเทศต่าง ๆ แล้วถามนักเรียนด้วย
คำาถามเดิมเพือ
่ ให้นักเรียนตอบ ถ้านักเรียนตอบไม่ถ้กคร้และเพือ
่ น ๆ ในห้องช่วยกันเฉลย

3. นักเรียนฝึ กออกเสียงคำาศัพท์ต่าง ๆ พร้อมทัง้ สะกดคำาศัพท์นัน


4. นักเรียนฟั งบทสนทนาโดยคร้ใช้หุ่นมือสนทนากับคร้จากนัน
้ นักเรียนฝึ ก

ออกเสียงตามบทสนทนาจนคล่อง

คร้ : Have you ever been to England?


หุ่นมือ : Yes, I have.
No, I haven't.
5. คร้และนักเรียนช่วยกันสรุปความหมายของประโยคและโครงสร้างของ

ประโยค

6. นักเรียนจับค่้พ้ดบทสนทนาการถาม

Have you ever been to________?

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. ทบทวนบทเรียนเก่า โดยคร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนพร้อมกับถามว่า

คร้ : Have you ever been to China?


นร . : Yes, I have.
No, I haven't.
2. คร้ช้ภาพสถานทีต
่ ่าง ๆ พร้อมกับถามนักเรียน เช่น คร้ช้ภาพกำาแพงเมืองจีน

แล้วถามนักเรียนว่า

คร้ : What country is this?


นร . : It’s _________.
จากนัน
้ คร้ถามต่อไปเรือ
่ ย ๆ จนครบทุกภาพ

3. นักเรียนช้ภาพสถานทีต
่ ่าง ๆ พร้อมกับตัง้ คำาถาม ถามเพือ
่ น ว่า

3
A : Have you ever been to______?
B : Yes, I have.
No, I haven't.
4. นักเรียนช่วยกันสะกดคำาศัพท์ประโยค Have you ever been
to______?
จากนัน
้ คร้เขียน เฉลยประโยคบนกระดานดำา

5. นักเรียนถามเพือ
่ นในห้องโดยใช้ประโยค Have you ever been
to______?
ซึง่ นักเรียนอาจใช้สถานที ่ หรือจังหวัดในประเทศไทย

6. นักเรียนเขียนประโยคคำาถามและคำาตอบของเพือ
่ นลงสมุด

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนปิ ดหนังสือเรียนพร้อมกับฟั งเทป การสนทนาระหว่าง Jack กับ

Tom
2. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามเทป โดยยังไม่เปิ ดหนังสือเรียน

3. คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั งอีกครัง้ พร้อมกับให้นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน แล้ว

ออกเสียงตามเทป โดยให้นักเรียนด้ประโยคในบทสนทนาตามไปด้วย

Jack : Tom. Look!


Tom : What’s it?
Jack : It’s an airplane ticket. I’m going to England
tomorrow.
I’m going to visit my uncle.
Tom : Have you ever been to England?
Jack : No, I haven't.

4
Tom : Whom are you going with?
Jack : I’m going with my parents.
Tom : You are so lucky!
Have a good trip.
Jack : Thanks, see you next month.
4. นักเรียนช่วยกันค้นหาความหมายของคำาศัพท์ของบทสนทนาระหว่าง

Jack กับ Tom (an airplane ticket, parents, lucky, a


good trip)
5. นักเรียนจับค่้พ้ดบทสนทนาเลียนแบบ Jack กับ Tom จากนัน
้ คร้สุ่มเรียก

ชือ
่ นักเรียนออกมาพ้ดบทสนทนาให้เพือ
่ นในห้องฟั ง

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนช่วยกันพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากบทสนทนาระหว่าง Jack กับ

Tom เพือ
่ เป็นการทบทวน

2. นักเรียนตอบคำาถามคร้ตามเนือ
้ เรือ
่ งในสนทนาระหว่าง Jack กับ Tom
** Where is Jack going?
** Why does Jack go to England?
** Has Jack ever been to England?
** Whom is Jack going with?
3. นักเรียนจับค่้ฝึกแต่งบทสนทนาขึน
้ มาใหม่โดยเลียนแบบบทสนทนาระหว่าง

Jack กับ Tom ซึง่ อาจใช้สถานทีใ่ นประเทศไทย เช่น จังหวัดต่าง ๆ หรือ

สถานทีอ
่ ืน
่ ๆ ก็ได้ (the zoo, the sea)
Nam: Jane. Look!
Jane : What’s it?

5
Nam : It’s an airplane ticket (a bus ticket). I’m
going to
Chiangmai tomorrow. I’m going to visit
my grandparents.
Jane : Have you ever been to England /Bangsaen?
Nam : No, I haven't.
Jane : Whom are you going with?
Nam : I’m going with my parents.
Jane : You are so lucky!
Have a good trip.
Nam : Thanks, see you next month.
4. นักเรียนฝึ กพ้ดบทสนทนา จากนัน
้ คร้ คร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนออกมาพ้ด

หน้าชัน
้ เพือ
่ ให้เพือ
่ นฟั งเป็นตัวอย่าง 4-5 ค่้

5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 1


ชัว
่ โมงที ่ 5
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 1 โดยคร้จะเปิ ดเทป

ให้นักเรียน ฟั งละประโยค ซึง่ ประโยคในเทปจะเรียงลำาดับเหตุการณ์


ก่อน – หลัง จากนัน
้ ให้ นักเรียนใส่เครือ
่ งหมายเรียงลำาดับภาพตาม
ประโยคทีไ่ ด้ฟัง

A Tom is feeding his cat in the kitchen.

B Jack is running into the kitchen.


C

6
Jack has an airplane ticket in his hand.

D Jack is very happy.

E Jack is thinking about a trip to England.

2. นักเรียนตอบคำาถามคร้ โดยการสุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนขึน
้ มา

คร้ : Have you ever been to England


/Pattaya/Phuket?
นร . : Yes, I have.
จากนัน
้ คร้เขียนประโยคบอกเล่าถึงสถานทีท
่ ีน
่ ักเรียนเคยไปบนกระดานดำา

เช่น Sathit has been to England/


Bangsean/Pattaya/Phuket.
I have been to England/
Bangsean/Pattaya/Phuket.
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้ว่า has กับ have ใช้แตกต่างกันอย่างไร พร้อม

กับให้นักเรียนยกตัวอย่างประกอบการใช้ has กับ have ในประโยคบอกเล่า


คร้เขียนประโยคทีน
่ ักเรียนพ้ดบนกระดานดำา

My parents have been to China.


I have been to Bangkok.
Saichon has been to India.
Somsak hasn't been to America.
(Has'nt/haven't = has never)
4. นักเรียนพ้ดอธิบายความหมายประโยคต่าง ๆ ที ละ ประ โยค

7
5. คร้อธิบายความหมายว่าประโยคเหล่านีเ้ ป็นประโยคบอกเล่า พร้อมกับถาม

นักเรียน
ว่าถ้าจะทำาให้เป็นประโยคคำาถามจะทำาได้อย่างไร

6. นักเรียนช่วยกันทำาประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำาถาม จากนัน
้ คร้

เขียน
ประโยคคำาถามทีน
่ ักเรียนพ้ดบนกระดานดำา

7. คร้เฉลยประโยคคำาถามทีถ
่ ้กต้องบนกระดานดำา

Has he / she ever been to England?


Have you / your parents ever been to England?
พร้อมกับให้นักเรียนตอบรับหรือตอบปฏิเสธ

A : Has she ever been to Germany?


B : Yes, she has.
No, she hasn’t
8. นักเรียนไปสัมภาษณ์เพือ
่ น 3-5 คน และกลีบมารายงาน

9. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด exercise ที ่ 2 ข้อ C และ D


10. คร้และนักเรียนสรุปการใช้ "ever" and "never"

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. เทปบันทึกเสียง

2. หุ่นมือ

3. หนังสือเรียน

4. บัตรภาพ

6. การวัดและประเมินผล

8
1. ความถ้กต้องในการใช้ประโยค Have you ever been
to______? ในการถามผ้้อืน
่ ว่าเคยไปสถานทีน
่ ัน
้ หรือไม่

2. ความถ้กต้องในการตอบรับหรือปฏิเสธ ว่าเคยไปสถานทีน
่ น
ั ้ หรือไม่

3. ความถ้กต้องในการอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

ของคำาศัพท์ตามทีก
่ ำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการเรียงลำาดับเนือ
้ เรือ
่ งตามทีเ่ กิดขึน
้ ก่อนหลัง

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 2
เรือ
่ ง Holidays in England
หน่วยย่อย Present Perfect Tense
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

Present Perfect Tense เป็นเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน


้ ในอดีตแต่ก็

ดำาเนินเนือ
่ งมาจนถึงปัจจุบัน Present Perfect Tense มีหลักการ

เปลีย
่ นกริยาช่อง 1 ให้เป็นกริยาช่อง 3 แตกต่างกัน

9
2. จุดประสงค์การเรียนร้้ นักเรียนสามารถปฏิบัติตามคำาสัง่ ได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยค Present Perfect Tense ได้ถ้ก

ต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ

2. 2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นคำาคำากริยาช่องที ่ 3 ได้
ถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถใช้คำากริยาให้สอดคล้องกับประธานได้อย่างถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้ได้ถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

กฎการเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นคำาคำากริยาช่องที ่ 3
1. คำากริยาโดยทัว
่ ไป เราสามารถเติม -ed ท้ายคำากริยาได้เลย เช่น

watch watched
look looked
climb climbed listen
listened
2. คำากริยาทีล
่ งท้ายด้วย e ให้เติม -d ได้เลย เช่น

use used chase


chased
like liked live lived
3. คำากริยาทีล
่ งท้ายด้วย y ให้ เปลีย
่ น y เป็น i แล้ว เติม -ed

10
ยกเว้น เมือ
่ หน้า y เป็นสระ ( a , e , i, o ,u )ไม่ต้อง
เปลีย
่ น y เป็น i ให้เติม

-ed ได้เลย เช่น

study studied carry


carried
play played stay
stayed

4. คำากริยานัน
้ ออกเสียงพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว สะกดด้วยพยัญชนะ

ตัวเดียวให้เพิม
่ ตัวสะกดอีกหนึง่ ตัวก่อนเติม – ed เช่น

plan planned beg


begged
5. คำากริยาบางคำาทีไ่ ม่สามารถเติม -ed ได้ ในช่องที ่ 3 แต่มีร้ปแตก

ต่างจากคำากริยาเดิมเช่น

ride ridden see


seen
drink drunk
drive driven
swim swum eat
eaten A : Has he / she ever been to
______ ?
B : Yes , he / she has.
No, she / he hasn’t .

11
4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise ที ่ 2 ข้อ C และ D
2. คร้เปิ ดเทปแบบฝึ กหัด Exercise 3 F ให้นักเรียนฟั งก่อนลงมือทำา 2
ครัง้ หลังจากนัน
้ คร้เปิ ดเทปอีกครัง้ พร้อมกับให้นักเรียนขีด  ลงในช่องว่าง
หน้าคำาตอบทีส
่ ัมพันธ์ กับข้อม้ลในตาราง

1. Yes, he has. 2. Yes, she


has. No, he hasn’t.
No, she hasn’t.
3. Yes, he has. 4. Yes, she has.
No, he hasn’t. No, she
hasn’t.
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้

1. Has David ever been to Germany ?


2. Has Kate ever been to Australia ?
3. Has David ever been to China ?
4. Has Kate ever been to Thailand ?
5. นักเรียนออกเสียงตามเทปทีละประโยค

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 3 F Listen and fill in the chart


. หน้า 3 โดยคร้เปิ ดเทปแล้วให้นักเรียนเติมคำาลงในตารางให้มีความ

สัมพันธ์กับเทปทีไ่ ด้ฟัง

been been been been been


to to to to to

12
Austral Englan India France Ameri
ia ca
Wend
y
Robi
n
Polly

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. คร้เฉลยแบบฝึ กหัด 3 F Listen and fill in the chart .
1. Wendy has been to England.
Wendy has never been to America.
2. Robin has been to India.
Robin has never been to France.
3. Polly has been to France.
Polly has never been to Australia.
2. นักเรียนออกเสียงตามทีไ่ ด้ยินจากเทป พร้อมกับเขียนประโยคบนกระดาน

ดำา

3. คร้และนักเรียนช่วยกันอธิบายประโยคที ่ has been กับ

ประโยคที ่ has never been


has been เคยไป

has never been ไม่เคยไป

4. นักเรียนทำาตารางเหมือนกับ Exercise 3F เพียงแต่เปลีย


่ นชือ
่ ประเทศ

ต่าง ๆ ให้เป็น ชือ


่ จังหวัด จากนัน
้ นักเรียนถามเพือ
่ นใน

13
ห้องด้วยคำาถาม Have you ever been to
______ ? ไปจนครบทุกช่อง พร้อมกับขีด  ลงในช่องให้สัมพันธ์กับคำา

ตอบของเพือ
่ นแต่ละคน

been been been to been to been


to to Chiang Chantab to
Bangk Phuket mai Changr
ok ai
Wanid
a
Kanch
ana
Pirin

5. นักเรียนออกมาพ้ดรายงานหน้าชัน
้ ถึงการสัมภาษณ์เพือ
่ น ว่าเคยไปทีใ่ ด

บ้าง

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากนัน
้ ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน

ออกมา รอบละคน แล้วแข่งขันกันเขียนคำาศัพท์ประเทศ สถานที ่ ตามที ่


คร้กำาหนด หากกลุ่ม ใด เขียนถ้กต้องมากทีส
่ ุดจะเป็นฝ่ ายชนะ

2. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ น เพือ
่ ศึกษาความหมายของเนือ
้ เรือ
่ ง ในหนังสือเรียน

หน้า 3

14
Jack is on his way to England . He has never
been on an airplane before . He has never seen
Big Ben and he has never used English money.
He has never eaten English food. These are the
exciting parts.
3. คร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนออกมาตอบคำาถามเกีย
่ วกับเนือ
้ เรือ
่ ง ในหนังสือเรียน

4. จากนัน
้ คร้นักเรียนสนทนาเกีย
่ วกับประเทศอังกฤษ ด้ภาพสถานหรือบุคคล

ทีส
่ ำาคัญ ในประเทศอังกฤษ เช่น Big Ben, London
Bridge, Buckingham Palace, Queen
Elizabeth etc.
5. นักเรียนอ่านออกเสียงเนือ
้ เรือ
่ งในหนังสือเรียนพร้อมกันทุกคน หลังจากนัน

คร้สุ่ม เรียกชือ
่ อ่านออกเสียงทีละคน

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. คร้ให้นักเรียนยกตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense จากนัน
้ คร้

เขียนประโยค ทีน
่ ักเรียนพ้ดบนกระดานดำา เช่น

I have been to Bangkok.


I have been to Phuket.
2. คร้อธิบายประโยคและโครงสร้างของ Present Perfect Tense ว่าเป็น

เหตุการณ์ทีใ่ ช้กับเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน


้ แล้วในอดีตและเหตุการณ์นัน
้ ยังคงดำาเนิน
ต่อเนือ
่ งมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีร้ปประโยค คือ

subject + has /have +verb

3. คร้ถามนักเรียนว่า has กับ have ใช้ต่างกันอย่างไร พร้อมทัง้ ให้นักเรียน

ยก

15
ตัวอย่างประกอบ

I have never been to England.


She has been to England.
4. คร้สรุปให้ฟังอีกครัง้ ว่า has ใช้กับประธานเอกพจน์ have ใช้กับประธาน

พห้พจน์ การใช้ ever เฉพาะในประโยคคำาถาม และ never


ในประโยคบอกเล่าปฏิเสธ

5. นักเรียนศึกษากฎการเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นช่องที ่ 3 จากใบความร้้

กฏการเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นคำาคำากริยาช่องที ่ 3
1. คำากริยาโดยทัว
่ ไป เราสามารถเติม -ed ท้ายคำากริยาได้

เลย เช่น

watch watched look


looked
climb climbed listen
listened
2. คำากริยาทีล
่ งท้ายด้วย e ให้เติม -d ได้เลย เช่น

use used chase


chased
like liked live lived
3. คำากริยาทีล
่ งท้ายด้วย y ให้ เปลีย
่ น y เป็น i แล้ว

เติม -ed

16
ยกเว้น เมือ
่ หน้า y เป็นสระ ( a , e , i, o ,u )
ไม่ต้องเปลีย
่ น y เป็น i
ให้เติม -ed ได้เลย เช่น

study studied carry


carried
play played stay
stayed

4. คำากริยานัน
้ ออกเสียงพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว สะกดด้วย

พยัญชนะตัวเดียวให้เพิม
่ ตัวสะกดอีกหนึง่ ตัวก่อนเติม –

ed เช่น

plan planned beg


begged
5. คำากริยาบางคำาทีไ่ ม่สามารถเติม -ed ได้ ในช่องที ่ 3 แต่มี

ร้ปแตกต่างจากคำากริยาเดิมเช่น

ride ridden see


seen
drink drunk drive
driven
swim swum eat
eaten
6. คร้ทบทวนการเปลีย
่ นคำากริยาช่อง 1 เป็นช่อง 3
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดการเปลีย
่ นกริยาช่อง 1 เป็น

ช่อง 3

17
Exercise 4 G Match

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 4 G Match
2. นักเรียนและคร้ช่วยกันแต่งประโยคตามคำาทีก
่ ำาหนดให้ใน

หนังสือเรียนหน้า 4
been to the library
I have been to the library .
จากนัน
้ นักเรียนแต่งประโยคนีเ้ ป็นประโยคคำาถาม

3. นักเรียนแต่งประโยคข้อ 1 ตามทีก
่ ำาหนดคำาศัพท์มาให้ในหนังสือ หน้า 4
เป็นประโยค คำาถามให้สัมพันธ์กับร้ปภาพ

A : Has he ever been to the library.


B : Yes ,he has .
4. นักเรียนฝึ กแต่งประโยคคำาถามในข้อต่อไปให้สัมพันธ์กับร้ปภาพพร้อม

ทัง้ ให้เพือ
่ นตอบ

A : Has he used a computer?


B : Yes , he has.
No , he hasn’t .
5. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยประโยคทีถ
่ ้กต้องในแต่ละข้อจนครบทุกข้อ จากนัน

ให้นัก เรียนจดลงสมุด

6. นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยคบอกสิง่ ทีต
่ นเองเคยทำา และไม่เคยทำาตาม

โครงสร้างกำาหนดให้ หลังจากนัน
้ ผลัดกันออกมาพ้ดหน้าชัน
้ ถึงประโยคทีต
่ นเอง
แต่งขึน
้ ทีละคนให้เพือ
่ น ๆ ในชัน
้ ฟั ง และช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของ
ประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

I’ve been to __________, but I’ve never been to


__________.

18
I’ve eaten __________, but I’ve never eaten
__________.
I’ve seen_________, but I’ve never seen_________.
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 4H Fill in the blanks.
Complete the crossword โดยให้นักเรียน

เติมคำาทีข
่ าดหายไปลงในช่องว่างให้สมบ้รณ์และ สัมพันธ์
กับคำาทีก
่ ำาหนดให้ จากนัน
้ นำาคำาเหล่านัน
้ มาเติมลงในตารางปริศนา
ให้ตรงกับหมายเลข

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. ใบความร้้

4. ใบงาน

5. การแสดงบทบาทสมมุต

6. ร้ปภาพ

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่าน

2. ความถ้กต้องในการพ้ดโครงสร้างประโยคทีก
่ ำาหนดให้

3. ความถ้กต้องในการอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

4. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

5. ความถ้กต้องในการกิจกรรม

19
6. ความสนใจในการทำากิจกรรม

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 3
เรือ
่ ง Holidays in England
หน่วยย่อย song and report
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6 เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

20
present perfect tense เป็นเหตุการณ์ทีเ่ กีย
่ วข้องกับการติดต่อ

สือ
่ สาร และการดำาเนินชีวิตประจำาวัน ดังนัน
้ การเรียนร้้เหตุการณ์

present perfect tense จากเพลง จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจมาก

ขึน
้ ซึง่ การปฏิบัติจะทำาให้การเรียนร้้มี
ประสิทธิภาพมากขึน
้ อีก

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ นักเรียนสามารถปฏิบัติตามคำาสัง่ ได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถพ้ด – เขียน ตามคำาร้ปแบบประโยคทีก


่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถร้องเพลงได้อย่างถ้กต้องและสนุกสนาน

2. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

3. นักเรียนสามารถเขียนประโยคบรรยายอย่างง่าย ๆ ในกิจกรรม

English Club Board


4. นักเรียนสามารถสะกดคำา อ่านออกเสียงคำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงทาบหลัง

rm และ rn ประกอบได้อย่างถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

Has she ever driven a car ?


he drunk wine?

Have they
ever stayed in China ?
your parents

21
เนือ
้ เรือ
่ ง Jack’s report
เนือ
้ เพลง Have you ever seen Cappuccino?
เนือ
้ เรือ
่ ง English Club Board
คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียง rm และ rn ทาบหลัง

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 4 H หน้า 4 โดยคร้

เขียนแบบฝึ กหัด Exercise 4 H บนกระดานดำา จากนัน


้ นักเรียนแต่ละคน

อาสาออกมาเขียนคำาตอบ โดยคร้และเพือ
่ น ๆ ทีอ
่ ย่้ในห้องช่วยกันตรวจสอบ
ความถ้กต้อง

2. นักเรียนเดาความหมายจากภาพทีค
่ ร้ช้ให้ดท
้ ีละภาพ เช่น คร้ช้ภาพ

แรกให้นักเรียนด้ เป็นภาพชายคนหนึง่ กำาลังขับรถอย่้ นักเรียนเดาความ


หมายจากภาพว่าเขาทำาอะไรอย่้ จากนัน
้ คร้ถามนักเรียนโดยใช้ประโยค

present perfect tense แล้วให้นักเรียนตอบคำาถาม

คร้ : Has he ever driven a car ?


นร . : Yes , he has.
3. คร้ช้ภาพต่อไปให้นักเรียนด้ แล้วถามเช่นเดียวกับคำาถามแรก โดยอาจ

ให้คำาถามสัมพันธ์กับความหมายในร้ปภาพ หรือไม่ก็ได้ จากนัน


้ ให้นักเรียน
ตอบคำาถาม

คร้ : Has she ever drunk wine ?


นร . : Yes , she has.
ถ้าไม่ใช่ ให้นักเรียนช่วยกันแก้ไขคำาตอบให้ถ้กต้อง

คร้ : Has she ever drunk wine ?


นร . : No , she hasn’t .
She has never ridden a bicycle

22
4. นักเรียนช้ภาพอืน
่ ให้เพือ
่ นด้แล้วถามคำาถาม กับเพือ
่ นโดยใช้ประโยค

present perfect tense


5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 5 I Fill in the blank.
โดยนักเรียนใช้คำากริยาช่องที ่ 3 ทีก
่ ำาหนดให้เติมลงในช่องว่างให้มีความหมาย

สัมพันธ์กับประโยค และแบบฝึ กหัด Exercise 5 J Write


questions and answer. โดยนักเรียนแต่งเป็นประโยคคำาถามพร้อมทัง้

ตอบคำาถามด้วย

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 5 I Fill in
the blank. และ Exercise 5 J Write questions and
answer.
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน หาความหมายตำาศัพท์จาก

เนือ
้ เรือ
่ ง Jack’s report โดยให้นักเรียนใช้พจนานุกรม

3. นักเรียนฝึ กอ่านออกเสียงทีละคน จากนัน


้ คร้ถามคำาถามทีละประโยค

เพือ
่ เป็นการสรุปอีกครัง้ หลังจากนัน
้ นักเรียนบอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ที ่
เจอในเนือ
้ เรือ
่ ง

Fish and Chips ปลาทอดและมันฝรัง่

Through ผ่าน

Tower หอคอย

Castle ปราสาท

Underground รถไฟใต้ดิน

23
4. นักเรียนในแต่ละกลุ่มปิ ดหนังสือเรียน แล้วแข่งขันกันตอบคำาถามเกีย
่ ว

กับเนือ
้ เรือ
่ ง โดยให้แข่งขันกันยกมือเพือ
่ ตอบคำาถาม กลุ่มใดตอบถ้กมากทีส
่ ุด
จะเป็นฝ่ ายชนะ

- Has Jack ever been to England ?


(No , he hasn’t)
- What do English people like to drink ?
(tea)
- What is the famous clock’s name ? (Big
Ben)
- Where is the Queen’ s home in London?
(Buckingham palace)
- What is the famous shopping street’s name?
(Oxford)

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดทบทวนเนือ
้ เรือ
่ งทีเ่ รียนไปแล้ว โดยให้นักเรียน

ทำา Exercise 6 K Tick the famous things and places


of England . จากนัน
้ นักเรียนช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

2. คร้เขียนบรรยายถึงสถานทีท
่ ีเ่ คยไป หรือทีเ่ คยประทับใจ เลียนแบบเนือ

เรือ
่ งของ Jack คร้เล่าเนือ
้ เรือ
่ งให้นักเรียนฟั ง คร้ถามคำาถามแล้วให้นักเรียน

ช่วยกัน ตอบจากเนือ
้ เรือ
่ งของคร้

3. นักเรียนเขียนบรรยายถึงสถานทีท
่ ีเ่ คยไป หรือทีเ่ คยประทับใจ เลียน

แบบเนือ
้ เรือ
่ ง ของคร้และของ Jack
4. นักเรียนแต่ละคนออกมานำาเสนอเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองให้เพือ
่ นในห้องฟั ง

วาดภาพประกอบ

24
5. เมือ
่ เพือ
่ นพ้ดจบ นักเรียนตอบคำาถามคร้ เกีย
่ วกับเนือ
้ เรือ
่ งในสถานทีท
่ ี่

เพือ
่ นเล่าให้ฟัง

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. คร้ถามนักเรียนในชัน
้ ว่า ถ้าสัตว์เลีย
้ ง หรือสิง่ ของของนักเรียนหาย นักเรียนจะ

ถามหา สัตว์เลีย
้ งของตนเองกับคนอืน
่ ว่าอย่างไร จากนัน
้ นักเรียนช่วยกันตอบ
คำาถามคร้ พร้อมทัง้ คร้เฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง ว่าเป็น

Have you ever seen ชือ


่ สัตว์เลีย
้ ง ?
2. นักเรียนฝึ กออกเสียงประโยค Have you ever seen ชือ
่ สัตว์เลีย
้ ง ?
จนคล่องโดยในขณะทีพ
่ ้ดให้ใส่ชือ
่ ของสัตว์เลีย
้ ง

3. นักเรียนอ่านเนือ
้ เพลงทัง้ หมดพร้อมกัน

4. นักเรียนตอบคำาถามคร้ถึงสิง่ ทีเ่ ห็นจากภาพในหน้าเนือ


้ เพลง Have you
ever seen Cappuccino ?ว่ามีอะไรบ้าง
5. นักเรียนฟั งเทปเนือ
้ เพลง Have you ever seen Cappuccino ?
จนจบเพลง 1 ครัง้ จากนัน
้ คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฝึ กร้องตามทีละท่อน ต่อมา

คร้เปิ ดเทปเนือ
้ เพลงไปจนจบเพลงแล้วให้นักเรียนร้องเพลงตามไปพร้อมกับเทป

6. นักเรียนร้องเพลงเองตัง้ แต่ต้นจนจบ

7. คร้ถามคำาถามเกีย
่ วกับคำาศัพท์ในเนือ
้ เพลงและให้ช่วยกันสรุปความหมายของ

เนือ
้ เพลง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดเกีย
่ วกับเนือ
้ เพลง Exercise 7 L Answer the
questions โดยให้นักเรียนขีด  ลงในช่อง Yes ถ้าประโยคคำาถาม

ตรงกับเนือ
้ เพลง และกา  ลงในช่อง No ถ้าประโยคคำาถามไม่ตรงกับ

เนือ
้ เพลง และแบบฝึ กหัด 7 M Do a survey
9. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

25
ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนเล่นเกมเติมเนือ
้ เพลงให้สมบ้รณ์ เป็นเพลง Have you
ever seen Cappuccino? จากนัน
้ คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั ง แล้วให้

นักเรียนเติมคำาทีข
่ าดหายไปให้สมบ้รณ์

2. คร้และนักเรียนเฉลยคำาตอบ

3. คร้เขียนตัวอักษร rm และ rn บนกระดานดำา แล้วให้นักเรียนอ่าน

ออกเสียง r , n , m
4. นักเรียนฝึ กออกเสียง คำาศัพท์ทีค
่ ร้เขียนบนกระดานดำา ให้คล่อง

จากนัน
้ คร้อธิบายความหมายให้นักเรียนฟั ง

เสียงทาบหลัง rm - อ่านออกเสียงเป็นเสียง m
(ม)

5. นักเรียนตอบคำาถามคร้ว่าในแต่ละภาพนักเรียนเห็นอะไรบ้าง หลัง

จากนัน
้ คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั ง แล้วให้นักเรียนพ้ดตามเทปทีละประโยค
พร้อมทัง้ ทำาท่าทางประกอบความหมาย

- My arm hurts on the farmer's farm .


- The boy was blowing the corn in the

morning .
6. นักเรียนอ่านขัน
้ ตอนการทำากิจกรรม English Club Board
พร้อมกัน แล้วช่วยกันอธิบายความหมายของประโยคแต่ละประโยค

7. นักเรียนศึกษาวิธีการเขียนกิจกรรม English Club Board


จากตัวอย่าง ของ Mana และ Suporn ตามหัวข้อทีก
่ ำาหนดให้ใน

กิจกรรม

8. นักเรียนเขียนบรรยายตามหัวข้อทีก
่ ำาหนดให้ในกิจกรรมนักเรียนทำา

แบบฝึ กหัด Exercise 8 N และ O

26
5. กิจกรรมการเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. บัตรภาพ

4. กระเป๋ าผนัง

5. เพลง Have you ever seen Cappuccino ?

6. การวัดและการประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

ของคำาศัพท์

2. ความถ้กต้องในการร้องเพลงให้ตรงตามจังหวะ

3. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปความหมายของเนือ
้ เรือ
่ ง และเนือ
้ เพลงใน

หนังสือเรียน

4. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

5. ความถ้กต้องในการเขียนประโยคบรรยายกิจกรรม English
Club Board
6. ความสนใจในการร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

27
28
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 4
เรือ
่ ง Let's have a picnic
หน่วยย่อย What are we going to today?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6 เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการพ้ด การฟั ง เป็นพืน


้ ฐานทีส
่ ำาคัญในการเรียนภาษา
อังกฤษ ควรฝึ กให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งสิง่ ทีก


่ ำาหนดให้แล้วสามารถพ้ดได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. ฟั งบทสนทนาแล้วสามารถเลียนแบบตามได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำาศัพท์ได้

2. นักเรียนสามารถพ้ด - เขียน เลียนแบบตามบทสนทนาได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้ถ้กต้อง

4. สามารถถามและตอบโดยใช้โครงสร้างประโยคตามทีก
่ ำาหนดให้ได้

ถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

Lesson 2 Let’s have a picnic หน้า 8-9


A: What are you going to do today?
B: I’m going to _________.
4. กิจกรรมการเรียนการสอน

29
ชัว
่ โมง 1
1. คร้ให้นักเรียนฟั งเทป 1 ครัง้ จนจบหลังจากนัน
้ ครุเปิ ดอีก 1 ครัง้ โดย

เปิ ดทีละประโยคแล้วกด “push” เพือ


่ ให้นักเรียนอ่านตามจนครบทุก

ประโยค

2. ให้นักเรียนอ่านเองโดยคร้ไม่เปิ ดเทปอีก 1 ครัง้

3. นักเรียนอ่านทีละคนโดยคร้สุ่มเรียกชือ
่ 3-4 คน

4. นักเรียนช่วยกันสรุปความหมายในเนือ
้ เรือ
่ งระหว่างบทสนทนาของ

Jack : What are


we going to do today ?
Uncle Thomas : We’re going to
visit our relatives.
Jack : Manchester -
Manchester United.
Uncle Thomas : Yes. The
famous football team.
Jack : Are we going to fly
on an airplane ?
Uncle Thomas : Yes, we are.
5. นักเรียนบอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ตามเนือ
้ หาในบทสนทนา ในบท

เรียนพร้อมทัง้ สะกดคำาศัพท์ today, visit, relative, famous,


airplane, พร้อมทัง้ จดคำาศัพท์ลงสมุด

6. นักเรียนจับค่้แสดงบทบาทสมมุติ ระหว่าง Jack กับ Thomas


7. คร้ให้นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดในสมุดแบบฝึ กหัดหน้า 9 ข้อ A. Look,
Listen and number the pictures. โดยคร้เปิ ดเทปให้

30
นักเรียนฟั งทีละประโยค แล้วให้นักเรียนใส่หมายเลขเรียงลำาดับภาพตาม
ประโยคในเทป เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยเฉลยคำาตอบทีละคน

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. คร้ทบทวนคำาศัพท์ โดยให้เขียนตามคำาบอก 5 คำา

2. คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั ง 1 ครัง้ แล้วให้นักเรียนฝึ กอ่าน

3. นักเรียนจับค่้แล้วทบทวนบทสนทนาเสร็จแล้วให้นักเรียนแต่ละค่้ออกมาแสดง

บทบาทสมมุติ คร้สุ่มเรียกชือ

4. คร้ให้นักเรียนเขียนบทสททนาเลียนแบบสนทนาดังกล่าวลงสมุดแล้วจับค่้กับ

เพือ
่ น

5. สุ่มเรียกนักเรียน 4-5 ค่้ เพือ


่ ให้อ่านบทสนทนาของตน

6. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับบทสนทนาของเพือ
่ น

7. ให้นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดหน้า 9 ข้อ B.

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. คร้สนทนากับนักเรียนเกีย
่ วกับสิง่ ทีจ
่ ะทำาในอนาคต แล้วให้นักเรียนยก

ตัวอย่างโดยคร้ยกตัวอย่างให้ฟัง 2-3 ประโยคก่อน เช่น

- ฉันจะไปกรุงเทพ

- พีช
่ ายของฉันจะไปด้หนัง

2. คร้เขียนขึน
้ กระดานโดยเน้นคำาว่า “ to be going to” แล้วอธิบายเพิม

เติมว่า เป็นคำาทีใ่ ช้แสดงเหตุการณ์ทีย


่ ังไม่เกิด แต่กำาลังจะเกิดขึน
้ ในอนาคตอันใกล้

3. คร้ให้นักเรียนเปลีย
่ นประโยคภาษาไทย เป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ to be
going
to แทน จะ ได้ดังนี ้

- ฉันจะไปกรุงเทพ = I’m going to

31
- พีช
่ ายของฉันจะไปด้หนัง = My

4. คร้ให้นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยคเป็นภาษาไทย และเขียนเป็นภาษาอังกฤษ

ด้วย คนละ 5 ประโยค

5. นักเรียนยืนขึน
้ อ่านประโยคของตนเองคนละ 1 ประโยคจนครบทุกคน

6. คร้ช้แถบประโยคเพือ
่ สนทนาดังนี ้

A : What are you going to do


today ?
B : I am going to go to the
market.
คร้สนทนาอีกหนึง่ ครัง้ แล้วให้นักเรียนพ้ดตาม

7. คร้สอนกฎการใช้โครงสร้างให้นักเรียนดังนี ้ (ในชีทหน้า 27 )
8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดหน้า 10 ข้อ C.

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนจัดกลุ่มๆละ 4 คน แล้วบอกว่าจะเล่นเกมโดยอธิบายวิธีการเล่น

ดังนี ้

- คร้ให้บัตรคำาศัพท์ซึง่ สามารถนำามาเรียงจะได้ประโยคคำาถามและ
คำาตอบเกีย
่ วกับเหตุการณ์ทีจ
่ ะกระทำาในอนาคตเช่น

What are w going d toda ?

W ’re goi to vis ou au .

32
- คร้แจกให้กลุ่มละ 2 ชุด กลุ่มใดเรียงถ้กและเร็วทีส
่ ุดเป็นผ้้

ชนะโดยกำาหนดเวลา 2 นาที เสร็จแล้วคร้ให้แต่และกลุ่มอ่านประโยคทีก


่ ลุ่มของ

ตนเองอีกครัง้ หนึง่

2. นักเรียนเปิ ดแบบเรียนหน้า 9 กิจกรรม Ask and answer แล้ว

ให้นักเรียนพ้ด ตัง้ แต่ภาพที ่ 1-9 และบอกความหมาย

3. นักเรียนจับค่้ฝึกโต้ตอบโดยใช้ภาพที ่ 1-9 และโครงสร้างประโยคตามที ่

กำาหนดให้เวลาประมาณ 10 นาที

4. นักเรียนออกมาพ้ดหน้าห้องเพือ
่ ให้เพือ
่ นฟั ง

5. ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนประโยคตัง้ แต่ภาพ 1-9 ลงสมุดและทำาแบบฝึ กหัด

หน้า 10 ข้อ D.

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนด้คำาศัพท์บนกระดานดำาทีค
่ ร้เขียนขึน
้ โดยคร้จะไม่เรียงเป็นประโยคที ่

ถ้กต้อง

will / going / are / today ?/

จากนัน
้ คร้ให้นักเรียนช่วยกันเรียงเป็นประโยคให้สมบ้รณ์

2. นักเรียนตอบคำาถามคร้

What are you going to do today ?


I’m going to the market.
3. นักเรียนอธิบายวิธีการสร้างประโยคคำาถามและคำาตอบตามกฎของเหตุการณ์ที ่

จะทำาในอนาคต

4. นักเรียนสร้างประโยคคำาถามแล้วให้เพือ
่ นตอบ

5. ให้นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดหน้า 11 ข้อ E. และ F. โดยคร้เปิ ดเทป

ให้นักเรียนฟั งทีล
่ ะแบบฝึ กหัด เสร็จแล้วคร้เรียกให้นักเรียน เฉลยทีค
่ น

33
5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. แบบเรียนและสมุดแบบฝึ กหัด

2. เทปบนทึกเสียง

3. แถบประโยค

4. บัตรคำา

6. การวัดผลประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการใช้ประโยค What are we going to


do today ? ในการถามเกีย
่ วกับเหตุการณ์ทีจ
่ ะกระทำาในอนาคต

2. ความถ้กต้องในการใช้ประโยค We are going to + v (1)


+O . ในประโยคบอกเล่า

3. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

4. ความสนใจในการร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

5. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

6. ความถ้กต้องในการสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 5
เรือ
่ ง Let’s have a picme
หน่วยย่อย What will she / he need
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

34
What will you need? เป็นเหตุการณ์ทีก
่ ำาลังจะเกิดขึน
้ ใน

อนาคตเป็นเหตุการณ์หนึง่ ทีจ
่ ำาเป็นต่อการเรียนภาษาอังกฤษอันจะนำาไปส่้
การติดต่อสือ
่ สาร และการดำาเนินในชีวิตประจำาวัน

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ นักเรียนสามารถสร้างประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยคคำาถามและคำาตอบตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนด

ให้ได้อย่างถ้กต้อง

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามรถเลือกใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธานได้อย่างถ้กต้อง

และเหมาะสม

2. นักเรียนสามารถเขียนบทสนทนาเลียนแบบบทสนทนาในบทเรียนได้

อย่างถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคำาศัพท์ ได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามรถพุดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

5. นักเรียนสามารถสร้างประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

3. เนือ
้ หา

บทสนทนาระหว่าง Jack , Diana และ James


A : What will he / she need?
B : He / She’ ll need………………..
คำาศัพท์

mat bait fishing Pole


tennis swimming suit picnic
basket
ball towel recket

35
2. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนเดาภาพหมายจากภาพทีค
่ ร้ช้ให้ด้ ว่ามีอะไรเกิดขึน
้ บ้างโดย

ภาพทีช
่ ้ให้ด้เป็นภาพของ Diana , Jack และ James ในอริยาบท
ต่าง

2. นักเรียนปิ ดหนังสือพร้อมกับฟั งบทสนทนาระหว่าง Diana ,


Jack และ James พร้อมทัง้ ตอบตำาถามตามทีไ่ ด้ยินเรือ
่ งราวเทป

3. นักเรียนเปิ ดหนังสือพร้อมกับพ้ดตามเทป ( หน้า 10 )


Diana is Jack ‘s cousin James is Diana’s
friend Today they are going t o
have a picnic
Jake : Hi, Diana ! Hi, James ! what
are you doing?
Diana : We’re morning some
sandwiches . We’re going to have
a picnic.
James : Would you like to have a
picnic with us ?
Jack : Sure ! I’d love to. What will
I need ?
Diana : You’ll need a cap and a
towel . we’re going to swim in the
river.

36
James : Bring a jacket , too It’ ll
be cold in the evening.
4. นักเรียนช่วยกันหาความหมายคำาศัพท์เนือ
้ เรือ
่ ง

5. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 3 คนเพือ
่ แสดงบทบาทของสมมติของเนือ

เรือ
่ งในหนังสือเรียน โดยให้คนแรกเป็น Diana คนที ่ 2 เป็น James
และคนที ่ 3 เป็น Jack และคร้สุ่มเรียกบางกลุ่มมานำา เสนอหน้าชัน

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 3 F listen and


chech

ชัว 2
่ โมงที ่

1. นักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 3 F


2. นักเรียนพ้ดบทสนทนาระหว่าง Jack , Diana และ james
อีกครัง้ เพือ
่ เป็นการ ทบทวน

3. นักเรียนเดาความหมายของคำาว่า will บนกระดานซึง่ คร้เขียนขึน


ว่ามีความหมายอย่างไร แล้วคร้ถามต่อไปอีกว่า will มีวิธีการใช้อย่างไร

นักเรียนช่วยกันตอบ คำาถาม

4. ยกตัวอย่างหลายๆตัวอย่างให้นักเรียนเพือ
่ ให้นักเรียนช่วยกันสรุปการ

ใช้ประโยค

ประธาน (S) + will + คำา

5. นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคทีม
่ ี will อย่ด
้ ้วย โดยด้จากบท

สนทนาของ Diana , Jack และ Jame


6. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยประโยคว่ามีประโยคใดบ้าง

7. คร้และนักเรียนช่วยกันสรุปวิธีการใช้ will ในประโยคเหล่านัน


37
8. นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยคบอกเล่าโดยใช้ will เข้าไปเกีย
่ วข้อง

ด้วยจากนัน
้ ออกมานำาเสนอประโยคทีต
่ นเองแต่งขึน
้ ให้เพือ
่ นฟั ง

9. นักเรียนจดประโยคทีต
่ นเองพ้ดลงสมุด

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนแต่ละคนออกมาแสองบทบาทสมมติว่าตนเองกำาลังจะไปทำาสิง่

นี ้ เช่น นำาเรียนคนหนึง่ ออกมาทำาท่าว่าตนกำาลังจะไปตกปลา แล้วให้เพือ


่ น

ในห้องทายว่าตนกำาลังจะไปทำาอะไร โดยใช้ประโยค You’ re going


fishing
2. นักเรียนด้ตัวย่อในกรอบ Remember ในหนังสือเรียนหน้า

11 จากนัน
้ นักเรียนพ้ดตามคร้ และพ้ดการใช้คำาย่อคำาเติมให้ ถ้กต้อง

I’ll = I will
She’ll = She will
It’ll = It will He’II = He will
You’ll = You will They”ll =
They will
3. นักเรียนด้การสนทนาของคร้กับหุ่นมือ

คร้ She’ s going to have a picnic tomorrow


หุ่นมือ What’s will she need?
คร้ She’ ll need a picnic basket and mat.
4. นักเรียนพ้ดบทสนทนา

5. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปวิธีการใช้ will ในประโยคบอกเล่าและ

ประโยค คำาถาม

38
6. นักเรียนจับกลุ่มกลุ่มละ 3 คน พ้ดบทสนทนาตามตัวอย่างโดยคน

แรกบอก กิจกรรมทีต
่ นจะกระทำา คนที ่ 2 เป็นคนถามคนที ่ 3
เป็นคนตอบ

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise A G และ H จากนัน


ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนแข่งขันกันตอบคำาถามโดยคร้จะช้ภาพพร้อมกับถามว่า

คร้ : What’ s this ?


นร . : It’s a .
2. นักเรียนออกเสียงคำาศัพท์แต่ละคำาให้คล่อง

mat tennis ball


bait swimming suit
fishing pole picnic basket
tennis racket towel
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้โดยให้สัมพันธ์กับความหมายในภาพ

คร้ : What’ s he / she going ?


นร . : He/ She is going to
.
คร้ : What will he / she need ?
นร . : He / She’ ll need .
4. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยคำาตอบพร้อมทัง้ เขียนบนกระดานดำา

5. นักเรียนช้ภาพให้เพือ
่ นด้พร้อมกับถามแล้วให้เพือ
่ นตอบ

6. นักเรียนจดประโยคคำาถามและตอบลงสมุด

39
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 5 และ 6 จากนัน
้ คร้และนักเรียน

ช่วยกันเฉลย แบบฝึ กหัด

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 7
2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

3. นักเรียนตอบคำาถามใน What about you ?


What will you need when you’re going to
go the market tomorrow
4. นักเรียนแต่ละคนออกมาพ้ดคำาตอบของตัวเองให้เพือ
่ นฟั ง

5. นักเรียนแต่งบทสนทนาเลียนแบบ Jack Diana และ James


ในประโยค

What will you need when you are going to class


tomorrow
6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 8 จากนัน
้ คร้และนักเรียนช่วย

กัน เฉลย

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. หุ่นมือ

3. เทปบันทึกเสียง

4. ร้ปภาพ

40
5. บัตรคำา

6. แถบประโยค

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการออกเสียงสะกดคำาศัพท์

2. ความถ้กต้องในการพ้ดประโยค

3. ความถ้กต้องในการเขียนแบบสนทนา

4. ความถ้กต้องในการพ้ดประโยค

5. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญ

6. ความสนใจในการทำากิจกรรมในชัน

7. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

41
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 6
เรือ
่ ง Let’s have a picnic
หน่วยย่อย A Picnic story
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการฟั งและการอ่าน เป็นพืน


้ ฐานทีส
่ ำาคัญในการเขียนภาษาอังกฤษ
ควรจะฝึ กฝนให้เกิดความชำานาญ นอกจากนัน
้ การเรียนร้้เนือ
้ เรือ
่ งจาก
เพลงและการได้ลงมือปฏิบัติในกิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยในการเรียนมี
ประสิทธิภาพมากขึน

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถเขียนตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้กต้อง

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปจดความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

2. นักเรียนสามารถพ้ดออกเสียงเนือ
้ เรือ
่ งได้อย่างถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถเขียนบรรยายเรืาองราวของตนเองโดยเลียนแบบ

จากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

42
4. นักเรียนสามารถพ้ดออกเสียงคำาศัพท์ การสะกดคำาได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. เนือ
้ หา

เนือ
้ เรือ
่ ง A picnic story
เพลง Go to school
กิจกรรม English Club Board
คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงตามหลัง rk และ st ประกอบ

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากภาพในกิจกรรม Let’s read A
picnic story หน้า 12 ในหนังสือเรียน

2. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่ม ๆ ละ 5 คน /
ให้ภายในกลุ่มอ่าน หาคำา

ศัพท์หน้า 12 กิจกรรม Let’s read (A picnic story)


3. นักเรียนส่งตัวแทนออกมากลุ่มละคนพ้ดเล่าเรือ
่ ง A picnic story
4. คร้ถามคำาถามและนักเรียนช่วยกันตอบเพือ
่ เป็นการสรุปเนือ
้ เรือ
่ ง

5. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ ง A picnic story
6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 6 K พร้อมทัง้ เฉลยคำาตอบ

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. คร้ชวนนักเรียนสนทนาเกีย
่ วกับเรือ
่ ง A picture Story เพือ
่ เป็นการ

ทบทวนเรือ
่ งทีเ่ รียนมาแล้ว

2. นักเรียนตอบคำาถามคร้โดยแบ่งเป็นกลุ่มกลุ่มละ 4-5 คน โดยให้นักเรียน

ปิ ดหนังสือแล้ว เขียนคำาตอบลงกระดาษเปล่า

43
- What are Jack , James and
Diana going todo?
- What will they need?
- What’s wrong with Jack’s bag?
- Whose eating Jack’s food?
- How does Jack chase the cow?
3. จากนัน
้ นักเรียนแบ่งกลุ่มตอบคำาถาม

4. นักเรียนในแต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งเนือ
้ เรือ
่ งเลียนแบบเรือ
่ ง A picnic
story และวาดภาพประกอบ

5. นักเรียนในแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำาเสนอเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองแต่งหน้า

ห้องเรียนเพือ
่ ให้เพือ
่ นฟั ง

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนฟั งเพลง Go to school จากเทปตัง้ แต่ต้นจนจบ 2 ครัง้

โดยทีย
่ ังไม่เปิ ดหนังสือเรียน

2. นักเรียนฝึ กร้องเพลงตามเทปทีละท่อน

3. นักเรียนร้องเพลง Go to school ไปพร้อมกับเทปหลังจากนัน


นักเรียนร้องเองโดยไม่เปิ ดเทป (เปิ ดหนังสือเรียน)


4. คร้ถามความหมายของเนือ
้ เพลง Go to school เป็นภาษาอังกฤษ

5. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากเนือ
้ เพลง Go to school
6. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มผลัดกันร้องเพลงให้เพือ
่ นฟั ง

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 72 write “True or False”


และ 1 M Fill in the blank หลังจากนัน
้ คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลย

แบบฝึ กหัด

44
ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 6 ท่อน โดยในแต่ละกลุ่มจะได้เนือ

เรือ
่ ง Go to school ไปกลุ่มละท่อน ซึง่ แต่ละกลุ่มจะต้องช่วยกันร้องเพลงต่อ

เพลงโดยจะเริม
่ จากคร้เปิ ดเทปท่อนแรกให้ฟังถ้ากลุ่มใดได้ท่อนต่อต้องร้องเพลง หลังจาก
นัน
้ กลุ่มต่อไปก็ต้องร้องเพลงไปเรือ
่ ย ๆ จนกว่าจะจบเพลง

2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 14 กิจกรรม English club


Board และอ่านคำาสัง่

3. นักเรียนช่วยกันสรุปความหมาย ของวิธีการทำากิจกรรม

1) Imagine you are going on camping


in the woods.
You can bring only three things
with you Think of three things you
will need for camping.
2) Find photos or draw pictures of the
three things. Write about them
4. นักเรียนลงมือทำากิจกรรม ถ้านักเรียนคนใดไม่ได้เตรียมภาพมาก็ให้วาด ภาพ

แทนและเขียนประโยคบรรยายเกีย
่ วกับสิง่ ของทีน
่ ักเรียนจะเตรียมไป

5. นักเรียนแต่ละคนนำาผลงานมาติดบอร์ดให้เพือ
่ นในห้องด้พร้อมทัง้ นำาเสนอผล

งานการเขียนของตนเอง

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์ทีม
่ ีอักษรตัว rk และ st ประกอบอย่้ด้วย

โดยคร้จะเขียนคำาศัพท์บนกระดานดำามีภาพประกอบ

Mark Park first florist ghost

45
2. นักเรียนฝึ กออกเสียงจนคล่อง

3. นักเรียนอธิบายความหมายของคำาศัพท์และช่วยกันเดาวิธีการอ่านออก เสียง

rk และ st ท้ายคำา จากนัน


้ คร้เฉลยวิธีการอ่านทีถ
่ ้กต้องให้ฟังแล้วพร้อมอธิบายหลัก

การออกเสียง

เสียงทาบหลัง rk - อ่านออกเสียง “ค” ตัว “ r” ในคำาศัพท์จะไม่

ออกเสียง

เสียงทาบหลัง st - อ่านออกเสียง “ n” ตัว “s” ในคำาศัพท์จะไม่


4. นักเรียนเปิ ดหนังสือหน้า 14 กิจกรรม Fun with sound and
sentences. แล้วให้นักเรียนด้ภาพพร้อมกับถามว่าเป็นอะไรบ้าง

5. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามเทป

- Mark , park
Mark is walking in the park
- first , florist , ghost
The first florist is afraid of the ghost
6. นักเรียนออกเสียงเองจนคล่องและเล่นเกม Gossiping
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 8 N และ p หลังจากนัน
้ นักเรียน

และคร้ช่วยกันเฉลย

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. เพลง Go to school
4. บัตรคำาศัพท์ บัตรภาพ

5. กระเป๋ าผนัง

6. กระดาษเปล่า

46
7. เกม

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์

2. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

3. ความถ้กต้องในการเขียนตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

5. ความถ้กต้องในการร้องเพลง

6. ความสนใจในการร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 7
เรือ
่ ง My family
หน่วยย่อย What does he / she look like ?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

Descriptive Adjective คือ คำาคุณศัพท์บอกลักษณะ ซึง่ เป็น

คำาทีใ่ ช้แสดงลักษณะหรือคุณภาพของคนสัตว์สิง่ ของ และสถานที ่ เพือ



บอกให้ร้ว่าคำานามนัน
้ มีลักษณะอย่างไร เช่น ส้ง เตีย
้ ขาว ซึง่

47
Descriptive Adjective เป็นสิง่ ทีน
่ ำามาใช้ในชีวิตประจำาวันและ

การติดต่อสือ
่ สาร

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ นักเรียนสามารถปฏิบัติตามคำาสัง่ ได้อย่างถ้กต้อง

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถบอกคุณลักษณะได้ถ้กต้อง

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยคคำาถามและคำาตอบตามโครงสร้างที ่

กำาหนดให้ได้ถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถพ้ดอธิบายความหมายของคำาคุณศัพท์ได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. นักเรียนสามารถใช้คำาคุณศัพท์ในการบรรยายลักษณะของบุคคล

อืน
่ ได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้

5. นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมติตามเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้ถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

เนือ
้ เรือ
่ งบทสนทนาระหว่าง James กับ Jack
A : What does he/she look like?
B : He/She is_____________. (ลักษณะ)
A : What does he/she look like ?
B : He/She has____________. Hair (ทรงผม)

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1

48
1. นักเรียนเขียนบรรยายลักษณะของเพือ
่ นในห้อง 1 คน หลังจากนัน
้ พ้ด

บรรยาย ลักษณะของเพือ
่ นคนนัน
้ แล้วให้เพือ
่ นในห้องช่วยกันทายว่าใครพร้อมทัง้ ให้

นักเรียนเฉลยว่าถ้กต้องหรือไม่ เช่น She is beautiful. , She is tall and


thin.
2. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์จากบัตรคำาศัพท์

tall short thin fat


blackwhite
3. นักเรียน จับค่ค
้ ำาศัพท์กับภาพ จากนัน
้ คร้อธิบายนักเรียนฟั งว่าคำาคุณศัพท์

บอกลักษณะหรือ Descriptive Adjective เป็นคำาทีใ่ ช้แสดงลักษณะหรือ

คุณภาพของคน สัตว์ สิง่ ของ และสถานที ่ เพือ


่ บอกให้ร้ว่า คำานามนัน
้ ๆ มีลักษณะ

อย่างไร เช่น tall (ส้ง) short (เตีย้ )


4. นักเรียนด้บทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือ

คร้ช้ภาพ Lisa ให้หุ่นมือด้พร้อมกับถามว่า

คร้ : What does Lisa look like


?
หุ่นมือ : She’s tall.
5. นักเรียนออกเสียงตามบทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือ

6. นักเรียนจับค่้ฝึกพ้ดบทสนทนาพร้อมกับถาม – ตอบเกีย
่ วกับลักษณะผ้้อืน
่ ตาม

บทสนทนาของคร้กับหุ่นมือ

7. ให้นักเรียนหาคำาตรงข้าม เช่น big_small strong_weak,


tall_short etc.

ชัว
่ โมงที ่ 2

49
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้ ถึงสิง่ ทีเ่ ห็นในภาพในบทสนทนาระหว่าง Jack และ

James
2. นักเรียนฟั งบทสนทนาจากเทปในบทสนทนาระหว่าง Jack และ James
หน้า 15 โดยนักเรียนปิ ดหนังสือ

3. นักเรียนออกเสียงตามเทปทีละประโยค

4. นักเรียนตอบคำาถามคร้ตามทีไ่ ด้ยินจากเทป นักเรียนเปิ ดหนังสือพร้อมกับช่วย

กันแปลความหมายทีละประโยค

5. นักเรียนจับค่้ฝึกพ้ดบทสนทนา หลังจากนัน
้ คร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนออกมาหน้า

ห้องเพือ
่ พ้ดให้เพือ
่ นฟั งพร้อมกับแสดงบทบาทสมมติให้เพือ
่ นด้

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 1 A Look , listen and


number the pictures และ B number the sentences โดยคร้

เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั งประโยคทีล


่ ะประโยคแล้ว นักเรียนใส่เครือ
่ งหมายเลขเรียงลำาดับ
ภาพตามทีไ่ ด้ฟังจากเทป

7. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับบทสนทนาระหว่าง Jack กับ James
เพือ
่ เป็นการทบทวน

2. นักเรียนด้บัตรภาพทีค
่ ร้ช้ให้ด้พร้อมกับเดาศัพท์จากภาพเช่น คร้ช้ภาพผ้้ชาย

ส้งให้ นร . ด้ แล้วตามนักเรียน

คร้ : What does he look like ?


นร . : He’s______________.
3. คร้ช้ภาพลักษณะของคนเช่น tall , fat , big , small ให้นักเรียนคิด

คำาศัพท์เพิม
่ เติม

4. นักเรียนฝึ กใช้ประโยคคำาถาม What does he look like?

50
5. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นฝึ กถามตอบลักษณะของเพือ
่ นของเพือ
่ น

A : What does he look like ?


B : He’s______________.
6. นักเรียนออกมาพ้ดสนทนาถึงลักษณะของเพือ
่ นในห้องให้เพือ
่ นคนอืน
่ ฟั งและ

เพือ
่ นทายว่าบุคคลนัน
้ คือใคร

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนด้ลักษณะของทรงผมต่าง ๆ ทีค
่ ร้ช้ให้ด้พร้อมทัง้ เดาคำาศัพท์

2. นักเรียนพ้ดคำาศัพท์ทรงผมต่าง ๆ ทีเ่ ห็นจากภาพจากนัน


้ คร้เขียนคำาศัพท์บน

กระดาน

short hair curly hair


long hair straight hair
3. นักเรียนฝึ กออกเสียงคำาศัพท์ลักษณะทรงผมจนคล่อง และจับค่้บัตรภาพ

พร้อมกับฟั งบทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือคร้ชีไ้ ปทีภ


่ าพผ้้หญิงผมหยิกแล้วช้หุ่นมือ

คร้ : What does she look like ?


หุ่นมือ : She has short curly hair .
4. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามบทสนทนา

5. คร้และนักเรียนช่วยกันอธิบายโครงสร้างและวิธีการใช้ ในประโยคคำาถามและ

ประโยคบอกเล่า

6. -
นักเรียนจับค่้ถาม ตอบ ถึงลักษณะทรงผมต่าง ๆ ของเพือ
่ นในห้องหลัง จาก

นัน
้ คร้สุ่มเรียงชือ
่ นักเรียนออกมาสนทนาหน้าห้องให้เพือ
่ นทำา

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 2 C และ D จากนัน


้ นักเรียนและคร้

ช่วย กันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 5

51
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกหยิบบัตรคำาศัพท์ลักษณะทรงผม

ไปติดบนกระดาน ต่อจากนัน
้ กลุ่มที ่ 2 ตัง้ ติดบัตรภาพทรงผมให้ตรงกับคำาศัพท์

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

3. นักเรียนตอบคำาถามคร้ โดยคร้ชีไ้ ปทีภ


่ าพผ้้หญิงผมหยิกยาว

A : What does she look like?


B : She has long Curly hair.
4. นักเรียนวาดร้ปลักษณะของคนและทรงผมในแบบต่าง ๆ หลังจากนัน
้ เขียน

บรรยายลักษณะลงไปในสมุดพร้อมกับออกมาหน้าชัน
้ เพือ
่ พ้ดให้เพือ
่ นฟั งพร้อมช้ภาพให้
เพือ
่ นด้ด้วย

5. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 3 E และ F

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. หุ่นมือ

3. บัตรคำา

4. บัตรภาพ

5. เทปบันทึกเสียง

6. การวัดและการประเมิน

1. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์

2. ความถ้กต้องในการพ้ดบรรยายลักษณะของผ้้อืน
่ และทรงผม

3. -
ความถ้กต้องในการพ้ด ตอบตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

52
5. ความสนใจในการทำากิจกรรมในชัน

53
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 8
เรือ
่ ง My family
หน่วยย่อย Which girl is Mary’s younger sister ?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการออกเสียงเป็นพืน
้ ฐานในการเรียนภาษาอังกฤษควรฝึ กให้เกิด
ความชำานาญจะช่วยการอ่านมีประสิทธิภาพมากขึน
้ นอกจากนีท
้ ักษะการ
เขียนก็เป็นส่วนหนึง่ ของพืน
้ ฐานในการเรียนภาษาอังกฤษทีน
่ ักเรียนควรจะ
ต้องลงมือปฏิบัติพือ
่ ให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถเขียนเนือ
้ เรือ
่ งเลียนแบบเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้ถ้กต้อง

54
2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมายของคำาศัพท์ได้อย่างถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. นักเรียนสามารถพ้ด –เขียน บรรยายลักษณะของคนภายใน

ครอบครัวได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถโต้ – ตอบตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. เนือ
้ หา

A : Which girl is Mary’s younger sister?


B : Her younger sister is the girl with
long black hair.
in the white blouse
and black shirt.

เนือ
้ เรือ
่ งในหนังสือเรียนหน้า 17
เนือ
้ เรือง Jack’s report หน้า 19

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 3 E และ F
2. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ ง หน้า 17 กิจกรรม Let’s learn again ใน

ใจพร้อมกับหาความหมายของคำาศัพท์จากเนือ
้ เรือ
่ ง

55
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่าน

4. คร้เขียนประโยคบรรยายบุคคล 1 ประโยคบนกระดานดำา เช่น My


mother is the women in the black and white dress
หลังจากนัน
้ ให้นักเรียนวาดภาพระบายสีตามประโยค

5. คร้เฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้องพร้อมกับอธิบายว่าในประโยคนีม
้ าจากประโยคย่อย

2 ประโยค คือ My mother is the woman และ My mother is


in the black and white dress โดยประโยคหลังเป็นประโยคขยายว่าเป็นผ้้

หญิงคนไหน

6. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ งพร้อมกับยกตัวอย่างตามโครงสร้างนีค
้ นละ 1 ประโยค

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4 G Read and write the name หลัง

จากนัน
้ นักเรียน และคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ช่วยกันเรียงประโยคทีค
่ ร้แจกให้ตามลำาดับ

เหตุ -
การณ์ก่อน หลังในเนือ
้ เรือ
่ งหน้า 17
2. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์ในกิจกรรม Remember
His father is the man with gray
hair
His mother is the woman in the
white dress.
His sister is the girl
His brother is the boy
3. นักเรียนสังเกตร้ปแบบประโยคและหาความหมายคำาศัพท์จากพจนานุกรม

4. นักเรียนนำาร้ปภาพบุคคลในครอบครัวของตนเองติดลงกระดาษ ถ้าไม่ได้

เตรียมมา ให้นักเรียนวาดภาพพร้อมทัง้ ระบายสีให้สวยงาม จากนัน


้ นักเรียนเขียน

56
บรรยายลักษณะของบุคคลต่าง ๆ ภายในครอบครัวของนักเรียนเพือ
่ เป็น การแนะนำา
ครอบครัวตนเองกับเพือ
่ น

5. นักเรียนช้ร้ปภาพหรือภาพวาดให้เพือ
่ นด้พร้อมทัง้ พ้ดบรรยายลักษณะบุคคล

อืน
่ ให้เพือ
่ นฟั ง

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4G Read and write the names.

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 4 G
2. นักเรียนออกเสียงคำาศัพท์ต่าง ๆ

cousin aunt grandmother


mother sister grandfather
father older brother
3. นักเรียนด้ภาพครอบครัวของแมรี ่ (หนังสือเรียนหน้า 18) ทีค
่ ร้ติดไว้บน

กระดานดำา หลังจากนัน
้ นักเรียนฟั งบทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือ

คร้ : Which girl is Mary’s younger


sister?
หุ่นมือ : Her younger sister is the girl
with long black hair.
in the
white
blouse and
black skirt.

4. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามจนคล่อง

5. คร้ให้บัตรคำานักเรียนเรียงเป็นประโยคทีถ
่ ้กต้องแข่งกันในแต่ละกลุ่ม

57
6. นักเรียนจับค่้ฝึกพ้ดบทสนทนาโดยนักเรียนตัว
้ คำาถามถึงบุคคลอืน
่ ในครอบครัว

ของแมรี ่

7. นักเรียนออกมาพ้ดบทสนทนาหน้าห้องเพือ
่ ให้เพือ
่ นฟั ง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4H Answer the question

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลย Exercise 4 H
2. นักเรียนตอบคำาถามคร้โดยคร้ช้สีต่าง ๆ ให้นักเรียนด้แล้วถามนักเรียน

คร้ : What color is it?


นร . : It’s .
3. จากนัน
้ นักเรียนตอบคำาถามคร้โดยคร้จะช้ลักษณะของเสือ
้ ผ้าแบบต่าง ๆ ให้

นัก เรียนด้ เช่น คร้ชภ


้ าพเสือ
้ ส้ท แล้วให้นักเรียนพ้ดคำาศัพท์ออกมาจากนัน
้ คร้ช้ภาพ
อืน
่ ๆ ให้นักเรียนด้แล้วให้นักเรียนตอบคำาถามโดยให้สัมพันธ์กับภาพ

4. นักเรียนวาดภาพบุคคลภายในครอบครัวของตนเอง พร้อมทัง้ ตกแต่งเสือ


้ ผ้า

ให้สวยงาม หลังจากนัน
้ นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นถามถึงสีของเสือ
้ ผ้า / รองเท้า / หมวก /
ถึงเท้า / และลักษณะของบุคคลภายในครอบครัวโดยใช้โครงสร้างประโยคคำาถาม - คำา

ตอบ ตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ เช่น หากเพือ
่ นถามถึงบุคคลภายในของนักเรียน เวลา
นักเรียนตอบคำาถามต้องช้ภาพบุคคลภายในครอบครัวให้เพือ
่ นคนอืน
่ ด้เพือ
่ ให้เพือ
่ นในห้อง
ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

5. นักเรียนเขียนบรรยายภาพครอบครัว

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6 j find and circle ให้นักเรียนวงกลมรอบ

คำาศัพท์ใน ตารางปริศนา โดยหาคำาศัพท์ให้ครบตามทีก


่ ำาหนดหลังจากนัน
้ ทำาแบบฝึ กหัด

6 K Unscramble the words. Fill in the blanks. 1 โดย


เรียงตัวอักษรทีก
่ ำาหนดให้เป็นคำาศัพท์ทีม
่ ีความหมายและเขียนเติมลงในช่องว่างให้ถ้กต้อง

5. สือ
่ การเรียนการสอน

58
1. หนังสือเรียน

2. บัตรภาพ

3. กระเป๋ าผนัง

6. การวัดและการประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

2. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

3. ความถ้กต้องในการถาม – ตอบ ตามร้ปแบบทีก


่ ำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรม

5. ความสนใจในการทำากิจกรรมในชัน
้ เรียน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 9
เรือ
่ ง My family
หน่วยย่อย English Club Board
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6 เวลา 15 คาบ

59
---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

การพ้ด – เขียน เป็นทักษะอย่างหนึง่ ทีค


่ วรจะมีการปฏิบัติอย่างสมำ่าเสมอ
ซึง่ จะช่วยทำาให้การเรียนภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพมากขึน
้ นอกจากนี ้
การเรียนร้้ภาษาอังกฤษจากเพลงจะช่วยให้นักเรียนผ่อนคลายความเครียด
แล้วยังให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึน
้ ด้วย

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถเขียนประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถเขียนบรรยายเล่าเรือ
่ ง เลียนแบบเนือ
้ เรือ
่ งใน

หนังสือได้

2. นักเรียนสามารถวาดภาพและเขียนประโยคบรรยายในกิจกรรม

English Club Board ได้ถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมายของคำาศัพท์ได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถร้องเพลงได้ถ้กต้องตามจังหวะ

3. เนือ
้ หา

เพลง A little girl with a little curl


กิจกรรม English Club Board
คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงทาบหลัง id และ nt ประกอบ

60
4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 6 J และ K
2. นักเรียนช่วยกันพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ ง Jack’s report เพือ

เป็นการ ทบทวน

3. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับเรือ
่ งของ Jack’s report
4. นักเรียนหาความหมายของคำาศัพท์ทีอ
่ ย่้ในกรอบ New words
other – อืน
่ ๆ grandparents - ป่ ้ย่า

ตาหรือยาย

once - ,
ครัง้ เดียว หนเดียว pen pal - เพือ
่ นทาง

จดหมาย

หลังจากนัน
้ นักเรียนเล่นเกม Hangman
5. นักเรียนพ้ด คร้แสดงภาพครอบครัว บรรยายภาพ/ นักเรียนฟั ง

6. นักเรียนเขียนบรรยายครอบครัวของตนเองเลียนแบบเนือ
้ เรือ
่ งของคร้และของ

Jack’s report
7. นักเรียนพ้ดบรรยายเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองให้เพือ
่ นในห้องฟั ง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 61 หลังจากนัน


้ นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนอ่านออกเสียงเนือ
้ เพลง A Litter girl with a
little curl ตัง้ แต่ต้นจนจบ

2. นักเรียนฟั งเพลงจากเทปตัง้ แต่ต้นจนจบ 2 ครัง้ หลังจากนัน


้ ฝึ ก

ร้องตามเทปทีละท่อน

3. นักเรียนร้องเพลงไปพร้อมกับเทป

61
4. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มละ 5 คน ช่วยกันหาคำาศัพท์และสรุป

ความของเนือ
้ เพลง

5. คร้ตรวจสอบความเข้าใจในเนือ
้ เพลงโดยการถามคำาถามง่ายๆ

6. นักเรียนร้องเพลงเองตัง้ แต่ต้นจนจบ

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 7 M หลังจากนัน


้ คร้และ

นักเรียนช่วยกัน เฉลยคำาตอบ

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนชายและหญิงแบ่งกันเป็นฝ่ ายโดยฝ่ ายหญิงก็ร้องท่อนเด็กผ้้หญิงเด็ก

ผ้้ชายก็ร้องท่อนเด็กผ้้ชาย

2. นักเรียนพ้ดสรุปความหมายของเนือ
้ เพลงอีกครัง้ เพือ
่ เป็นการทบทวน

3. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับเนือ
้ หาในเพลง

4. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์ พร้อมทัง้ สะกดคำาศัพท์ และหาความหมาย

forehead curl
beside shiver
would
5. นักเรียนร้องเพลงอีกครัง้ หนึง่ หลังจากนัน
้ คร้จะเปิ ดเทปให้นักเรียนฟั งพร้อมกับ

ให้นักเรียนเติมคำาทีข
่ าดหายให้สมบ้รณ์หลังจากนัน
้ คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยคำาตอบ

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 7 N และ O

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด Exercise 7 N และ O
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 21 กิจกรรม English Club
Board พร้อมกับอ่านวิธีการทำากิจกรรม

62
3. นักเรียนช่วยกันบอกวิธีการเล่นกิจกรรม

4. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ งในกิจกรรม My mom and dad
She is my mother. Her name’s Linda.
She has long straight hair.
He is my father . His name’s Joe.
He has short curly hair.
5. นักเรียนตอบคำาถามเกีย
่ วกับเนือ
้ เรือ
่ ง และคำาศัพท์ใหม่

6. นักเรียนนำาภาพถ่ายทีเ่ ตรียมมาติดลงกระดาษเปล่า หรือถ้าไม่ได้เตรียมมาให้

วาดภาพพ่อแม่ของตนเองลงในกระดาษแล้วระบายสีให้สวยงามเสร็จแล้วเขียน
ประโยคบรรยายลักษณะของพ่อแม่

7. นักเรียนออกมาพ้ดหน้าชัน
้ เรียนให้เพือ
่ นฟั ง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 8 P หลังจากนัน


้ นักเรียนและคร้ช่วย

กันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้ถึงสิง่ ทีเ่ ห็นในร้ปภาพกิจกรรม Fun with
sounds and sentences.
2. นักเรียนอ่านออกเสียง คำาศัพท์ พร้อมกับ สะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมาย

old ant
gold paint
field
3. นักเรียนฟั งเทป ประโยคในกิจกรรม Fun with sounds
and sentences.

63
The old man found s gold coin in
the field.
The ants are painting their jeans.
4. นักเรียนฝึ กพ้ดและวาดภาพแสดงความหมาย

5. นักเรียนตอบคำาถามคร้ถึงหลักการออกเสียง ld และ nt ท้ายคำา

เสียงทาบหลัง id - อ่านออกเสียง “ล” ท้ายคำา และออกเสียง

“ค” เบา ๆ ด้วย

เสียงทาบหลัง nt - อ่านออกเสียง “น” ท้ายคำา และมีเสียง “ n”

6. นักเรียนเรียงประโยค จากคำาทีค
่ ร้กำาหนดให้โดยคร้จะกำาหนดคำาทีม
่ ี

id ท้ายคำา และ nt ท้ายคำา

7. นักเรียนพ้ดให้เพือ
่ น ๆ ฟั งพร้อมกับให้เพือ
่ น ๆ และคร้ช่วยตรวจสอบ

ความถ้กต้อง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise Q และ R พร้อมกับช่วย

กันเฉลยคำาตอบ

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. บัตรภาพ

3. กระเป๋ าผนัง

4. แผ่นโปสเตอร์เนือ
้ เรือ
่ ง

5. เทปบันทึกเสียง

6. ภาพถ่ายครอบครัว

64
6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่าน

2. ความถ้กต้องในการพ้ดประโยคตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้

3. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

5. ความถ้กต้องในการร้องเพลงและการทำากิจกรรมในชัน

6. ความสนใจในการทำากิจกรรมในชัน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 10
เรือ
่ ง My favorite seasons
หน่วยย่อย Which season do you like best ?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชัน
้ ป . 6 เวลา

15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ฤด้กาลในประเทศตะวันตกมีความแตกต่างจากฤด้กาลในประเทศไทย ซึง่
ฤด้กาลเป็นสิง่ หนึง่ ทีน
่ ักเรียนต้องเรียนร้้เพือ
่ ให้เข้าใจในวัฒนธรรมและประเพณี
ของชาวตะวันตก

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้โครงสร้างประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

65
2.2 จุดประสงค์นำาทาง
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงสะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมายของคำาศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้ได้

2. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้ก

ต้อง

3. นักเรียนสามารถพ้ดถาม – ตอบ โดยใช้โครงสร้างประโยคที ่

กำาหนดให้ได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถพ้ด – เขียนเลียนแบบสนทนาทีก
่ ำาหนดให้ได้

อย่างถ้กต้อง

5. เพือ
่ ให้นักเรียนเรียงลำาดับเนือ
้ เรือ
่ งตามเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน
้ ก่อน –

หลังได้อย่างถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

บทสนทนาระหว่าง Diana, Jack และ James ในหนังสือเรียนหน้า

22

A : Which season do you


like best ?
does she/he

B : I like winter
spring best.
She likes summer

66
He fall

A : Why do you like winter best ?


does she / he

B : I like winter best because I like


ice-skating .
She likes
He

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้เพือ
่ เป็นการทบทวนความร้้เรือ
่ งอากาศของนักเรียน

คร้ : Do you know seasons?


นร . : Yes, I do.
หลังจากนัน
้ คร้ให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างฤด้ทีน
่ ักเรียนร้้จัก
พร้อมทัง้ และนักเรียนช่วยกันเฉลยคำาตอบทีว
่ ่ามีกีฤ
่ ด้ ฤด้อะไรบ้าง

2. คร้ช้ภาพฤด้ต่าง ๆ ให้นักเรียนด้ทีละภาพ พร้อมกับถามนักเรียนว่า

คร้ : What’s this season?


นร . : It’s____________.
แล้วนักเรียนฝึ กออกเสียงคำาศัพท์ฤด้พร้อมทัง้ สะกดคำาศัพท์และ
บอกความหมาย

67
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้จนครบทุกภาพพร้อมทัง้ ฝึ กออกเสียงคำาศัพท์ และ

สะกดและบอกความหมาย

winter - ฤด้หนาว

spring - ฤด้ใบไม้ผลิ

Summer - ฤด้ร้อน

Fall - ฤด้ใบไม้ร่วง

4. นักเรียนฟั งบทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือ

คร้ : Which season do you like


best?
หุ่นมือ : I like summer best.
คร้ : Why do you like summer
best?
หุ่นมือ : I like summer best because I
like flying a kite.
5. นักเรียนฝึ กหัดออกเสียงตามบทสนทนาพร้อมทัง้ แปลความหมายทีละประโยค

6. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นฝึ กสนทนาถาม – ตอบ โดยใช้ประโยค

A : Which season do you like best


?
B : I like____________best.
A : Why do you
like___________best ?
B : I like_________best because I
like___________.
7. นักเรียนจับค่้พ้ดสนทนา

68
ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้ โดยคร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนขึน
้ มา 1 คน

คร้ : Which season do you like best ?


นร . : I like best.
คร้ : Why do you like
best?
นร . : I like best because I
like .
2. นักเรียนปิ ดหนังสือเรียนพร้อมกับฟั งบทสนทนาระหว่าง Diana , Jack
และ James จากเทป ตัง้ แต่ต้นจนจบ 1 ครัง้

3. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามเทปทีละประโยคโดยไม่เปิ ดหนังสือเรียน

4. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนพร้อมกับออกเสียงตามเทปทีละประโยค

5. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

6. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 3 คน จากนัน
้ ฝึ กพ้ดบทสนทนาเลียนแบบ Jack ,
Diana และ James โดยสมมุติว่าแต่ละคนเป็นตัวละครในหนังสือ

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพ้ดบทสนทนาให้เพือ
่ นฟั ง

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 1 A และ B

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย Exercise 1 A และ B
2. นักเรียนช่วยกันอธิบายโครงสร้างประโยคทีค
่ ร้เขียนขึน
้ บนกระดาน

69
Which season do you
like best?
3. หลังจากนัน
้ นักเรียนช่วยกันคิดว่าถ้าจะถามถึงคนอืน
่ ทีไ่ ม่ได้อย่้ในวงสนทนา

ด้วยจะใช้คำาถามและสรรพนามอย่างไร

4. จากนัน
้ คร้เฉลยประโยคคำาถามทีถ
่ ้กต้องบนกระดานดำา

- Which season does he / she like


best?
5. นักเรียนตอบคำาถามคร้ว่าทำาไมต้องใช้ does หลังจากนัน
้ คร้และนักเรียน

ช่วยกันอธิบายโครงสร้างประโยคคำาถาม พร้อมทัง้ ให้นักเรียนยกตัวอย่างประโยค คำาตอบ

- Which season does he like best?


- He likes summer best.
6. นักเรียนฝึ กออกเสียงประโยคคำาถามและคำาตอบ

7. นักเรียนเปลีย
่ นประโยคบอกเล่าทีค
่ ร้เขียนบนกระดานโดยใช้บุรุษสรรพ นาม ที ่

1 ให้เป็นบุรุษสรรพนามที ่ 3
- I like summer best.
He likes summer best .
- I like winter best .
- She likes winter best .
8. นักเรียนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ให้กลุ่มหนึง่ เป็น A และอีกกลุ่มหนึง่ เป็น B
หลังจากนัน
้ คร้ดึงนักเรียนออกมาก่อน 2 คน เพือ
่ ไม่ให้ไปปนกับกลุ่ม A และ B
นักเรียน 2 คน ทีค
่ ร้ดึงออกมาให้คน 1
ที ่ ถามคนที ่ 2 ว่า

คนที ่ 1 : Which season do you like


best?
คนที ่ 2 : I like best.

70
หลังจากนัน
้ กลุ่ม A ถามกลุ่ม B ว่า

A : Which season does he like best?


B : He likes best .
9. นักเรียนกลุ่ม A และ B ผลัดกันถามตอบพร้อมให้นักเรียนอาสาสมัคร

2 คน ออกมาแทน นักเรียนคนที ่ 1 และคนที ่ 2


10. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 2 C

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 2C Complete the
crossword. โดยคร้จะเขียนตารางปริศนาอักษรไขว้บนกระดานแล้วให้นักเรียนอาสา

สมัคร ออกไปเติมปริศนา ข้อละ 1 คน หลังจากนัน


้ คร้และนักเรียนช่วยกันตรวจ สอบ

ความถ้กต้อง

2. นักเรียนฟั งบทสนทนาระหว่างคร้กับหุ่นมือ

หุ่นมือ : Which season does Suda like


best?
คร้ : She likes winter best .
หุ่นมือ : Why does she like winter best
?
คร้ : She likes winter best because
she likes ice-skating.
3. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามบทสนทนาทีละประโยค

4. นักเรียนออกเสียงบทสนทนาเองพร้อมทัง้ แปลความหมาย

5. นักเรียนจับกลุ่ม 3 คน ให้คนที ่ 1 และ 2 พ้ดสนทนาโดยใช้ประโยค

71
คนที ่ 1 : Which season do you like
best?
คนที ่ 2 : I like best .
คนที ่ 1 : Why do you like
best ?
คนที ่ 2 : I like best because I
like .
หลังจากนัน
้ คนที ่ 3 สนทนากับคนที ่ 1 เกีย
่ วกับคนที ่ 2
คนที ่ 3 : Which season does Panit like
best ?
คนที ่ 1 : He likes best.
คนที ่ 3 : Why does he like
best ?
คนที ่ 1 : He likes best . because
he likes .
6. ให้นักเรียนแบ่ง กลุ่มละ 3 คน พ้ดสนทนากัน และเรียกบางกลุ่มมาพ้ดหน้า

ชัน
้ คร้ช่วยตรวจสอบความถ้กต้องของโครงสร้างประโยค

7. นักเรียนบันทึกบทสนทนาของกลุ่มตัวเองลงสมุด

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด Exercise 2 D Answer the


question พร้อมทัง้ ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนเล่นเกม Hangman เพือ
่ ทบทวนประโยคทีเ่ รียนไปแล้ว โดยคร้

อธิบายวิธีการเล่นดังนี ้

72
- นักเรียนในชัน
้ 1 คน อาสาออกมาเป็นผ้้นำาเกม โดย

นักเรียนคนนัน
้ ต้องเรียนฤด้ทีต
่ นเองชอบ พร้อมกับบอกเหตุผลลงใน

กระดาษ และมอบให้คร้ (ต้องร้้กับคร้เพียง 2 คนเท่านัน


้ )
- นักเรียนในชัน
้ ช่วยกันทายถึงฤด้ทีผ
่ ้นำาเกมชอบ และบอก

เหตุผลด้วย โดยนักเรียนนัน
้ ช่วยกันทายได้ คนละ 1 ครัง้ ซึง่

ในการเล่นแต่ละครัง้ ทายได้ไม่เกิน 10 คน นักเรียนคนใดทาย

ผิด ให้ผ้นำาเกมวาดคนถ้กแขวนคอไปทีละส่วน

- เมือ
่ ทายครบ 10 ครัง้ แล้วยังไม่ถ้กต้อง ให้ผ้นำาเกม

เฉลยคำาตอบ และเริม
่ เล่นอีก 1 คนโดยเปลีย
่ นผ้้นำาเกม

2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 23 กิจกรรม Ask and answer


จากนัน
้ นักเรียนออกเสียงคำาศัพท์ในภาพกิจกรรมทีแ
่ ต่ละคนกำาลังทำาอย่้ พร้อมทัง้ ช่วยกัน
บอกความหมายคำาศัพท์

Skiing
Sailing a boat
Planting flowers
Playing football
3. นักเรียนและคร้ช่วยกันจับค่ภ
้ าพฤด้กับภพกิจกรรมให้สัมพันธ์เพือ
่ เป็นตัวอย่าง

โดยใช้ประโยค

A : Which season does he / she like


best ?
B : He /She likes_________best.
A : Why does he /she
like________best because he /she likes.
B : He /She likes________best because
he/ she likes__________.

73
4. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นช่วยกันจับค่้ภาพฤด้และภาพกิจกรรมให้สัมพันธ์กันพร้อม

ทัง้ ฝึ กพ้ดบทสนทนา

5. คร้สุ่มชือ
่ นักเรียนออกมาพ้ดบทสนทนาการจับค่้ภาพฤด้กับภาพกิจกรรมให้

สัมพันธ์กันโดยสุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนออกมาค่้ละ 1 ข้อ

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หุ่นมือ

2. หนังสือเรียน

3. เทปบันทึกเสียง

4. บัตรภาพ

5. เกม Hangman

6. การวัดและการประเมิน

1. ความถ้กต้องในการใช้โครงสร้างประโยคทีก
่ ำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมาย

ของคำาศัพท์

3. ความถ้กต้องในการพ้ดบทสนทนา

4. ความถ้กต้องใจการทำาแบบฝึ กหัด

5. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

6. ความกระตือรือร้นในการทำากิจกรรมในชัน

74
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 11
เรือ
่ ง My farourite seasons
หน่วยย่อย What did she / he do last summer?

75
What’ s he/she going to do next summer
?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6 เวลา

15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

What did she/he do last summer? เป็น Past


simple Tense หมายถึงเหตุการณ์ทีผ
่ ่านมาแล้วส่วน What’
s he/she going to do next summer? เป็น

Future Tense หมายถึงเหตุการณ์ทีย


่ ังไม่เกิดขึน
้ แต่มีการ

วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะทำา ซึง่ เหตุการณ์นีท


้ ัง้ สองเหตุการณ์นีใ้ ช้แตกต่าง
กัน ดังนัน
้ จึงควรฝึ กเพือ
่ ให้เกิดความชำานาญ และเลือกใช้ได้ถ้กต้อง

2. จุดประสงค์การเรียนร้้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถอ่านและแปลความหมายได้ถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถบอกความแตกต่างระหว่าง Past Simple


Tense และ Future Simple Tense ได้อย่างถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถเลือกใช้คำากริยาให้สอดคล้องและเหมาะสมกับ

ประธานได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถพ้ดถาม – ตอบตามโครงสร้างประโยคทีก
่ ำาหนด

ให้ได้

76
3. เนือ
้ หา

การเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นช่องที ่ 2
play played
live lived
study studied

A : What did he do last


summer ?
She

B : He/she went to a farm.


A : What’ s he going to do
next summer ?
she
B : He/She’ s going to the beach.

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 3 E Match the question and
answers. เพือ
่ เป็นการทบทวน

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

77
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้ว่า เมือ
่ วานนี ้ นักเรียนทำาอะไรบ้างพร้อมกับเขียน

ประโยคทีน
่ ักเรียนพ้ดเป็นภาษาอังกฤษ บนกระดานดำา และเขียนประโยคทีแ
่ สดง
เหตุการณ์ปัจจุบันให้นักเรียนด้ด้วย เช่น

I did my homework
I do my homework
4. นักเรียนช่วยกันพ้ดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 ประโยคจากนัน
้ คร้อธิบาย

ให้นักเรียนฟั งว่า ประโยค I did my homework. เป็นประโยค Past


Simple tense เป็นเหตุการณ์ทีเ่ กิดในปัจจุบัน

5. นักเรียนศึกษากฎการณ์เปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นช่องที ่ 2 จากใบความร้้

การเปลีย
่ นคำากริยาช่องที ่ 1 เป็นช่องที ่ 2
- คำากริยาโดยทัว
่ ไป สามารถเติม –ed ได้เลยเช่น

play Played open


opened
clean cleaned look
looked
- คำากริยาทีม
่ ี e ให้เติม – d เพียงตัวเดียว เช่น

live lived like liked


love loved close
closed
- คำากริยาทีม
่ ี y ลงท้าย ให้เปลีย
่ น y เป็น I แล้วเติม

– ed
study studied
ยกเว้นถ้าหน้า y เป็นสระ ca, e, I,o u ไม่ต้อง

เปลีย
่ น y เป็น I ให้เติม – ed ได้เลยเช่น

78
Play played
- คำากริยาทีอ
่ อกเสียงพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัว

เดียวให้เพิม
่ ตัวสะกดอีก 1 ตัวก่อนเติม – ed เช่น

Plan Planed stop


stopped
- คำากริยาบางคำาไม่สามารถเติม – ed ได้ในช่องที ่ 2 แต่

ต้องเปลีย
่ นร้ปไปเลย เช่น

go went feed fed


have had cat ate
6. คร้ยกตัวอย่างประโยค Past Simple Tense ให้นักเรียน

- I watched the football game last


night
7. นักเรียนพ้ดประโยคทีค
่ ร้เขียนบนกระดานดำาพร้อมทัง้ บอกความหมาย จาก

นัน
้ คร้ให้นักเรียนเดาความหมายของ Last night และอธิบายคุณคำาศัพท์บอกเวลา

ทีใ่ ช้กับเหตุการณ์ในอดีต

yesterday
last week
last year
8. นักเรียนด้ภาพเหตุการณ์และใช้พ้ดประโยค Past Simple Tense
แล้วเพือ
่ น ๆ และคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

9. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 3 F Answer the question จากนัน


คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 2

79
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม แข่งขันกันเปลีย
่ นประโยค Present
Simple Tense ให้เป็น Past Simple Tense โดยคร้จะให้แถบประโยค

Present Simple Tense กับแต่ละกลุ่มจากนัน


้ แต่ละกลุ่มต้องส่งตัวแทน ออกมา

เขียนประโยค Past Simple Tense บนกระดานดำา

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

3. นักเรียนด้ตัวอย่างทีเ่ ป็นประโยคในอนาคตบนกระดานดำา

I’m going to the beach next week.


4. นักเรียนฝึ กออกเสียงและเดาความหมายของประโยค

5. คร้ยกตัวอย่างให้นักเรียนฟั งว่า ประโยคของ Future Simple


Tense มีโครงสร้างเป็นประโยคทีใ่ ช้เกีย
่ วกับกิจกรรมทีต
่ ัง้ ใจจะทำาในอนาคต โดยมีคำา

บอกเวลาคือ tomorrow, next year, next month

S+ V. to be + going to +

6. นักเรียนหาคำาบอกเวลาเพิม
่ เติม

7. นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยค Future Simple Tense แล้วออก

มาพ้ดให้ เพือ
่ น ๆ ในห้องฟั งพร้อมกับให้เพือ
่ น ๆ และคร้ ช่วยกันตรวจสอบ
ความถ้กต้อง

8. นักเรียนช่วยกันพ้ดบอกถึงความแตกต่างระหว่าง Past Simple


Tense และ Future Simple Tense

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. คร้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ Present Simple Tense บนกระดานแล้ว

ให้นักเรียนเปลีย
่ นเป็นประโยค Past Simple Tense และ Future
Simple Tense

80
2. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

3. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นช่วยกันแปลความหมายของเนือ
้ เรือ
่ ง

4. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคแต่ละประโยคพร้อมทัง้ สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนพ้ด

แปลความหมายของประโยค

5. นักเรียนช่วยกันหาประโยค Past Simple Tense และ Future


Simple Tense ในเนือ้ เรือ่ ง
6. นักเรียนอ่านคำาศัพท์ในกรอบ Remember พร้อมทัง้ ด้ความหมายและ

ความแตกต่างของคำาศัพท์ทัง้ 3 ช่อง

7. นักเรียนแต่งเนือ
้ เรือ
่ งเลียนแบบเรือ
่ งทีอ
่ ่าน คนละประมาณ 8 – 10
ประโยคพร้อมกับวาดภาพประกอบ

8. นักเรียนออกมาพ้ดหน้าชัน
้ ให้เพือ
่ น ๆ ฟั ง พร้อมทัง้ ให้คร้และเพือ
่ น ๆ ช่วย

กันตรวจสอบความถ้กต้อง

9. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4G Fill in the chart.

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 4G Fill in the chart.
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 25 กิจกรรม Ask and answer.
3. นักเรียนและคร้ช่วยกันยกตัวอย่างประโยคคำาตอบของ What did
he/she do last summer? โดยให้สัมพันธ์ถึงกับประโยคคำาถามและความ

หมายในร้ปภาพ

A : What did he/she do last


summer?
B : He/She went to a farm.
4. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นช่วยกันจับค่้ประโยคคำาถามและคำาตอบตามร้ปภาพแต่ละ

ร้ปให้สัมพันธ์กัน

81
5. หลังจากนัน
้ ฝึ กพ้ดถาม –ตอบ ตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้

6. นักเรียนออกมาพ้ดสนทนาให้เพือ
่ นฟั งพร้อมกับให้เพือ
่ นและคร้ช่วยกันตรวจ

สอบว่าประโยคคำาตอบถ้กต้องตรงกับประโยคคำาถามหรือไม่

7. นักเรียนตอบคำาถามคร้ว่าประโยค Past Simple Tense และ

Future Simple Tense แตกต่างกันอย่างไร

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4H และ 4I พร้อมทัง้ ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 5K เพือ
่ เป็นการทบทวนประโยคทีเ่ รียนไปแล้ว

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบ

3. นักเรียนทำาตารางสำารวจข้อม้ลเกีย
่ วกับเพือ
่ น ๆ ในชัน
้ โดยคร้อธิบายให้นัก

เรียนฟั งว่า ในการใช้ประโยคคำาถามให้ใช้ประโยคคำาถามจากกิจกรรม What


about you? ในหนังสือเรียนหน้า 25 โดยให้แต่ละคน เดินสัมภาษณ์เพือ
่ น ๆ

รอบ ๆ ชัน
้ เรียน อย่างน้อย 10 คน พร้อมทัง้ บันทึกคำาตอบของเพือ
่ นลงในตาราง

4. นักเรียนเดินสำารวจข้อม้ลเพือ
่ น ๆ โดยใช้ประโยคคำาถาม What did
you dolast summer ? และ what are you going to do
next summer? พร้อมทัง้ จดคำาตอบของเพือ
่ นลงตาราง

Names Activity last Activity next


summer summer
Smooch went to Chaingmai Going to Japan

82
5. นักเรียนออกมารายงานเกีย
่ วกับข้อม้ลทีส
่ ำารวจได้

- Linda went to America Last


Summer. She is going to China next summer.
- Somsak went to a farm . He is
going to read books.

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. ตารางสำารวจข้อม้ล

3. ใบความร้้

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการอ่านเนือ
้ เรือ
่ งและแปลความหมาย

2. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

3. ความถ้กต้องในการใช้ประโยคคำาถามและคำาตอบตามร้ปแบบ

โครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน
้ เรียน

5. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

6. ความสนใจในการทำากิจกรรม

83
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 12
เรือ
่ ง My favourite season
หน่วยย่อย Song and English Club Board
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับ ป .6 เวลา 15
คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการอ่านและการฟั ง เป็นทักษะพืน
้ ฐานทีจ
่ ำาเป็นต่อการเรียนภาษา
อังกฤษแต่ทักษะด้านการลงมือปฏิบัติทีส
่ ำาคัญเช่นเดียวกัน ดังนัน
้ การ
เรียนวิชาภาษาอังกฤษจะประสบความสำาเร็จได้ต้องฝึ กทักษะด้านการฟั ง
การอ่านและการลงมือปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง นักเรียนสามารถทำากิจกรรมตามร้ปแบบทีก


่ ำาหนดให้

ได้อย่างถ้กต้อง

84
2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมายของคำาศัพท์ได้อย่างถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่านได้ถ้ก

ต้องอย่างน้อย 5 ประโยค

3. นักเรียนสามารถร้องเพลงได้ถ้กต้องตามจังหวะพร้อมทัง้ บอกความ

หมายของเพลงทีร
่ ้องได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความ

หมายของคำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงทาบหลัง nd และ nk ประกอบได้ถ้ก

ต้อง

3. เนือ
้ เรือ
่ ง

เนือ
้ เรือ
่ ง Jack’ s report
เพลง At the weekend
กิจกรรม English Club Board
คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงทาบหลัง nd และ nk

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. ทบทวนบทเรียนเก่า

2. นักเรียนตอบคำาถามคร้ถึงสิง่ ทีเ่ ห็นในหนังสือหน้า 26


3. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 3 คน จากนัน
้ ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันแปลเนือ
้ เรือ
่ งใน

กิจกรรม Jack’ s report


4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ ง

85
5. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ งในกิจกรรม Jack’ s report จากนัน
้ นักเรียน

และคร้ช่วยกันสรุปเนือ
้ เรือ
่ งอีกครัง้

6. นักเรียนพ้ดบอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ในกรอบ New Worlds


Different - แตกต่าง

Opposite - ตรงกันข้าม

World - โลก

Side - ซีก , ข้าง

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6L Correct the sentences


โดยให้นักเรียนช่วยกันอธิบายวิธีการทำาแบบฝึ กหัดนีใ้ ห้คร้ฟัง จากนัน
้ คร้สรุป

ให้นักเรียนฟั งว่าให้นักเรียนหาคำาผิด 1 คำา ในประโยคทีก


่ ำาหนดให้ แล้ว

ขีดเส้นใต้คำาศัพท์ทีผ
่ ิดนัน
้ จากนัน
้ แก้ไขให้ถ้กต้อง

8. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6L ตอนล่าง Answer the
questions เพือ
่ เป็นการทบทวนเนือ
้ เรือ
่ ง

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

3. นักเรียนด้ประโยคตัวอย่างทีค
่ ร้เขียนขึน
้ บนกระดานดำา

Summer in America. Americans like to the


sea because they can swim.
4. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคบนกระดานดำาพร้อมทัง้ บอกความหมาย

5. คร้อธิบายวิธีการเขียนประโยคให้นักเรียนฟั ง

6. นักเรียนแต่งประโยคโดยให้สัมพันธ์กับร้ปภาพในหนังสือเรียนกิจกรรม

Jack’ s report หน้า 26

86
7. หลังจากนัน
้ นักเรียนแต่งประโยคโดยใช้ฤด้ในประเทศ ว่าในแต่ละฤด้

นักเรียนชอบทีไ่ ปไหนหรือชอบทำาอะไร

In summer. I like to the sea because


I like to swim in the sea.
8. นักเรียนพ้ดประโยคทีต
่ นเองแต่งขึน
้ พร้อมกับให้เพือ
่ น ๆ และคร้ช่วย

กันตรวจ สอบความถ้กต้อง

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนฟั งเพลง At the weekend จากเทปตัง้ แต่ต้นจนจบ 2
ครัง้ โดยไม่เปิ ดหนังสือเรียน

2. นักเรียนเปิ ดหนังสือหน้า 27 เพลง At the weekend จากนัน


ร้องตามเทปทีละท่อน

3. นักเรียนร้องเพลงตามไป พร้อมกับเทป

4. นักเรียนพ้ดบอกคำากริยาช่องที ่ 2 ทีไ่ ด้ยินจากเทปหรือทีเ่ ห็นในประโยคใน

เนือ
้ เพลง At the weekend จากนัน
้ คร้เขียนคำาทีน
่ ักเรียนพ้ดบนกระดานดำา

5. นักเรียนพ้ดคำากริยาช่องที ่ 2 บนกระดานดำา ให้เป็นกริยาช่องที ่ 1 จาก

นัน
้ ให้อาสาสมัครอกมาเขียนคำาศัพท์คำากริยาช่องที ่ 1
6. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

7. นักเรียนแบ่งกลุ่มช่วยกันแปลความหมายของเนือ
้ เพลง จากนัน
้ แต่ละกลุ่มส่ง

ตัวแทนออกมาพ้ดสรุปความหมายของเนือ
้ เพลง

8. นักเรียนร้องเพลงเองตัง้ แต่ต้นจนจบเองโดยไม่เปิ ดเทป จากนัน


้ นักเรียนและ

คร้ช่วยกันแปลความหมายทีละประโยคเพือ
่ เป็นการสรุปเนือ
้ เรือ
่ ง

9. นักเรียนอ่านคำาศัพท์ใหม่ในกรอบ New words พร้อมทัง้ บอกความ

หมาย

Chocolate
Lollipop

87
10. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 7M Answer the questions และ 7N
Choose a title for each list.

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 7M Answer the
questions.
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 28 กิจกรรม English club
board พร้อมทัง้ อ่านออกเสียงวิธีการทำากิจกรรม

1) Which season do you like best?


Find a photo or draw a picture of
.
- your favorite season.
- An activity you like to do in
your favorite season.
2) Write about it.
3. นักเรียนช่วยกันพ้ดความหมายวิธีการทำากิจกรรม English
Club Board
4. นักเรียนอ่านออกเสียงเนือ
้ เรือ
่ งในกิจกรรม English Club
Board พร้อมทัง้ บอกความหมายของเนือ
้ เรือ
่ ง

Summer is my favorite season because


I like swimming and going to the
beach.

88
5. นักเรียนลงมือทำากิจกรรม English Club Board โดย

เลียนแบบจากเนือ
้ เรือ
่ งใน กิจกรรม

6. นักเรียนแต่ละคนออกมาพ้ดเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองให้เพือ
่ นฟั งพร้อมทัง้

เพือ
่ นและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 7 O Match และ 8 P Look and


write

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยทำาแบบฝึ กหัด 7O และ 8P
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 28 กิจกรรม Fun with sounds
and sentences. จากนัน
้ ฟั งเทปประโยคในกิจกรรม

3. นักเรียนออกเสียงประโยคตามเทป

- hand , ground , around


Teddy uses his hands for
touching the ground around the houses.
- Skunk , drink
the stunk drinks a glass of water.
4. นักเรียนพ้ดบอกความหมายของประโยคทีละประโยคพร้อมทัง้ ช่วยกันบอกว่า

คำาศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้มีเสียงทาบหลังเป็นอักษรตัวใดในภาษาอังกฤษและมีหลักการออกเสียง
อย่างไร

5. คร้สรุปให้ฟังว่าคำาศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้มีเสียงทาบหลัง nd และ nk
ประกอบ พร้อมทัง้ มีหลักการออกเสียงคือ

6. นักเรียนยกตัวอย่างคำาศัพท์ทีม
่ ีเสียง nd และ nk ทาบหลังนักเรียนอ่าน

ออกเสียงประโยคในกิจกรรม English Club Board อีกครัง้

89
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 8Q และ R จากนัน
้ คร้และนักเรียนช่วยกันเฉลย

แบบฝึ กหัด

เสียงทาบหลัง nd - อ่านออกเสียงเป็นเสียง “น” ในภาษาไทย และจะออก


เสียง”ด” เบาๆ ในลำาคอ

5. กิจกรรมการเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. เพลง At the weekend


4. กระเป๋ าผนัง

5. บัตรภาพ

6. การวัดและการประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการออกเสียงสะกดคำาศัพท์ และบอกความหมายคำา

ศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการร้องเพลงให้ถ้กทำานองจังหวะ

3. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน
้ เรียน

4. ความถ้กต้องในการบอกความหมายของเนือ
้ เรือ
่ งทีก
่ ำาหนดให้

5. ความกระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

90
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 13
เรือ
่ ง English is easy
หน่วยย่อย English is easier than math.
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

เป็นประโยคทีใ่ ช้ในการเปรียบเทียบ โดยใช้คำาคุณศัพท์ขัน


้ กว่า โดยจะมี
หลักการใช้แตกต่างกันไป ซึง่ จะเป็นร้ปแบบหนึง่ จะใช้ในการเรียนภาษา
อังกฤษ ดังนัน
้ นักเรียนควรฝึ กฝนเพือ
่ ให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

1. จุดประสงค์ปลายทาง นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนด

ให้ได้

2. จุดประสงค์นำาทาง

2.1 นักเรียนสามารถสะกดคำาศัพท์ ออกเสียงและบอกความหมาย

ของคำาศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้กต้อง

91
2.2 นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้ถ้กต้อง

อย่างน้อย 5 ใน 7 ประโยค

2.3 นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมุติตามเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้ก

ต้อง

2.4 นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้ก

ต้องในการเปรียบเทียบความยากง่ายของวิชาต่าง ๆ

2.5 นักเรียนสามารถตอบคำาถามได้อย่างถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

บทสนทนาระหว่าง Jamie's Diana และ Jack หน้า 29


I think English is easy.
I think English is easier than math.
I think math is herder.
I think match is harder than English is.

คำาศัพท์

English art math


Science music history
Geographycomputer physical education

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้

92
คร้ : Which season do you like best?
นร . : I like__________.
จากนัน
้ คร้ถามนักเรียนทัง้ ห้องว่า

คร้ : Which season does he/she like best?


นร : he/she like__________.
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนพร้อมกับตอบคำาถามคร้ว่าเห็นอะไรบ้างจาก

ภาพในหนังสือเรียน

3. นักเรียนปิ ดหนังสือเรียน หลังจากนัน


้ คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั ง 2
ครัง้

4. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามเทปทีละประโยคโดยไม่เปิ ดหนังสือเรียน

5. นักเรียนออกเสียงตามเทปทีละประโยคโดยเปิ ดหนังสือเรียนด้ไปด้วย

6. นักเรียนจับกลุ่มช่วยกันสรุปเนือ
้ เรือ
่ งในบทเรียน หลังจากนัน
้ ส่งตัว

แทนออกมากกลุ่มละ 1 คน มาพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ งให้เพือ
่ นฟั ง

7. นักเรียนและคร้ช่วยกันแปลความหมายทีละประโยค

8. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับเนือ
้ เรือ
่ งในหนังสือเรียน

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดทบทวนเนือ
้ เรือ
่ งในบทสนทนาในแบบฝึ กหัด

หน้า 33 แบบฝึ กหัด 1 A Look, listen and number


the pictures โดยคร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั งทีละประโยคแล้วให้ใส่

เครือ
่ งหมายเลขเรียงลำาดับภาพตามประโยคในเทป

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

1. Diana is reading her English books.


2. Diana is worried about the English
test.

93
3. Diana doesn’t like English.
4. Jack like English.
5. James likes English and math.
3. นักเรียนออกเสียงคำาศัพท์ใหม่ ในกรอบ new words พร้อม

ทัง้ พ้ดบอกความหมายและสะกดคำาศัพท์

So rule
Language both
4. นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ฝึ กพ้ดเลียนแบบบทสนทนา

James Jack และ Diana


5. นักเรียนออกมาแสดงบทบาทสมมุติให้เพือ
่ นในห้องด้

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 1 B Number the sentences.


โดยให้นักเรียน เติมตัวเลขเรียงลำาดับประโยคลงใน  ให้ตรงกับภาพทีใ่ ส่
หมายเลขซึง่ เรียงลำาดับไว้แล้ว เลขเรียงลำาดับประโยคลงใน  ให้ตรงกับ
ภาพทีใ่ ส่หมายเลขซึง่ เรียงลำาดับไว้แล้ว

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 1 B Number the
sentences.
2. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคทีค
่ ร้เขียนบนกระดานดำาพร้อมทัง้ แปล

ความหมาย English is easy.


3. จากนัน
้ อ่านออกเสียงประโยคใหม่ทีค
่ ร้เขียนขึน
้ พร้อมทัง้ แปลความ

หมาย

English is easier than math.


4. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปโครงสร้างประโยคว่าเป็นประโยคเปรียบ

เทียบขัน
้ กว่า

94
5. นักเรียนศึกษาวิธีการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าจากใบความร้้

การเปรียบเทียบโดยใช้คำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่า

- การเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่า หมายถึง การเปรียบเทียบระหว่างคน

2 คน หรือสิง่ 2 สิง่ โดยใช้ร้ป

คำำคุณศัพท์ขัน
้ กว่ำ+than
- เราจะเติม – er ทีท
่ ้ายคำาคุณศัพท์ทีน
่ ำามาเปรียบเทียบแล้วเชือ
่ มด้วย

than ระหว่าง คำาคุณศัพท์ขัน


้ กว่ากับคำานามทีน
่ ำามาเปรียบเทียบ เช่น

You are taller than I.


English is harder than math.
- คำาคุณศัพท์ทีล
่ งท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลีย
่ น y เป็น

95
6. นักเรียนช่วยกันพ้ดสรุปหลักการใช้คำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่าจากทีอ
่ ่านในใบ

ความร้้

7. นักเรียนพ้ดประโยคทีม
่ ีการเปรียบเทียบขัน
้ กว่า จากบทสนทนาของ

Jack Diana และ James


8. จากนัน
้ พ้ดบอกความหมายของประโยคทีย
่ กมา

9. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 2 C Unscramble the subjects.


โดยให้นักเรียนเรียงตัวอักษรให้เป็นคำาคุณศัพท์ชือ
่ วิชาให้ถ้กต้อง แล้วเขียนลง
ในช่องว่างทีก
่ ำาหนอให้

10. นักเรียนช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้ โดยคร้จะช้อุปกรณ์ของจริงทีเ่ กีย
่ วข้องกับคำาศัพท์ชือ

วิชา เช่น สมุดวาดเขียน , เครือ


่ งคิดเลข , หลอดทดลองวิทยาศาสตร์และแก้วบีกเกอร์

จากนัน
้ นักเรียนตอบคร้ว่า อุปกรณ์เหล่านีเ้ ป็นของวิชาอะไร

2. นักเรียนและคร้เฉลยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

3. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคในกิจกรรม Look and say. ( บน )


I think English is easy.
I think English easier than math.
I think math is herder.
I think math is harder than English.
4. นักเรียนพ้ดแปลความหมายทีละประโยค

5. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์เกีย
่ วกับชือ
่ วิชา ในกิจกรรม Look and
say.

96
6. นักเรียนฝึ กแต่งประโยคการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าโดยใช้คำาศัพท์ชือ
่ วิชาทีกำาหนด

ให้ในบทเรียน

7. นักเรียนออกมาพ้ดประโยคการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าทีต
่ นแต่งให้เพือ
่ นในห้องเขา

พร้อมทัง้ ให้คร้และเพือ
่ น ๆ ในห้องช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากร้ปภาพทีค
่ ร้ช้ให้ด้ว่าเป็นวิชาอะไร

คร้ : What is this subject ?


2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

3. คร้อธิบายวิธีการเล่นเกม stepping stones ให้นักเรียนฟั งว่าคร้

จะขีดกระดานดำาออกเป็น 2 –3 ช่อง ในแต่ละช่องจะเขียนภาพแม่นำา


้ และ

ก้อนหินสำาหรับเดินเหยียบข้ามแม่นำา
้ โดนคร้จะวาดภาพจระเข้ลงในแม่นำา
้ ให้ด้
น่ากลัวสำาหรับคนทีจ
่ ะตกลงไปในแม่นำา
้ จากนัน
้ คร้แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม
เท่าจำานวนช่องบนกระดาน ให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มออกมาเขียนคำาศัพท์ชือ

วิชาลงบนก้อนหินแต่ละก้อนจนกว่าจะครบทุกก้อนจึงจะถึงฝั่ งถ้าเขียนถ้ก 1
คำา ก็เท่ากับว่าก้าวเดินได้ 1 ก้าว ถ้าสมาชิกคนใดเขียนไม่ถ้กต้องให้ถือว่าตก

นำา
้ และหยุดแค่กอ
้ นนัน
้ กลุ่มใดเขียนตัวสะกดของคำาศัพท์ถ้กต้องทุกคำาเท่ากับ
ว่าขึน
้ ฝั่ งโดยปลอดภัย ให้ถอ
ื ว่าเป็นกลุ่มชนะ

4. นักเรียนเล่นเกม stepping stones.


5. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของคำาศัพท์ทีแ
่ ต่ละกลุ่ม

เขียนบนก้อนหิน

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 2 D Look at the chart and fill


in the blanks. โดยนักเรียนด้ตารางแสดงความคิดเห็นต่อความยากง่าย

ต่อวิชาต่าง ๆ ของ Dave , Backy และ Ted จากนัน


้ ให้เติมข้อม้ลที ่

ขาดหายไปลงในช่องว่างให้ถ้กต้อง

7. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

97
5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. อุปกรณ์ของจริง

3. ร้ปภาพ

4. เทปบันทึกเสียง

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการออกเสียงสะกดคำาศัพท์และบอกความหมายของคำา

ศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้

3. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

4. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

5. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

6. ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

98
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 13
เรือ
่ ง English is easy
หน่วยย่อย English is easier than math.
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป .6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ประธาน + กริยา + คำาคุณศัพท์ขัน


้ กว่า + than

99
เป็นประโยคทีใ่ ช้ในการเปรียบเทียบ โดยใช้คำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่า โดยจะมี
หลักการใช้แตกต่างกันไป ซึง่ จะเป็นร้ปแบบหนึง่ จะใช้ในการเรียนภาษา
อังกฤษ ดังนัน
้ นักเรียนควรฝึ กฝนเพือ
่ ให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก


่ ำาหนด

ให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

2.2.1 นักเรียนสามารถสะกดคำาศัพท์ ออกเสียงและบอกความหมาย

ของคำาศัพท์ทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้กต้อง

2.2.2 นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ่ งทีอ่ ่านได้ถ้กต้อง


อย่างน้อย 5 ใน 7 ประโยค

2.2.3 นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมุติตามเรือ่ งทีอ่ ่านได้อย่างถ้ก


ต้อง

2.2.4 นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้ก


ต้องในการเปรียบเทียบความยากง่ายของวิชาต่าง ๆ

2.2.5 นักเรียนสามารถตอบคำาถามได้อย่างถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

บทสนทนาระหว่าง Jame’s Diana และ Jack หน้า 29


I think English is easy.
I think English English is easier than math.
I think math is herder.
I think match is harder than English.

100
คำาศัพท์

English art math


Science music history
Geographycomputer physical education

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

1. นักเรียนตอบคำาถามคร้

คร้ : Which season do you like best?


นร . : I like____________.
จากนัน
้ คร้ถามนักเรียนทัง้ ห้องว่า

คร้ : Which season does he/she like best?


นร : He/She like____________.
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนพร้อมกับตอบคำาถามคร้ว่าเห็นอะไรบ้างจากภาพน

หนังสือเรียน

3. นักเรียนปิ ดหนังสือเรียน หลังจากนัน


้ คร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั ง 2 ครัง้

4. นักเรียนฝึ กออกเสียงตามเทปทีละประโยคโดยไม่เปิ ดหนังสือเรียน

5. นักเรียนออกเสียงตามเทปทีละประโยคโดยเปิ ดหนังสือเรียนด้ไปด้วย

6. นักเรียนจับกลุ่มช่วยกันสรุปเนือ
้ เรือ
่ งในบทเรียน หลังจากนัน
้ ส่งตัวแทนออก

มากกลุ่มละ 1 คน มาพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ งให้เพือ
่ นฟั ง

7. นักเรียนและคร้ช่วยกันแปลความหมายทีละประโยค

8. นักเรียนตอบคำาถามคร้เกีย
่ วกับเนือ
้ เรือ
่ งในหนังสือเรียน

ชัว
่ โมงที ่ 2

101
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดทบทวนเนือ
้ เรือ
่ งในบทสนทนาในแบบฝึ กหัด

หน้า 33 แบบฝึ กหัด 1 A Look, listen and number


the pictures โดยคร้เปิ ดเทปให้นักเรียนฟั งทีละประโยคแล้วให้ใส่

เครือ
่ งหมายเลขเรียงลำาดับภาพตามประโยคในเทป

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

1. Diana is reading her English books.


2. Diana is worried about the English test.
3. Diana doesn’t like English.
4. Jack like English.
5. James likes English and math.
3. นักเรียนออกเสียงคำาศัพท์ใหม่ ในกรอบ new words พร้อม

ทัง้ พ้ดบอกความหมายและสะกดคำาศัพท์

So rule
Language both
4. นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ฝึ กพ้ดเลียนแบบบทสนทนา

James Jack และ Diana


5. นักเรียนออกมาแสดงบทบาทสมมุติให้เพือ
่ นในห้องด้

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 1 B Number the sentences.


โดยให้นักเรียนเติมตัวเลขเรียงลำาดับประโยคลงใน ให้ตรงกับภาพที ่
ใส่หมายเลขซึง่ เรียงลำาดับไว้ แล้ว

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 1 B Number the
sentences.

102
2. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคทีค
่ ร้เขียนบนกระดานดำาพร้อมทัง้ แปลความ

หมาย

English is easy.
3. จากนัน
้ อ่านออกเสียงประโยคใหม่ทีค
่ ร้เขียนขึน
้ พร้อมทัง้ แปลความหมาย

English is easier than math.


4. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปโครงสร้างประโยคว่าเป็นประโยคเปรียบเทียบขัน

กว่า

5. นักเรียนศึกษาวิธีการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าจากใบความร้้

การเปรียบเทียบโดยใช้คำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่า

- การเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่า หมายถึง การเปรียบเทียบระหว่างคน

2 คน หรือสิง่ 2 สิง่ โดยใช้ร้ป

คำำคุณศัพท์ขัน
้ กว่ำ+than
- เราจะเติม – er ทีท
่ ้ายคำาคุณศัพท์ทีน
่ ำามาเปรียบเทียบแล้วเชือ
่ มด้วย

than ระหว่าง คำาคุณศัพท์ขัน


้ กว่ากับคำานามทีน
่ ำามาเปรียบเทียบ เช่น

You are taller than I.


English is harder than math. 103
- คำาคุณศัพท์ทีล
่ งท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลีย
่ น y เป็น
6. นักเรียนช่วยกันพ้ดสรุปหลักการใช้คำาคุณศัพท์ขัน
้ กว่าจากทีอ
่ ่านในใบ

ความร้้

7. นักเรียนพ้ดประโยคทีม
่ ีการเปรียบเทียบขัน
้ กว่า จากบทสนทนาของ

Jack Diana และ James


8. จากนัน
้ พ้ดบอกความหมายของประโยคทีย
่ กมา

9. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 2 C Unscramble the subjects.


โดยให้นักเรียนเรียงตัวอักษรให้เป็นคำาคุณศัพท์ชือ
่ วิชาให้ถ้กต้อง แล้วเขียนลง
ในช่องว่างทีก
่ ำาหนอให้

10. นักเรียนช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้ โดยคร้จะช้อุปกรณ์ของจริงทีเ่ กีย
่ วข้องกับคำาศัพท์ชือ

วิชา เช่น สมุดวาดเขียน , เครือ


่ งคิดเลข , หลอดทดลองวิทยาศาสตร์และ

แก้วบีกเกอร์ จากนัน
้ นักเรียนตอบคร้ว่า อุปกรณ์เหล่านีเ้ ป็นของวิชาอะไร

2. นักเรียนและคร้เฉลยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

3. นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคในกิจกรรม Look and say. ( บน )


I think English is easy.

104
I think English easier than math.
I think math is herder.
I think math is harder than English.
4. นักเรียนพ้ดแปลความหมายทีละประโยค

5. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์เกีย
่ วกับชือ
่ วิชา ในกิจกรรม Look and
say. ( ล่าง )
6. นักเรียนฝึ กแต่งประโยคการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าโดยใช้คำาศัพท์ชือ
่ วิชาทีก
่ ำาหนด

ให้ในบทเรียน

7. นักเรียนออกมาพ้ดประโยคการเปรียบเทียบขัน
้ กว่าทีต
่ นแต่งให้เพือ
่ นในห้องเขา

พร้อมทัง้ ให้คร้และเพือ
่ น ๆ ในห้องช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากร้ปภาพทีค
่ ร้ช้ให้ด้ว่าเป็นวิชาอะไร

คร้ : What is this subject ?


2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

3. คร้อธิบายวิธีการเล่นเกม stepping stones ให้นักเรียนฟั งว่าคร้

จะขีดกระดานดำาออกเป็น 2 –3 ช่อง ในแต่ละช่องจะเขียนภาพแม่นำา


้ และ

ก้อนหินสำาหรับเดินเหยียบข้ามแม่นำา
้ โดนคร้จะวาดภาพจระเข้ลงในแม่นำา
้ ให้ด้
น่ากลัวสำาหรับคนทีจ
่ ะตกลงไปในแม่นำา
้ จากนัน
้ คร้แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม
เท่าจำานวนช่องบนกระดาน ให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มออกมาเขียนคำาศัพท์ชือ

วิชาลงบนก้อนหินแต่ละก้อนจนกว่าจะครบทุกก้อนจึงจะถึงฝั่ งถ้าเขียนถ้ก 1
คำา ก็เท่ากับว่าก้าวเดินได้ 1 ก้าว ถ้าสมาชิกคนใดเขียนไม่ถ้กต้องให้ถือว่าตก

นำา
้ และหยุดแค่กอ
้ นนัน
้ กลุ่มใดเขียนตัวสะกดของคำาศัพท์ถ้กต้องทุกคำาเท่ากับ
ว่าขึน
้ ฝั่ งโดยปลอดภัย ให้ถอ
ื ว่าเป็นกลุ่มชนะ

4. นักเรียนเล่นเกม stepping stones.

105
5. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของคำาศัพท์ทีแ
่ ต่ละกลุ่ม

เขียนบนก้อนหิน

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 2 D Look at the chart and fill


in the blanks. โดยนักเรียนด้ตารางแสดงความคิดเห็นต่อความยากง่าย

ต่อวิชาต่าง ๆ ของ Dave , Backy และ Ted จากนัน


้ ให้เติมข้อม้ลที ่

ขาดหายไปลงในช่องว่างให้ถ้กต้อง

7. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. อุปกรณ์ของจริง

3. ร้ปภาพ

4. เทปบันทึกเสียง

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการออกเสียงสะกดคำาศัพท์และบอกความหมายของคำาศัพท์ที ่

กำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้

3. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

4. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

5. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

6. ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมในชัน
้ เรียน

106
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 14
เรือ
่ ง English is easy
หน่วยย่อย Which is the fastest animal in the world ?
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับ ป . 6
เวลา 15 คาบ

107
---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

Faster , Fastest เป็นคำาคุณศัพท์ขัน


้ กว่าและขัน
้ สุด ซึง่ การเปรียบ

เทียบคำาศัพท์ขน
ั ้ กว่าและขัน
้ สุดมีกฎการเปรียบเทียบแตกต่างกันไป

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามคร้ได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

2.1.1 นักเรียนสามารถใช้ร้ปแบบประโยคทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

2.2.1 นักเรียนสามารถเปลีย
่ นคำาคุณศัพท์ขัน
้ ธรรมดาเป็นคำาคุณศัพท์ขัน

กว่าและขัน
้ ส้งสุดได้อย่างถ้กต้อง

2.2.2 นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้ก

ต้อง

2.2.3 นักเรียนสามารถ ถาม – ตอบ ประโยคตามร้ปแบบทีก


่ ำาหนดให้ได้

อย่างถ้กต้อง

2.2.4 นักเรียนสามารถตอบคำาถามได้อย่างถ้กต้อง

2. เนือ
้ หา

You are the tallest girl in the class.


English is the subject
A : Which is the smallest country in the
world ?
B : It ’ s___________.
กิจกรรม Let ’s learn again.

108
3. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนทำาแบฝึ กหัด 3E Listen and circle เพือ
่ เป็นการทบทวนบท

เรียนเท่าทีเ่ รียนไปแล้ว

2. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบของแบบฝึ กหัด 3E
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้

คร้ : Have you ever been to the library ?


นร : Yes.
คร้ : What do you do in the library.
นร : __________________________.
4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4 – 5 คน แล้วช่วยกันอ่านประโยคและสรุป

ใจความสำาคัญจากบทอ่าน

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

6. นักเรียนอ่านเนือ
้ เรือ
่ งของ James พร้อมกันทัง้ ชัน
้ หลังจากนัน
้ คร้และ

นักเรียนช่วยกันแปลเนือ
้ เรือ
่ งเป็นการสรุปอีกครัง้

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนพ้ดสรุปเนือ
้ เรือ
่ งของ James เพือ
่ เป็นการทบทวนบทเรียนทีเ่ รียนไป

แล้ว

2. นักเรียนอ่านออกเสียงเนือ
้ เรือ
่ งของ James เป็นรายบุคคลโดยคร้จะสุ่มเรียก

ชือ
่ นักเรียน

3. นักเรียนอ่านคำาถามทีค
่ ร้เขียนขึน
้ บนกระดาน

Where is James ?
What subject does James find ?
What does James find this subject ?

109
หลังจากนัน
้ ช่วยกันแปลความหมายทีละประโยค

4. นักเรียนจับค่้ช่วยกันคิดคำาตอบของแต่ละข้อจากนัน
้ ส่งตัวแทนออกมาเขียนคำา

ตอบบนกระดาน

5. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจคำาตอบทีถ
่ ้กต้องทีน
่ ักเรียนเขียนขึน
้ บนกระดานดำา

6. นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของศัพท์ใหม่

interesting – น่าสนใจ

ocean – มหาสมุทร

note – บันทึก

chart – แผนภ้มิ

จากนัน
้ นักเรียนบอกคำาศัพท์สะกดคำาและแปลความหมายของคำาศัพท์ใหม่พร้อม ๆ
กัน

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 3F Complete the sentences และ

3G What about you?


8. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบ แบบฝึ กหัด 3F Complete
the sentences.
9. นักเรียนแต่ละคนออกมาพ้ดเรือ
่ งของตนในแบบฝึ กหัด 3G What
about you?
10. นักเรียนและครุช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนช่วยกันแต่งประโยคให้เป็นประโยคขัน
้ กว่าโดยคร้จะกำาหนดประโยคมา

ให้บนกระดาน เช่น

You / are / tall / I.


- You are teller than I.
Presentation

110
2. นักเรียนศึกษาวิธีการเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขัน
้ สุดจากใบความร้้ทีค
่ ร้แจกให้

กฎการเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขัน
้ สุด

- การเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขัน
้ สุด หมายถึงการเปรียบเทียบนามทีม
่ ีจำานวน

ตัง้ แต่ 3 ขึน


้ ไปมีความหมายว่า “ ทีส
่ ุด ” จะใช้ร้ป

The + คำาคุณศัพท์ขัน
้ สุด

- เราจะเติม – est ทีท


่ ้ายคำาคุณศัพท์เพือ
่ ให้เป็นขัน
้ สุด แล้วใช้ค่้กับ the เสมอ

เช่น

You are the tallest girl the class.


English is the easiest subject
- คำาคุณศัพท์ทีล
่ งท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลีย
่ น y เป็น i

3. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปกฎการเปรียบเทียบคำาคุณศัพท์ขน
ั ้ สุดอีกครัง้

4. นักเรียนช่วยกันฝึ กเปลีย
่ นประโยคเป็นขัน
้ กว่าและขัน
้ สุดจากคำาคุณศัพท์ขน
ั้

ธรรมดาทีค
่ ร้เขียนขึน
้ บนกระดานดำา

5. นักเรียนแต่ละคนออกมาเขียนประโยคทีเ่ ปลีย
่ นเป็นขัน
้ กว่าและขัน
้ สุดบน

กระดานดำาจากนัน
้ ให้เพือ
่ นช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

6. นักเรียนช่วยทำาแบบฝึ กหัด 4H Complete the table โดยเติมคำา

คุณศัพท์ขน
ั ้ กว่าและขัน
้ สุดทีห
่ ายไปลงในช่องว่างให้สมบ้รณ์

111
ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 4H Complete the
table
2. นักเรียนเปิ ดแบบเรียนหน้า 32 และด้ภาพในหน้านีใ้ นระหว่างนัน
้ คร้

ติดบัตรภาพคำาศัพท์ animal , wall , river ,clock บนกระดาน

จากนัน
้ ให้นักเรียนบอกภาพทีส
่ ัมพันธ์กับคำาศัพท์บนกระดานให้ถ้กต้อง โดยคร้
สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนตอบคำาถาม

3. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้อง

4. คร้พ้ดว่ามีภาพอย่้ 3 ภาพ ทีย


่ ังไม่มีคำาศัพท์คือภาพ b , c , e คร้

ชีไ้ ปทีภ
่ าพ b แล้วถามนักเรียนว่าเป็นสถานทีใ่ ดให้นักเรียนตอบเป็นภาษา

ไทยก่อนจากนัน
้ ให้นักเรียนช่วยกันค้นหาคำาศัพท์ภาษาอังกฤษ

5. นักเรียนอาสาสมัครออกมาเขียนคำาศัพท์ของภาพ b,c และ e บน

กระดานดำาจากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของคำาศัพท์ที ่
เพือ
่ นเขียนบน กระดาน

6. นักเรียนอ่านออกเสียงและสะกดคำาศัพท์ทัง้ หมด พร้อมทัง้ บอกความ

หมาย

animal – สัตว์ river – แม่นำา


wall – ผนัง , กำาแพง clock – นาฬิกา

desert – ทะเลทราย island – เกาะ

mountain – ภ้เขา

7. นักเรียนทำากิจกรรม Ask and answer. ด้วยการตอบคำาถาม

ข้อ 1 – 8 ในหนังสือเรียนหน้า 32

ชัว
่ โมงที ่ 5

112
1. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4I write the name for each picture.
หลังจากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

2. นักเรียนศึกษาประโยคทีค
่ ร้เขียนขึน
้ บนกระดานจากนัน
้ ช่วยกันอธิบาย

โครงสร้างของประโยค

Which is the fastest animal in the world ?

Which is the longest wall in the world ?


3. คร้พ้ดสรุปโครงสร้างประโยคคำาถามทีใ่ ช้ถามถึงสิง่ ทีเ่ ป็นทีส
่ ุดในโลกดังนี ้

Which is the + ( คำาคุณศัพท์ขัน


้ สุด ) + ( คำานาม ) + in the world
4. นักเรียนพ้ด – ถามตอบกับเพือ
่ นเกีย
่ วกับสิง่ ทีเ่ ป็นทีส
่ ุดเพือ
่ เป็นการเฉลยคำา

ตอบหลังจากทำาไปเมือ
่ ชัว
่ โมงที ่ 4 ข้อ 1 – 8 ในกิจกรรม Ask and answer.
หน้า 32
A : Which is the Fastest animal in the
world ? B : It ’ s a cheetah.
5. หลังจากตอบคำาถามหมดทุกข้อแล้วนักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์เกีย
่ วกับสิง่ ที ่

เป็นทีส
่ ุดของโลก

6. คร้อธิบายเพิม
่ เติมเกีย
่ วกับสิง่ ทีเ่ ป็นทีส
่ ุดของโลกดังนี ้

The Nile – แม่นำา


้ ไนล์อย่้ในประเทศอียิปต์ เป็นแม่นำา
้ ทีย
่ าวทีส
่ ุด

ในโลก

The Sahara – ทะเลทรายซาฮารา อย่้ในทวีปแอฟริกา เป็นทะเลทรายทีก


่ ว้าง

ใหญ่ทส
ี ่ ุดในโลก

Big Ben – หอนาฬิกาบิกเบน อย่้ในประเทศอังกฤษ เป็นหอนาฬิกาทีใ่ หญ่ทส


ี ่ ุด

ในโลก

Greenland – เกาะกรีนแลนด์ อย่ใ้ กล้บริเวณขัว


้ โลกเหนือ เป็นเกาะทีใ่ หญ่ทีส
่ ุด

ในโลก

Mount Everest – ยอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นยอดเขาทีอ


่ ย่้ในเทือกเขาหิมาลัย
113
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 5J Circle the correct answer.

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. บัตรคำาศัพท์

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการใช้ร้ปแบบประโยคทีก
่ ำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการตอบคำาถาม

3. ความถ้กต้องในการเปลีย
่ นคำาคุณศัพท์ขัน
้ ธรรมดาเป็นขัน
้ กว่าและขัน
้ สุด

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

114
115
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 15
เรือ
่ ง English is easy
หน่วยย่อย song / English club board
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6 เวลา

15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการฟั ง การอ่าน การเขียน และการปฏิบัติ เป็นพืน


้ ฐานทีส
่ ำาคัญในการ
เรียนภาษาอังกฤษ ซึง่ ทักษะแต่ละอย่างจะช่วยเสริมการเรียนภาษาอังกฤษให้
ดียิง่ ขึน
้ ดังนัน
้ ควรฝึ กทักษะในด้านต่าง ๆ ให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถปฏิบัติตามคำาแนะนำาได้อย่างถ้กต้อง

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้ก

ต้อง

2. นักเรียนสามารถร้องเพลงได้ถ้กต้องตรงตามจังหวะ

3. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์และบอกความหมายของ

คำาศัพท์ได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถพ้ดความแตกต่างถึงการออกเสียงตามหลังระหว่าง

ng และ mb ได้อย่างถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

กิจกรรม Let ’s read หน้า 33


เพลง Learn

116
กิจกรรม English club board
คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงตามหลัง ng และ mb

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 5J Circle the correct
answer.
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ช่วยกันแปลความหมาย ในกิจกรรม Let
’s read และหาคำาตอบดังนี ้

- บทอ่านนีจ
้ ัดเป็นประเภทใด

- ปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษของ Pam คืออะไร

- วิธีทีม
่ ีประโยชน์ในการเรียนภาษาอังกฤษ 4 วิธีที ่ Mark แนะนำาคือ

อะไร

3. นักเรียนอ่านออกเสียงบทอ่านพร้อม ๆ กัน จากนัน


้ ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออก

มาพ้ดสรุปความหมายจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านให้เพือ
่ นฟั ง

4. คร้พ้ดสรุปความหมายจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านให้นักเรียนฟั งอีกครัง้

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาพ้ดตอบคำาถาม 3 ข้อ ทีค


่ ร้ให้ช่วยกันหา

คำาตอบ

6. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6K Fill in the blanks. โดยนักเรียนนำาคำา

ศัพท์ในกรอบ ตัวเลือกมาเติมลงในช่องว่างของบทสนทนาระหว่าง Mark และ

Pam

ชัว
่ โมงที ่ 2

117
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 6K
2. นักเรียนพ้ดบอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ในกรอบ new word พร้อม

ทัง้ สะกด คำาศัพท์

Several improve
Truly luck
Look up
3. นักเรียนตอบคำาถามคร้

- นักเรียนมีปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษหรือไม่

- ปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร

- นักเรียนคิดว่า เราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรให้เขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึน

4. จากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปปัญหา และวิธีแก้ไข

5. นักเรียนเล่นเกมทบทวนเรือ
่ งทีอ
่ ่าน โดยคร้แบ่งกระดานออกเป็น 4 ช่อง ซึง่

แต่ละช่องจะมีหัวข้อดังนี ้ Listen , Speaking , Reading , Writing. ตาม

ลำาดับ คร้ให้นักเรียนช่วยกันคิดหาวิธีส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษ เช่น เราจะต้องทำาสิง่


ใดจึงจะพัฒนาทักษะการฟั งของเราได้ เป็นต้น จากนัน
้ คร้ยกตัวอย่าง พร้อมทัง้ เขียนลงใน
แต่ละช่องดังนี ้

- คร้คิดว่าคร้จะฟั งข่าวภาษาอังกฤษแล้วคร้เขียน English news ลงใน

ช่อง Listening
- คร้คิดว่าคร้จะพ้ดภาษาอังกฤษกับนักเรียน แล้วคร้เขียน With
students ลงในช่อง Speaking
- คร้คิดว่าคร้จะอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษแล้วคร้เขียน English
newspaper ลงในช่อง Reading
- คร้คิดว่าคร้เขียนบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ แล้วคร้เขียน English
diary ลงในช่อง Writing

118
6. นักเรียนคิดหาวิธีของตนเองหลังจากนัน
้ นักเรียนแต่ละคนเขียนคำาตอบของตัว

เองบนกระดาน

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6L Write “ True or False ” หลังจากนัน


นักเรียนและ คร้ช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 34 พร้อมกับอ่านเนือ
้ เพลง Learn Learn
Learn พร้อมกันทัง้ ชัน

2. นักเรียนฟั งเพลงจากเทปบันทึกเสียงตัง้ แต่ต้นจนจบ 2 ครัง้ หลังจากนัน


้ ร้อง

ตามเทปเพลงทีละท่อน

3. นักเรียนร้องเพลงไปพร้อมกับเทปบันทึกเสียง

4. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ 3 คน ช่วยกันแปลความหมายของเนือ
้ เพลง Learn
Learn Learn หลังจากนัน
้ ส่งตัวแทนออกมากลุ่มละ 1 คน พ้ดสรุป

ความหมายให้เพือ
่ นฟั ง

5. คร้สรุปความหมายของเนือ
้ เพลง Learn Learn Learn ทีถ
่ ้กต้องให้ฟัง

อีกครัง้

6. นักเรียนตอบปัญหาคร้เกีย
่ วกับเนือ
้ เพลง Learn Learn Learn
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 7N Do a survey หลังจากนัน
้ นักเรียนและคร้

ช่วยกันเฉลย คำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนร้องเพลง Learn Learn Learn
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 35 กิจกรรม English Club Board
หลังจากนัน
้ อ่าน คำาถามพร้อมทัง้ ตอบคำาถาม

3. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง

119
4. นักเรียนและคร้อ่านเนือ
้ เรือ
่ งในกิจกรรม English club board
Nakhonrathchasrima is the largest province in
my country.
“ Thailand ”
5. นักเรียนนำาร้ปภาพทีเ่ ป็นคำาตอบทีถ
่ ้กต้อง ( ของคำาถามทัง้ 5 ข้อ ) มาติดลง

ในกระดาษพร้อมทัง้ เขียนบรรยายใต้ภาพให้ถ้กต้อง ถ้านักเรียนไม่ได้เตรียมภาพมาให้วาด


ภาพพร้อมทัง้ ระบายสีให้สวยงาม

6. นักเรียนผลัดกันนำาผลงานของตนเองออกมาแสดงให้เพือ
่ นด้พร้อมกับอ่าน

ประโยคบรรยายให้เพือ
่ น ๆ และคร้ฟัง

7. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

8. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 8O Look and write

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 8O
2. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์ทีม
่ ี ng และ mb ประกอบท้ายคำาตามบัตรคำา

ศัพท์ทีค
่ ร้ติดบนกระดาน

Strong thumb
Ping – Pong comb
Wing
3. นักเรียนพ้ดบอกความหมายพร้อมทัง้ สะกดคำาศัพท์

4.
ng –
นักเรียนพ้ดอธิบายหลักการออกเสียง
เสียงตามหลัง
ngและ mb
ประกอบท้ายคำาหลัง
อ่านออกเสียง “ เงอะ ” เป็นเสียงตัวอักษร “ ง ” ใน
จากนัน
้ คร้อธิบายเพิม่ เติมดังนี ้
ภาษาไทย

เสียงตามหลัง mb – อ่านออกเสียงเฉพาะเสียง “ m ” เท่านัน


้ เสียง “ b

120
5. นักเรียนออกเสียงประโยคทีม
่ ี ng และ mb ทาบหลังตามเทปบันทึกเสียงใน

กิจกรรม

Fun with sounds and sentences


The strong boy with the wings is playing
Ping – Pong.
There ’s a comb on my thumb.
6. นักเรียนออกเสียงประโยคทีม
่ ี ng และ mb ทาบหลังเองโดยไม่เปิ ดเทป

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 8Q Listen , write and draw. โดยคร้เปิ ด

เทปให้นักเรียนฟั งและเติมคำาทีข
่ าดหายไปให้สมบ้รณ์ แล้วคร้ให้นักเรียนวาดร้ปให้สัมพันธ์
กับประโยคพร้อมทัง้ ให้ระบายสีให้สวยงาม จากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. บัตรภาพ / บัตรคำา

4. กระเป๋ าผนัง

5. เพลง Learn Learn Learn

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการร้องเพลงได้ตรงตามจังหวะ

2. ความถ้กต้องในการบอกความหมายของเพลงทีร
่ ้อง

3. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

121
5. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์ และบอกความหมายของ

คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงตามหลัง ng และ mb ประกอบ

6. ความกระตือรือร้นในการทำากิจกรรมในชัน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 16
เรือ
่ ง When I was young .
หน่วยย่อย What ’ s wrong ?
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

122
ทักษะการฟั ง การพ้ด เป็นพืน
้ ฐานทีส
่ ำาคัญในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ควรฝึ กให้เกิด ความชำานาญ

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างน้อย 3 ใน

5 ประโยค

2. นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมุติเกีย
่ วกับบทสนทนาในเนือ
้ เรือ
่ งได้ถ้ก

ต้อง

3. นักเรียนสามารถใช้ประโยคคำาถามและคำาตอบตามโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้

ได้ถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

A : What ’ s wrong ? / What ’ s happened ?


B : He / She / They_____________.

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนร้องเพลง “ LEARN LEARN LEARN ” ใน Lesson
5
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ให้หาคำาศัพท์ใหม่และฝึ กพ้ดบทสนทนาและ

แปล

3. คร้ให้นักเรียนกลับเข้าทีน
่ ัง่ แล้วให้แต่ละกลุ่มเสนอคำาศัพท์ กลุ่มละ 1 คำา

4. คร้เปิ ดเทปให้ฟัง 1 รอบ แล้วให้นักเรียนฝึ กอ่านตามเทป

123
5. นักเรียนเขียนบทสนทนาพร้อมทัง้ แปล และเขียนคำาศัพท์ใหม่ลงในสมุด

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนฝึ กพ้ดบทสนทนา ตามเทป 1 ครัง้

2. ให้นักเรียนเข้ากลุ่มเพือ
่ ฝึ กพ้ดและออกมาแสดงบทบาทสมมุติ

3. ให้นักเรียนออกมาแสดงบทบาทสมมุติทีละกลุ่ม

4. นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบ แต่ละกลุ่มว่าพ้ดและแสดงบทบาทถ้กหรือไม่

5. นักเรียนช่วยกันสรุปเนือ
้ เรือ
่ ง

6. ทำาแบบฝึ กหัด หน้า 41 ข้อ

A : Look , listen and number the pictures.


B : Number the sentences . พร้อมทัง้ เฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. ทบทวนเหตุการณ์ในบทสนทนาระหว่าง Jack , James and Diana
2. นักเรียนเปิ ดสมุดแบบฝึ กหัดหน้า 42 ข้อ C Fill in the blanks.
3. เมือ
่ นักเรียนทำาเสร็จคร้สุ่มเรียกนักเรียน 10 คน เพือ
่ เฉลยคนละ 1 ข้อ คร้

คอยช่วยเหลือและตรวจสอบความถ้กต้องของคำาตอบทีน
่ ักเรียนเฉลย

4. คร้ติดแถบประโยค What’ s wrong ? และ What happened ?


บนกระดาน แล้วคร้ถามนักเรียนในชัน
้ ทัง้ 2 ประโยค มีความหมายว่าอะไร จากนัน
้ คร้พด

บอกความหมายทัง้ 2 ประโยคทัง้ 2 ให้นักเรียนฟั งว่า What’ s wrong ? และ

What happened ? มีความหมายเหมือนกันคือ “ มีอะไรผิดปกติ มีอะไรเกิดขึน


้ ”

และสามารถใช้แทนกันได้ โดยใช้ถามเกีย
่ วกับสิง่ ผิดปกติทีเ่ กิดขึน
้ และการตอบให้ตอบ โดย

ใช้โครงสร้างประโยคคือ He / She / They + ( คำากริยาช่องที ่ 2 ) + กรรม .


5. คร้สร้างสถานการณ์โดยใช้หุ่นมือ โดยคร้ช้บัตรภาพเด็กผ้้ชายทำาแก้วแตก แล้ว

คร้และหุ่นมือพ้ดบทสนทนากันดังนี ้

124
คร้ : What’ s wrong ?
หุ่นมือ : He broke a glass.
คร้ : What happened ?
หุ่นมือ : He broke a glass.
6. คร้พ้ดบทสนทนาซำา
้ 2 – 3 ครัง้ ให้นักเรียนฟั งและออกเสียงตาม จากนัน

คร้ให้นักเรียนจับค่้กันถามและตอบ จากนัน
้ คร้แจกบัตรภาพค่้ละ 1 ภาพ เพือ
่ ใช้เป็น

ข้อม้ล แล้วคร้สุ่มเรียกนักเรียนแต่ละค่้ออกมาถามและตอบ

7. ทำาแบบฝึ กหัดหน้า 42 และ 43 ข้อ

D. Write the question and answers.

E. Write the answers.


หลังจากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. ทบทวนประโยค What’ s wrong ? และ What happened ?
2. ถ้านักเรียนไม่แน่ใจว่า สิง่ ทีเ่ กิดขึน
้ นัน
้ บุคคลในภาพทำาจริงหรือไม่ ให้นักเรียน

ถามและตอบโดยใช้โครงสร้างประโยคดังนี ้ Did He / She / they ( สิง่ ทีเ่ กิดขึน


) ?
สิง่ นัน
้ เกิดขึน
้ จริงให้ตอบ - Yes , He / she / they did .
สิง่ นัน
้ ไม่ได้ให้เกิดขึน
้ ให้ตอบ – No , he / she / they didn’t
3. คร้ใช้หุ่นมือพ้ดบทสนทนาให้นักเรียนฟั งและอ่านออกเสียงตามดังนี ้

คร้ : Did he brake a glass ?


หุ่นมือ : Yes , he did.
คร้ : Did he brake a bottle ?

125
หุ่นมือ : No , he didn’t . He broke a
glass.
4. คร้ให้นักเรียนสังเกตคำาทีค
่ ร้เน้นเสียงแล้วช่วยกันอธิบายให้ฟังว่า ทำาไมจึงใช้

Did กับ break จากนัน


้ คร้อธิบายให้นักเรียนฟั งว่า Did เป็นคำากริยาช่องที ่ 2 ของ

V. to do ใช้ถามเหตุการณ์ทีเ่ กิดขึน
้ ไปแล้ว และเมือ
่ ใช้ V. to do มาช่วยคำากริยา

แท้ช่องที ่ 2 ( broke ) ต้องเปลีย


่ นมาเป็นคำากริยาช่องที ่ 1 ( break )
5. คร้ให้นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มฝึ กพ้ดตามโครงสร้าง

ประโยคทีเ่ รียนไปแล้ว โดยใช้หนังสือแบบเรียน หน้า 37 กิจกรรม Ask and


answer. แล้วฝึ กจากภาพทีก
่ ำาหนด จากนัน
้ สุ่มเรียกนักเรียน 7–8 ค่้ ออก

มาพ้ดบทสนทนาถามตอบให้คร้และเพือ
่ นฟั ง คร้คอยช่วยเหลือและตรวจสอบความถ้กต้อง
ขณะทีพ
่ ้ดบทสนทนา

6. ให้นักเรียนเขียนบทสนทนาตามทีฝ
่ ึก

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. ทบทวนหน้า 37 “ Yes or No ? ”
2. คร้ช้ภาพแล้วสุ่มเรียกนักเรียนขึน
้ ถาม

คร้ : Did he win a race ?


นร : Yes , he did.
คร้ : Did she win a race ?
นร : No , she didn’t . She broke a window.
3. คร้ให้นักเรียนจับกลุ่ม 4 คน และวาดภาพเหตุการณ์แต่ละกลุ่มให้วาด 1
ภาพ และใช้ถามตอบภายในกลุ่ม

4. สุ่มเรียกนักเรียนออกมาหน้าชัน
้ เรียนขณะทีน
่ ักเรียนทำากิจกรรมคร้คอยช่วย

เหลือและตรวจสอบความถ้กต้อง

5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัดหน้า 43 ข้อ

126
F. Listen and tick.
G. Answer the questions.
หลังจากนัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. แบบเรียนและสมุดแบบฝึ กหัด

2. เทปบันทึกเสียง

3. แถบประโยค

4. บัตรภาพ

5. ห่น
ุ มือ

6. การวัดและประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการตอบคำาถามจากเนือ
้ เรือ
่ งทีอ
่ ่าน

2. ความถ้กต้องในการแสดงบทบาทสมมุติเกีย
่ วกับบทสนทนาในเนือ
้ เรือ
่ ง

3. ความถ้กต้องในการใช้ประโยคคำาถามคำาตอบตามโครงสร้างประโยคที ่

กำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

5. ความกระตือรือร้นในการทำากิจกรรมในชัน

127
แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 17
เรือ
่ ง When I was young.
หน่วยย่อย How old were you when you could swim ?
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

How old were you when you could swim ? เป็น

ประโยคคำาถามทีใ่ ช้ถามถึงสิง่ ทีเ่ ป็นอดีต เกีย


่ วกับสิง่ ทีส
่ ามารถทำาได้ โดย
จะตอบเป็นอายุซึง่ เหตุการณ์นีเ้ ป็นเหตุการณ์หนึง่ ทีเ่ กีย
่ วข้องกับการเรียน
ภาษาอังกฤษ ดังนัน
้ นักเรียนควรฝึ กเพือ
่ ให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์ ฟั งคำาแนะนำาแล้วสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ร้ปแบบโครงสร้างประโยคทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์และบอกความหมายของคำาศัพท์ที ่

กำาหนดให้ได้อย่างถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถแสดงบทบาทสมมุติจากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถ ถาม – ตอบ ตามโครงสร้างประโยคทีก


่ ำาหนดให้ได้อย่างถ้ก

ต้อง

128
3. เนือ
้ หา

กิจกรรม Let’ s learn again


กิจกรรม Ask and answer
A : How old was he when he could swim ?
she she
B : He could swim when he was six years
old.
She she

What about you ?

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนตอบคำาถามจากสิง่ ทีเ่ ห็นในร้ปภาพในหนังสือเรียนหน้า 38
2. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 38 หลังจากนัน
้ คร้เปิ ดเทปให้ฟังตัง้ แต่ต้นจน

จบ 1 ครัง้

3. นักเรียนอ่านออกเสียงตามเทปทีละประโยค

4. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ช่วยกันแปลความหมายของเนือ
้ เรือ
่ งระหว่าง

Jack กับ Dian พร้อมทัง้ ช่วยกันตอบคำาถามทีค


่ ร้ตัง้ ขึน
้ บนกระดานดำา

ภาพที ่ 1 , 2 : Jack กำาลังคุยเรือ


่ งอะไรกับ Diana
ภาพที ่ 3 : Diana ถาม Jack เรือ
่ งอะไร

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่าเรือ
่ งระหว่าง Jack กับ Diana
ให้เพือ
่ นในห้องฟั ง

129
6. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปใจความทีถ
่ ้กต้องอีกครัง้ พร้อมทัง้ เฉลยคำาตอบที ่

คร้ตัง้ ขึน
้ บนกระดาน

ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนช่วยกันพ้ดสรุปใจความสำาคัญของบทสนทนาระหว่าง Jack และ

Diana อีกครัง้ เพือ


่ เป็นการทบทวน

2. นักเรียนอ่านออกเสียงคำาศัพท์พร้อมทัง้ บอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ใน

กรอบ New word Swimmer – นักว่ายนำา


3. นักเรียนช่วยกันพ้ดประโยคทีแ
่ สดงถึงเหตุการณ์ในอดีตจากบทสนทนาทีอ
่ ่าน

พร้อมทัง้ ยกตัวอย่างประกอบ

That’ s me when I was three years old.


How old were you when you could swim ?
4. จากนัน
้ คร้อธิบายเพิม
่ เติมให้ฟังว่า ประโยคเหล่านีเ้ ป็นการถามถึงอดีตสมัย

ตอน เด็ก ๆ ว่าสามารถทำาสิง่ นีไ้ ด้เมือ


่ อายุเท่าไร

5. นักเรียนจับค่้พ้ดออกเสียง บทสนทนาระหว่าง Jack กับ Diana


6. นักเรียนแต่ละค่้ออกมาพ้ดบทสนทนาระหว่าง Jack กับ Diana
7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4H Answer the questions.
ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 4H
2. นักเรียนด้แถบประโยคทีค
่ ร้ติดบนกระดานดำา

- How old were you when you could swim ?


I could swim when I was six years old.
3. นักเรียนพ้ดอธิบายโครงสร้างของประโยค จากนัน
้ คร้สรุปให้ฟังอีกครัง้

130
4. นักเรียนจับค่้แต่งเนือ
้ เรือ
่ งเลียนแบบเรือ
่ งของ Jack และ Diana โดยใช้

ข้อม้ลของตนเอง

5. นักเรียนแต่ละค่้ออกมาแสดงบทบาทสมมุติทีห
่ น้าชัน
้ เรียนตามเนือ
้ เรือ
่ งที ่

ตนเองแต่งขึน
้ โดยเพือ
่ น ๆ และคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 4I Write the questions and answer.

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 4I
2. นักเรียนออกเสียงตามแถบประโยคทีค
่ ร้ติดขึน
้ บนกระดานดำา

- How old were you when you could


swim ?
I could swim when I was six years
old.
- How old were you when you could ride
a bicycle
I could ride a bicycle when I was
six years old.
พร้อมทัง้ พ้ดแปลความหมาย

3. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นสนทนาถาม – ตอบ ตามร้ปแบบโครงสร้างทีก
่ ำาหนดให้

เช่น

A : How old were you when you could


write ?
B : I could write when I was three
years old.

131
4. นักเรียนแต่ละค่้ออกมาพ้ดบทสนทนาให้เพือ
่ นฟั ง หลังจากนัน
้ นักเรียนและคร้

ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 5J Answer the questions. หลังจากนัน


นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 39 กิจกรรม Ask and answer. พร้อม

ทัง้ อ่านออกเสียงประโยคในหนังสือเรียน

2. นักเรียนพ้ดอธิบายความหมายของประโยคทีเ่ ห็นในหนังสือเรียนพร้อมทัง้

อธิบายโครงสร้างของประโยค

A : How old was he when he could swim ?

she she
B : He could swim when he was six
years old.
She
she
3. คร้อธิบายเพิม
่ เติมให้ฟังว่าประโยคนีเ้ ป็นการถามถึงบุคคลที ่ 3 หรือบุรุษ

สรรพนามที ่ 3
4. นักเรียนอาสาสมัคร 2 คน ออกมาหน้าห้องเรียนจากนัน
้ สนทนากันถึงสิง่ ที ่

สามารถทำาได้ในอดีต เมือ
่ อายุเท่าใด แล้วสุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนมา 1 คน ใช้คำาถาม

How old was he when he could ? ถามเพือ


่ น ๆ ทีอ
่ ย่้ในห้องเพือ

ให้เพือ
่ น ตอบ

5. นักเรียนจับค่้กับเพือ
่ นเพือ
่ ถาม – ตอบ ตามข้อม้ลทีก
่ ำาหนดให้ในกิจกรรม

Ask and answer. หน้า 39 โดยใช้โครงสร้างทีก


่ ำาหนดให้

132
6. นักเรียนออกมาพ้ดสนทนาถาม – ตอบ ตามข้อม้ลทีก
่ ำาหนดให้ หลังจาก

นัน
้ นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6K Answer the questions. พร้อมทัง้ เฉลย

คำาตอบ

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. เทปบันทึกเสียง

3. แถบประโยค

4. กระเป๋ าผนัง

6. การวัดและการประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์และบอกความหมาย

ของคำาทีก
่ ำาหนดให้

2. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

3. ความถ้กต้องในการถาม – ตอบ ตามร้ปแบบโครงสร้างประโยคที ่

กำาหนดให้

4. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน

5. ความกระตือรือร้นในการทำากิจกรรมในชัน

แผนการสอนสัปดาห์ที ่ 18
เรือ
่ ง When I was young.
หน่วยย่อย Song I English Club Board

133
รายวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชัน
้ ป . 6
เวลา 15 คาบ

---------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------
1. สาระสำาคัญ

ทักษะการฟั ง การอ่าน การพ้ด และการเขียน เป็นทักษะพืน


้ ฐานทีส
่ ำาคัญใน
การเรียนภาษาอังกฤษ เพราะเมือ
่ มีความชำานาญแล้วจะทำาให้การเรียนภาษา
อังกฤษมีประสิทธิภาพมากขึน
้ ดังนัน
้ ควรฝึ กให้เกิดความชำานาญ

2. จุดประสงค์การเรียนร้้ ฟั งคำาแนะนำาและสามารถปฏิบัติตามได้

2.1 จุดประสงค์ปลายทาง

1. นักเรียนสามารถใช้ประโยคตามร้ปแบบทีก
่ ำาหนดให้ได้

2.2 จุดประสงค์นำาทาง

1. นักเรียนสามารถพ้ดสรุปใจความสำาคัญ จากเรือ
่ งทีอ
่ ่านได้อย่างถ้กต้อง

2. นักเรียนสามารถเขียนประโยคตามร้ปแบบประโยคทีก
่ ำาหนดให้ได้อย่าง

ถ้กต้อง

3. นักเรียนสามารถร้องเพลงได้ถ้กต้องตรงตามจังหวะ พร้อมทัง้ บอก

ความหมายของเนือ
้ เพลงได้อย่างถ้กต้อง

4. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำาศัพท์และบอกความหมายของ

คำาศัพท์ทีม
่ ีเสียงทาบหลัง le ประกอบได้ถ้กต้อง

3. เนือ
้ หา

กิจกรรม Let’ s read.


- เนือ
้ เรือ
่ ง Diana as a baby.
กิจกรรม Sing a song
- เพลง Sandy as a baby
กิจกรรม English Club Board

134
- ‘That was me’ poster
กิจกรรม Fun with sounds and sentences.

4. กิจกรรมการเรียนการสอน

ชัว
่ โมงที ่ 1
1. นักเรียนทำากิจกรรม What about you ? เพือ
่ เป็น การทบทวนบท

เรียนเก่าโดยนักเรียนแต่ละคนต้องไปสัมภาษณ์เพือ
่ น 3 คน ด้วยประโยค How
old were you when you ride a bicycle ? จากนัน
้ ออกมารายงาน

ดังนี ้

- I could ride a bicycle when I


was_________ years old.
- (ชือ่ เพือ่ น) could ride a bicycle when he
(she) was years old.
2. นักเรียนด้ภาพในแต่ละภาพและช่วยกันอธิบายว่า ในแต่ละภาพมีความ

เกีย
่ วข้องกันอย่างไร

3. นักเรียนอ่านออกเสียงเนือ
้ เรือ
่ ง Diana as a baby พร้อมกันทัง้ ชัน

4. นักเรียนจับกลุ่ม 3 คน ช่วยกันแปลเนือ
้ เรือ
่ งของ Diana as a baby
จากนัน
้ คร้สุ่มเรียกชือ
่ นักเรียนอ่านและแปลความหมายของประโยคในเนือ
้ เรือ
่ งคนละ

1 ประโยค

5. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปเนือ
้ เรือ
่ ง Diana as a baby อีกครัง้

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6L Tick “ True or False ” โดยให้

นักเรียนขีด  ลงในช่อง O True ถ้าประโยคเป็นจริงตรงกับเนือ


้ เรือ
่ งทีอ
่ ่านและ

ขีด  ลงในช่อง O False ถ้าประโยคเป็นเท็จไม่ตรงกับเนือ


้ เรือ
่ งทีอ
่ ่าน

135
ชัว
่ โมงที ่ 2
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลย 6L
2. นักเรียนอ่านออกเสียงสะกดและบอกความหมายของคำาศัพท์ใหม่ 2 คำา ทีอ
่ ย่้

เนือ
้ เรือ
่ งได้แก่ คำาว่า ballerina และ princess จากนัน
้ คร้แสดงบัตรภาพและ

บัตรคำา เพือ
่ เฉลยความหมายของคำาศัพท์ให้นักเรียนด้อีกครัง้ ดังนี ้

Ballerina – นักบัลเลย์หญิง princess –


เจ้าหญิง

3. นักเรียนแต่ละคนแต่งเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองเลียนแบบเนือ
้ เรือ
่ ง Diana as a
baby
4. นักเรียนแต่ละคนออกมาพ้ดเนือ
้ เรือ
่ งของตนเองให้เพือ
่ นฟั งทัง้ ชัน
้ หลังจากนัน

นักเรียนและคร้ช่วยกันตรวจสอบความถ้กต้องของประโยคทีเ่ พือ
่ นพ้ด

5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 6M Fill in the blanks and draw. โดย

เติมคำาลงในช่องว่างให้ถ้กต้องและวาดภาพประกอบคำาตอบทีเ่ ติมด้วย หลังจากนัน



ช่วยกันเฉลย

ชัว
่ โมงที ่ 3
1. นักเรียนตอบคำาถามคร้จากสิง่ ทีเ่ ห็นในร้ปภาพในหนังสือเรียนหน้า 41
2. นักเรียนอ่านเนือ
้ เพลงในแบบเรียนหน้า 41 เพลง Sandy as a baby
พร้อมกันทัง้ ชัน

3. นักเรียนฟั งเพลง Sandy as a baby จากเทปตัง้ แต่ต้นจนจบ 1 ครัง้

หลังจากนัน
้ ร้องตามเพลงทีละท่อน

4. นักเรียนร้องเพลงไปพร้อมกับเทป

5. นักเรียนจับกลุ่ม ๆ ละ 5 คน ช่วยกันแปลความหมายของเนือ
้ เพลง จากนัน

ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาพ้ดสรุปความหมายของเนือ
้ เพลง

136
6. นักเรียนและคร้ช่วยกันสรุปความถ้กต้องของเนือ
้ เพลงอีกครัง้

7. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 7N Fill in the blanks and complete


the crossword. โดยนักเรียนใช้คำาทีก
่ ำาหนดเติมลงในช่องว่างให้ถ้กต้องและ

สัมพันธ์กับเนือ
้ เพลงทีร
่ ้อง เสร็จแล้วเติมคำาศัพท์เหล่านัน
้ ลงในตารางปริศนาอักษรไขว้

ชัว
่ โมงที ่ 4
1. นักเรียนและคร้ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด 7N
2. นักเรียนอ่านออกเสียงกิจกรรม English Club Board Write
about yourself when you were young. Tell about what
you could do. Draw a picture or bring some photos to
your English Club Board.
จากนัน
้ นักเรียนช่วยกันพ้ดแปลความหมายวิธีการทำาในกิจกรรม

English Club Board.


3. นักเรียนอ่านตัวอย่างในหนังสือเรียน พร้อมทัง้ พ้ดแปลความหมาย

This was I when I was three years old.

I could eat bananas in 5 minutes.


By Derek
4. นักเรียนแต่งเนือ
้ เรือ
่ งของตัวเองโดยเลียนแบบจากเนือ
้ เรือ
่ งตัวอย่างในกิจกรรม

5. นักเรียนแต่ละคนออกมาพ้ดเนือ
้ เรือ
่ งของตัวเองพร้อมทัง้ ให้เพือ
่ นและคร้ช่วย

กันตรวจสอบความถ้กต้องของเนือ
้ เรือ
่ ง

6. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 8Q Listen , write and draw. พร้อมกับ

เฉลย

137
ชัว
่ โมงที ่ 5
1. นักเรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้า 42 กิจกรรม Fun with sounds and
sentences พร้อมกับตอบคำาถามจากสิง่ ทีเ่ ห็นในภาพกิจกรรม

2. นักเรียนออกเสียงประโยคตามเทป

Bottle table
Circle
- A bottle and a circle are on the table.
Little apple
Ankle
- There is the little apple beside the boy’ s
ankle.
3. นักเรียนพ้ดอธิบายวิธีการออกเสียง le ทาบหลัง พร้อมทัง้ พ้ดบอกความ

หมายของคำาศัพท์และประโยคในกิจกรรม

4. จากนัน
้ คร้อธิบายเพิม
le -
่ เติมว่า
ทาบหลัง อ่านออกเสียงเออะ

5. นักเรียนทำาแบบฝึ กหัด 8O Look and write. และ 8P Find and


circle. พร้อมทัง้ ช่วยกันเฉลยแบบฝึ กหัด

5. สือ
่ การเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน

2. แถบประโยค

138
3. บัตรคำา

4. กระเป๋ าผนัง

5. เพลง Sandy as a baby

6. การวัดและการประเมินผล

1. ความถ้กต้องในการพ้ดสรุปใจความสำาคัญจากเรือ
่ งทีอ
่ ่าน

2. ความถ้กต้องในการออกเสียง สะกดคำาศัพท์และบอกความหมายคำา

ศัพท์ตามทีก
่ ำาหนดให้

3. ความถ้กต้องในการร้องเพลงให้ถ้กต้องตรงตามจังหวะ

4. ความถ้กต้องในการทำาแบบฝึ กหัด

5. ความถ้กต้องในการทำากิจกรรมในชัน
้ เรียน

6. ความกระตือรือร้นในการทำากิจกรรมในชัน
้ เรียน

139
140

You might also like