Professional Documents
Culture Documents
ขอที่ : 1
ผลิตภาพของแรงงาน (Labor Productivity) คืออะไร
คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางปริมาณหนวยสินคาชนิดหนึ่งที่ผลิตไดตอเงินลงทุนทั้งหมดที่ใชในการผลิตสินคาทุกชนิด
ย
คําตอบ 2 : อัตราสวนระหวางปริมาณหนวยสินคาทั้งหมดที่ผลิตไดในแตละปตอจํานวนชั่วโมงทํางานทั้งหมดของพนักงานทั้งหมดที่ใชในการผลิต
่ า
คําตอบ 3 : อัตราสวนระหวางปริมาณหนวยสินคาทั้งหมดที่ผลิตไดตอวัตถุดิบทั้งหมดที่ใชในการผลิต
น
คําตอบ 4 : อัตราสวนระหวางปริมาณหนวยสินคาทั้งหมดที่ผลิตไดตอจํานวนเครื่องจักรทั้งหมดที่ใชในการผลิต
ขอที่ : 2
จ ำ ห
ม
ดัชนีผลิตภาพโดยเฉลี่ย (Average Productivity Index) ของพนักงานแตละคนสามารถหาไดอยางไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : เวลามาตรฐานโดยรวมในการผลิตสินคาชนิดหนึ่งโดยพนักงานทั้งหมดหารดวยเวลารวมทั้งหมดที่ใชสําหรับผลิตสินคานั้น แลวคูณดวย 100
คําตอบ 2 : จํานวนหนวยสินคาทุกชนิดที่ผลิตในชวงเวลาที่กําหนด หารดวยจํานวนพนักงานทั้งหมดในชวงเวลาที่กําหนดนั้น
คําตอบ 3 : จํานวนเฉลี่ยของหนวยสินคาชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยพนักงานคนหนึ่ง ๆ ในชวงเวลาที่กําหนด
ิท
คําตอบ 4 : จํานวนหนวยสินคาที่ผลิตในชวงเวลาใด ๆ หารดวยจํานวนพนักงานทั้งหมดของหนวยงานนั้น
นส
ว
ขอที่ : 3
ง
การศึกษาวิธีการทํางาน (Method Study) หมายถึงอะไร
คําตอบ 1 :
อ ส
การศึกษาขั้นตอนวิธีการทํางานของคนงานและเครื่องจักรพรอมกันเพื่อทําใหผลผลิตสูงสุด โดยวิเคราะหหาเวลามาตรฐานในการทํางานเพื่อใชวัดประสิทธิภาพของ
ข
พนักงานแตละคน
กร
การศึกษาวิธีการทํางานอยางเปนระบบโดยมีจุดมุงหมายเพื่อพัฒนาวิธีการทํางานใหเปนมาตรฐานทําใหเกิดการทํางานที่ดีที่สุดโดยตั้งมาตรฐานเวลาในการทํางานและ
คําตอบ 2 :
ฝกหัดคนงานใหทํางานตามที่กําหนดไว
ศ
ิ ว
คําตอบ 3 : การศึกษาระบบและขั้นตอนการทํางานโดยมีจุดมุงหมายเพื่อลดตนทุนการผลิตและทําใหคนงานทํางานไดรวดเร็วมากขึ้น
าว
คําตอบ 4 : การศึกษาการทํางานอยางใดอยางหนึ่งของคนงาน เครื่องจักร และอุปกรณตาง ๆ ในการผลิตเพื่อลดเวลาที่ใชผลิตและชวยประหยัดทรัพยากรตาง ๆ
ขอที่ : 4
ส ภ
ใครไดรับการยกยองใหเปน บิดาแหงการศึกษาการเคลื่อนไหว
คําตอบ 1 : Frederick W. Taylor
คําตอบ 2 : Arthur E. Mudth
คําตอบ 3 : Maslow
คําตอบ 4 : Frank B. Gilbreth
1 of 102
ขอที่ : 5
ประโยคตอไปนี้ขอใดถูกตอง
คําตอบ 1 : การเพิ่มผลผลิต คือ อัตราสวนระหวางปริมาณของหนวยที่ผลิตไดตอคน
คําตอบ 2 : เออรกอนอมิกส เปนการศึกษาระหวางคนและสิ่งแวดลอม
คําตอบ 3 : การศึกษาเวลาเรียกอีกอยางหนึ่งวา การวัดผลงาน
คําตอบ 4 : การหยุดเนื่องจากเครื่องจักรเสีย ถือวาเปนการหยุดพักใหกับพนักงาน
่ า ย
ขอที่ : 6
น
ขอใดตอไปนี้ไมใชหลักการเพิ่มผลผลิตที่เกี่ยวของกับตัวพนักงานโดยเนนที่พนักงาน
ห
คําตอบ 1 : CAD/CAM
จ ำ
คําตอบ 2 : QCC
ม
คําตอบ 3 : TQM
า้
คําตอบ 4 : TPM
ขอที่ : 7
ิธ์ ห
ิท
ขอใดตอไปนี้ ถือวาเปนการเพิ่มผลผลิตของวัสดุ (Material Productivity)
ส
คําตอบ 1 : ดําสามารถพับถุงไดมากขึ้น 20 ใบตอวัน
ว น
คําตอบ 2 : กิ่งขายขาวแกงไดกําไรเพิ่มขึ้น 200 บาท
ง
คําตอบ 3 : ปานวลเอาเศษผาที่ตัดเสื้อมาทําที่เช็ดเทา
ส
คําตอบ 4 : พี่แววขายสมตําดีมาก จึงไปซื้อมะละกอมาเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม
ขอ
กร
ขอที่ : 8
ว
องคประกอบที่สําคัญที่สุดของการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา คืออะไร
ศ
ิ
คําตอบ 1 : สถานที่ปฏิบัติงาน
าว
คําตอบ 2 : เครื่องจักร
ภ
คําตอบ 3 : อุปกรณขนถายวัสดุ
ส
คําตอบ 4 : คน
ขอที่ : 9
ความหมายของ “พนักงานปกติ (Normal Worker)” ในศาสตรของการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา (Motion and Time Study) คืออะไร
คําตอบ 1 : พนักงานที่มีทักษะอยูในเกณฑเฉลี่ยและใชความพยายามในระดับปานกลางทํางานนั้น ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานทั้งหมด
คําตอบ 2 : พนักงานที่ไมผิดปกติทางดานความคิดและมีสุขภาพสมบรูณแข็งแรง
2 of 102
คําตอบ 3 : พนักงานที่สามารถทํางานไดตามปกติโดยอาจจะทํางานไดมากหรือนอยบางตามสภาวะจิตใจของพนักงานคนนั้น ๆ
คําตอบ 4 : พนักงานที่ทํางานแบบเดิมเปนประจําโดยไมเคยเปลี่ยนไปทํางานประเภทอื่น ๆ เลย
ขอที่ : 10
Time Study เรียกอีกอยางหนึ่งวาอะไร
คําตอบ 1 : Motion Study
คําตอบ 2 :
ย
Work Study
่ า
คําตอบ 3 : Work Measurement
น
คําตอบ 4 : Time Measurement
ขอที่ : 11
จ ำ ห
ม
การวัดผลงาน (Work Measurement) หมายถึงขอใด
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : การหาเวลาในการทํางาน
คําตอบ 2 : การวัดประสิทธิภาพในการทํางาน
คําตอบ 3 : การวัดหาปริมาณงาน
ิท
คําตอบ 4 : ขอ 1, 2, และ 3 ถูก
นส
ว
ขอที่ : 12
ง
เวลามาตรฐาน (Standard Time) คืออะไร
คําตอบ 1 :
อ ส
เวลาในการทํางานเฉลี่ยของกลุมพนักงาน
ข
คําตอบ 2 : เวลาในการผลิตตอหนวยตอวัน
กร
คําตอบ 3 : เวลาการทํางานพื้นฐาน (Basic หรือ Normal time) ที่มีการคิดรวมคาเวลาเผื่อหรือเวลาลดหยอน (Allowance time) ในการทํางาน
ว
คําตอบ 4 : จํานวนหนวยที่ผลิตไดตอเวลาหนึ่งหนวย
ขอที่ : 13
าว ศ
ิ
ภ
เวลาจริง (Actual หรือ Real หรือ Observed หรือ Subtracted Time) ในศาสตรของการศึกษาเวลาหรือการวัดงานหมายถึงอะไร
ส
คําตอบ 1 : เวลาที่ใชจริง ๆ ในการทํางาน ซึ่งไดจากการจับเวลาการทํางานของคนงานที่เลือกมา
คําตอบ 2 : เวลาที่ใชในการทํางานของคนงานและเครื่องจักร โดยที่คนงานอาจจะตองรอคอยการทํางานของเครื่องจักรในบางชวงเวลา
คําตอบ 3 : เวลาการทํางานจริงของหัวหนางานในการตรวจสอบการทํางานของคนงานที่ตนควบคุมดูแล
คําตอบ 4 : เวลาที่คนงานใชในการผลิตชิ้นงานหนึ่ง ๆ โดยไมรวมเวลาขนยายชิ้นงานจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ขอที่ : 14 3 of 102
เวลาปกติ (Basic หรือ Normal Time) ในศาสตรของการศึกษาเวลาหรือการวัดงานหมายถึงอะไร
คําตอบ 1 : เวลาที่คนงานและเครื่องจักรใชในการทํางานปกติรวมกันในชวงเวลาหนึ่ง ๆ ของการทํางานนั้น ๆ
คําตอบ 2 : เวลาที่ควรใชในการทํางานของคนงานที่มีประสิทธิภาพปกติในสภาวะแวดลอมที่เปนปกติ
คําตอบ 3 : เวลาที่คนงาน (ไมรวมเครื่องจักร) ใชทํางานหนึ่ง ๆ ในสภาวะแวดลอมปกติหรือไมปกติก็ได
คําตอบ 4 : เวลาที่คนงานใชตรวจสอบเครื่องจักรที่ใชในการผลิตชิ้นงานวาสามารถทํางานไดปกติหรือไม
ขอที่ : 15
่ า ย
เวลามาตรฐาน (Standard Time) ในศาสตรของการศึกษาเวลาหรือการวัดงานหมายถึงอะไร
น
คําตอบ 1 : เวลาที่คนงานและเครื่องจักรใชในการทํางานปกติรวมกันในชวงเวลาหนึ่ง ๆ ของการทํางานนั้น ๆ
ห
คําตอบ 2 : เวลาที่ควรใชในการทํางานของคนงานที่มีประสิทธิภาพปกติในสภาวะแวดลอมที่เปนปกติ
จ ำ
คําตอบ 3 : เวลาที่คนงานใชทํางานหนึ่ง ๆ ที่ตองทําการศึกษาในสภาวะแวดลอมปกติหรือไมปกติก็ไดแตตองไมรวมเวลาลดหยอน
ม
คําตอบ 4 : เวลาที่ควรใชในการทํางานของคนงานที่มีประสิทธิภาพปกติในสภาวะแวดลอมที่เปนปกติโดยรวมเวลาเผื่อหรือเวลาลดหยอน (Allowance Time) ดวย
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 16
Motion Study เรียกอีกอยางหนึ่งวาอะไร
ิท
คําตอบ 1 : Time Study
ส
คําตอบ 2 : Time Measurement
ว น
คําตอบ 3 : Work Measurement
ง
คําตอบ 4 : Method Study
อ ส
ข
ขอที่ : 17
กร
องคประกอบเบื้องตนในการทํางานคืออะไร
ว
คําตอบ 1 : Input, Process และ Output
ศ
ิ
คําตอบ 2 : Raw Materials, Man และ Machine
าว
คําตอบ 3 : Raw Materials, Process และ Product
ภ
คําตอบ 4 : Input, Method และ Output
ขอที่ : 18
ส
ขอใดตอไปนี้ไมสัมพันธกัน
คําตอบ 1 : การศึกษาวิธีการทํางาน และ วิธีการทํางานมาตรฐาน
คําตอบ 2 : การศึกษาเวลา และ เวลามาตรฐาน
คําตอบ 3 : การปรับปรุงการทํางาน และวิธีการทํางานมาตรฐานอันใหม
4 of 102
คําตอบ 4 : การปรับปรุงการทํางาน และการผลิตผลิตภัณฑตัวใหม
ขอที่ : 19
ขอใดตอไปนี้จัดเปนสวนสนับสนุนใหการผลิตมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
คําตอบ 1 : เครื่องจักร
คําตอบ 2 : วัสดุ
คําตอบ 3 : แสงสวาง
ย
คําตอบ 4 : วัตถุดิบ
น่ า
ห
ขอที่ : 20
ำ
ดัชนีประเมินผลตัวใดที่พิจารณาถึงการสงสินคาไดทันตามที่ลูกคาตองการ
คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพ (Efficiency)
มจ
า้
คําตอบ 2 : ประสิทธิผล (Effectiveness)
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : สมรรถนะ (Performance)
คําตอบ 4 : ผลิตภาพ (Productivity)
ขอที่ : 21
ส ิท
ว น
ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง
ง
คําตอบ 1 : งานสวนเกินที่เกิดขึ้นจากการออกแบบ ทําใหการประกอบผลิตภัณฑทําไดยากขึ้น
ส
คําตอบ 2 : งานสวนเกินที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของคน ทําใหคนงานเกิดความเมื่อยลา
อ
คําตอบ 3 : งานสวนเกินที่เกิดขึ้นจากวิธีการทํางานที่ไมมีประสิทธิภาพ ทําใหทํางานไดชากวาที่กําหนด
คําตอบ 4 :
กร ข
งานสุทธิ (Net หรือ Basic Work) คือสวนของงานที่จําเปน หรืองานสวนที่เหลือจากการตัดงานสวนเกินตางๆ ออกแลว
ขอที่ : 22
ศ
ิ ว
าว
ขอใดกลาวไมถูกตอง
ภ
คําตอบ 1 : วิชา Work Study ประกอบดวย 2 สวนคือ Methods Design และ Work Measurement
ส
คําตอบ 2 : นักคิดหรือนักวิชาการที่มีสวนเกี่ยวของกับวิชา Work Study ที่จะตองกลาวถึง คือ Deming และ Juran
คําตอบ 3 : ประสิทธิผล (Effectiveness) เปนองศาของความสําเร็จในการบรรลุเปาหมาย
คําตอบ 4 : ผลิตภาพ (Productivity) ไมไดวัดออกมาเปนเปอรเซ็นต แตสามารถวัดออกมาเปนตัวเลขที่ไมจําเปนตองนอยกวาหนึ่ง
ขอที่ : 23
ขอใดที่ไมเกี่ยวของและ/หรือสอดคลองกับขออื่น ๆ
5 of 102
คําตอบ 1 : Work Sampling
คําตอบ 2 : Activity Sampling
คําตอบ 3 : Random Observation
คําตอบ 4 : Stop Watch Time Study
ขอที่ : 24
ขอใดคือความหมายของงานภายนอก (Outside Work) เมื่อคนทํางานรวมกับเครื่องจักร
คําตอบ 1 : คนงานหยุดทํางานขณะที่เครื่องจักรทํางาน
่ า ย
น
คําตอบ 2 : คนงานทํางานในขณะที่เครื่องจักรทํางาน
ห
คําตอบ 3 : คนงานทํางานในขณะที่เครื่องจักรหยุด
จ ำ
คําตอบ 4 : คนงานและเครื่องจักรหยุดทํางาน
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
25
ขอใดคือความหมายของงานภายใน (Inside Work) เมื่อคนทํางานรวมกับเครื่องจักร
คําตอบ 1 : คนงานทํางานในขณะที่เครื่องจักรทํางาน
ิท
คําตอบ 2 : คนงานและเครื่องจักรหยุดทํางาน
ส
คําตอบ 3 : คนงานหยุดในขณะที่เครื่องจักรทํางาน
ว น
คําตอบ 4 : คนงานทํางานในขณะที่เครื่องจักรหยุดทํางาน
ส ง
อ
ขอที่ : 26
ข
เวลาที่เครื่องจักรเดินที่มาตรฐาน (Machine Running Time at Standard) หมายถึงอะไร
กร
คําตอบ 1 : เวลาที่เครื่องจักรทํางานทั้งหมด
ว
คําตอบ 2 : เวลาที่เดินเครื่องจักรในสภาวะทั่วไป
ศ
ิ
คําตอบ 3 : เวลาที่เครื่องจักรมีไวทํางาน
าว
คําตอบ 4 : เวลาที่เดินเครื่องในการทํางานจริงที่สภาพเครื่องจักรที่ดีที่สุด
ขอที่ : 27
ส ภ
จงเรียงลําดับการศึกษาการทํางาน
คําตอบ 4 : 5, 1, 2, 3, 7, 6, 4
ขอที่ : 28
การศึกษาการทํางาน (Work Study) ประกอบดวยอะไรบาง
คําตอบ 1 : การจัดการโรงงานและการศึกษากรรมวิธีการทํางาน
คําตอบ 2 : การบํารุงรักษาและการควบคุมคุณภาพ
คําตอบ 3 : การศึกษาการผลิตและการประเมินคุณภาพ
ย
คําตอบ 4 : การศึกษาวิธีการทํางานและการวัดผลงาน
น่ า
ห
ขอที่ : 29
ำ
การออกแบบวิธีการผลิตผลิตภัณฑใหม (Method Design) ในศาสตรการศึกษางาน สามารถแบงเปน 3 ขั้นตอน นั้น มีขั้นตอนใดบาง
คําตอบ 1 : การสํารวจความตองการของลูกคา การผลิตผลิตภัณฑ และ การสงมอบผลิตภัณฑ
มจ
า้
คําตอบ 2 : การวางแผนการผลิต การเตรียมการผลิต และ การผลิต
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การออกแบบผลิตภัณฑ การจัดการการผลิต และ การผลิต
คําตอบ 4 : การวางแผนดานวัสดุ การวางแผนดานการผลิต และ การผลิต
ขอที่ : 30
ส ิท
ว น
การออกแบบวิธีทํางานสําหรับผลิตผลิตภัณฑใหมจะตองมีการวางแผนการผลิต ซึ่งมีขั้นตอนพื้นฐาน 6 ขั้นตอน คือขั้นตอนใดบาง
ง
คําตอบ 1 : การรวบรวมขอมูลความตองการของลูกคา การจัดซื้อวัตถุดิบ การเตรียมเครื่องจักร/อุปกรณ การกําหนดวันเริ่มผลิต การควบคุมคุณภาพ และ การสงมอบสินคา
ส
คําตอบ 2 : การวิเคราะหตลาด การจัดเตรียมวัตถุดิบ การจัดเตรียมเครื่องจักร/อุปกรณ การจัดเตรียมคนงาน การผลิตผลิตภัณฑ และ การควบคุมคุณภาพ
อ
คําตอบ 3 : การจัดเตรียมวัตถุดิบ การจัดเตรียมเครื่องจักร การจัดเตรียมคนงาน การทดสอบระบบการผลิต การดําเนินการผลิต และ การตรวจสอบคุณภาพ
คําตอบ 4 :
กร ข
การออกแบบผลิตภัณฑ การออกแบบกระบวนการผลิต การออกแบบวิธีทํางาน การออกแบบเครื่องมือ/อุปกรณ การออกแบบผังโรงงาน และ การกําหนดเวลามาตรฐาน
ขอที่ : 31
ศ
ิ ว
าว
ขอใดตอไปนี้ เปนการออกแบบการทํางานที่ทําใหการทํางานนั้นงายขึ้น
ภ
คําตอบ 1 : สุดา ซื้อผาสาลูมาทําผาออมเพราะซักงาย และแหงเร็ว
ส
คําตอบ 2 : แกวทําพื้นบานเปนแบบหินออน เพราะงายตอการดูแลรักษา
คําตอบ 3 : วุฒิจะรีดผาทีละมากๆ เพื่อจะไดประหยัดคาไฟฟา
คําตอบ 4 : เปยกใชรถเข็นเพื่อสงผักใหลูกคา
ขอที่ : 32
ในการออกแบบสถานีงาน (Work Station Design) ควรคํานึงถึงในขอใด
7 of 102
คําตอบ 1 : Man Space
คําตอบ 2 : Machine Utilization
คําตอบ 3 : Materials Handling
คําตอบ 4 : Working Method
ขอที่ : 33
สิ่งที่ควรคํานึงถึงในการออกแบบวิธีทํางาน (Method Design) คืออะไร
คําตอบ 1 : Body Movement
่ า ย
น
คําตอบ 2 : Operator Movement
ห
คําตอบ 3 : Materials Handling
จ ำ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
34
ขอใดคือหลักขั้นตนในการออกแบบการทํางานในดานคาใชจายของการผลิตผลิตภัณฑตัวใหม
คําตอบ 1 : ใชเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิตจํานวนมากจะทําใหตนทุนต่ําลง
ิท
คําตอบ 2 : ใชคนและเครื่องจักรใหนอยที่สุด
ส
คําตอบ 3 : มีคาใชจายต่ําสุด เกิดจากการใชเครื่องจักร อุปกรณและสถานีงานที่มีรูปแบบงาย ๆ
ว น
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
ส ง
อ
ขอที่ : 35
ข
การผลิตสินคาชนิดหนึ่งจะตองผลิตใน 4 สถานี โดยทําการผลิตตามลําดับ (แบบอนุกรม) จงระบุวาสถานีใดเปนจุดคอขวด สถานีที่ 1 ใชเวลาทํางาน 5 นาที สถานีที่ 2 ใชเวลาทํางาน
กร
8 นาที สถานีที่ 3 ใชเวลาทํางาน 22 นาที สถานีที่ 4 ใชเวลาทํางาน 15 นาที
ว
คําตอบ 1 : สถานีที่ 1
ศ
ิ
คําตอบ 2 : สถานีที่ 2
าว
คําตอบ 3 : สถานีที่ 3
ภ
คําตอบ 4 : สถานีที่ 4
ขอที่ : 36
ส
คอคอดหรือคอขวดในกระบวนการผลิตคืออะไร
คําตอบ 1 : จุด 2 จุด หยุดชะงักหรือขัดของพรอมกัน
คําตอบ 2 : กระบวนการผลิตทั้งหมดหยุดชะงัก
คําตอบ 3 : กระบวนการผลิตขั้นตอนสุดทายหยุดชะงัก
คําตอบ 4 : จุดใดจุดหนึ่งซึ่งมีผลใหการปฎิบัติการผลิต ณ จุดตอ ๆ ไปหยุดชะงักหรือขัดของ 8 of 102
ขอที่ : 37
ขอที่สําคัญที่สุดที่ตองทํากอน ในการออกแบบวิธีการทํางานหรือศึกษาวิธีการดําเนินงานคือขอใด
คําตอบ 1 : แปลงขอมูลจากตัวผลิตภัณฑใหเปนขั้นตอนการทํางานเบื้องตน
คําตอบ 2 : กําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของงานใหแนชัด
คําตอบ 3 : ทําความเขาใจกับสัญลักษณที่ใชบันทึกขั้นตอนการทํางาน
ย
คําตอบ 4 : ตรวจสอบขอมูลที่บันทึกกับขั้นตอนการทํางานจริง
น่ า
ห
ขอที่ : 38
ำ
การออกแบบกระบวนการผลิตสามารถใชขอมูลจากขอใดได
คําตอบ 1 : Assembly Drawing
มจ
า้
คําตอบ 2 : ชิ้นสวนตนแบบ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : กระบวนการผลิตของผลิตภัณฑที่คลายกัน
คําตอบ 4 : ขอ 1, 2, และ 3 ถูก
ขอที่ : 39
ส ิท
ว น
สิ่งที่ตองคํานึงถึงในการออกแบบวิธีการทํางาน (Method Design) คือขอใด
ง
คําตอบ 1 : ความสูงพนักงาน
ส
คําตอบ 2 : ตําแหนงการวางชิ้นงาน
อ
คําตอบ 3 : การเขา - ออก ของวัตถุดิบ
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
กร ข
ขอที่ : 40
ศ
ิ ว
าว
การออกแบบกระบวนการผลิตที่เหมาะสมจะมีผลอยางไรตอขั้นตอนการผลิต
ภ
คําตอบ 1 : ไมมีการเคลื่อนที่ยอนกลับในกระบวนการผลิต
ส
คําตอบ 2 : ไมมี Work In Process เมื่อสิ้นสุดการทํางานใน 1 วัน
คําตอบ 3 : ไมมีของเสียในกระบวนการผลิต
คําตอบ 4 : พนักงานไมเมื่อยลา
ขอที่ : 41
ขอใดเปนการออกแบบวิธีการทํางานที่ถูกตอง
9 of 102
คําตอบ 1 : ผลิตภัณฑน้ําหนัก 5 กิโลกรัมเคลื่อนที่บนสายพานลําเลียง และถูกยกลงมาประกอบตอบนโตะ เพื่อลดปญหาคอขวด
คําตอบ 2 : หนาจอแสดงผลและปุมควบคุมอยูที่ระดับสายตา เพื่อใหมือและตาทํางานสอดคลองกัน
คําตอบ 3 : ใชมือซาย-ขวาชวยกันจับยึดชิ้นงาน
คําตอบ 4 : ใช V-Block ในการตั้งตําแหนงชิ้นงานทรงกลม
ขอที่ : 42
งานขอใดที่ไมควรถูกเลือกมาทําการปรับปรุงโดยใชศาสตรการศึกษางาน
คําตอบ 1 : งานที่เปนคอขวด
่ า ย
น
คําตอบ 2 : งานที่มีความสูญเปลาจากการเคลื่อนยาย
ห
คําตอบ 3 : งานที่มีความสูญเปลาจากเครื่องรอคน
จ ำ
คําตอบ 4 : งานที่มีความสูญเปลาจากการผลิตมากเกินไป
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
43
ขอใดจัดเปนการออกแบบวิธีการทํางานในขั้นการวางแผนของการออกแบบการทํางาน
คําตอบ 1 : การพิจารณาลําดับของขั้นตอน
ิท
คําตอบ 2 : การกําหนดขนาดพื้นที่
ส
คําตอบ 3 : การพิจารณาวาพนักงานจะทํางานอยางไร
ว น
คําตอบ 4 : การพิจารณาสิ่งแวดลอมในการทํางาน
ส ง
อ
ขอที่ : 44
ข
การนําวิธีการทํางานที่ออกแบบไปใชอยูในขั้นตอนใดของการออกแบบการทํางานและสิ่งที่ควรปฏิบัติในขั้นตอนนี้คือขอใด
กร
คําตอบ 1 : Production – Verification of method-time relation
ว
คําตอบ 2 : Preproduction - Verification of method-time relation
ศ
ิ
คําตอบ 3 : Production – Correction of production condition
าว
คําตอบ 4 : Preproduction – Correction of production condition
ขอที่ : 45
ส ภ
ในการพัฒนาหรือปรับปรุงวิธีการทํางานควรคํานึงถึงขอใด
คําตอบ 1 : หลัก Eliminate, Simplify, Combine, Rearrange
คําตอบ 2 : หลัก QCC
คําตอบ 3 : หลัก 5ส
คําตอบ 4 : หลัก 7 Wastes
10 of 102
ขอที่ : 46
การทดลองใชวัสดุและอุปกรณเพื่อการผลิต อยูในขั้นตอนใดของการออกแบบการทํางาน
คําตอบ 1 : Planning
คําตอบ 2 : Prototype
คําตอบ 3 : Preproduction
คําตอบ 4 : Production
่ า ย
น
ขอที่ : 47
ห
ในการออกแบบวิธีการทํางานใหม ควรคํานึงถึงขอใด
จ ำ
คําตอบ 1 : หลัก ESCR
ม
คําตอบ 2 : หลัก 5R
า้
คําตอบ 3 : หลัก 5ส
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ ขอ 2
ิท
ขอที่ : 48
ส
พื้นที่ทํางานสูงสุด (Maximum Working Areas) ในการวิเคราะหการเคลื่อนไหวโดยหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) เปนอยางไร
ว น
คําตอบ 1 : เปนพื้นที่ที่คนงานสามารถเอื้อมมือ แขนบน และแขนลางไปถึงได โดยไมตองโนมตัวไปดวย
ง
คําตอบ 2 : เปนพื้นที่เฉพาะบริเวณทํางานของคนงานแตละคนที่จะเดินไปมาในขณะทํางาน
ส
คําตอบ 3 : เปนพื้นที่ภายในโรงงานที่คนงานสามารถเดินไปมาไดมากที่สุดในขณะทํางาน
อ
คําตอบ 4 : เปนพื้นที่ใด ๆ ของโรงงานที่คนงานสามารถเคลื่อนตนเองไปไดขณะทํางาน
กร ข
ว
ขอที่ : 49
ศ
ิ
ขอใดไมใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
าว
คําตอบ 1 : มือทั้งสองขางควรจะเริ่มตนและหยุดการเคลื่อนไหวพรอมกัน
ภ
คําตอบ 2 : แขนทั้งสองขางควรเคลื่อนไหวในทิศทางตรงขามกันพรอมกันและสมมาตรกัน
ส
คําตอบ 3 : มือควรสามารถเคลื่อนไหวโดยเคลื่อนแบบซิกแซกหรือเคลื่อนเปนเสนตรงแลวเปลี่ยนทิศทางอยางรวดเร็วได
คําตอบ 4 : มือทั้งสองขางไมควรวางงานพรอมกัน ยกเวนเวลาพัก
ขอที่ : 50
ขอใดเปนหลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
คําตอบ 1 : การใชเครื่องพิมพดีดควรเคลื่อนไหวนิ้วมือแบบราบรื่น ไมซิกแซก หรือ เปลี่ยนทิศทางอยางรวดเร็วเพื่อลดความเมื่อยลา
11 of 102
คําตอบ 2 : ควรใชงานเครื่องจักรตาง ๆ ที่ความเร็วรอบที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุการใชงานของเครื่องจักร
คําตอบ 3 : อุปกรณชวยงาน เชน คานงัด (Levers) ชะแลง (Crossbars) ควรวางไวในตําแหนงที่คนงานตองขยับตัวไดคอนขางมากเพื่อเพิ่มการไดเปรียบเชิงกล
คําตอบ 4 : เครื่องมือและวัสดุควรวางในลักษณะเตรียมวางเขาที่ (Pre-position)
ขอที่ : 51
ขัอใดตอไปนี้ ไมใชหลักการทํางานเพื่อใหเกิดการประหยัดการเคลื่อนไหว
คําตอบ 1 : มือทั้ง 2 ขางตองไมวางในเวลาเดียวกัน ยกเวนตอนพักงาน
คําตอบ 2 : มือทั้ง 2 ขางตองเริ่มตน และสิ้นสุดการเคลื่อนไหวไมพรอมกัน
่ า ย
น
คําตอบ 3 : การเคลื่อนไหวของแขนและมือแบบวงโคงตอเนื่อง จะนิยมมากกวาแบบเสนตรง
ห
คําตอบ 4 : ควรพิจารณาจังหวะและทาทางในการทํางาน ของพนักงานประกอบ
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
52
จงระบุวาขอใดเปนประโยชนโดยตรงตอคนงานเมื่อจัดวิธีการทํางานในขั้นตอนประกอบโบลทและแหวน (Bolt and Washer) โดยใหแขนทั้งสองขางของคนงานเคลื่อนไหวในทิศทาง
ิธ์ ห
ตรงขามกัน พรอมกัน และ สมมาตรกัน
คําตอบ 1 : ชวยลดการสะเทือนบนรางกายทําใหคนงานสามารถปฏิบัติงานโดยไมตองใชความพยายามทางรางกายและจิตใจมากนัก
ิท
คําตอบ 2 : ชวยเสริมสรางความมีสมาธิแกคนงานในขณะปฏิบัติงานเพราะตองระมัดระวังชิ้นสวนตาง ๆ หลนจากโตะทํางาน
ส
คําตอบ 3 : ชวยเพิ่มความสามารถของกลามเนื้อแขนของคนงานในการจับและเคลื่อนยายชิ้นสวน โบลท และ แหวน เพื่อนํามาประกอบกัน
น
คําตอบ 4 : ชวยลดเวลาในการปฏิบัติงาน ทําใหคนงานมีเวลาไปทํางานอื่น ๆ ซึ่งเปนการเพิ่มประสิทธิผลใหกับองคกร
ง ว
ส
ขอที่ :
อ
53
ข
การเคลื่อนไหวของมือควรจะเคลื่อนไหวใหนอยที่สุดเทาที่จะทําได เปนแนวทางหนึ่งของการประหยัดการเคลื่อนไหว ซึ่งอยูในหลักการขอใด
กร
คําตอบ 1 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ทํางาน
ว
คําตอบ 2 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
ศ
ิ
คําตอบ 3 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือ และ อุปกรณ
าว
คําตอบ 4 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชอุปกรณพิเศษในการทํางานของคนงาน
ขอที่ : 54
ส ภ
ขอใดเปนการใชโมเมนตัม (Momentum) ชวยทํางาน
คําตอบ 1 : การใชมือดันกลองบรรจุขวดน้ําหวานที่ไหลลงมาจากทางลาดเอียงใหหยุดไหลเพื่อปดฝากลอง
คําตอบ 2 : การขันสกรูขนาดเล็กดวยไขควง
คําตอบ 3 : คนงานผลักกลองบรรจุขวดน้ําหวานที่ไหลมาบนลูกกลิ้งใหเคลื่อนไปยังขั้นตอนการผลิตตอไป
คําตอบ 4 : การยกกลองบรรจุขวดน้ําหวานวางบนโตะทํางานเพื่อปดฝากลอง
12 of 102
ขอที่ : 55
เครื่องมือและวัสดุตองมีที่วางที่แนนอนไมเคลื่อนยายไปมาเพื่อชวยใหคนงานมีนิสัยในการวางเครื่องมือและวัสดุใหเปนระเบียบ อีกทั้งชวยใหเกิดการปรับปรุงการทํางานใหดีขึ้นโดย
อัตโนมัตินั้นเปนแนวทางหนึ่งของการประหยัดการเคลื่อนไหว ซึ่งอยูในหลักการขอใด
คําตอบ 1 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
คําตอบ 2 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือ และ อุปกรณ
คําตอบ 3 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชอุปกรณพิเศษในการทํางานของคนงาน
ย
คําตอบ 4 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ทํางาน
น่ า
ห
ขอที่ : 56
ำ
โดยทั่วไปคนทั่วไปมักจะทํางานโดยใชมือขางใดขางหนึ่งที่ตนถนัดทํางาน เชน การประกอบโบลตและแหวน (Bolts and Washers) มือขางหนึ่งจะถือชิ้นสวน (โบลต) ที่เริ่มประกอบ
จ
ไวเฉยๆ สวนมืออีกขางหนึ่งจะมีการเคลื่อนไหวไปหยิบชิ้นสวนตางๆ (แหวน) มาประกอบเขากับชิ้นสวนที่ถืออยู ซึ่งการทํางานอยางนี้ไมเปนที่พึงปรารถนา เพราะเปนการใชมือขาง
ม
เดียวทํางาน จากการที่มืออีกขางหนึ่งถือชิ้นสวน (โบลต) ไวเฉยๆ ดังนั้นจึงมีการวิเคราะหการทํางานของมือทั้งสองขางดวยแผนภูมิมือขวาและมือซาย (Left and Right Hand
า้
Chart) อยากทราบวาการวิเคราะหดังกลาวจะเกิดประโยชนอยางไร
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ชวยประหยัดการเคลื่อนไหวของมือทั้งสองขางโดยใหมือทั้งสองขางเริ่มตนและหยุดการเคลื่อนไหวพรอมกัน อีกทั้งมือทั้งสองขางไมควรวางงานพรอมกัน
คําตอบ 2 : ลดการทํางานของมือขางที่คนงานถนัดทําใหคนงานไมเมื่อยลามากเกินไป ซึ่งจะเกิดผลเสียตอคุณภาพของงานที่ทําอยูและอาจจะเกิดอันตรายตอคนงานได
ิท
การใชแผนภูมิมือขวาและมือซายมาวิเคราะหการทํางานจะมีประโยชนตอการทํางานในทุกสวนงานขององคกรโดยทําใหทราบวาการทํางานจะเกิดความสูญเสียอยางไร
คําตอบ 3 :
ส
บาง
น
คําตอบ 4 : เพื่อเพิ่มความสะดวกแกผูบริหารองคกรในการบริหารงานบุคคลใหคนงานทํางานอยางมีความสมดุล ซึ่งจะชวยใหการผลิตสินคามีคุณภาพเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง
ง ว
ส
ขอที่ : 57
อ
การสงชิ้นงานโดยปลอยลงไป (Drop Deliveries) ควรใชในการทํางานเพื่อประโยชนอะไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
กร ข
ลดการใชมือทั้งสองขางในการยกชิ้นงานที่ทําเสร็จไปวางในตําแหนงที่ตองการ อีกทั้งยังสามารถประหยัดเวลาการทํางานของคนงานได
ชวยใหคนงานพัฒนาการทํางานไดอยางสม่ําเสมอและตอเนื่องตลอดเวลา อีกทั้งยังชวยใหผูปฏิบัติงานในขั้นตอนอื่น ๆ ทํางานไดงายขึ้น
ศ
ิ ว
คําตอบ 3 : ลดความพยายามในการจัดลําดับการทํางานของฝายวางแผนการผลิต อีกทั้งยังชวยใหการทํางานของคนงานแลวเสร็จตามกําหนดการมากขึ้น
าว
คําตอบ 4 : ชวยเสริมสรางใหคนงานทุก ๆ คนในองคกรเขาใจหลักการทํางานที่เหมาะสมและชวยลดของเสียที่เกิดขึ้นได
ขอที่ : 58
ส ภ
ในการประกอบนอต แหวน และ โบลท (Nut, Washer, and Bolt) ตามลําดับ โดยกลองที่ใชใส นอต แหวน และ โบลท จะมีจํานวนสองชุดวางไวทางดานซายมือและดานขวามือของ
คนงาน และกลองที่ใสนอตจะถูกวางไวหางจากตําแหนงที่คนงานยืนอยูไกลที่สุด (แตคนงานยังสามารถเอื้อมมือไปหยิบนอตได) ถัดมาจะวางกลองที่ใสแหวนและกลองที่ใสโบลทตาม
ลําดับ นั่นคือกลองที่ใสโบลทจะอยูใกลตําแหนงที่คนงานยืนอยูมากที่สุด สําหรับขั้นตอนการประกอบ คนงานจะใชมือทั้งสองขางไปหยิบนอตจากกลองดานซายมือและดานขวามือดวย
มือซายและมือขวาตามลําดับ เพื่อนํามาวางไวในอุปกรณชวยจับยึดที่มีสองจุดทางดานซายมือและดานขวามือของคนงาน จากนั้นคนงานก็จะเอื้อมมือซายและมือขวาไปหยิบแหวนที่
ใสไวในกลองดานซายมือและดานขวามือ เพื่อนํามาวางบนนอต แลวคนงานจะเอื้อมมือซายและมือขวาไปหยิบโบลทที่ใสไวในกลองดานซายมือและดานขวามือ เพื่อนํามาขันเขากับ
แหวนและนอตที่วางไวในอุปกรณจับยึด ซึ่งการทํางานดังกลาวขางตนของคนงาน จะเปนไปอยางราบรื่น อยากทราบวาใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion
Economy) ประการใดเปนสําคัญในการดําเนินงานดังกลาว
13 of 102
คําตอบ 1 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบอุปกรณพิเศษชวยในการทํางาน
คําตอบ 2 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ทํางาน
คําตอบ 3 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ และหลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการใชสวนตางๆของรางกาย
คําตอบ 4 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการทํางานของคนงานและเครื่องจักร
ขอที่ : 59
การเชื่อมประสานทอทรงกระบอกที่ปลายทอดานหนึ่ง ซึ่งทอนี้ยาวประมาณสองเมตร และถูกจับยึดดวยลูกกลิ้ง (Roller) สองอันที่ปลายทอทั้งสองดาน และลูกกลิ้งจะหมุนดวย
ย
มอเตอรไฟฟา จากมอเตอรไฟฟาจะมีสายควบคุม โยงไปถึงสถานที่ทํางานของคนงานที่ทําหนาที่เชื่อมทอนี้ ซึ่งการควบคุมมอเตอรไฟฟานี้ จะทําโดยคนงานที่ทําหนาที่เชื่อมทอ ดวย
่ า
การใชเทาเหยียบแปนเหยียบ ที่ทําหนาที่เปนสวิตชของสายควบคุมการหมุนของมอเตอรไฟฟา เพื่อใหลูกกลิ้งหมุนทอไปยังตําแหนงที่คนงานตองเชื่อมทั้งหมดสามจุด อยากทราบวา
น
การออกแบบแปนเหยียบนี้เปนการใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) ประการใดเปนสําคัญในการดําเนินงานดังกลาวขางตน
ำ ห
คําตอบ 1 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ทํางาน
จ
คําตอบ 2 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการทํางานของคนงานและเครื่องจักร
ม
คําตอบ 3 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : หลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการทํางานของคนงานหลายคนรวมกัน
ขอที่ : 60
ิท
ลักษณะของทาทํางานที่ดี เชน ทายืนที่ดีและถูกตองของคนงานในขณะทํางานควรเปนอยางไร
คําตอบ 1 :
นส
การยืนของคนงานอาจจะเอียงไปขางหนาเพื่อเหยียดแขนและมือทั้งสองขางไปยกชิ้นงานที่อยูดานหนาซึ่งวางไวคอนขางไกลจากตัวคนงานโดยไมยากนัก
ว
คําตอบ 2 : การยืนของคนงานตองใหรางกายตั้งตรงสวนของคอและศีรษะโนมเอียงไปดานหนาเพื่อชวยในการมองชิ้นงานไดชัดเจนยิ่งขึ้น
ส ง
คําตอบ 3 : การยืนของคนงานใหเปนไปตามความถนัดของแตละคนเพราะขนาดรางกายของคนงานแตละคนไมเทากันบางคนสูงบางคนเตี้ย
อ
คําตอบ 4 : การยืนของคนงานตองใหศีรษะ คอ หนาอก และทองอยูในแนวดิ่ง เพื่อใหกระดูกโครงรางรับน้ําหนักสวนใหญและมีความเครียดที่กลามเนื้อนอยที่สุด
ขอที่ : 61
กร ข
ว
หลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) ที่เกี่ยวกับการใชสวนตาง ๆ ของรางกายนั้นสามารถดําเนินการไดอยางไร
าว ศ
ิ
คําตอบ 1 : โดยการนําเครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติหรือเครื่องจักรอัตโนมัติมาใชทํางานแทนคนงานใหมากที่สุด
คําตอบ 2 : โดยการกระจายงานตาง ๆ ใหคนงานทุกคนในทุกสวนงานไดทํางานอยางสม่ําเสมอและเทาเทียมกัน
ภ
คําตอบ 3 : โดยลดการเคลื่อนไหวที่ไมจําเปนในการทํางานนั้น ๆ และใชสวนตาง ๆ ของรางกายอยางเหมาะสม
ส
คําตอบ 4 : ใชเครื่องจักรอัตโนมัติและใชคนงานที่มีความชํานาญและมีทักษะมาก ๆ ในการทํางานนั้น ๆ มาดําเนินการ
ขอที่ : 62
บริเวณปฏิบัติงานธรรมดา (Normal Working Areas) ในการวิเคราะหการเคลื่อนไหวโดยหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) เปนอยางไร
คําตอบ 1 : เปนพื้นที่ที่คนงานสามารถเอื้อมมือ และแขนลางไปถึงไดโดยตองใชแขนบนยื่นไปดวย
คําตอบ 2 : เปนพื้นที่ที่คนงานสามารถเอื้อมมือ และแขนลางไปถึงไดโดยไมตองใชแขนบนยื่นไปดวย 14 of 102
คําตอบ 3 : เปนพื้นที่ที่คนงานสามารถเอื้อมมือ แขนบน และแขนลางไปถึงไดโดยมีการโนมตัวไปดวย
คําตอบ 4 : เปนพื้นที่ที่คนงานสามารถเอื้อมมือ แขนบน และแขนลางไปถึงไดโดยไมมีการโนมตัวไปดวย
ขอที่ : 63
ในขณะทํางานตองพยายามใชการเคลื่อนไหวของรางกายประเภทที่ต่ําที่สุดเทาที่จะทําได ซึ่งประเภทของการเคลื่อนไหวนี้ไดสรางขึ้นตามแกนหมุนตาง ๆ ของสวนตาง ๆ ของรางกาย
อยากทราบวาแกนหมุนที่หัวไหลจะชวยในการเคลื่อนไหวของอวัยวะสวนใดของรางกาย
คําตอบ 1 : แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
่ า ย
คําตอบ 2 : แขนบน แขนลาง และ มือ เทานั้น
น
คําตอบ 3 : ลําตัวทอนบน แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
ห
คําตอบ 4 : แขนลาง มือ และ นิ้วมือ เทานั้น
จ ำ
ม
ขอที่ : 64
า้
ในขณะทํางานตองพยายามใชการเคลื่อนไหวของรางกายประเภทที่ต่ําที่สุดเทาที่จะทําได ซึ่งประเภทของการเคลื่อนไหวนี้ไดสรางขึ้นตามแกนหมุนตาง ๆ ของสวนตาง ๆ ของรางกาย
ิธ์ ห
อยากทราบวาแกนหมุนที่ขอศอกจะชวยในการเคลื่อนไหวของอวัยวะสวนใดของรางกาย
คําตอบ 1 : แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
ิท
คําตอบ 2 : แขนบน แขนลาง และ มือ
ส
คําตอบ 3 : ลําตัวทอนบน แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
น
คําตอบ 4 : แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
ง ว
ส
ขอที่ : 65
อ
ในขณะทํางานตองพยายามใชการเคลื่อนไหวของรางกายประเภทที่ต่ําที่สุดเทาที่จะทําได ซึ่งประเภทของการเคลื่อนไหวนี้ไดสรางขึ้นตามแกนหมุนตาง ๆ ของสวนตาง ๆ ของรางกาย
กร ข
อยากทราบวาแกนหมุนที่ทองจะชวยในการเคลื่อนไหวของอวัยวะสวนใดของรางกาย
คําตอบ 1 : แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
ว
คําตอบ 2 : แขนบน แขนลาง และ มือ
าว ศ
ิ
คําตอบ 3 : ลําตัวทอนบน แขนบน แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
คําตอบ 4 : แขนลาง มือ และ นิ้วมือ
ขอที่ : 66
ส ภ
ขอใดไมใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) ที่เกี่ยวกับการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
คําตอบ 1 : ใชเครื่องมือ 2 ชิ้นหรือมากกวาเขารวมกันทํางานในทุกโอกาสที่สามารถทําได
คําตอบ 2 : การเคลื่อนไหวของแขนทั้งสองขางควรจะเหมือนกันในเวลาเดียวกันแตในทิศทางตรงกันขาม
คําตอบ 3 : ใชการเคลื่อนไหวแบบวงโคงตอเนื่องมากกวาการเคลื่อนไหวแบบเสนตรงแลวมีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน
คําตอบ 4 : มือทั้งสองขางจะตองไมวางงานในเวลาเดียวกันยกเวนตอนพักงาน
15 of 102
ขอที่ : 67
ขอใดไมใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) ที่เกี่ยวกับการจัดสถานที่ทํางาน
คําตอบ 1 : เครื่องมือและวัสดุที่ใชในการทํางานตองจัดเตรียมไวในตําแหนงที่แนนอนเพื่อลดเวลาในการคนหาเมื่อตองการใชงาน
คําตอบ 2 : ใชโมเมนตัมของตัวคนงานชวยในการทํางาน แตถาในกรณีที่ตอตานกับกลามเนื้อของคนงานขณะทํางานตองลดโมเมนตัมลงใหเหลือนอยที่สุด
คําตอบ 3 : ใชกลองหรือภาชนะเก็บของเพื่อนําของนั้น ๆ ไปวางใหใกลกับผูปฏิบัติงานมากที่สุด
คําตอบ 4 : สีของบริเวณที่ปฏิบัติงานตองตัดกันกับงานที่กระทํา เพื่อลดความเมื่อยลาของนัยตา
่ า ย
น
ขอที่ : 68
ห
ขอใดไมใชหลักการประหยัดการเคลื่อนไหว (Principle of Motion Economy) ที่เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือ และ อุปกรณ
จ ำ
คําตอบ 1 : คานงัด พวงมาลัยกากบาท และพวงมาลัยวงกลม ตองวางในตําแหนงที่ผูใชงานเมื่อใชงานแลวมีการเปลี่ยนตําแหนงของลําตัวผูใชงานนอยที่สุด
ม
คําตอบ 2 : งานที่ตองใชมือถือเอาไวควรขจัดออกไปโดยการใชจิก หรือ ฟกซเจอร (Jigs and Fixtures) เขามาทําแทน
า้
คําตอบ 3 : ใชเครื่องมือ 2 ชิ้นหรือมากกวาเขารวมกันทํางานในทุกโอกาสที่สามารถทําได
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : เครื่องมือและวัสดุที่ใชในการทํางานตองจัดเตรียมไวในตําแหนงที่แนนอนเพื่อลดเวลาในการคนหาเมื่อตองการใชงาน
ิท
ขอที่ : 69
ส
เครื่องมือชวยในการบันทึกขอมูลตัวใด สามารถใหขอมูลในการปรับปรุงโดยใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดไดมากที่สุด
ว น
คําตอบ 1 : แผนผังการไหล (Flow Diagram)
ง
คําตอบ 2 : แผนภูมิกิจกรรม (Activity Chart)
ส
คําตอบ 3 : แผนภูมิมือซาย-มือขวา (Left-Right Hand Chart)
อ
คําตอบ 4 : แผนภูมิการผลิต (Process Chart)
กร ข
ว
ขอที่ : 70
ศ
ิ
ขอใดไมเกี่ยวของกับหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
าว
คําตอบ 1 : การใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
ภ
คําตอบ 2 : การจัดสถานที่ทํางาน
ส
คําตอบ 3 : การออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
คําตอบ 4 : การจัดผังโรงงานใหเกิดการเคลื่อนไหวนอยที่สุด
ขอที่ : 71
การออกแบบความสูงโตะ-เกาอี้ที่ใชนั่งในการทํางานตรงตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดขอใด
คําตอบ 1 : การใชสวนตาง ๆ ของรางกาย
16 of 102
คําตอบ 2 : การจัดสถานที่ทํางาน
คําตอบ 3 : การออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
คําตอบ 4 : การยศาสตร
ขอที่ : 72
ตัวอยางการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณที่มีผลตอการเคลื่อนไหวอยางประหยัดคือขอใด
คําตอบ 1 : การออกแบบปุมหยุดฉุกเฉินบนเครื่องจักร
คําตอบ 2 : การออกแบบตําแหนงปุมควบคุมและแสดงผลบนเครื่องจักร
่ า ย
น
คําตอบ 3 : การออกแบบพื้นที่รองรับเครื่องจักร
ห
คําตอบ 4 : การกําหนดความสวางในบริเวณที่เครื่องจักรทํางาน
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
73
หลักการการเคลื่อนไหวอยางประหยัดประกอบดวยอะไรบาง
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : การศึกษาดานเทคนิค การจัดการทางดานเศรษฐศาสตร การใชโครงรางมนุษย
คําตอบ 2 : การใชโครงรางมนุษย การจัดตําแหนงสถานที่ปฎิบัติงาน การออกแบบเครื่องมือ
ิท
คําตอบ 3 : การจัดตําแหนงสถานที่ปฎิบัติงาน การวิจัยและพัฒนาคน การทดสอบวัสดุ
ส
คําตอบ 4 : การออกแบบเครื่องมือ การออกแบบโรงงาน การวางแผนการผลิต
ขอที่ :
ง ว น
ส
74
อ
ขอใดมีความสัมพันธกับหลักการการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ข
คําตอบ 1 : แผนภูมิกระบวนการผลิต
กร
คําตอบ 2 : แผนภูมิคนและเครื่องจักร
ว
คําตอบ 3 : แผนภูมิมือซายและมือขวา
ศ
ิ
คําตอบ 4 : แผนภูมิการไหล
ขอที่ : 75
ภ าว
ส
ขอใดไมใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
คําตอบ 1 : การใชโครงรางมนุษย
คําตอบ 2 : การจัดตําแหนงของสถานที่การปฎิบัติงาน
คําตอบ 3 : การวางทาทางที่ไมถูกตองตามความเหมาะสมของงาน
คําตอบ 4 : การออกแบบเครื่องมือ
17 of 102
ขอที่ : 76
หัวขอใดเปนสวนหนึ่งของหลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวของกับการจัดสถานที่ทํางาน
คําตอบ 1 : การจัดเรียงเครื่องมือและวัสดุเปนเสนตรงบนโตะ ทําใหทํางานไดสะดวกและงาย
คําตอบ 2 : ไมควรมีตําแหนงที่ตั้งของเครื่องมือและวัสดุที่แนนอนตายตัว เพราะจะทําใหการทํางานไมยืดหยุน
คําตอบ 3 : ควรใชการสงวัสดุดวยการยกจากลางขึ้นบนเมื่อทําได
คําตอบ 4 : ควรจัดเกาอี้ใหมีความสูงพอดีเพื่อใหเกิดมีภาพทาการนั่งที่ดีและสบายแกคนงานทุกคน
่ า ย
ขอที่ : 77
น
ขอใดเปนสวนหนึ่งของหลักการประหยัดการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวของกับการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
ห
คําตอบ 1 : ควรพิจารณาถึงการทดแทนการเคลื่อนไหวดวยมือ หรือสวนอื่นของรางกายเพื่อลดจํานวนพนักงานลง
จ ำ
คําตอบ 2 : ไมควรออกแบบเครื่องมือที่มีหลายหนาที่ในตัว เพราะจะเกิดความสับสนในการใชงาน
ม
คําตอบ 3 : ควรออกแบบเครื่องมือและอุปกรณใหมีการควบคุมไดงาย รวดเร็วขึ้น และปลอดภัย อาจใชคนควบคุม ณ หนางานก็ได
า้
คําตอบ 4 : ควรยกเลิกงานที่ทําดวยเทาและใชมือหรือจิ๊กและฟกซเจอรเปนหลัก
ขอที่ : 78
ิธ์ ห
ิท
เพราะเหตุใดการเคลื่อนไหวของแขนและมือจึงควรเปนแนวโคง
ส
คําตอบ 1 : ทําใหเกิดความตอเนื่องในการเคลื่อนไหว
ว น
คําตอบ 2 : ทําใหเกิดความสวยงามเปนระเบียบในการจัดวางอุปกรณ
ง
คําตอบ 3 : ทําใหความเร็วในการทํางานคงที่
ส
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 3 ถูก
ขอ
กร
ขอที่ : 79
ว
การเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวของมือในขณะทํางานมีผลทําใหเกิดอะไร
ศ
ิ
คําตอบ 1 : ความเร็วในการทํางานลดลง
าว
คําตอบ 2 : การจัดเรียงกลองชิ้นสวนทําไดยาก
ภ
คําตอบ 3 : ทําใหมือไดรับบาดเจ็บ
ส
คําตอบ 4 : รัศมีการทํางานนอยลง
ขอที่ : 80
การจัดวางชิ้นสวนเพื่อใชประกอบผลิตภัณฑตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด ควรเปนอยางไร
คําตอบ 1 : ควรวางไวตรงหนาและใกลตัวพนักงานเพื่อลดการเคลื่อนไหว
คําตอบ 2 : ควรวางไวเปนแนวเสนตรงเพื่อใหหยิบใชไดงาย
18 of 102
คําตอบ 3 : ควรวางเปนแนวโคงตามการเคลื่อนไหวของมือ และมีระยะหางจากตัวพนักงานในตําแหนง Normal Reach
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 81
ขอใดไมใชผลของการใชพื้นลาดเอียงชวยในการปลอยวัสดุ ตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
คําตอบ 1 : ทําใหชิ้นงานเคลื่อนที่สะดวก
คําตอบ 2 : ทําใหชิ้นงานเคลื่อนที่เขามาใกลตัวพนักงาน
คําตอบ 3 : ลดการแตกหักของชิ้นงาน
่ า ย
น
คําตอบ 4 : ลดระยะการเอื้อมของพนักงาน
ขอที่ : 82
จ ำ ห
ม
ขอใดเปนผลของการใชพื้นลาดเอียงชวยในการปลอยวัสดุ ตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ลดความฝดในการทํางาน
คําตอบ 2 : ลดการใชกลองบรรจุอุปกรณ
คําตอบ 3 : ลดการแตกหักของชิ้นงาน
ิท
คําตอบ 4 : ลดระยะการเอื้อมของพนักงาน
นส
ว
ขอที่ : 83
ง
ขอใดเปนการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดในการออกแบบการทํางาน
คําตอบ 1 :
อ ส
การออกแบบการวางชิ้นสวนที่ใชในการประกอบบนโตะงาน ตามลําดับการประกอบเปนผลิตภัณฑ
ข
คําตอบ 2 : การออกแบบผลิตภัณฑใหสามารถจับถือไดงายโดยการใชมือทั้งสองขาง
กร
คําตอบ 3 : การออกแบบผลิตภัณฑใหมีน้ําหนักเบา
ว
คําตอบ 4 : การออกแบบโตะทํางานใหมีพื้นที่วางชิ้นสวนอยางกวางขวาง
ขอที่ : 84
าว ศ
ิ
ภ
ขอใดเปนการใชมือในการทํางานไดถูกตองตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ส
คําตอบ 1 : การใชมือปรับปุมควบคุมที่ระดับศีรษะ
คําตอบ 2 : การใหมือเคลื่อนที่ไป - กลับอยางตอเนื่องครบรอบ
คําตอบ 3 : การหยิบชิ้นงานที่วางบนพื้นหองทํางาน
คําตอบ 4 : การใชเทาชวยในการจับยึดชิ้นงาน
ขอที่ : 85 19 of 102
ใครเปนผูคิดหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
คําตอบ 1 : Newton
คําตอบ 2 : Gilbreth
คําตอบ 3 : Taylor
คําตอบ 4 : Therblig
ขอที่ : 86
่ า ย
การเคลื่อนไหวแบบใดถือวามีการเคลื่อนไหวนอยที่สุดตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
น
คําตอบ 1 : การคลื่อนไหวของแขน
ห
คําตอบ 2 : การเคลื่อนไหวของขา
จ ำ
คําตอบ 3 : การเคลื่อนไหวของขอศอก
ม
คําตอบ 4 : การเคลื่อนไหวของนิ้วมือ
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 87
การเคลื่อนไหวที่มีการเปลี่ยนทิศทางแบบหักมุมอยางกะทันหันจะมีผลอยางไร ตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ิท
คําตอบ 1 : เกิดความเมื่อยลา
ส
คําตอบ 2 : ใชเวลานานขึ้น
ว น
คําตอบ 3 : เสี่ยงตอการเกิดอันตรายของขอมือได
ง
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
อ ส
ข
ขอที่ : 88
กร
ขอใดถูกตองตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ว
คําตอบ 1 : พนักงานควรนั่งทํางานเพื่อปองกันความเมื่อยลา
ศ
ิ
คําตอบ 2 : งานที่มีความละเอียดมากจะตองการแสงสวางนอยเพื่อปองกันสายตาพลามัว
าว
คําตอบ 3 : การทํางานที่มีการเปลี่ยนทาการนั่งและการยืนไดจะลดความเมื่อยลาที่เกิดขึ้นได
ภ
คําตอบ 4 : เกาอี้นั่งทํางานแบบแตกตางกันจะมีผลตอการทํางานไมตางกัน
ขอที่ : 89
ส
ขอใดไมถือวาเปนการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดเนื่องจากการจัดสถานที่ทํางาน
คําตอบ 1 : การวางตําแหนงการวางเครื่องมือ
คําตอบ 2 : การพิจารณาการสงงานเขา - ออก
คําตอบ 3 : การวิเคราะหการเคลื่อนที่ของคนในสถานที่ทํางาน
20 of 102
คําตอบ 4 : การกําหนดลําดับในการจัดวางเครื่องมือ
ขอที่ : 90
ขอใดไมถือวาเปนการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดเนื่องจากการใชสวนตางๆรางกาย
คําตอบ 1 : การใชมือขางที่ถนัดในการทํางาน
คําตอบ 2 : การใชสายตาในการคนหา
คําตอบ 3 : การใชกลามเนื้อในการยกของ
ย
คําตอบ 4 : การเคลื่อนไหวของลําตัวเพื่อใหทํางานไดคลองขึ้น
น่ า
ห
ขอที่ : 91
ำ
ขอใดไมถือวาเปนการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดเนื่องจากการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
คําตอบ 1 : การคํานึงถึงการกระจายน้ําหนักของมือในขณะทํางาน
มจ
า้
คําตอบ 2 : การใชเครื่องมือหนึ่งชิ้นตองานหนึ่งงาน
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การใชจิ๊ก ฟกซเจอรชวยในการจับยึด
คําตอบ 4 : การใชอุปกรณจับยึดที่ถูกควบคุมดวยเทา
ขอที่ : 92
ส ิท
ว น
ขอใดถือวาเปนอุปสรรคในการออกแบบการทํางานตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ง
คําตอบ 1 : ความถนัดของมือซาย - ขวา
ส
คําตอบ 2 : ความสวางในที่ทํางาน
อ
คําตอบ 3 : ความแตกตางของความสูงของพนักงาน
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
กร ข
ขอที่ : 93
ศ
ิ ว
าว
การออกแบบพื้นที่บนโตะงาน ควรคํานึงถึงขอใดตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ภ
คําตอบ 1 : ระยะการเคลื่อนไหวของแขน
ส
คําตอบ 2 : ระยะการเคลื่อนไหวของพนักงาน
คําตอบ 3 : ระยะการเคลื่อนที่ระหวางสถานีงาน
คําตอบ 4 : ระยะการเคลื่อนที่ของเครื่องมือ
ขอที่ : 94
ขอใดเปนการเคลื่อนไหวพื้นฐาน ตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
21 of 102
คําตอบ 1 : Ballistic Motion
คําตอบ 2 : Continuous Motion
คําตอบ 3 : Controlled Motion
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 95
ขอใดเปนการเคลื่อนไหวของแขนและมือในตําแหนง Normal Reach
คําตอบ 1 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานตรงหนาและอยูเหนือศีรษะโดยที่แขนเหยียดตรง
่ า ย
น
คําตอบ 2 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานตรงหนาโดยที่แขนงอ และไหลไมหอ
ห
คําตอบ 3 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานดานขางโดยที่แขนเหยียดตรง
จ ำ
คําตอบ 4 : ขอ 2 และ 3 ถูก
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
96
ขอใดเปนการเคลื่อนไหวของแขนและมือในตําแหนง Maximum Reach
คําตอบ 1 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานตรงหนาโดยที่แขนเหยียดตรง
ิท
คําตอบ 2 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานตรงหนาโดยที่แขนเหยียดตรง และตัวโนมไปขางหนา
ส
คําตอบ 3 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานตรงหนาโดยที่แขนเหยียดตรง ตัวโนมไปขางหนา และยกกนขึ้น
ว น
คําตอบ 4 : การหยิบชิ้นงานจากกลองชิ้นงานดานขางโดยที่แขนงอ
ส ง
อ
ขอที่ : 97
ข
ขอใดเปนการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดในการทํางาน
กร
คําตอบ 1 : ใชสายพานชวยในการลําเลียง
ว
คําตอบ 2 : ใชแรงโนมถวงในการปลอยชิ้นสวน
ศ
ิ
คําตอบ 3 : ใชรถยกชวยในการยกของ
าว
คําตอบ 4 : ใชเครื่องจักรอัติโนมัติ
ขอที่ : 98
ส ภ
องคความรูใดเกี่ยวของนอยที่สุดกับการศึกษาการเคลื่อนไหวเชิงอนุภาคหรือแบบไมโคร
คําตอบ 1 : Principle of Motion Economy
คําตอบ 2 : Fundamental Hand Motion
คําตอบ 3 : Memo Motion Study
คําตอบ 4 : Material Handling
22 of 102
ขอที่ : 99
ขอใดเปนสวนหนึ่งของหลักการประหยัดของการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวของกับการใชรางกายของคน
คําตอบ 1 : มือทั้งสองไมควรทํางานพรอมกัน
คําตอบ 2 : ควรใชแรงโมเมนตัมชวยคนทํางานเทาที่เปนไปได
คําตอบ 3 : ควรใชสายตากับการทํางานโดยตรง และใหครอบงําสายตาใหมากหลายจุดเพื่อเปนการผอนคลาย
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
่ า ย
น
ขอที่ : 100
ห
ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของมือตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
จ ำ
คําตอบ 1 : มือซาย - ขวามีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันขามในขณะทํางาน
ม
คําตอบ 2 : มือซายจับยึดชิ้นงาน ในขณะที่มือขวาประกอบชิ้นงาน
า้
คําตอบ 3 : มือซาย - ขวาชวยกันจับยึดชิ้นงาน
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : มือซาย - ขวาเคลื่อนไหวในทิศเดียวกันขณะทํางาน
ิท
ขอที่ : 101
ส
ขอใดตอไปนี้เปนตัวอยางการประยุกตใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดในการทํางาน
ว น
คําตอบ 1 : ใชจิ๊กและฟกซเจอรชวยจับยึดชิ้นงาน
ง
คําตอบ 2 : การจัดใหชิ้นสวนในการประกอบเรียงกัน
ส
คําตอบ 3 : การออกแบบใหมือซาย - ขวา ชวยกันจับยึดชิ้นงาน
อ
คําตอบ 4 : การออกแบบใหทั้งสองมือตองกดเครื่องปมพรอมกัน
กร ข
ว
ขอที่ : 102
ศ
ิ
ขอใดถูกตองตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
าว
คําตอบ 1 : ใชมือในการทํางานใหมากที่สุด
ภ
คําตอบ 2 : ใชมือในการทํางานใหนอยที่สุด
ส
คําตอบ 3 : ใหมือมีการเคลื่อนไหวใหมากที่สุด
คําตอบ 4 : ใหมือมีการเคลื่อนไหวใหนอยที่สุด
ขอที่ : 103
จงเปรียบเทียบ (1) การเคลื่อนไหวของแขนและมืออยางตอเนื่องเปนเสนโคง และ(2) การเคลื่อนไหวของแขนและมือที่เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน ในการทํางานแบบเดียวกัน
คําตอบ 1 : (1) ใชเวลานอยกวา (2)
23 of 102
คําตอบ 2 : (1) ใชเวลามากกวา (2)
คําตอบ 3 : (1) จะเกิดความเมื่อยลามากกวา (2)
คําตอบ 4 : (1) และ (2) ชวยลดเวลาและลดความเมื่อยลาเทา ๆ กัน
ขอที่ : 104
ตัวอยางการออกแบบเครื่องมือตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดคือขอใด
คําตอบ 1 : คอนตี
คําตอบ 2 : ไขควงวัดไฟ
่ า ย
น
คําตอบ 3 : ประแจเลื่อน
ห
คําตอบ 4 : คานงัด
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
105
ขอใดเปนจริงสําหรับ Motion Patterns ของมือตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ใชในการออกแบบการทํางานกอนที่จะทํา PTS
คําตอบ 2 : เปนสิ่งที่เกิดหลังจากที่สถานีงานถูกออกแบบเรียบรอยแลว
ิท
คําตอบ 3 : เหมาะกับการทํางานที่เปนคูโดยใชสองมือ
ส
คําตอบ 4 : ใชสําหรับการออกแบบวิธีการนําชิ้นงานเขา - ออกโตะงาน
ขอที่ :
ง ว น
ส
106
อ
ขอใดไมใชลักษณะการเคลื่อนไหวของแขนและมืออยางตอเนื่อง ตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
ข
คําตอบ 1 : เปนการเคลื่อนไหวเลียนแบบธรรมชาติ
กร
คําตอบ 2 : ทําใหเวลาการทํางานคงที่
ว
คําตอบ 3 : การเคลื่อนไหวไมหยุดชะงัก
ศ
ิ
คําตอบ 4 : ขึ้นอยูกับมุมในการเอียงกลองใสชิ้นงาน
ขอที่ : 107
ภ าว
ส
การทํางานที่ตองใชมือและสายตาพรอมกัน จะมีผลอยางมากตอกันเมื่อไร
คําตอบ 1 : งานที่ตาและมือตองเคลื่อนไหวเปนระยะทางที่ยาว
คําตอบ 2 : การเลือกชิ้นงานที่มีสีสันตางกันในกลองชิ้นงานขนาดเล็ก
คําตอบ 3 : การตรวจสอบชิ้นงานดวยตาเปลา
คําตอบ 4 : การประกอบชิ้นงานขนาดเล็ก
24 of 102
ขอที่ : 108
ขอใดไมถูกตองตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด
คําตอบ 1 : งานทุกอยางตองมีการออกแบบการทํางานตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดเพื่อใหมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
คําตอบ 2 : ประสิทธิผลของการออกแบบการทํางานตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด คือการที่ทํางานตามลักษณะที่ควรจะทํา
คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพของการออกแบบการทํางานตามหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด คือการทํางานที่ใหไดงานที่ถูกตอง
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
่ า ย
ขอที่ : 109
น
การออกแบบใหเครื่องตรวจสอบชิ้นงานวางบนโตะงานและจอแสดงผลวางอยูบนชั้นเหนือโตะงาน เปนการใชหลักการออกแบบการเคลื่อนไหวอยางประหยัดในดานใดบาง 1. ดานการ
ห
ใชรางกาย 2. ดานการจัดสถานที่ทํางาน 3. การออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ
ำ
คําตอบ 1 : เฉพาะ 1 คือพิจารณาที่การใชมือและสายตา
มจ
คําตอบ 2 : 2 และ 3 คือจัดโตะงานและเครื่องมือใหใชงานงาย
า้
คําตอบ 3 : เฉพาะ 3 คือออกแบบใหเครื่องตรวจสอบใชงานงาย
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : 1 และ 2 คือจัดโตะงานและเครื่องมือใหใชงานงาย
ิท
ขอที่ : 110
ส
จากการใชหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัด ในการปรับปรุงงานการประกอบชิ้นสวน อิเลคโทรนิคงานหนึ่งพบวา สามารถลดเวลาเฉลี่ยตอชิ้นในการประกอบจาก 0.084 นาที
น
เหลือ 0.055 นาที จงหาวาสามารถประกอบชิ้นงานไดมากขึ้นกี่เปอรเซ็นต
ง ว
คําตอบ 1 : 65%
ส
คําตอบ 2 : 56%
อ
คําตอบ 3 : 53%
ข
คําตอบ 4 :
กร
50%
ว
ขอที่ :
ศ
ิ
111
าว
จากหลักการเคลื่อนไหวอยางประหยัดของการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย ขอใดตอไปนี้ถูกตอง
คําตอบ 1 : การเคลื่อนไหวเปนเสนโคงไมแตกตางกับการเคลื่อนไหวเปนแนวเสนตรงเพราะตองมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวอยางกะทันหัน
ส ภ
คําตอบ 2 : มือทั้งสองขางควรเริ่มตนทํางาน ควรสิ้นสุดการทํางาน และควรวางพรอม ๆ กัน
คําตอบ 3 : มือและสวนตาง ๆ ของรางกายควรมีการเคลื่อนไหวนอยที่สุดแตสามารถทํางานไดตามที่ตองการ
คําตอบ 4 : โมเมนตัมในการทํางานของพนักงานขึ้นอยูกับความยากงายของงานที่ทํา
ขอที่ : 112
แนวทางในการปรับปรุงวิธีการทํางานใหดีกวาเดิมนั้นจะตองพิจารณาอะไรบาง
คําตอบ 1 : ตัดทอนงานที่ไมจําเปนออก รวมการทํางานที่คลายกัน เปลี่ยนลําดับขั้นตอนการทํางาน และ ทําใหการทํางานที่จําเปนงายขึ้น 25 of 102
คําตอบ 2 : ระดมสมองบุคลากรทุกสวนงานในองคกรเพื่อออกแบบวิธีการทํางานใหสามารถผลิตสินคาหรือบริการไดมากขึ้นและสนองตอความตองการของลูกคาอยางตอเนื่อง
คําตอบ 3 : ฝายผลิตรวบรวมขอมูลของสินคา เชน รูปลักษณะทางกายภาพ ชนิด วัสดุที่ใช หนาที่ของสินคานั้น เพื่อนํามาปรับปรุงวิธีการทํางานและ/หรือการผลิตสินคาไดงายขึ้น
ฝายออกแบบผลิตภัณฑและฝายผลิตรวมกันกําหนดลักษณะของสินคานั้น ๆ ใหสอดคลองกับความตองการของลูกคาแลวจึงกําหนดวิธีการทํางานและ/หรือกระบวน
คําตอบ 4 :
การผลิต เพื่อใหการผลิตสินคาเปนไปตามความตองการของลูกคา
ขอที่ : 113
ปจจุบันยางรถยนตโดยเฉพาะยางรถเกงสามารถหอหุมเก็บอากาศไวภายในไดโดยไมตองใชยางใน ซึ่งชวยใหการประกอบยางรถเกงทําไดรวดเร็วขึ้น อยากทราบวามีการใชแนวทางใด
ย
ในการปรับปรุงวิธีการทํางาน (ใสยางรถเกง) ดังกลาวขางตน
น่ า
คําตอบ 1 : การเปลี่ยนลําดับขั้นตอนการทํางานใหม
ห
คําตอบ 2 : ทําใหการทํางานที่จําเปนงายขึ้น
ำ
คําตอบ 3 : ตัดทอนงานที่ไมจําเปนออกไป
จ
คําตอบ 4 : เปลี่ยนแปลงวัสดุและนําหลักการทางวิทยาศาสตรมาประยุกต
า้ ม
ิธ์ ห
ขอที่ : 114
ขอใดตอไปนี้ไมเกี่ยวของกับการปรับปรุงการทํางาน
ิท
คําตอบ 1 : Rearrange
ส
คําตอบ 2 : Simplify
น
คําตอบ 3 : Reuse
ง ว
คําตอบ 4 : Eliminate
ขอที่ :
อ ส
ข
115
กร
เมื่อพิจารณาถึงหลักทั่วไปของการจัดแสงสวางในสถานปฏิบัติงาน ขอใดตอไปนี้ที่ผิดไปจากหลักการ
คําตอบ 1 : หลอดไฟควรติดตั้งในทิศทางที่ไมสอง หรือสะทอนเขาตา
คําตอบ 2 :
ศ
ิ ว
ออกแบบเพื่อใชแสงจากธรรมชาติใหมากที่สุด เชน แสงสวางจากหนาตาง ประตู และหลังคา
าว
คําตอบ 3 : พนักงานที่ถนัดซายเมื่ออยูในทานั่งทํางาน ควรจัดแสงสองเขาทางดานหลังทางซายมือ
คําตอบ 4 : ควรจัดบริเวณที่ทํางานใหมีระดับความเขมแสงที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
ขอที่ : 116
ส ภ
การปรับปรุงวิธีการทํางานโดยศาสตรการศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา (Motion and Time Study) มักจะใชแผนภาพ (Diagram) และแผนภูมิ (Chart) เปนเครื่องมือชวยปรับปรุง
วิธีการทํางาน อยากทราบวามีแผนภูมิใดบาง
คําตอบ 1 : แผนภูมิกระบวนการผลิต (Process Chart)
คําตอบ 2 : แผนภูมิการปฏิบัติงาน (Operation Chart)
คําตอบ 3 : แผนภูมิของคนและเครื่องจักร (Man and Machine Chart) 26 of 102
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 117
วิธีที่ใชปรับปรุงการผลิตและการทํางานโดยตั้งคําถามทุก ๆ อยางที่เกี่ยวของกับงานที่ทํา อยากทราบวาควรจะเริ่มดวยการตั้งคําถามอะไรบาง? ตามลําดับ
คําตอบ 1 : อะไร ? ใคร ? เมื่อไร ? ที่ไหน ? ทําไม ?
คําตอบ 2 : ทําไม ? ใคร ? ที่ไหน ? เมื่อไร ? อยางไร ?
คําตอบ 3 : อะไร ? ใคร ? ที่ไหน ? เมื่อไร ? อยางไร ? ทําไม ?
ย
คําตอบ 4 : ทําไม ? อะไร ? เมื่อไร ? ที่ไหน ? อยางไร ?
น่ า
ห
ขอที่ : 118
ำ
ขอใดตอไปนี้จัดเปนการทํางานที่ไมจําเปนและควรหลีกเลี่ยง
คําตอบ 1 : การตรวจสอบภายหลังในทุกขั้นตอนการทํางานยอย
มจ
า้
คําตอบ 2 : การสงตอชิ้นงานจากการอัดขึ้นรูปดวยเครื่องอัดไปยังเครื่องเจาะเพื่อทําการเจาะ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การสงชิ้นงานที่ถูกพนสีไปสถานีงานตอไปโดยใชสายพานแขวนในระยะทางที่ยาวเพื่อรอใหสีแหง
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 119
ส ิท
ว น
การลดความเครียดและความเมื่อยลาของคนงานที่เกิดขึ้นจากการนั่งทํางานสามารถดําเนินการไดอยางไร
ง
คําตอบ 1 : ใหคนงานทํางานโดยนั่งบนเกาอี้ที่มีความสูงมากซึ่งเปนทานั่งแบบกึ่งนั่งกึ่งยืน
ส
คําตอบ 2 : ใหคนงานนั่งทํางานและยืนทํางานสลับกันบางตามแตคนงานตองการโดยที่โตะทํางานจะมีความสูงเทาใดก็ได
อ
คําตอบ 3 : การนั่งทํางานของคนงานแตละคนตองคํานึงถึงวาคนงานนั้น ๆ มีความสูงเทาใด ถาคนงานคอนขางเตี้ยก็ควรใหยืนทํางาน
คําตอบ 4 :
กร ข
จัดหาเกาอี้ใหมีความสูงที่เหมาะสมกับโตะทํางานของคนงานแตละคนและควรจะกําหนดทานั่งทํางานที่ดีใหแกคนงาน
ขอที่ : 120
ศ
ิ ว
าว
ขอใดตอไปนี้เปนการปรับปรุงการทํางานเพื่อลดงานสวนเกินในการผลิต
ภ
คําตอบ 1 : การเปลี่ยนลําดับการทํางานใหสอดคลองกับผังการผลิต
ส
คําตอบ 2 : การเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อลดของเสีย
คําตอบ 3 : การเพิ่มเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกําลังการผลิต
คําตอบ 4 : การใชเครื่องจักรอัตโนมัติทํางานแทนพนักงาน
ขอที่ : 121
ขั้นตอนใดที่ควรตัดออกในการปรับปรุงงาน
27 of 102
คําตอบ 1 : การรอคอย
คําตอบ 2 : การขนสง
คําตอบ 3 : การตรวจสอบ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 122
หลักการปรับปรุงงานที่เรียกวา ECRS ยอมาจากอะไร
คําตอบ 1 : Estimate Combine Reduce Sample
่ า ย
น
คําตอบ 2 : Eliminate Combine Re-arrange Simplify
ห
คําตอบ 3 : Eliminate Combine Reduce Simplify
จ ำ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
123
การปรับปรุงโดยลดเวลาวางงานเปรียบเทียบไดกับเทคนิคการปรับปรุงขอใด
คําตอบ 1 : Elimination
ิท
คําตอบ 2 : Simplify
ส
คําตอบ 3 : Combination
ว น
คําตอบ 4 : Time Reduction
ส ง
อ
ขอที่ : 124
ข
ในการปรับปรุงโดยใชหลักการ Elimination สิ่งที่ควรทําเปนอยางแรก คืออะไร
กร
คําตอบ 1 : ตัดการเคลื่อนที่ที่ไมจําเปน
ว
คําตอบ 2 : ตัดการทํางานที่ไมจําเปน
ศ
ิ
คําตอบ 3 : ตัดการตรวจสอบที่ไมจําเปน
าว
คําตอบ 4 : ตัดการรอที่ไมจําเปน
ขอที่ : 125
ส ภ
ขอใดไมจัดเปน Simplify
คําตอบ 1 : ทําการเคลื่อนที่ใหงายขึ้น
คําตอบ 2 : ทําการทํางานใหงายขึ้น
คําตอบ 3 : ทําการตรวจสอบใหงายขึ้น
คําตอบ 4 : ทําใหการใชงานของผลิตภัณฑงายขึ้น
28 of 102
ขอที่ : 126
การปรับปรุงโดยใชหลัก Combination พบมากกับกิจกรรมใด
คําตอบ 1 : รวมการทํางานเขากับการเคลื่อนที่
คําตอบ 2 : รวมการทํางานหนึ่งเขากับการทํางานอื่น
คําตอบ 3 : รวมการเคลื่อนที่เขากับการเคลื่อนที่
คําตอบ 4 : รวมการตรวจสอบเขากับการเคลื่อนที่
่ า ย
น
ขอที่ : 127
ห
การเพิ่มสถานีงานที่ทํางานแบบเดียวกันมากกวา 1 สถานีงานเพื่อลดเวลาการผลิตตรงตามหลักการปรับปรุงขอใด
จ ำ
คําตอบ 1 : Elimination
ม
คําตอบ 2 : Simplify
า้
คําตอบ 3 : Combination
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : Rearrange
ิท
ขอที่ : 128
ส
การใชจิ๊ก ฟกเจอรชวยในการทํางานตรงกับหลักการปรับปรุงขอใด
ว น
คําตอบ 1 : Elimination
ง
คําตอบ 2 : Simplify
ส
คําตอบ 3 : Combination
อ
คําตอบ 4 :
ข
Rearrange
ว กร
ขอที่ : 129
ศ
ิ
องคประกอบในการพิจารณาเลือกอุปกรณขนถายวัสดุมีอะไรบาง
าว
คําตอบ 1 : ความทนทาน ความสวยงาม กระบวนการผลิต คาใชจาย
ภ
คําตอบ 2 : ผังโรงงาน ความทนทาน กระบวนการผลิต คาใชจาย
ส
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ของการผลิต ความทันสมัย ความปลอยภัย คาใชจาย
คําตอบ 4 : คุณสมบัติวัสดุ ผังโรงงาน การเคลื่อนที่ของการผลิต คาใชจาย
ขอที่ : 130
ขอใดตอไปนี้ไมใชองคประกอบของการเลือกงานที่จะทําการศึกษาวิธีการทํางาน
คําตอบ 1 : การพิจารณาในแงเศรษฐศาสตร
29 of 102
คําตอบ 2 : การพิจารณาในแงการบริหารและการจัดการ
คําตอบ 3 : การพิจารณาในแงเทคนิค
คําตอบ 4 : ปฎิกิริยาของคน
ขอที่ : 131
การทํางานอยางไรจึงเปนการทํางานที่มีประสิทธิภาพ
คําตอบ 1 : สวนของงานเบื้องตน (Basic Work) มากกวาสวนของงานที่เปนสวนเกิน
คําตอบ 2 : สวนของงานเบื้องตน (Basic Work) นอยกวาสวนของงานที่เปนสวนเกิน
่ า ย
น
คําตอบ 3 : สวนของงานเบื้องตน (Basic Work) เทากับสวนของงานที่เปนสวนเกิน
ห
คําตอบ 4 : สวนของงานเบื้องตน (Basic Work) เทากับเวลาไรประสิทธิภาพ
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
132
ขอใดเปนหลักการปรับปรุงงานเพื่อเพิ่มผลผลิตทางดานความเร็วของการผลิต
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : เทคนิค VE และ CAD
คําตอบ 2 : Thailand Quality Award (TQA) และ ISO 9001 : 2000
ิท
คําตอบ 3 : Elimination, Rearrange, Combination, Simplification และ 7 Wastes
ส
คําตอบ 4 : Concurrent Engineering และ Failure Mode and Effect Analysis (FMEA)
ขอที่ :
ง ว น
ส
133
อ
ขอใดไมใชผลที่ไดจากการปรับปรุงวิธีการทํางาน
ข
คําตอบ 1 : ทําใหทํางานงายขึ้น
กร
คําตอบ 2 : ทําใหลดขั้นตอนในการทํางาน
ว
คําตอบ 3 : ไดวิธีการทํางานมาตรฐานในการผลิตผลิตภัณฑตัวใหม
ศ
ิ
คําตอบ 4 : ทําใหลดเวลาในการทํางาน
ขอที่ : 134
ภ าว
ส
ทําไมจึงควรใหมีการตรวจสอบที่จําเปนในการศึกษาเพื่อปรับปรุงวิธีการทํางาน
คําตอบ 1 : ลดการใชเครื่องมือตรวจสอบ
คําตอบ 2 : ทําใหไดผลิตภัณฑที่ดีเกินความตองการ
คําตอบ 3 : ลดคาใชจายที่เพิ่มขึ้นโดยไมจําเปน
คําตอบ 4 : ลดโอกาสในการเกิดของเสีย
30 of 102
ขอที่ : 135
การลดการเคลื่อนที่ที่ไมจําเปนจะทําใหเกิดผลในขอใด
คําตอบ 1 : ลดโอกาสของการเกิดของเสียในขณะขนยาย
คําตอบ 2 : ลดเวลาการทํางานลงได
คําตอบ 3 : ลดระยะทางในการขนยาย
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
่ า ย
ขอที่ : 136
น
การเปลี่ยนแปลงการทํางานจากเดิมใชคนยกแผนเหล็กมาเปนใชรถยกแทนเทียบไดกับหลักการปรับปรุงขอใด
ห
คําตอบ 1 : Eliminate
จ ำ
คําตอบ 2 : Simplify
ม
คําตอบ 3 : Combine
า้
คําตอบ 4 : Rearrange
ขอที่ : 137
ิธ์ ห
ิท
การยกเลิกสถานีงานวัดขนาดหลังการตัดชิ้นงาน แลวใหพนักงานตัดทําการวัดขนาดหลังตัดชิ้นงานเสร็จเปนการปรับปรุงโดยใชเทคนิคใด
ส
คําตอบ 1 : Eliminate
ว น
คําตอบ 2 : Simplify
ง
คําตอบ 3 : Combine
ส
คําตอบ 4 : Rearrange
ขอ
กร
ขอที่ : 138
ว
การรวมงานเขาดวยกันจะทําใหเกิดผลขอใด
ศ
ิ
คําตอบ 1 : ลดจํานวนคนงาน
าว
คําตอบ 2 : ลดการขนยาย
ภ
คําตอบ 3 : ลดขั้นตอนการทํางาน
ส
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 139
วัตถุประสงคในการวิเคราะหขอมูลเพื่อการปรับปรุงคืออะไร
คําตอบ 1 : วิเคราะหหางานสวนเกิน
คําตอบ 2 : วิเคราะหหาตนทุนการผลิต
31 of 102
คําตอบ 3 : วิเคราะหหาผลิตภาพการผลิต
คําตอบ 4 : วิเคราะหหาชิ้นงานมีตําหนิ
ขอที่ : 140
งานสวนที่จําเปนคืออะไร
คําตอบ 1 : งานสวนที่ทําใหเปอรเซ็นตความสําเร็จของผลิตภัณฑมากขึ้น
คําตอบ 2 : งานสวนที่เมื่อถูกตัดออกแลวทําใหการทํางานหยุดชะงัก
คําตอบ 3 : งานสวนที่ตองใชคนที่มีความชํานาญทํา
่ า ย
น
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 3 ถูก
ขอที่ : 141
จ ำ ห
ม
งานสวนที่ไมจําเปนคืออะไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : งานสวนที่ไมทําใหเปอรเซ็นตความสําเร็จของผลิตภัณฑเพิ่มขึ้น
คําตอบ 2 : งานสวนที่ไมตองใชความชํานาญ
คําตอบ 3 : งานสวนที่เมื่อถูกตัดออกแลวไมมีผลทําใหการทํางานหยุดชะงัก
ิท
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
นส
ว
ขอที่ : 142
ง
การศึกษาเสนทางการสงชิ้นสวนระหวางผลิตไปยังขั้นตอนการผลิตตอไป พบวามีเสนทางการเคลื่อนที่ยอนกลับไปมา ในการปรับปรุงควรทําอยางไร
คําตอบ 1 :
อ ส
จัดเสนทางการผลิตใหมใหเรียงตอกันเปนเสนตรง
ข
คําตอบ 2 : เปลี่ยนลําดับการผลิตใหมเพื่อใหเกิดการเคลื่อนที่ทางเดียว
กร
คําตอบ 3 : จัดการผลิตใหมใหเรียงตอกันเปนตัวยู
ว
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 143
าว ศ
ิ
ภ
การปรับปรุงโดยการตัดขั้นตอนการตรวจสอบบางขั้นตอนออก จะทําใหเครื่องหมายใดใน Process Chart ลดลง
ส
คําตอบ 1 : เครื่องหมายสี่เหลี่ยมใน Process Chart ลดลง
คําตอบ 2 : เครื่องหมายวงกลมใน Process Chart ลดลง
คําตอบ 3 : เครื่องหมายลูกศรใน Process Chart ลดลง
คําตอบ 4 : เครื่องหมายสามเหลี่ยมหัวกลับใน Process Chart ลดลง
ขอที่ : 145
่ า ย
การลดเวลาในการทํางานตามหลักของการศึกษางานนั้นสามารถทําไดโดยขอใด
น
คําตอบ 1 : ปรับปรุงนโยบายการทํางาน
ห
คําตอบ 2 : ปรับปรุงวิธีการทํางาน
จ ำ
คําตอบ 3 : เพิ่มจํานวนคนในการทํางาน
ม
คําตอบ 4 : การปรับปรุงวิธีวัดผลงาน
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 146
ขอใดอาจทําใหการปรับปรุงงานไมเปนผล
ิท
คําตอบ 1 : การลดการตรวจสอบใหเหลือแค 1 ครั้ง ในตอนสุดทาย เพื่อประหยัดคนงานและเวลา
ส
คําตอบ 2 : การจัดลําดับการรีดเหล็กตามขนาดเสนผานศูนยกลางเพื่อลดขั้นตอนการติดตั้งเครื่องรีด
ว น
คําตอบ 3 : การใชรถยกชวยในการขนแผนเหล็กเขา - ออกจากสายการผลิต
ง
คําตอบ 4 : การใหพนักงานที่ตัดชิ้นงานตรวจสอบขนาดหลังตัดเพื่อลดการเคลื่อนที่
อ ส
ข
ขอที่ : 147
กร
หลักการปรับปรุงงานขอใดที่ไมเหมาะสม
ว
สถานีหนึ่ง (Station) มีงานที่ตองใชทักษะมาก ดังนั้นฝายผลิตจึงกําหนดใหมีพนักงานหนึ่งทานรับผิดชอบงานนั้นงานเดียวโดยไมใหทํางานอื่นเพิ่มเติม เพื่อลดความ
คําตอบ 1 :
ศ
ิ
ผิดพลาดของพนักงาน
าว
คําตอบ 2 : ทําการแยกงานที่เดิมใหคนเดียวทํา โดยแบงงานออกจากกันแลวเพิ่มคนงานเขาไปทําเพื่อไมใหเกิดคอขวดขึ้น
ภ
คําตอบ 3 : เดิมมีกิจกรรมการเคลื่อนยาย แยกจากกิจกรรมตรวจสอบ ตามหลักที่ดีที่สุดคือ ตองรวมใหเปนงานเดียวกันเสมอ
ส
คําตอบ 4 : การทํางานควรเนนถึงความเรียบงาย คือ ปรับเปลี่ยนวิธีการทํางานใหมใหมีความซับซอนและยุงยากนอยลง
ขอที่ : 148
ขอใดตอไปนี้ไมใชจุดที่ควรพิจารณาในการศึกษาเพื่อปรับปรุงวิธีการทํางาน
คําตอบ 1 : ในสายการผลิตที่มีพนักงานขาดงาน มาสายและมีเรื่องขัดแยงกันบอยๆ
คําตอบ 2 : ในจุดที่เกิดคอขวด ทําใหสายการผลิตไมราบรื่น
คําตอบ 3 : แผนกงานที่มีการทํางานที่ซ้ําซอนและลาชา 33 of 102
่ า ย
คําตอบ 1 : ตัดทอนงานที่ไมจําเปนออกใหหมด
น
คําตอบ 2 : รวมการทํางานที่คลายคลึงกันหรืองานที่เกี่ยวของกันเขาดวยกัน
ห
คําตอบ 3 : เปลี่ยนลําดับขั้นตอนการทํางานใหม
ำ
คําตอบ 4 : ทําใหการทํางานที่จําเปนงายขึ้น
มจ
า้
ขอที่ : 150
ิธ์ ห
โรงงานประกอบชิ้นสวนยานยนตแหงหนึ่งมีเครื่องจักรตางๆ ที่ใชในการผลิตชิ้นสวนยานยนต ในแผนก A เมื่อผลิตและประกอบแลวเสร็จ แผนก A จะสงชิ้นสวนยานยนตเหลานั้นมาพัก
ไวที่แผนก B แลวจึงนําไปตรวจสอบที่แผนก C และเมื่อผานการตรวจสอบ จะถูกสงไปยังแผนกบรรจุหีบภัณฑ เพื่อบรรจุหีบภัณฑแลวจึงรอสงมอบใหลูกคา จากการดําเนินงานตามขั้น
ตอนดังกลาวขางตน พบวา โรงงานตองสูญเสียพื้นที่พักชิ้นสวนยานยนต ที่แผนก B วิศวกรจึงทําการเปลี่ยนแปลงการดําเนินงาน โดยนําชิ้นสวนยานยนตที่ผลิตและประกอบจากแผนก
ิท
A มาตรวจสอบที่จุดสิ้นสุดการผลิตและประกอบที่แผนก A ใหแลวเสร็จ จากนั้นจึงนําไปบรรจุหีบภัณฑแลวจึงรอสงมอบใหลูกคา ผลทําใหไมตองพักสินคาที่แผนก B ดังแตกอน
ส
อยากทราบวาวิธีการปรับปรุงนี้ เปนการดําเนินการตามแนวทางใด
ว น
คําตอบ 1 : เปลี่ยนลําดับขั้นตอนการทํางานใหม
ง
คําตอบ 2 : ตัดทอนงานที่ไมจําเปนออกใหหมด
ส
คําตอบ 3 : ทําใหการทํางานที่จําเปนงายขึ้น
อ
คําตอบ 4 : รวมการทํางานที่คลายคลึงกันเขาดวยกัน
กร ข
ว
ขอที่ : 151
ศ
ิ
ในการทํางานของพนักงานกลึงชิ้นงาน โดยมีรายละเอียดดังตารางขางลางนี้
าว
พนักงาน เครื่องจักร
ภ
1. หยิบชิ้นงานใสในที่จับชิ้นงานบนแทนกลึงแลวตั้งมีด วางงาน
ส
กลึง (ใชเวลา 1.00 นาที)
วางงาน 2. เครื่องกลึงกลึงชิ้นงานตามที่กําหนด (ใชเวลา 2.25
นาที)
3. หยุดเครื่องกลึง แลวถอดชิ้นงานออกจากที่จับ (ใช วางงาน
เวลา 0.75 นาที)
จงหาเปอรเซ็นตการทํางานของพนักงาน (Operator Utilization) และ เปอรเซ็นตการทํางานของเครื่องจักร (Machine Utilization) ตามลําดับ
คําตอบ 1 : 25.00% และ 75.00% ตามลําดับ
คําตอบ 2 : 66.67% และ 33.33% ตามลําดับ 34 of 102
ขอที่ : 152
แผนภูมิใดใชบันทึกวิธีการทํางานใหอยูในลักษณะที่เห็นไดชัดเจน กระชับ ชวยใหเขาใจการทํางาน และชวยในการปรับปรุงการทํางาน
คําตอบ 1 : แผนภูมิของคนและเครื่องจักร (Man and Machine Chart)
คําตอบ 2 : แผนภูมิควบคุมคุณภาพ (Quality Control Chart)
คําตอบ 3 : แผนภูมิมือซายและมือขวา (Left and Right Hand Chart)
่ า ย
น
คําตอบ 4 : แผนภูมิกระบวนการผลิต (Process Chart)
ขอที่ : 153
จ ำ ห
ม
วิศวกรทานหนึ่งไดใชแผนภูมิมือซายและมือขวา (Right and Left Hand Chart) วิเคราะหวิธีการจัดรูรางเหล็กสําหรับติดบานพับแตละชิ้น ที่คนงานทําอยูในปจจุบัน พบวามี การ
า้
ปฏิบัติงาน (Operations) ดวยมือซาย 9 ครั้ง มือขวา 11 ครั้ง การขนสง (Transportations) ดวยมือซาย 0 ครั้ง มือขวา 6 ครั้ง การลาชา หรือ การวาง (Delays) ดวยมือซาย 0 ครั้ง
ิธ์ ห
มือขวา 4 ครั้ง และ การถือ (Holds) ดวยมือซาย 12 ครั้ง มือขวา 0 ครั้ง เมื่อปรับปรุงวิธีการทํางานใหม พบวา การปฏิบัติงาน (Operations) ดวยมือซาย 4 ครั้ง มือขวา 4 ครั้ง การ
ขนสง (Transportations) ดวยมือซาย 4 ครั้ง มือขวา 4 ครั้ง การลาชา หรือ การวาง (Delays) ดวยมือซาย 0 ครั้ง มือขวา 2 ครั้ง และ การถือ (Holds) ดวยมือซาย 2 ครั้ง มือขวา 0
ครั้ง จากขอมูลขางตน ทานสามารถสรุปไดวาวิธีการทํางานใหมที่ปรับปรุงขึ้นดีกวาวิธีการเดิม (ปจจุบัน) เพราะเหตุผลขอใด
ิท
คําตอบ 1 : การทํางานเจาะรูรางเหล็กสําหรับติดบานพับแตละชิ้นโดยวิธีการที่ปรับปรุงจะใชเวลานอยลง โดยใชเวลาประมาณ 20/42 ของเวลาการทํางานดวยวิธีการเดิม (ปจจุบัน)
นส
จํานวนกิจกรรมทั้ง 4 ชนิด คือ การปฏิบัติงาน (Operations) การขนสง (Transportations) การลาชา (Delays) และ การถือ (Holds) ของวิธีการทํางานใหมที่ปรับ
ว
คําตอบ 2 : ปรุงมี 20 กิจกรรม ซึ่งนอยกวาจํานวนกิจกรรมทั้ง 4 ชนิด ของวิธีการทํางานเดิม (ปจจุบัน) ที่มี 42 กิจกรรม และวิธีการทํางานใหมที่ปรับปรุงมีการใชมือทั้งสองขางทํา
ง
งานอยางสมดุล
ส
วิธีการทํางานใหมที่ปรับปรุงขึ้นมีจํานวนการปฏิบัติงานของมือซายและมือขวาเพียง 8 ครั้ง ซึ่งนอยกวาจํานวนการปฏิบัติงานของมือซายและมือขวาในวิธีการทํางานเดิม
อ
คําตอบ 3 :
(ปจจุบัน) ที่มีถึง 20 ครั้ง
กร ข
คําตอบ 4 : วิธีการทํางานใหมที่ปรับปรุงขึ้นสามารถลดเวลาการทํางานโดยรวมใหนอยกวาเวลาการทํางานโดยวิธีการทํางานเดิม (ปจจุบัน)
ศ
ิ ว
ขอที่ : 154
าว
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ วิศวกรฝายผลิตทําการวิเคราะหหาวา คนงานหนึ่งคนควรจะควบ
คุมเครื่องกลึงกี่เครื่องจึงจะเหมาะสม จากการรวบรวมขอมูลพบวาคนงานใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 60 วินาที และใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 60 วินาที สวนขอมูลเวลา
ภ
ที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงานเทากับ 6 นาที จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
ส
คําตอบ 1 : 3 เครื่อง
คําตอบ 2 : 4 เครื่อง
คําตอบ 3 : 5 เครื่อง
คําตอบ 4 : 6 เครื่อง
ขอที่ : 155
35 of 102
ในการวิเคราะหการปฏิบัติงานและกิจกรรมในระดับมหภาค (Macro) เรานิยมใชแผนภูมิ Flow Process Chart ; FPC รวมกับแผนภูมิใด
คําตอบ 1 : Man/Machine Chart
คําตอบ 2 : Multiple Activity Chart
คําตอบ 3 : Flow Diagram
คําตอบ 4 : Simo Chart
ขอที่ : 156
่ า ย
ขอใดไมใชขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของการสรางแผนภูมิกระบวนการผลิต (Process Chart)
น
คําตอบ 1 : ระบุวิธีการผลิตชิ้นสวนที่เปนสวนประกอบของการผลิตผลิตภัณฑหลาย ๆ ชนิด เพื่อนํามาวิเคราะหการดําเนินการผลิตชิ้นสวนนั้น ๆ
ห
คําตอบ 2 : เลือกกิจกรรมที่ตองการศึกษาโดยกําหนดเจาะจงวาตองการศึกษากระบวนการของ คน วัสดุ ชิ้นสวน หรือ ผลิตภัณฑใด
จ ำ
คําตอบ 3 : เลือกจุดเริ่มตนและจุดสิ้นสุดโดยใหครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมดที่ตองการศึกษา
ม
คําตอบ 4 : เขียนแผนภูมิกระบวนการผลิตโดยในแผนภูมิตองประกอบดวย Heading , Description และ Summary
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 157
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ วิศวกรฝายผลิตทําการวิเคราะหหาวา คนงานหนึ่งคนควรจะควบ
ิท
คุมเครื่องกลึงกี่เครื่องจึงจะเหมาะสม จากการรวบรวมขอมูลพบวาคนงานใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 60 วินาที และใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 60 วินาที จากนั้นคนงาน
ส
ตองตรวจสอบชิ้นงานกลึง 30 วินาที เดินระหวางเครื่องกลึง 30 วินาที สวนขอมูลเวลาที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงานเทากับ 4 นาที จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะ
น
ควบคุม
ว
คําตอบ 1 : 1 เครื่อง
ส ง
คําตอบ 2 : 2 เครื่อง
อ
คําตอบ 3 : 3 เครื่อง
ข
คําตอบ 4 : 4 เครื่อง
ขอที่ : 158
ว กร
าว ศ
ิ
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ ทางโรงงานไดทําการวิเคราะหเชิงปริมาณเพื่อหาอัตราสวนที่
เหมาะสมระหวางคนงานกับเครื่องกลึง โดยขอมูลของคนงานและเครื่องกลึงเปนดังนี้
ภ
คนงาน: ใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 0.45 นาที
ส
ใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 0.45 นาที
คาจางคนงาน 40 บาทตอชั่วโมง
จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
คําตอบ 1 : 3 เครื่อง
คําตอบ 2 : 4 เครื่อง
คําตอบ 3 : 5 เครื่อง
คําตอบ 4 : 6 เครื่อง
ขอที่ : 159
่ า ย
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ ทางโรงงานไดทําการวิเคราะหเชิงปริมาณเพื่อหาอัตราสวนที่
น
เหมาะสมระหวางคนงานกับเครื่องกลึง โดยขอมูลของคนงานและเครื่องกลึงเปนดังนี้
ำ ห
คนงาน: ใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 0.45 นาที
มจ
า้
ิธ์ ห
ใชเวลาตรวจสอบชิ้นงาน 0.50 นาที
คาจางคนงาน 40 บาทตอชั่วโมง
ส ิท
เครื่องกลึง: เวลาที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงาน 3.50 นาที
ง ว น
ส
คาเครื่องกลึง คาบํารุงรักษาเครื่องกลึง และ คาไฟฟา 64 บาทตอชั่วโมง
ขอ
กร
จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
คําตอบ 1 : 6 เครื่อง
ว
คําตอบ 2 : 5 เครื่อง
าว ศ
ิ
คําตอบ 3 : 3 เครื่อง
คําตอบ 4 : 2 เครื่อง
ขอที่ : 160
ส
ขอใดถูกตอง
ภ
คําตอบ 1 : แผนภูมิกระบวนการผลิต (Process Chart) เหมาะสําหรับการวิเคราะหการทํางานของคนงานและเครื่องจักรวามีความสัมพันธกันอยางไร
คําตอบ 2 : แผนภูมิการปฏิบัติงาน (Operation Chart) มีชื่อเรียกอีกอยางหนึ่งวา แผนภูมิมือขวาและมือซาย (Left and Right Hand Chart)
คําตอบ 3 : แผนภูมิกิจกรรม (Activity Chart) คือแผนภูมิแสดงขั้นตอนการทํางาน
คําตอบ 4 : แผนภาพการไหล (Flow Diagram) เหมาะสําหรับการวิเคราะหรายละเอียดในการทํางานของมือทั้งสองขาง
37 of 102
ขอที่ : 161
ขอใดเปนการศึกษาการทํางานในระดับมหภาค (Macro Motion Study)
คําตอบ 1 : การใชแผนภูมิกิจกรรมเพื่อศึกษาการทํางานของงานกลึง
คําตอบ 2 : การใชแผนผังการไหลเพื่อศึกษาการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นในการผลิตหนึ่ง ๆ
คําตอบ 3 : การศึกษาการทํางานของพนักงานโดยใช Simo Chart
คําตอบ 4 : การวิเคราะหการเคลื่อนไหวของพนักงานหนึ่งคน
่ า ย
น
ขอที่ : 162
ห
ในการวิเคราะหการทํางานของชางกลึงเหล็กคนหนึ่งพบวา เวลาที่ชางเอาแทงเหล็กใสเขาไปยังเครื่องกลึงแลวตั้งมีดกลึงและตั้งเครื่องกลึงใหทํางานโดยอัตโนมัติมีคาเทากับ 2.00
ำ
นาที หลังจากนั้นชางก็จะปลอยใหเครื่องกลึงทํางานเองเปนเวลา 1.15 นาที (ในชวงที่เครื่องกลึงทํางานชางจะวางงาน) หลังจากนั้นชางจะนําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึงโดยใชเวลา
จ
0.45 นาที จงหาเปอรเซ็นตการทํางานของชางกลึงคนนี้
า้ ม
คําตอบ 1 : 31.94 เปอรเซ็นต
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : 68.06 เปอรเซ็นต
คําตอบ 3 : 87.50 เปอรเซ็นต
คําตอบ 4 : 100.00 เปอรเซ็นต
ส ิท
น
ขอที่ : 163
ว
ในการวิเคราะหการทํางานของชางกลึงเหล็กคนหนึ่งพบวา เวลาที่ชางเอาแทงเหล็กใสเขาไปยังเครื่องกลึงแลวตั้งมีดกลึงและตั้งเครื่องกลึงใหทํางานโดยอัตโนมัติมีคาเทากับ 2.35
ง
นาที หลังจากนั้นชางก็จะปลอยใหเครื่องกลึงทํางานเองโดยอัตโนมัติเปนเวลา 2.05 นาที หลังจากนั้นชางจะนําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึงโดยใชเวลา 1.00 นาที จงหาเปอรเซ็นตวาง
ส
งานของชางกลึงคนนี้
คําตอบ 1 : 37.96 เปอรเซ็นต
ขอ
กร
คําตอบ 2 : 43.52 เปอรเซ็นต
ว
คําตอบ 3 : 62.04 เปอรเซ็นต
ศ
ิ
คําตอบ 4 : 81.48 เปอรเซ็นต
ขอที่ : 164
ภ าว
ส
สัญลักษณที่ใชในการสรางแผนภูมิมือขวาและมือซาย (Left and Right Hand Chart) ซึ่งบอกถึงการรอคอย (D) มีความหมายอยางไร
คําตอบ 1 : เวลาใดที่ชิ้นงานตองรอคอยคนงานมาดําเนินการแปรสภาพทางดานกายภาพหรือเคลื่อนยายไปยังจุดอื่น ๆ ที่จะตองมีการดําเนินการตอไป
คําตอบ 2 : เวลาที่เครื่องจักรรอคอยคนงานมาดําเนินการใสชิ้นงานและ/หรือถอดชิ้นงานออกหลังจากที่เครื่องจักรไดปฏิบัติการไปแลว
คําตอบ 3 : เวลาใดที่มือขางหนึ่งวางงาน (ไมตองทํางาน) ในขณะเดียวกันมืออีกขางไมจําเปนตองวางไปดวยก็ได
คําตอบ 4 : เวลาใดที่มือขางหนึ่งของคนงานกําลังทํางานควบคุมเครื่องจักรหรืออุปกรณขณะที่มืออีกขางหนึ่งอาจจะวางงานหรือไมก็ได
38 of 102
ขอที่ : 165
วิศวกรฝายผลิตของโรงงานแหงหนึ่งซึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องโดยแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และใชงานในการผลิตชิ้นงานเหมือนกันทุกประการ ตองการวิเคราะหวา คน
งานหนึ่งคนควรจะควบคุมเครื่องกลึงกี่เครื่อง เขาจึงทําการรวบรวมขอมูลพบวาคนงานใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 90 วินาที และใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 60 วินาที
สวนขอมูลเวลาที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงานเทากับ 5 นาที จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
คําตอบ 1 : 1 เครื่อง
คําตอบ 2 : 2 เครื่อง
คําตอบ 3 : 3 เครื่อง
ย
คําตอบ 4 : 4 เครื่อง
ขอที่ :
น่ า
ห
166
ำ
การเก็บขอมูลการทํางานแบบมหภาค (Macro Motion Study) และ แบบจุลภาค (Micro Motion Study) แตกตางกันอยางไร
จ
คําตอบ 1 : แบบมหภาคจะใชศึกษาวิธีการทํางานตั้งแตตนกระบวนการจนสิ้นสุดกระบวนการ แตแบบจุลภาคจะเนนที่กระบวนการหนึ่ง ๆ
า้ ม
คําตอบ 2 : แบบมหภาคจะเนนศึกษาการเคลื่อนไหวของคนแตแบบจุลภาคจะเนนการทํางานของเครื่องจักร
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : แบบมหภาคจะมีสัญลักษณแสดงกิจกรรมการทํางาน (วงกลม) และการตรวจสอบ (สี่เหลี่ยม) เทานั้น แตแบบจุลภาคมีครบทุกกิจกรรม
คําตอบ 4 : แบบมหภาคใหขอมูลการทํางานของคนที่ละเอียดกวาแบบจุลภาค
ขอที่ : 167
ส ิท
น
ในเครื่องมือบันทึกขอมูลวิธีการทํางานเครื่องมือใดที่ไมพบเครื่องหมายแสดงกิจกรรมในการทํางานที่เปนรูปลูกศร
ง ว
คําตอบ 1 : ผังแสดงการไหล (Flow Diagram)
ส
คําตอบ 2 : แผนภูมิกระบวนการผลิตโดยสังเขป (Outline Process Chart)
อ
คําตอบ 3 : แผนภูมิมือซาย-ขวา (Left-Right/Operation Chart)
ข
คําตอบ 4 : แผนภูมิกระบวนการผลิต (Flow Process Chart)
ขอที่ :
ว กร
ศ
ิ
168
าว
ในการบันทึกขอมูลโดยใชเครื่องมือบันทึกขอมูลแบบตาง ๆ ขอมูลใดที่พบในผังการไหล (Flow Diagram) แตไมพบในแผนภูมิกระบวนการผลิต (Flow Process Chart)
คําตอบ 1 : ขั้นตอนการทํางาน
ส ภ
คําตอบ 2 : ระยะทางในการเคลื่อนที่
คําตอบ 3 : การเคลื่อนที่ตัดกันระหวางขั้นตอนการทํางาน
คําตอบ 4 : เครื่องหมายลูกศร
ขอที่ : 169
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ วิศวกรตองการวิเคราะหวา คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุมเครื่อง
กลึงกี่เครื่องจึงจะเหมาะสม จากการรวบรวมขอมูลพบวาคนงานใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 45 วินาที และใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 30 วินาที สําหรับเวลาที่เครื่องกลึง
39 of 102
ทําการกลึงชิ้นงานนั้นเทากับ 5 นาที จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุมได
คําตอบ 1 : 2 เครื่อง
คําตอบ 2 : 3 เครื่อง
คําตอบ 3 : 4 เครื่อง
คําตอบ 4 : 5 เครื่อง
ขอที่ : 170
่ า ย
โรงงานแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องและแตละเครื่องใชงานเหมือนกันทุกประการ จากการรวบรวมขอมูลเวลาที่ใชทํางาน พบวาคนงานใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 30 วินาที
น
นําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 30 วินาที จากนั้นคนงานตองตรวจสอบชิ้นงานกลึง 30 วินาที เดินระหวางเครื่องกลึง 30 วินาที สําหรับเวลาที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงานนั้นเทากับ 5
ห
นาที จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุมได
ำ
คําตอบ 1 : 4 เครื่อง
จ
คําตอบ 2 : 3 เครื่อง
า้ ม
คําตอบ 3 : 2 เครื่อง
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : 1 เครื่อง
ขอที่ :
ิท
171
ส
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) ซึ่งประกอบดวยคนงาน 2 คน และเครื่องขัด 1 เครื่อง โดยคนที่ 1 ขัดและทําความสะอาดถวยใช
น
เวลา 0.8 นาทีตอชิ้น คนที่ 2 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น ทั้งนี้ในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น จงหาจํานวนถวยที่จะผลิตไดตอชั่วโมง
ว
คําตอบ 1 : 150 ชิ้นตอชั่วโมง
ส ง
คําตอบ 2 : 120 ชิ้นตอชั่วโมง
อ
คําตอบ 3 : 75 ชิ้นตอชั่วโมง
ข
คําตอบ 4 : 35 ชิ้นตอชั่วโมง
ขอที่ : 172
ว กร
าว ศ
ิ
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) ซึ่งประกอบดวยคนงาน 2 คน และเครื่องขัด 1 เครื่อง โดยคนที่ 1 ขัดและทําความสะอาดถวยใช
เวลา 0.8 นาทีตอชิ้น คนที่ 2 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น ทั้งนี้ในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น จงหาเปอรเซ็นตการทํางานของคนงานคนที่
ภ
1 , 2 และเครื่องจักร ตามลําดับ
ส
คําตอบ 1 : 47.06 % , 29.41 % และ 23.53 % ตามลําดับ
คําตอบ 2 : 66.67 % , 41.67 % และ 33.33 % ตามลําดับ
คําตอบ 3 : 88.89 % , 55.56 % และ 44.44 % ตามลําดับ
คําตอบ 4 : 100.00 % , 62.50 % และ 50.00 % ตามลําดับ
ขอที่ : 173
40 of 102
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) ซึ่งประกอบดวยคนงาน 3 คน และเครื่องขัด 1 เครื่อง โดยคนที่ 1 ขัดถวยดวยเครื่องจักรใชเวลา
0.4 นาทีตอชิ้น คนที่ 2 ทําความสะอาดถวยใชเวลา 0.3 นาทีตอชิ้น คนที่ 3 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น ทั้งนี้ในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอ
ชิ้น จงหาจํานวนถวยที่จะผลิตไดตอชั่วโมง
คําตอบ 1 : 200 ชิ้นตอชั่วโมง
คําตอบ 2 : 120 ชิ้นตอชั่วโมง
คําตอบ 3 : 75 ชิ้นตอชั่วโมง
คําตอบ 4 : 50 ชิ้นตอชั่วโมง
่ า ย
ขอที่ : 174
น
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) ซึ่งประกอบดวยคนงาน 3 คน และเครื่องขัด 1 เครื่องโดยคนที่ 1 ขัดถวยดวยเครื่องจักรใชเวลา
ห
0.4 นาทีตอชิ้น คนที่ 2 ทําความสะอาดถวยใชเวลา 0.3 นาทีตอชิ้น คนที่ 3 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น ทั้งนี้ในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอ
ำ
ชิ้น จงหาเปอรเซ็นตการทํางานของคนงานคนที่ 1 , 2 , 3 และเครื่องจักร
จ
คําตอบ 1 : 80.00 % , 60.00 % , 100.00 % และ 80.00 % ตามลําดับ
า้ ม
คําตอบ 2 : 57.14% , 42.86 % , 71.43 % และ 57.14 % ตามลําดับ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : 33.33 % , 25.00 % , 41.67 % และ 33.33 % ตามลําดับ
คําตอบ 4 : 25.00 % , 18.75 % , 31.25 % และ 25.00 % ตามลําดับ
ขอที่ : 175
ส ิท
น
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) ซึ่งประกอบดวยคนงาน 2 คน และเครื่องขัด 1 เครื่องโดยคนที่ 1 ขัดและทําความสะอาดถวยใช
ว
เวลา 0.8 นาทีตอชิ้น คนที่ 2 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น ทั้งนี้ในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น จงหาเวลาวงรอบ (Cycle Time) ของขั้น
ง
ตอนนี้
อ ส
คําตอบ 1 : 1.3 นาทีตอชิ้น
ข
คําตอบ 2 : 1.2 นาทีตอชิ้น
กร
คําตอบ 3 : 1.7 นาทีตอชิ้น
ว
คําตอบ 4 : 0.8 นาทีตอชิ้น
ขอที่ : 176
าว ศ
ิ
ภ
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) มีคนงาน 2 คน ชวยกันทํางาน โดยคนที่ 1 ขัดและทําความสะอาดถวยใชเวลา 0.8 นาทีตอชิ้น
ส
คนที่ 2 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น และในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น สมมติวาคาจางคนงานคนละ 25 บาทตอชั่วโมง และคาใชเครื่อง
จักรชวยขัดถวยเทากับ 70 บาทตอชั่วโมง จงหาคาจางคนงานและคาใชเครื่องจักรในขั้นตอนนี้ที่ผลิตถวยดังกลาวตอชิ้น
คําตอบ 1 : 1.60 บาทตอชิ้น
คําตอบ 2 : 1.20 บาทตอชิ้น
คําตอบ 3 : 1.00 บาทตอชิ้น
คําตอบ 4 : 0.80 บาทตอชิ้น
41 of 102
ขอที่ : 177
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) มีคนงาน 3 คน ชวยกันทํางาน โดยคนที่ 1 ขัดถวยดวยเครื่องจักรใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น คนที่ 2
ทําความสะอาดถวยใชเวลา 0.3 นาทีตอชิ้น คนที่ 3 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น และในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น จงหาเวลาวงรอบ
(Cycle Time) ของขั้นตอนนี้
คําตอบ 1 : 1.6 นาทีตอชิ้น
คําตอบ 2 : 1.2 นาทีตอชิ้น
คําตอบ 3 : 0.8 นาทีตอชิ้น
ย
คําตอบ 4 : 0.5 นาทีตอชิ้น
น่ า
ห
ขอที่ : 178
ำ
จากแผนภูมิคนและเครื่องจักรของขั้นตอนหนึ่งในการผลิตถวยสแตนเลส (Stainless) มีคนงาน 3 คน ชวยกันทํางาน โดยคนที่ 1 ขัดถวยดวยเครื่องจักรใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น คนที่ 2
จ
ทําความสะอาดถวยใชเวลา 0.3 นาทีตอชิ้น คนที่ 3 บรรจุถวยใชเวลา 0.5 นาทีตอชิ้น และในการขัดถวยจะใชเครื่องจักรชวยทํางานโดยใชเวลา 0.4 นาทีตอชิ้น สมมติวาคาจางคนงาน
ม
คนละ 30 บาทตอชั่วโมง และคาใชเครื่องจักรชวยขัดถวยเทากับ 70 บาทตอชั่วโมง จงหาคาจางคนงานและคาใชเครื่องจักรในขั้นตอนนี้ที่ผลิตถวยดังกลาวตอชิ้น
า้
คําตอบ 1 : 0.50 บาทตอชิ้น
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : 1.07 บาทตอชิ้น
คําตอบ 3 : 1.33 บาทตอชิ้น
ิท
คําตอบ 4 : 4.27 บาทตอชิ้น
นส
ว
ขอที่ : 179
ง
เหตุการณการเคลื่อนที่ยอนกลับไปมา (Backtracking) พบไดในเครื่องมือบันทึกขอมูลเครื่องมือใด
อ ส
คําตอบ 1 : Flow Process Chart
ข
คําตอบ 2 : Flow Diagram
กร
คําตอบ 3 : Man-Machine Chart
ว
คําตอบ 4 : Gang-Chart
ขอที่ : 180
าว ศ
ิ
ภ
เครื่องมือบันทึกขอมูลเครื่องมือใด สามารถใชเปนแนวทางในการจัดผังการผลิตของผลิตภัณฑใหม
ส
คําตอบ 1 : Flow Process Chart
คําตอบ 2 : Flow Diagram
คําตอบ 3 : Man-Machine Chart
คําตอบ 4 : Outline Process Chart
ขอที่ : 181
42 of 102
กิจกรรมใดตอไปนี้แทนดวยเครื่องหมายวงกลมในผังกระบวนการผลิต
คําตอบ 1 : การซอมชิ้นงานเสีย
คําตอบ 2 : การขนวัสดุ
คําตอบ 3 : การวัดระยะเพื่อวาดแบบบนแผนเหล็ก
คําตอบ 4 : การรอรถสงของ
ขอที่ : 182
่ า ย
กิจกรรมใดตอไปนี้แทนดวยเครื่องหมายคลายอักษรภาษาอังกฤษตัว ดี ในผังกระบวนการผลิต
น
คําตอบ 1 : ชิ้นงานรอแหงกอนทําการบรรจุหีบหอ
ห
คําตอบ 2 : ชิ้นงานรอเขากระบวนการผลิตกอนเริ่มการผลิต
จ ำ
คําตอบ 3 : ชิ้นงานรอซอม
ม
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 183
กิจกรรมใดตอไปนี้แทนดวยเครื่องหมายสามเหลี่ยมหัวกลับ ในผังกระบวนการผลิต
ิท
คําตอบ 1 : Work In Process
ส
คําตอบ 2 : ชิ้นสวนจากชั้นวางขางสายการผลิต
ว น
คําตอบ 3 : ชิ้นงานวางบนรถเข็นในคลังเก็บชิ้นงานเพื่อรอนําไปใชในสายการผลิตหลักตอไป
ง
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
อ ส
ข
ขอที่ : 184
กร
เครื่องมือบันทึกเครื่องมือใดที่งายตอการวิเคราะหหาชิ้นสวนหลัก ชิ้นสวนรองในการผลิต
ว
คําตอบ 1 : Flow Process Chart
ศ
ิ
คําตอบ 2 : Flow Diagram
าว
คําตอบ 3 : Outline Process Chart
ภ
คําตอบ 4 : Man-Machine Chart
ขอที่ : 185
ส
เครื่องมือบันทึกเครื่องมือใดแสดงชิ้นสวนและความสัมพันธของชิ้นสวนทั้งหมดไดอยางรวดเร็ว
คําตอบ 1 : Outline Process Chart
คําตอบ 2 : Flow Process Chart
คําตอบ 3 : Flow Diagram
43 of 102
คําตอบ 4 : Man-Machine Chart
ขอที่ : 186
จาก Process Chart สามารถแบงวัสดุการผลิตไดเปนอะไรบาง
คําตอบ 1 : วัสดุหลักและวัสดุรอง
คําตอบ 2 : วัสดุทางตรงและวัสดุทางออม
คําตอบ 3 : วัสดุสิ้นเปลืองและวัสดุใชแลวหมดไป
ย
คําตอบ 4 : วัตถุดิบและชิ้นสวน
น่ า
ห
ขอที่ : 187
ำ
จาก Process Chart สามารถแบงชิ้นสวนการผลิตไดเปนอะไรบาง
คําตอบ 1 : ชิ้นสวนผลิตและชิ้นสวนซื้อ
มจ
า้
คําตอบ 2 : ชิ้นสวนหลักและชิ้นสวนซื้อ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : ชิ้นสวนหลักและชิ้นสวนผลิต
คําตอบ 4 : ชิ้นสวนซื้อและชิ้นสวนจางทํา
ขอที่ : 188
ส ิท
ว น
การวิเคราะหขอมูลจาก Flow Diagram ที่แสดงเฉพาะเสนทางการไหลของงาน จะใชคําถามใดมากที่สุด
ง
คําตอบ 1 : Why
ส
คําตอบ 2 : When
อ
คําตอบ 3 :
ข
Where
กร
คําตอบ 4 : How
ขอที่ : 189
ศ
ิ ว
าว
การวิเคราะหกิจกรรม Operation จาก Flow Process Chart จะใชคําถามใดมากที่สุด
ภ
คําตอบ 1 : what
ส
คําตอบ 2 : Who
คําตอบ 3 : Where
คําตอบ 4 : When
ขอที่ : 190
สัญลักษณใดที่ไมพบใน Outline Process Chart (แผนภูมิกระบวนการผลิตโดยสังเขป)
44 of 102
คําตอบ 1 : สี่เหลี่ยม
คําตอบ 2 : วงกลม
คําตอบ 3 : ลูกศร
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 191
สัญลักษณใดที่ไมพบใน Process Chart
คําตอบ 1 : สี่เหลี่ยม
่ า ย
น
คําตอบ 2 : วงกลม
ห
คําตอบ 3 : หาเหลี่ยม
จ ำ
คําตอบ 4 : ลูกศร
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
192
บริษัทแหงหนึ่งใชเครื่องจักรเปนอุปกรณหลักในการผลิต ซึ่งมีเครื่องจักรทั้งหมด 3 เครื่อง ถาตองการเปรียบเทียบชวงการใชงานของเครื่องจักรทั้งสามเครื่องในหนึ่งวัน ควรใชเครื่อง
มือใดบันทึกขอมูล
ิท
คําตอบ 1 : Process Chart
ส
คําตอบ 2 : Multi-Activity Chart
น
คําตอบ 3 :
ว
Man-Machine Chart
ง
คําตอบ 4 : Gang Chart
อ ส
ข
ขอที่ : 193
กร
ขอใดคือประโยชนโดยตรงในการปรับปรุงการทํางานที่ไดจากการใชขอมูลจาก Man-Machine Chart
ว
คําตอบ 1 : ลดเวลาวางงาน
ศ
ิ
คําตอบ 2 : เวลาตอรอบการทํางาน
าว
คําตอบ 3 : ปรับเปลี่ยนวิธีการทํางานใหม
ภ
คําตอบ 4 : ลดการเคลื่อนที่ของคน
ขอที่ : 194
ส
ขอใดเปนกิจกรรมที่เปนการเตรียมพรอม
คําตอบ 1 : Loading
คําตอบ 2 : Cleaning
คําตอบ 3 : Transport
คําตอบ 4 : Cutting 45 of 102
ขอที่ : 195
คําถามใดที่ใชในการวิเคราะหจุดประสงคการทํางาน
คําตอบ 1 : Where
คําตอบ 2 : How
คําตอบ 3 : What
ย
คําตอบ 4 : Who
น่ า
ห
ขอที่ : 196
ำ
คําถามใดที่ใชในการวิเคราะหลําดับการทํางาน
คําตอบ 1 : Where
มจ
า้
คําตอบ 2 : When
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : What
คําตอบ 4 : Who else
ขอที่ : 197
ส ิท
ว น
เปาหมายของคําถามที่ขึ้นตนดวย Why คืออะไร
ง
คําตอบ 1 : เพื่อวิเคราะหจุดประสงคของการทํางาน
ส
คําตอบ 2 : เพื่อวิเคราะหลําดับการทํางาน
อ
คําตอบ 3 : เพื่อวิเคราะหการเคลื่อนที่
คําตอบ 4 : เพื่อวิเคราะหหาผูกระทํา
กร ข
ขอที่ : 198
ศ
ิ ว
าว
สัญลักษณสี่เหลี่ยมในแผนภูมิกระบวนการผลิตหมายถึงอะไร
ภ
คําตอบ 1 : แทนการปฎิบัติงาน
ส
คําตอบ 2 : แทนการตรวจสอบงาน
คําตอบ 3 : แทนการขนถาย
คําตอบ 4 : แทนที่เก็บงานถาวร
ขอที่ : 199
คําวา Process Chart คือขอใด
46 of 102
คําตอบ 1 : แผนภูมิกระบวนการผลิต
คําตอบ 2 : แผนภูมิคนและเครื่องจักร
คําตอบ 3 : แผนภูมิการตรวจสอบ
คําตอบ 4 : แผนภูมิการแยกการทํางาน
ขอที่ : 200
ขอใดไมใชประเภทของแผนภูมิกระบวนการผลิต (Process Chart)
คําตอบ 1 : ประเภทคน
่ า ย
น
คําตอบ 2 : ประเภทวัสดุ
ห
คําตอบ 3 : ประเภทเครื่องจักร
จ ำ
คําตอบ 4 : ประเภทการผลิต
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
201
สัญลักษณ O ของแผนภูมิกระบวนการผลิตมีความหมายวาอยางไร
คําตอบ 1 : การตรวจงาน
ิท
คําตอบ 2 : การปฎิบัติงาน
ส
คําตอบ 3 : การขนถาย
ว น
คําตอบ 4 : การเก็บพักถาวร
ส ง
อ
ขอที่ : 202
ข
จงเรียงตามลําดับสัญลักษณของแผนภูมิกระบวนการผลิต ดังนี้ 1. การปฎิบัติงาน 2. การตรวจสอบงาน 3. การขนถาย 4. เก็บพักชั่วคราว 5. เก็บพักถาวร
กร
คําตอบ 1 :
ศ
ิ ว
าว
คําตอบ 2 :
ภ
คําตอบ 3 :
ส
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 203
ขอใดเปนแผนภูมิที่ใชศึกษาและบันทึกการเคลื่อนไหวการปฎิบัติงานของคนงานที่ทํางานบนโตะ
คําตอบ 1 : Flow Process Chart
47 of 102
คําตอบ 2 : Outline Process Chart
คําตอบ 3 : Left and Right Hand Chart
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 204
โรงงานผลิตชิ้นสวนยานยนตแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ วิศวกรฝายผลิตของโรงงานไดทําการ
วิเคราะหเชิงปริมาณเพื่อหาอัตราสวนที่เหมาะสมระหวางคนงานกับเครื่องกลึง โดยขอมูลของคนงานและเครื่องกลึงเปนดังนี้
่ า ย
ใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 0.45 นาที
หน
คาจางคนงาน 55 บาทตอชั่วโมง
จ ำ
า้ ม
ิธ์ ห
เครื่องกลึง: เวลาที่เครื่องกลึงทําการกลึงชิ้นงาน 4.50 นาที
ิท
จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
คําตอบ 1 : 8 เครื่อง
นส
ว
คําตอบ 2 : 7 เครื่อง
ส ง
คําตอบ 3 : 6 เครื่อง
อ
คําตอบ 4 : 5 เครื่อง
ขอที่ : 205
กร ข
ศ
ิ ว
โรงงานผลิตชิ้นสวนยานยนตแหงหนึ่งมีเครื่องกลึงหลายเครื่องแตละเครื่องทํางานดวยระบบอัตโนมัติ และมีการใชงานเหมือนกันทุกประการ วิศวกรฝายผลิตของโรงงานไดทําการ
าว
วิเคราะหเชิงปริมาณเพื่อหาอัตราสวนที่เหมาะสมระหวางคนงานกับเครื่องกลึง โดยขอมูลของคนงานและเครื่องกลึงเปนดังนี้
ภ
คนงาน: ใชเวลาใสชิ้นงานเขาเครื่องกลึง 0.55 นาที
ส
ใชเวลานําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 0.50 นาที
ใชเวลาเดินระหวางเครื่องกลึง0.40 นาที
จงหาจํานวนเครื่องกลึงที่คนงานหนึ่งคนควรจะควบคุม
คําตอบ 1 : 2 เครื่อง
คําตอบ 2 : 3 เครื่อง
คําตอบ 3 : 4 เครื่อง
่ า ย
คําตอบ 4 : 5 เครื่อง
ขอที่ :
หน
ำ
206
จ
การศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดโดยการถายทําเปนภาพยนตรซึ่งเหมาะสมกับการศึกษาการทํางานซ้ํา ๆ กันที่มีวงจร (Cycle) สั้น ๆ และการทํางานสังเกตได
ม
ยาก เชน การหยิบสิ่งของ การวางสิ่งของ เปนตน อยากทราบวาการศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดมีจุดประสงคอะไร
า้
คําตอบ 1 : เพิ่มความชัดเจนในการทํางานและชวยใหคนงานทุกคนทํางานทุกงานไดงายขึ้นจนสามารถทํางานไดหลายงาน
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : ชวยใหคนงานมีความเขาใจถึงการทํางานนั้น ๆ และเพิ่มความสมดุลในระบบการผลิตขององคกร
คําตอบ 3 : หาวิธีการทํางานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและชวยฝกคนงานใหคุนเคยกับการทํางานที่ดี
ิท
คําตอบ 4 : สงเสริมและพัฒนาบุคลากรขององคกรใหมีศักยภาพในการทํางานอยางตอเนื่องและยาวนานยิ่งขึ้น
ขอที่ :
นส
ว
207
ง
ขอใดถูกตอง
ส
คําตอบ 1 : การศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดริเริ่มขึ้นโดย Frank B. Gilbreth และไดแบงขั้นตอนการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมือทั้งสองขางออกเปน 17 แบบ
อ
คําตอบ 2 : การศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดมักจะนําไปประยุกตใชไดกับทุก ๆ กิจกรรม เชน การขนสินคาขึ้นรถบรรทุกโดยใชคนงานหลายคนชวยกันทํางาน
คําตอบ 3 :
กร ข
การศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดควรนํามาใชกับการเชื่อมตัวถังรถยนตโดยเครื่องเชื่อมที่ควบคุมดวยระบบคอมพิวเตอรเพื่อลดเวลาในการทํางาน
การศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดจะใชคัดเลือกพนักงานที่มีความละเอียดและทํางานอยางระมัดระวังมาทําหนาที่รวบรวมขอมูลตาง ๆ เชน การ
ว
คําตอบ 4 :
เคลื่อนยายสินคาโดยรถยก
ขอที่ :
าว ศ
ิ
ภ
208
ส
ประกอบ (Assemble) ในการวิเคราะหการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดคืออะไร
คําตอบ 1 : การวางสิ่งของใหอยูในตําแหนงที่เหมาะสมสําหรับที่จะไดเคลื่อนยายไปภายหลังจากการวางนี้ เพื่อใหงายตอการจับประกอบ
การวางหรือการหมุนสิ่งของใหเขาที่พรอมที่จะประจําตําแหนง การวางเขาที่อาจเกิดพรอมกับการขนสงก็ได โดยเริ่มจากการเริ่มวางสิ่งของลงตรงตําแหนงและสิ้นสุด
คําตอบ 2 :
เมื่อสิ่งของเขาไปอยูในที่แลว
การวางสิ่งของชิ้นหนึ่งลงบนหรือในสิ่งของอีกชิ้นหนึ่งเพื่อใหเกิดเปนชิ้นเดียวกัน โดยเริ่มจากการที่มือเริ่มจับสิ่งของเขาไปประกอบกันและสิ้นสุดเมื่อประกอบสิ่งของนั้น
คําตอบ 3 :
เรียบรอย
คําตอบ 4 : การวางสิ่งของใหอยูในตําแหนงที่จะตองประกอบพรอมทั้งชวยใหเกิดการเคลื่อนยายสิ่งของนั้นไปยังอีกตําแหนงที่ตองการไดโดยงาย
49 of 102
ขอที่ : 209
วางเขาที่ (Position) ในการวิเคราะหการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมืออยางละเอียดคืออะไร
คําตอบ 1 : การวางสิ่งของใหอยูในตําแหนงที่เหมาะสมสําหรับที่จะไดเคลื่อนยายไปภายหลังจากการวางนี้ เพื่อใหงายตอการจับประกอบหรือทําการผลิตตอไป
คําตอบ 2 : การวางสิ่งของใหอยูในตําแหนงที่จะตองประกอบพรอมทั้งชวยใหเกิดการเคลื่อนยายสิ่งของนั้นไปยังอีกตําแหนงที่ตองการไดโดยงาย
การวางสิ่งของชิ้นหนึ่งลงบนหรือในสิ่งของอีกชิ้นหนึ่งเพื่อใหเกิดเปนชิ้นเดียวกัน โดยเริ่มจากการที่มือเริ่มจับสิ่งของเขาไปประกอบกันและสิ้นสุดเมื่อประกอบสิ่งของนั้น
คําตอบ 3 :
เรียบรอย
ย
การวางหรือการหมุนสิ่งของใหเขาที่พรอมที่จะประจําตําแหนง การวางเขาที่อาจเกิดพรอมกับการขนสงก็ได โดยเริ่มจากการเริ่มวางสิ่งของลงตรงตําแหนงและสิ้นสุด
คําตอบ 4 :
่ า
เมื่อสิ่งของเขาไปอยูในที่แลว
หน
ำ
ขอที่ : 210
จ
SIMO Chart คืออะไร
า้ ม
คําตอบ 1 : ผังแสดงการทํางานแบบมหภาคที่มีการกําหนดระดับความยากงายในการทํางาน
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : ผังแสดงการทํางานมือซาย-ขวาที่มีการใสสเกลเวลาในการบันทึกขอมูล
คําตอบ 3 : ผังแสดงการทํางานของอวัยวะของรางกายดานซาย-ขวาที่แสดงออกถึงความพยายามและความลาที่เกิดขึ้นในการทํางานดวย
คําตอบ 4 : ผังแสดงการทํางานที่เปรียบเทียบกิจกรรม 2 กิจกรรมบนเสกลเวลา
ส ิท
น
ขอที่ : 211
ว
การติดดวงไฟดวงเล็ก ๆ ไวที่นิ้วมือหรือแขนหรือสวนอื่น ๆ ของรางกายของคนงาน แลวถายดวยกลองถายภาพ เพื่อวิเคราะหลําแสงตามที่มือเคลื่อนที่ เรียกวาอะไร
คําตอบ 1 : Memomotion Study
ส ง
อ
คําตอบ 2 : Cyclograph
ข
คําตอบ 3 :
กร
Chrono Cyclegraph
คําตอบ 4 : Therbling
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 212
ถาตองการศึกษาความสมดุลในการทํางานของมือทั้งสองขาง ควรใชเครื่องมือใด
ภ
คําตอบ 1 :
ส
Operation Chart
คําตอบ 2 : Simo Chart
คําตอบ 3 : Left-Right Hand Chart
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 213
สเกลเทากับ 1 ในการประเมินความพยายามในการทํางานโดยใชมือทั้งสองขางจาก Simo Chart หมายถึงขอใด 50 of 102
คําตอบ 1 : Bending
คําตอบ 2 : Grasping
คําตอบ 3 : Twisting
คําตอบ 4 : Lifting
ขอที่ : 214
สเกลเทากับ 5 ในการประเมินความพยายามในการทํางานโดยใชมือทั้งสองขางจาก Simo Chart หมายถึงขอใด
คําตอบ 1 : Bending
่ า ย
น
คําตอบ 2 : Releasing
ห
คําตอบ 3 : Preparing
จ ำ
คําตอบ 4 : Reaching
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
215
การหา Utilization ของการใชมือในการทํางานสามารถหาไดจากขอมูลใด
คําตอบ 1 : Operation Chart บนสเกลเวลา
ิท
คําตอบ 2 : Man-Machine Chart
ส
คําตอบ 3 : Left-Right Hand Chart
ว น
คําตอบ 4 : Activity Chart
ส ง
อ
ขอที่ : 216
ข
สัญลักษณใดที่ใชแสดงวามือกําลังวางงาน (ไมไดทํางาน)
กร
คําตอบ 1 : วงกลม
ว
คําตอบ 2 : สี่เหลี่ยม
ศ
ิ
คําตอบ 3 : ลูกศร
าว
คําตอบ 4 : D
ขอที่ : 217
ส ภ
สัญลักษณใดที่ใชแสดงวามือกําลังทํางาน
คําตอบ 1 : วงกลม
คําตอบ 2 : สี่เหลี่ยม
คําตอบ 3 : ลูกศร
คําตอบ 4 : D
51 of 102
ขอที่ : 218
สัญลักษณใดที่ใชแสดงวามือกําลังเคลื่อนที่
คําตอบ 1 : วงกลม
คําตอบ 2 : สี่เหลี่ยม
คําตอบ 3 : ลูกศร
คําตอบ 4 : D
่ า ย
น
ขอที่ : 219
ห
สัญลักษณใดที่ใชแสดงวามือกําลังถือชิ้นงาน
จ ำ
คําตอบ 1 : วงกลม
ม
คําตอบ 2 : สี่เหลี่ยม
า้
คําตอบ 3 : ลูกศร
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : สามเหลี่ยมหัวกลับ
ิท
ขอที่ : 220
ส
ขอใดจัดเปน Micromotion Study
ว น
คําตอบ 1 : การศึกษาการทํางานของพนักงานในขณะใชเครื่องมืออยางงาย
ง
คําตอบ 2 : การศึกษาการทํางานของพนักงานในขณะใชเครื่องจักร
ส
คําตอบ 3 : การศึกษาการใชมือของพนักงานในการประกอบชิ้นสวน
อ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
กร ข
ว
ขอที่ : 221
ศ
ิ
แผนผังที่ใหขอมูลการทํางานคลายกับ ขอมูลการศึกษาการเคลื่อนไหวของมือโดยละเอียดโดยใช Left-Right Hand Chart คือขอใด
าว
คําตอบ 1 : Simo Chart
ภ
คําตอบ 2 : Man-Machine Chart
ส
คําตอบ 3 : Micromotion Chart
คําตอบ 4 : Activity Chart
ขอที่ : 222
ขอใดแทนดวยสัญลักษณวงกลมในการศึกษาการใชมือโดยใช Left-Right Hand Chart
คําตอบ 1 : มือซายถือชิ้นงาน
52 of 102
คําตอบ 2 : มือขวาเคลื่อนไปหยิบชิ้นสวน
คําตอบ 3 : มือทั้งสองขางตรวจสอบชิ้นงาน
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 223
การศึกษาการเคลื่อนไหวของมือโดยละเอียดมีประโยชนอยางไร
คําตอบ 1 : ชวยในการออกแบบสถานีงาน
คําตอบ 2 : ชวยในการออกแบบวิธีการทํางาน
่ า ย
น
คําตอบ 3 : ใชแบงแยกงานระหวางคนที่ถนัดมือซายและมือขวา
ห
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
224
การวิเคราะหการเคลื่อนไหวของมือโดยละเอียดเหมาะกับงานประเภทใด
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : งานผลิตแบบหลอโดยใชเครื่อง CNC
คําตอบ 2 : งานที่มีรอบเวลาการผลิตนอยมาก
ิท
คําตอบ 3 : งานการบรรจุหีบหอ
ส
คําตอบ 4 : 1 และ 3 ถูก
ขอที่ :
ง ว น
ส
225
อ
เครื่องมือใดใชในการศึกษาการเคลื่อนไหวของมือโดยละเอียดได
ข
คําตอบ 1 : กลองถายภาพความเร็วสูง
กร
คําตอบ 2 : แผนภูมิกระบวนการผลิตโดยใชมือ
ว
คําตอบ 3 : ฟลมถายรูปโดยทั่วไป
ศ
ิ
คําตอบ 4 : เครื่องอัลตราซาวน
ขอที่ : 226
ภ าว
ส
ขอใดเปนขอจํากัดในการศึกษาการเคลื่อนไหวของมือโดยละเอียด
คําตอบ 1 : ผูบันทึกขอมูล
คําตอบ 2 : งานที่มีเวลารอบการผลิตนาน
คําตอบ 3 : งานที่มีเวลารอบการผลิตต่ําและมีความตอเนื่องของการทํางานยาว
คําตอบ 4 : งานที่มีเวลารอบการผลิตต่ําแตมีความตอเนื่องของการทํางานสั้น
53 of 102
ขอที่ : 227
ใครเปนผูพัฒนาการศึกษาการเคลื่อนไหวพื้นฐานของมือ
คําตอบ 1 : Frank T. Gilbreth
คําตอบ 2 : Frank B. Gilbreth
คําตอบ 3 : Frank B. Therblig
คําตอบ 4 : Frederick W. Taylor
่ า ย
ขอที่ : 228
น
จากการศึกษาการเคลื่อนไหวในขอใดที่ภาคการผลิตมักนํามาใชเปนวิธีการปรับปรุงในอันดับทาย ๆ
ห
คําตอบ 1 : Materials Flow
จ ำ
คําตอบ 2 : Plant Layout
ม
คําตอบ 3 : Micromotion Study
า้
คําตอบ 4 : Transportation
ขอที่ : 229
ิธ์ ห
ิท
การเอื้อมไปหยิบชิ้นงานจากกลองที่วางราบบนโตะ มีการเปลี่ยนทิศทางในการเคลื่อนไหวของมือกี่จังหวะ
ส
คําตอบ 1 : 2 จังหวะ คือ ไป-กลับ
ว น
คําตอบ 2 : 2 จังหวะ คือ ลง-ขึ้น
ง
คําตอบ 3 : 2 จังหวะ คือ เขากลอง-หยิบ
ส
คําตอบ 4 : 3 จังหวะ คือ ไป-หยิบ-กลับ
ขอ
กร
ขอที่ : 230
ว
สัญลักษณที่ใชแสดงวามือกําลังตรวจสอบชิ้นงานในแผนภูมิการเคลื่อนไหวของมือซายและขวา คืออะไร
ศ
ิ
คําตอบ 1 : วงกลม
าว
คําตอบ 2 : สี่เหลี่ยม
ภ
คําตอบ 3 : ลูกศร
ส
คําตอบ 4 : D
ขอที่ : 231
ดัชนีที่ใชบอกวามือทั้งสองขางมีการใชงานมากนอยแคไหน คืออะไร
คําตอบ 1 : Standard Time
คําตอบ 2 : Hand Working Time
54 of 102
คําตอบ 3 : Efficiency
คําตอบ 4 : Utilization
ขอที่ : 232
จงเปรียบเทียบคาสเกลการประเมินของลักษณะการทํางานของมือทั้งสองขางในลักษณะตาง ๆ ดังนี้ 1. Releasing 2. Reaching 3. Lifting
คําตอบ 1 : 1>2>3
คําตอบ 2 :
ย
2>1>3
่ า
คําตอบ 3 : 3>2>1
น
คําตอบ 4 : 3>1>2
ขอที่ : 233
จ ำ ห
ม
การหยิบชิ้นงานจากกลองที่วางทํามุมเอียงบนโตะงาน มีการเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของมือกี่จังหวะ
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : 1 จังหวะ
คําตอบ 2 : 2 จังหวะ
คําตอบ 3 : 3 จังหวะ
ิท
คําตอบ 4 : 4 จังหวะ
นส
ว
ขอที่ : 234
ง
ขอใดถูกตองในวิเคราะหการใชมือสองขางประกอบชิ้นงาน
คําตอบ 1 :
อ ส
มือขวาจับ มือซายประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ วงกลม
ข
คําตอบ 2 : มือขวาจับ มือซายประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ สามเหลี่ยมหัวกลับ
กร
คําตอบ 3 : มือขวา - มือซายประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ วงกลม
ว
คําตอบ 4 : มือขวา – มือซายตรวจสอบชิ้นงานในขณะประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ สี่เหลี่ยมจัตุรัส
ขอที่ : 235
าว ศ
ิ
ภ
ขอใดเปนการวิเคราะหการเคลื่อนไหวของมือในการประกอบสกรูเขากับแหวนรอง
ส
คําตอบ 1 : มือซายหยิบสกรู มือขวาหยิบแหวน สองมือชวยกันประกอบ
คําตอบ 2 : มือซายเคลื่อนสกรู มือขวาเคลื่อนแหวน มือซายหยิบสกรู มือขวาหยิบแหวน สองมือประกอบกัน
คําตอบ 3 : มือซายและขวาเคลื่อนที่ มือซายหยิบแหวน มือขวาหยิบสกรู สองมือเคลื่อนที่ สองมือประกอบ
คําตอบ 4 : มือซายหยิบสกรูและแหวน มือขวารับแหวนจากมือซาย สองมือประกอบ
ขอที่ : 237
่ า ย
ขอใดถูกตองในวิเคราะหการใชมือสองขางตรวจวัดชิ้นงาน
น
คําตอบ 1 : มือขวาจับชิ้นงาน มือซายวัด ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณ D และ สี่เหลี่ยม
ห
คําตอบ 2 : มือขวา - มือซายทําการวัดชิ้นงานประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ วงกลม
จ ำ
คําตอบ 3 : มือขวา - มือซายทําการวัดชิ้นงานประกอบ ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณเหมือนกันคือ สี่เหลี่ยม
ม
คําตอบ 4 : มือขวาจับชิ้นงาน มือซายวัด ดังนั้น แทนดวยสัญลักษณ สามเหลี่ยม และ สี่เหลี่ยม
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 238
ถางานยอยหนึ่งตองใชเวลาในการทํางานโดยเฉลี่ยและมีประสิทธิภาพหรืออัตราประเมินงาน (Rating Factor) นี้เทากับ 3.00 นาที และ 110 เปอรเซ็นต ตามลําดับ จงหาเวลาปกติ
ิท
(Normal หรือ Basic Time) ของการทํางานยอยนี้
ส
คําตอบ 1 : 2.73 นาที
น
คําตอบ 2 : 3.00 นาที
คําตอบ 3 : 3.30 นาที
ง ว
ส
คําตอบ 4 : 2.70 นาที
ขอ
กร
ขอที่ : 239
ว
ในการทํางานเพื่อผลิตสินคาชนิดหนึ่งของพนักงานคนหนึ่งใชเวลาทํางานโดยเฉลี่ยเทากับ 2.50 นาที ถาพนักงานคนนี้ทํางานดวยประสิทธิภาพหรือที่อัตราประเมินงาน (Rating
Factor) 80 เปอรเซ็นต และมีเวลาลดหยอน 10 เปอรเซ็นต จงหาเวลามาตรฐานสําหรับการทํางานนี้
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
าว
2.200 นาที
3.375 นาที ศ
ิ
ส ภ
คําตอบ 3 : 2.750 นาที
คําตอบ 4 : 2.250 นาที
ขอที่ : 240
การจบเวลาการทางานอยางหนงของคนงานคนหนง โดยแบงงานนนเปนงานยอย (Elements) ได 3 งานยอย ซงในการจบเวลาการทางานของคนงานครงน ไดดาเนนการเกบขอมูล
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
งานยอยที่ รอบ
1 2 3 4 5 56 of 102
1 15 13 14 13 12
2 18 17 20 18 16
3 11 10 9 11 10
อยากทราบวาทานจะใชขอมูลเวลาทํางานของงานยอยใด ไปคํานวณหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลา เมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±5% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence
Level) 95.5% และระบุเหตุผล
คําตอบ 1 : ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 1 เนื่องจากเปนงานยอยแรกที่คนงานเริ่มทํา ซึ่งมักจะเปนงานยอยที่สําคัญมากที่สุด
ย
คําตอบ 2 : ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 2 เนื่องจากเปนงานยอยที่มีคาพิสัยสูงสุด ซึ่งแสดงวาเวลาที่ใชในการทํางานยอยนี้มีการแปรเปลี่ยนมากที่สุด
คําตอบ 3 :
น่ า
ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 3 เนื่องจากเปนงานยอยสุดทายที่คนงานตองทํา ซึ่งคนงานมักจะรีบเรงทํางานยอยนี้มากขึ้น
ห
งานยอยใด ๆ ก็ได เนื่องจากเปนการทํางานโดยคนงานคนเดียวกันทั้งหมด นั่นแสดงวาขอมูลเวลาทํางานของแตละงานยอยสามารถนําไปหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลา
คําตอบ 4 :
ำ
ไดจํานวนรอบเทากัน
มจ
า้
ขอที่ : 241
ิธ์ ห
การจับเวลาการทํางานอยางหนึ่งของคนงานคนหนึ่ง โดยแบงงานนั้นเปนงานยอย (Elements) ได 3 งานยอย ซึ่งในการจับเวลาการทํางานของคนงานครั้งนี้ ไดดําเนินการเก็บขอมูล
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
งานยอยที่ รอบ
ิท
1 2 3 4 5
นส
1 15 13 14 13 12
ว
2 18 17 20 18 16
ส ง
3 11 10 9 11 10
อ
จงหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลา เมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±5% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) 95.5%
กร ข
คําตอบ 1 : 5 รอบ
คําตอบ 2 : 9 รอบ
ว
คําตอบ 3 : 12 รอบ
าว ศ
ิ
คําตอบ 4 : 15 รอบ
ส ภ
ขอที่ : 242
การจบเวลาการทางานอยางหนงของคนงานคนหนง โดยแบงงานนนเปนงานยอย (Elements) ได 4 งานยอย ซงในการจบเวลาการทางานของคนงานครงน ไดดาเนนการเกบขอมูล
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
งานยอยที่ รอบ
1 2 3 4 5
1 15 73 126 183 237
2 33 89 146 200 255
3 44 99 155 211 265 57 of 102
4 60 112 170 225 278
จงหาเวลาการทํางานเฉลี่ยของงานยอยที่ 3
คําตอบ 1 : 154.8 วินาที
คําตอบ 2 : 53.0 วินาที
คําตอบ 3 : 10.2 วินาที
คําตอบ 4 : 8.8 วินาที่
่ า ย
น
ขอที่ : 243
ห
ในการหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลา เมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±5% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) เทาใดในกลุมตัวเลือกที่กําหนดใหนี้ จึงจะทําใหจํานวน
ำ
รอบที่ตองจับเวลามากที่สุด
คําตอบ 1 : ระดับความเชื่อมั่น 95.0 %
มจ
า้
คําตอบ 2 : ระดับความเชื่อมั่น 95.5 %
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : ระดับความเชื่อมั่น 97.9 %
คําตอบ 4 : ระดับความเชื่อมั่น 99.7 %
ขอที่ : 244
ส ิท
น
ขอใดไมใชประโยชนในการแบงงานออกเปนงานยอย (Working Element)
คําตอบ 1 :
ง ว
สามารถระบุวางานยอยใดทําไดยากและชวยใหผูควบคุมการผลิตนําขอมูลเวลาที่ใชในการทํางานยอยนั้นไปสรุปเปนเวลาที่ใชผลิตสินคานั้น ๆ
ส
คําตอบ 2 : สามารถนําคาเวลาที่จับไดในแตละงานยอยไปเปรียบเทียบกับเวลาที่ใชไปในการทํางานยอยอื่น ๆ ที่มีลักษณะการทํางานที่คลายกัน
อ
คําตอบ 3 : สามารถกําหนดสมรรถนะการทํางานของพนักงานในแตละงานยอยไดอยางถูกตอง ซึ่งชวยใหหาเวลามาตรฐานไดถูกตองยิ่งขึ้น
กร ข
คําตอบ 4 : การวิเคราะหการทํางานที่แบงออกเปนงานยอยทําใหพบขอผิดพลาดในวิธีการทํางาน ซึ่งทําใหงายตอการปรับปรุงงาน
ขอที่ : 245
ศ
ิ ว
าว
การวัดผลงานแบงไดเปนกี่ประเภท ขอใดถูกตอง
ภ
คําตอบ 1 : การศึกษาวิธีการทํางาน การศึกษาเวลา
ส
คําตอบ 2 : การศึกษาเวลาโดยตรง การสุมงาน การใชเวลาพรีดีเทอรมิน การใชขอมูลเวลาพื้นฐาน
คําตอบ 3 : การศึกษาเวลาตัวแทน การกําหนดอัตราเร็ว การกําหนดเวลาเผื่อ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 246
ขอใดไมใชประโยชนของการศึกษาเวลา (Time Study)
58 of 102
คําตอบ 1 : กําหนดเงินลงทุนสําหรับการขยายกิจการและใชวิเคราะหความสามารถดานการตลาดขององคกร
คําตอบ 2 : กําหนดราคามาตรฐานและงบประมาณในการลงทุน
คําตอบ 3 : เปนพื้นฐานในการกําหนดคาแรงจูงใจของพนักงานรวมถึงจํานวนคนงานที่ตองการสําหรับทํางานนั้น
คําตอบ 4 : จัดตารางการทํางานและวางแผนการทํางาน
ขอที่ : 247
เทคนิคที่ใชในการศึกษาเวลา (Time Study) มีหลายเทคนิคแตที่นิยมใช คือ เทคนิคการจับเวลาโดยตรง (Stopwatch Method) จงระบุขอดีของเทคนิคนี้
คําตอบ 1 : ทําใหคนงานเรงทํางานใหเร็วขึ้นกวาปกติ
่ า ย
น
คําตอบ 2 : ทําใหผูจับเวลาสามารถมองเห็นการทํางานที่ตองศึกษาไดอยางละเอียดชัดเจน
ห
คําตอบ 3 : ทําใหฝายวางแผนการผลิตมีความสะดวกสบายในการวางแผนการทํางาน
จ ำ
คําตอบ 4 : ทําใหผูบริหารสูญเสียเวลานอยลงในการจัดการและบริหารองคกร
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
248
ชิ้นงานชิ้นหนึ่งตองผานขั้นตอนยอยดังตอไปนี้ งานตัด (เวลามาตรฐานที่ใช 30 วินาทีตอชิ้น) ขนจากเครื่องตัดครั้งละ 50 ชิ้น (เวลามาตรฐานที่ใช 300 วินาทีตอครั้งการขน) และงาน
เจาะ (เวลามาตรฐานที่ใช 15 วินาทีตอชิ้น) เวลามาตรฐานในการผลิตชิ้นงานนี้คือเทาไร
ิท
คําตอบ 1 : 45 วินาทีตอชิ้น
ส
คําตอบ 2 : 51 วินาทีตอชิ้น
น
คําตอบ 3 : 345 วินาทีตอชิ้น
คําตอบ 4 : หาไมไดเพราะไมทราบเวลาเผื่อ
ง ว
อ ส
ข
ขอที่ : 249
กร
ความลาชาที่สามารถหลีกเลี่ยงได (Avoidable Delay) เกิดจากอะไร
ว
คําตอบ 1 : คนงานเกิดความไมพรอมอยางฉับพลันเนื่องจากตองเขาหองน้ํา
ศ
ิ
คําตอบ 2 : เครื่องจักรเกิดการชํารุดในระหวางการทํางานทั้ง ๆ ที่มีการซอมบํารุงเครื่องจักรเหลานั้นอยางสม่ําเสมอ
าว
คําตอบ 3 : คนงานปรับตั้งเครื่องจักร ทําความสะอาดเครื่องจักร และ หยอดน้ํามันหลอลื่นเครื่องจักร
ภ
คําตอบ 4 : คนงานลาหยุดงานโดยไมไดแจงลวงหนา จึงตองใหคนงานคนอื่นที่ไมคอยมีทักษะในการทํางานนั้นทํางานแทน
ขอที่ : 250
ส
ความลดหยอนสวนตัว (Personal Allowance) เกิดจากอะไร
คําตอบ 1 : คนงานทํางานในสภาวะแวดลอมที่มีความรอนมาก
คําตอบ 2 : คนงานเกิดความเมื่อยลาเนื่องจากความเครียด
คําตอบ 3 : คนงานเกิดอาการเวียนศีรษะเนื่องจากอากาศแปรเปลี่ยน
คําตอบ 4 : คนงานเกิดความตองการหยุดพักเพื่อทํากิจสวนตัว เชน ดื่มน้ํา 59 of 102
ขอที่ : 251
ขอใดถูกตอง
การกําหนดเวลาลดหยอนสวนตัว (Personal Allowance) ใหแกคนงานจะตองพิจารณาสภาพความแข็งแรงทางดานรางกายของคนงานแตละคน นั่นคือคนงานที่แข็ง
คําตอบ 1 :
แรงนอยก็ควรมีเวลาลดหยอนสวนตัวมากกวาคนงานที่มีความแข็งแรงมาก
การทํางานในสภาวะแวดลอมที่มีความรอนมากหรือมีความชื้นมากควรกําหนดเวลาลดหยอนมากขึ้นเนื่องจากคนงานจะเกิดความเมื่อยลาไดงายกวาสภาวะแวดลอม
คําตอบ 2 :
ย
ปกติ
่ า
คําตอบ 3 : ความลดหยอนลาชา (Delay Allowance) มักเกิดขึ้นในขั้นตอนการทํางานที่คนงานเกิดความเบื่อหนาย เนื่องจากเกิดความเมื่อยลาทางดานจิตใจ (Mental Fatigue)
น
คนงานทุกคนที่ทํางานเหมือนกันควรจะตองกําหนดเวลาลดหยอนดวยตนเองเพราะสภาพรางกายของคนงานแตละคนมีความแตกตางกัน อีกทั้งเพศและวัยของคนงาน
คําตอบ 4 :
ห
แตละคนก็ไมเหมือนกัน
จ ำ
ม
ขอที่ : 252
า้
การกําหนดประสิทธิภาพการทํางานของคนงานโดยใชระบบ Westinghouse จะพิจารณาอะไร
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ความตั้งใจทํางานและความสม่ําเสมอในการทํางานของคนงาน
คําตอบ 2 : ทักษะ (Skill) และ ความพยายาม (Effort) ในการทํางานของคนงาน
ิท
คําตอบ 3 : ทักษะ (Skill) ความพยายาม (Effort) ความเที่ยงตรง (Consistency) และ สภาวะแวดลอม (Condition) ในการทํางานของคนงาน
ส
คําตอบ 4 : ความสามารถในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ วามีมากนอยเพียงใด ถามีมากก็กําหนดใหคนงานคนนั้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ขอที่ : 253
ง ว น
ส
การกําหนดประสิทธิภาพการทํางานของคนงานโดยใชระบบ Effort Rating จะพิจารณาอะไร
คําตอบ 1 :
ขอ
ความพยายามในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ เปนสําคัญ
กร
คําตอบ 2 : ความอดทนแข็งแรงในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ เปนสําคัญ
ว
คําตอบ 3 : ความมุงมั่นในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ เปนสําคัญ
ศ
ิ
คําตอบ 4 : ความขยันขันแข็งในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ เปนสําคัญ
ขอที่ : 254
ภ าว
ส
การกําหนดประสิทธิภาพการทํางานของคนงานโดยใชระบบ Objective Rating จะพิจารณาอะไร
คําตอบ 1 : ความพยายามในการทํางานของคนงานโดยเปรียบเทียบความเร็วในการทํางาน
คําตอบ 2 : ความยากงายของงานที่ทําโดยพิจารณาวาจะตองมีการใชสวนตาง ๆ ของรางกายชวยทํางานมากนอยเพียงใด
คําตอบ 3 : ความมุงมั่นและความมานะพยายามในการทํางานของคนงานคนนั้น ๆ
คําตอบ 4 : ความพยายามในการทํางานของคนงานและความยากของงานที่ทํา
60 of 102
ขอที่ : 255
การจับเวลาการทํางานอยางหนึ่งของคนงานคนหนึ่ง โดยแบงงานนั้นเปนงานยอย (Elements) ได 3 งานยอย ซึ่งในการจับเวลาการทํางานของคนงานครั้งนี้ ไดดําเนินการเก็บขอมูล
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
งานยอยที่ รอบ
1 2 3 4 5
1 30 28 29 31 34
2 22 21 24 25 22
ย
3 38 42 41 43 39
น่ า
อยากทราบวาทานจะใชขอมูลเวลาทํางานของงานยอยใด ไปคํานวณหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลา เมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±5% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence
Level) 95.5% และระบุเหตุผล
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยใด ๆ ก็ได เพราะวาเปนการทํางานโดยคนงานคนเดียวกันทั้งหมด
ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 3 เพราะวาเปนงานยอยที่ใชเวลามากที่สุดในการทําในแตละรอบ
จ ำ ห
า้ ม
คําตอบ 3 : ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 2 เพราะวาเปนงานยอยที่ใชเวลานอยที่สุดในการทําในแตละรอบ
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : ขอมูลเวลาทํางานของงานยอยที่ 1 เพราะวาเปนงานยอยที่มีคาพิสัยสูงสุดซึ่งแสดงวาเวลาที่ใชในการทํางานยอยนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด
ขอที่ :
ิท
256
ส
การจับเวลาการทํางานอยางหนึ่งของคนงานคนหนึ่ง โดยแบงงานนั้นเปนงานยอย (Elements) ได 3 งานยอย ซึ่งในการจับเวลาการทํางานของคนงานครั้งนี้ ไดดําเนินการเก็บขอมูล
น
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
ว
งานยอยที่ รอบ
ง
1 2 3 4 5
1 30 28
อ ส 29 31 34
ข
2 22 21 24 25 22
กร
3 38 42 41 43 39
ว
จงหาจํานวนรอบรวมที่ตองจับเวลาในการเก็บขอมูลครั้งนี้ เมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±4% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) 95.5%
าว ศ
ิ
คําตอบ 1 : 5 รอบ
คําตอบ 2 : 10 รอบ
ภ
คําตอบ 3 : 12 รอบ
ส
คําตอบ 4 : 15 รอบ
ขอที่ : 257
การจับเวลาการทํางานอยางหนึงของคนงานคนหนึง โดยแบงงานนันเปนงานยอย (Elements) ได 3 งานยอย ซึงในการจับเวลาการทํางานของคนงานครังนี ไดดําเนินการเก็บขอมูล
เวลาทํางาน (หนวยเปนวินาที) จํานวน 5 รอบ (Cycle) ดังรายละเอียดในตารางขางลางนี้
งานยอยที่ รอบ
1 2 3 4 5 61 of 102
1 22 108 193 278 362
2 50 138 225 307 393
3 83 173 257 338 427
จงหาเวลาเฉลี่ยที่ใชในการทํางานยอยที่ 1, 2, และ 3 ตามลําดับ
คําตอบ 1 : 22.0 วินาที , 28.0 วินาที และ 33.0 วินาที ตามลําดับ
คําตอบ 2 : 22.4 วินาที , 30.0 วินาที และ 33.0 วินาที ตามลําดับ
่ า ย
คําตอบ 3 : 22.4 วินาที , 32.0 วินาที และ 35.0 วินาที ตามลําดับ
น
คําตอบ 4 : 22.0 วินาที , 32.0 วินาที และ 33.0 วินาที ตามลําดับ
ขอที่ : 258
จ ำ ห
ม
ในการหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลาเมื่อตองการความแมนยํา (Precision) ±10% เทากัน ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) เทาใดในกลุมขอมูลที่กําหนดใหนี้ จึงจะทําให
า้
จํานวนรอบที่ตองจับเวลามีคานอยที่สุด
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ระดับความเชื่อมั่น 95.0%
คําตอบ 2 : ระดับความเชื่อมั่น 95.5%
ิท
คําตอบ 3 : ระดับความเชื่อมั่น 97.9%
ส
คําตอบ 4 : ระดับความเชื่อมั่น 99.7%
ขอที่ : 259
ง ว น
ส
ในการหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลาเมื่อตองการระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) 95.5% เทากัน ที่ความแมนยํา (Precision) เทาไรจากกลุมขอมูลที่กําหนดให จึงจะทําให
อ
จํานวนรอบที่ตองจับเวลามีคามากที่สุด
กร ข
คําตอบ 1 : ความแมนยํา (Precision) ±1 %
คําตอบ 2 : ความแมนยํา (Precision) ± 5 %
ว
คําตอบ 3 : ความแมนยํา (Precision) ± 10 %
คําตอบ 4 :
าว ศ
ิ
ความแมนยํา (Precision) ±15 %
ขอที่ : 260
ส ภ
ในการหาจํานวนรอบที่ตองจับเวลาเมื่อตองการระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) 99.7% เทากัน ที่ความแมนยํา (Precision) เทาไรจากกลุมขอมูลที่กําหนดให จึงจะทําให
จํานวนรอบที่ตองจับเวลามีคานอยที่สุด
คําตอบ 1 : ความแมนยํา (Precision) ±1 %
คําตอบ 2 : ความแมนยํา (Precision) ±5 %
คําตอบ 3 : ความแมนยํา (Precision) ± 10 %
คําตอบ 4 : ความแมนยํา (Precision) ± 15 %
62 of 102
ขอที่ : 261
ขั้นตอนการศึกษาเวลาจะตองเลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษาเพื่อประโยชนอะไร
คําตอบ 1 : ชวยใหผูเก็บขอมูลเวลาที่ใชในการทํางานของคนงานเขาใจถึงการทํางานของคนงานมากขึ้นและคนงานก็สามารถทํางานตามวิธีที่ตนตองการได
คําตอบ 2 : ชวยใหไดขอมูลเวลาที่ใชในการทํางานของคนงานอยางเหมาะสมเพราะคนงานจะทํางานดวยวิธีที่กําหนดและไมทํางานใหลาชาหรือรีบเรงเกินไป
คําตอบ 3 : ชวยใหคนงานที่ถูกเลือกมาศึกษาเวลาที่ใชในการทํางานมีความพึงพอใจอยางยิ่งที่ไดรับการยอมรับจากเพื่อนรวมงานและหัวหนางานของตน
คําตอบ 4 : ชวยใหวิธีการทํางานเปนวิธีที่ดีและเหมาะสมที่สุดตลอดจนคนงานที่ไดรับเลือกมาทําการศึกษาเวลาก็สามารถพัฒนาตนเองในดานจิตใจอยางตอเนื่อง
่ า ย
น
ขอที่ : 262
ห
การทําการศึกษาเวลาเมื่อมีการกําหนดหรือเลือกวิธีทํางานแลว ผูวิเคราะหจะตองบันทึกขอมูลอะไรบาง ลงในแบบฟอรมบันทึกขอมูล
จ ำ
คําตอบ 1 : รายชื่อคนงานทั้งหมดและรายละเอียดของเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณทั้งหมดในหนวยงานที่ทําการศึกษาเวลา
ม
คําตอบ 2 : รายละเอียดของเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณทั้งหมดในหนวยงานที่ทําการศึกษาเวลา
า้
คําตอบ 3 : รูปชิ้นงาน สถานที่ทํางาน เครื่องจับยึดชิ้นงาน เครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณที่ใชในการทํางานตลอดจนชื่อคนงานที่ถูกเลือกมาศึกษาและชื่อผูวิเคราะห
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : รายชื่อคนงานทั้งหมดในหนวยงานที่ทําการศึกษาเวลาและรายละเอียดของชิ้นงานที่ทําการศึกษาตลอดจนขอมูลของผูวิเคราะห
ิท
ขอที่ : 263
ส
การทําการศึกษาเวลามีลําดับขั้นตอนอยางไร
ว น
เลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษา แบงงานออกเปนงานยอย จับเวลาทํางานแตละขั้นตอนงานยอย ประเมินประสิทธิภาพของคนงาน คํานวณหาเวลาปกติ กําหนด
คําตอบ 1 :
ง
เวลาลดหยอน และคํานวณเวลามาตรฐาน
ส
เลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษา แบงงานออกเปนงานยอย จับเวลาทํางานแตละขั้นตอนงานยอย คํานวณหาเวลาปกติ กําหนดเวลาลดหยอน และคํานวณเวลา
คําตอบ 2 :
อ
มาตรฐาน
ข
เลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษา แบงงานออกเปนงานยอย จับเวลาทํางานแตละขั้นตอนงานยอย กําหนดจํานวนรอบที่ตองจับเวลา คํานวณหาเวลาปกติ กําหนด
กร
คําตอบ 3 :
เวลาลดหยอน และคํานวณเวลามาตรฐาน
ว
เลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษา แบงงานออกเปนงานยอย จับเวลาทํางานแตละขั้นตอนงานยอย กําหนดจํานวนครั้งที่ตองจับเวลา ประเมินประสิทธิภาพของคน
คําตอบ 4 :
ศ
ิ
งาน คํานวณหาเวลาปกติ กําหนดเวลาลดหยอน และคํานวณเวลามาตรฐาน
ขอที่ : 264
ภ าว
ส
ขอใดไมใชขั้นตอนการทําการศึกษาเวลา
คําตอบ 1 : ลักษณะบุคลิกของคนงานและผูวิเคราะห
คําตอบ 2 : จับเวลาทํางานแตละขั้นตอนงานยอย
คําตอบ 3 : เลือกคนงานและวิธีทํางานที่จะศึกษา
คําตอบ 4 : แบงงานออกเปนงานยอยพรอมบันทึกรายละเอียดวิธีทํางานอยางสมบูรณ
63 of 102
ขอที่ : 265
ขอใดไมใชหลักการของการแบงงานออกเปนงานยอย?
คําตอบ 1 : แยกงานที่คนงานควบคุมออกจากงานที่เครื่องจักรควบคุมใหชัดเจน
คําตอบ 2 : แยกงานที่ทําซ้ํากันออกจากงานที่ทําเปนครั้งคราวใหชัดเจน
คําตอบ 3 : แยกงานที่จําเปนออกจากงานที่ไมจําเปน
คําตอบ 4 : แยกงานจากคนงานทุกคนในหนวยงานที่ทําการศึกษา
ขอที่ : 266
่ า ย
หลักการของการแบงงานออกเปนงานยอยที่ระบุวาตองแยกงานที่จําเปนออกจากงานที่ไมจําเปน อยากทราบวางานที่ไมจําเปนคืออะไร?
น
คําตอบ 1 : งานที่คนงานตองทําในบางชวงเวลา เชน การทํากิจสวนตัว
ห
คําตอบ 2 : งานที่คนงานบางคนตองทําแตคนงานบางคนไมตองทํา
จ ำ
คําตอบ 3 : ความลาชาตาง ๆ ที่เกิดจากความผิดพลาดในขณะทํางาน
ม
คําตอบ 4 : งานใด ๆ ก็ไดที่ไมคอยมีความสําคัญตอองคกรและบุคลากรสวนใหญ
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 267
หลักการของการแบงงานออกเปนงานยอยที่ระบุวาตองแยกงานที่ทําซ้ํากันจากงานที่ทําเปนครั้งคราวออกใหชัดเจน อยากทราบวางานที่ทําเปนครั้งคราวคืออะไร
ิท
คําตอบ 1 : งานที่ทําบอย ๆ และซ้ํากันในทุก ๆ รอบการทํางาน
ส
คําตอบ 2 : งานที่ไมไดเกิดขึ้นในทุก ๆ รอบการทํางาน เชน การตั้งเครื่องจักร
ว น
คําตอบ 3 : งานที่คนงานตองทําในบางชวงเวลา เชน การทํากิจสวนตัว
ง
คําตอบ 4 : งานทุก ๆ งานที่ผูวิเคราะหตองจัดเตรียมกอนทําการรวบรวมขอมูล
อ ส
ข
ขอที่ : 268
กร
ขอใดไมใชระบบการประเมินประสิทธิภาพในการทํางานของคนงาน
ว
คําตอบ 1 : ระบบ Alignment Rating
ศ
ิ
คําตอบ 2 : ระบบ Objective Rating
าว
คําตอบ 3 : ระบบ Synthetic Rating
ภ
คําตอบ 4 : ระบบ Effort Rating
ขอที่ : 269
ส
จํานวนครั้งที่ตองจับเวลาในการศึกษาเวลาจะมีมากหรือนอยขึ้นกับอะไร
คําตอบ 1 : คาความผันแปร (Variance) ของเวลาของแตละงานยอยที่รวบรวมไดโดยผูวิเคราะหและคนงานที่ถูกเลือกมาทําการศึกษาเวลา
คาความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ของเวลาของงานยอยตาง ๆ คาความแมนยํา (Precision) และระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) ที่
คําตอบ 2 :
กําหนด
64 of 102
คําตอบ 3 : คาความผันแปร (Variance) ของเวลาของแตละงานยอย รวมทั้งคาเฉลี่ย (Mean) ของเวลาของแตละงานยอยนั้น ๆ
คาความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ของเวลาของงานยอยตาง ๆ คาความผันแปร (Variance) ของเวลาของแตละงานยอย รวมกับคาเฉลี่ย (Mean)
คําตอบ 4 : ของเวลาของแตละงานยอยนั้น ๆ
ขอที่ : 270
ระบบ Effort Rating ที่ใชในการประเมินประสิทธิภาพการทํางานของคนงานนั้นมีชื่อเรียกอีกอยางวาอะไร
คําตอบ 1 : Speed Rating
คําตอบ 2 :
ย
Observed Rating
่ า
คําตอบ 3 : Automated Rating
น
คําตอบ 4 : Alignment Rating
ขอที่ : 271
จ ำ ห
ม
การประเมินประสิทธิภาพในการทํางานของคนงานโดยระบบ Synthetic Rating จะพิจารณาอะไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ความเร็วในการทํางานโดยตรงดวยมาตรฐาน เชน ความเร็วปกติที่ใชในการแจกไพ 52 ใบ ออกเปน 4 กอง จะใชเวลาครึ่งนาที
คําตอบ 2 : ความเร็วในการทํางานของคนงานโดยเปรียบเทียบกับความเร็วปกติแลวทําการปรับคาคะแนนดวยการพิจารณาความยากงายของงาน
คําตอบ 3 : เปรียบเทียบความเร็วในการทํางานของคนงานกับความเร็วมาตรฐานที่กําหนดไวซึ่งไดจากขอมูลที่ทราบลวงหนา
ิท
คําตอบ 4 : ทักษะ (Skill) ความพยายาม (Effort) ความเที่ยงตรง (Consistency) และ สภาวะแวดลอม (Condition) ในการทํางานของคนงาน
นส
ว
ขอที่ : 272
ง
ชิ้นงานชิ้นหนึ่งตองผานขั้นตอนยอยดังตอไปนี้ งานตัด (เวลามาตรฐานที่ใช 20 วินาทีตอชิ้น) ขนจากเครื่องตัดครั้งละ 100 ชิ้น (เวลามาตรฐานที่ใช 300 วินาทีตอครั้งการขน) และงาน
ส
เจาะ (เวลามาตรฐานที่ใช 15 วินาทีตอชิ้น) เวลามาตรฐานในการผลิตชิ้นงานนี้คือเทาไร ถาเวลาเผื่อคือ 10%
คําตอบ 1 : 38 วินาทีตอชิ้น
ขอ
กร
คําตอบ 2 : 48 วินาทีตอชิ้น
ว
คําตอบ 3 : 41.8 วินาทีตอชิ้น
ศ
ิ
คําตอบ 4 : 380 วินาทีตอชิ้น
ขอที่ : 273
ภ าว
ส
การผลิตของสายการผลิตตอเนื่องอันหนึ่งประกอบดวยสถานีงานยอย 5 สถานี แตละสถานีงานใชเวลามาตรฐานในการทํางานเทากับ 10, 9, 12, 10 และ 9 วินาทีตามลําดับ จงหา
อัตราการผลิตตอวัน และประสิทธิภาพของสายการผลิตนี้ กําหนดให 1 วันทํางาน 8 ชั่วโมง
คําตอบ 1 : 576 ชิ้นตอวัน, 75 %
คําตอบ 2 : 576 ชิ้นตอวัน , 83 %
คําตอบ 3 : 2,400 ชิ้นตอวัน, 75 %
คําตอบ 4 : 2,400 ชิ้นตอวัน, 83 %
65 of 102
ขอที่ : 274
ขอใดตอไปนี้ไมใชสิ่งสําคัญในขณะจับเวลาการทํางานหนึ่ง ๆ เพื่อหาเวลามาตรฐานคืออะไร
คําตอบ 1 : จํานวนขอมูลตองมากพอเพื่อสรางความเชื่อมั่น
คําตอบ 2 : พนักงานตองมีความเขาใจในวิธีการทํางานของขั้นตอนที่จะจับเวลานั้นเปนอยางดี
คําตอบ 3 : พนักงานตองทํางานนั้นดวยอัตราการทํางานที่ปกติ
คําตอบ 4 : ตองเพิ่มเวลาเผื่อเขาไป
่ า ย
ขอที่ : 275
น
งานยอยคงที่ หมายถึงอะไร
ห
คําตอบ 1 : งานยอยที่มีวิธีการทํางานที่ไมเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดของผลิตภัณฑ
จ ำ
คําตอบ 2 : งานยอยที่มีเวลามาตรฐานในการทํางานที่ไมเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดของผลิตภัณฑ
ม
คําตอบ 3 : งานยอยของการผลิตสินคาตัวเดิมที่ไมมีการเปลี่ยนแปลงทางคุณลักษณะ
า้
คําตอบ 4 : งานยอยที่เกิดจากการใชเครื่องมือตัวเดียวกันในการผลิต
ขอที่ : 276
ิธ์ ห
ิท
จากเวลาการทํางาน 8 ชม.ตอหนึ่งวัน (รวมเวลาพัก 10 นาที) ของการผลิตหนึ่งซึ่งมีสถานีการผลิตอยู 3 สถานี และมีเวลาการทํางานตอชิ้นของแตละสถานีคือ 5 วินาที 4.5 วินาที และ
ส
3 วินาที จะมีอัตราการผลิตตอวันเทากับเทาไร
น
คําตอบ 1 : 2,256 ชิ้นตอวัน
คําตอบ 2 : 2,304 ชิ้นตอวัน
ง ว
ส
คําตอบ 3 : 5,640 ชิ้นตอวัน
อ
คําตอบ 4 : 5,760 ชิ้นตอวัน
กร ข
ว
ขอที่ : 277
ศ
ิ
ขอใดตอไปนี้จัดเปนงานภายนอก (Outside Work)
าว
คําตอบ 1 : พนักงานทําการเจาะชิ้นงาน
ภ
คําตอบ 2 : พนักงานใชเครื่องซีเอนซีทําการกัดชิ้นงานแบบอัตโนมัติ
ส
คําตอบ 3 : พนักงานวัดขนาดชิ้นงานกอนนําใสเครื่องกลึง
คําตอบ 4 : พนักงานรอใหเครื่องตัดอัตโนมัติทํางานเสร็จ
ขอที่ : 278
ขอใดไมจัดวาเปน Personal Allowances
คําตอบ 1 : พนักงานคุยเรื่องที่ไมเกี่ยวกับงานกับเพื่อนรวมงาน
66 of 102
คําตอบ 2 : พนักงานไปหองน้ํา
คําตอบ 3 : พนักงานไปดื่มน้ํา
คําตอบ 4 : ชวงเวลาหยุดพักระหวางเวลางานของพนักงานยกของ
ขอที่ : 279
ปจจัยในขอใดที่สําคัญที่สุดในการประเมินคาการทํางาน (Rating) ของพนักงาน
คําตอบ 1 : Skill
คําตอบ 2 :
ย
Consistency
่ า
คําตอบ 3 : Working Condition
น
คําตอบ 4 : Effort
ขอที่ : 280
จ ำ ห
ม
Representative Time นํามาจากคาใด
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : คาเฉลี่ย
คําตอบ 2 : คาฐานนิยม
คําตอบ 3 : คาเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ิท
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
นส
ว
ขอที่ : 281
ง
การวัดงานแบงไดเปนกี่ประเภท ขอใดถูกตอง
คําตอบ 1 :
อ ส
การศึกษาวิธีการทํางาน การศึกษาเวลา
ข
คําตอบ 2 : การศึกษาเวลาโดยตรง การสุมงาน การใชเวลาพรีดีเทอรมิน การใชขอมูลเวลาพื้นฐาน
กร
คําตอบ 3 : การศึกษาเวลาตัวแทน การกําหนดอัตราเร็ว การกําหนดเวลาเผื่อ
ว
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 282
าว ศ
ิ
ภ
จากการศึกษาเวลาการทํางานโดยใชการจับเวลาโดยตรง พบวามีคาเวลาเฉลี่ย (Real หรือ Selected Time) 1.50 นาที อัตราเร็วของพนักงานเทากับ 125% จาก Scale 100 -133
ส
เมื่อกําหนดเวลาเผื่อดังนี้ เวลาเผื่อสําหรับบุคคล 7 % ของเวลาทํางาน 1 กะ (8 ชั่วโมง) เวลาเผื่อสําหรับความลาชา 10 % ของเวลาทํางาน 1 กะ (8 ชั่วโมง) จงหาเวลามาตรฐาน
คําตอบ 1 : 2.00 นาที
คําตอบ 2 : 2.20 นาที
คําตอบ 3 : 1.60 นาที
คําตอบ 4 : 1.75 นาที
67 of 102
ขอที่ : 283
การลดเวลาการทํางานของคนกับเครื่องจักร สามารถทําไดโดยแนวทางปรับปรุงขอใด
คําตอบ 1 : ใชเครื่องจักรเพิ่มขึ้น
คําตอบ 2 : ลดงานสวนที่เปนงานนอก (Outside Working)
คําตอบ 3 : เพิ่มงานสวนที่เปนงานนอก
คําตอบ 4 : ใชคนงานเพิ่มขึ้น
่ า ย
ขอที่ : 284
น
เวลามาตรฐานมักเขียนอยูในฟอรมใด
ห
คําตอบ 1 : X นาที/ชิ้น
จ ำ
คําตอบ 2 : Y นาที/100 ชิ้น
ม
คําตอบ 3 : Z นาที/ตัน
า้
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 285
ิธ์ ห
ิท
เวลาเผื่อคงที่ประกอบดวยอะไรบาง
ส
คําตอบ 1 : เวลาที่เปนสวนเกิน เวลามาตรฐาน
ว น
คําตอบ 2 : เวลาเผื่อสําหรับความเหนื่อยลาพื้นฐาน เวลามาตรฐาน
ง
คําตอบ 3 : เวลาเผื่อความเหนื่อยลาพื้นฐาน เวลาสําหรับกิจวัตรสวนตัว
ส
คําตอบ 4 : เวลาสําหรับกิจวัตรสวนตัว เวลามาตรฐาน
ขอ
กร
ขอที่ : 286
ว
ขอใดไมใชเทคนิคการวัดผลงานในศาสตรการศึกษางาน
ศ
ิ
คําตอบ 1 : การวัดสมรรถนะของเครื่องจักร
าว
คําตอบ 2 : การสุมงาน
ภ
คําตอบ 3 : ขอมูลมาตรฐาน
ส
คําตอบ 4 : การหาเวลาในการทํางานโดยใชนาฬิกาจับเวลา
ขอที่ : 287
ขอใดตอไปนี้นาจะถูกที่สุดเมื่อกําหนดวาเวลา/ชิ้น/คน ของสถานีงานหนึ่งเทากับ 0.5 นาที และจํานวนคนงานในสถานีงานมี 3 คน
คําตอบ 1 : งาน 1 ชิ้นใชเวลา 0.5 นาที
คําตอบ 2 : 1 คน ใชเวลาทํางาน 0.5 นาที
68 of 102
คําตอบ 3 : งาน 1 งานใชเวลา 0.17 นาที
คําตอบ 4 : งาน 1 งานใชเวลา 1.5 นาที
ขอที่ : 288
เวลามาตรฐานมาจากอะไร
คําตอบ 1 : เวลาวาง + เวลาพื้นฐาน (เวลาปกติ)
คําตอบ 2 : เวลาพัก + เวลาเฉลี่ย
คําตอบ 3 : เวลาเฉลี่ย + เวลาวาง
่ า ย
น
คําตอบ 4 : เวลาพื้นฐาน (เวลาปกติ) + เวลาเผื่อ
ขอที่ : 289
จ ำ ห
ม
สวนของงานประกอบดวยอะไรบาง
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : สวนของงานเบื้องตน
คําตอบ 2 : สวนของงานที่เปนสวนเกิน
คําตอบ 3 : เวลาไรประสิทธิภาพ
ิท
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
นส
ว
ขอที่ : 290
ง
วัตถุประสงคของการวัดผลงานเพื่ออะไร
คําตอบ 1 : วิเคราะหประสิทธิภาพของคนงาน
อ ส
ข
คําตอบ 2 : ลดเวลาไรประสิทธิภาพ
กร
คําตอบ 3 : กําหนดเวลามาตรฐานของการทํางานนั้น ๆ
ว
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 291
าว ศ
ิ
ภ
การพิจารณาขนาดของตัวอยางในการหาเวลาการทํางานมาตรฐานใชวิธีการใด
ส
คําตอบ 1 : วิธีทางสถิติ
คําตอบ 2 : วิธีทางการสุม
คําตอบ 3 : วิธีสรางระดับความเชื่อมั่น
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 293
่ า ย
จงเรียงลําดับขั้นตอนในการวัดผลงาน 1. ตรวจ 2. รวบรวม 3. วัด 4. เลือก 5. บันทึก 6. กําหนด
น
คําตอบ 1 : 4,3,1,2,5,6
ห
คําตอบ 2 : 4,5,1,3,2,6
จ ำ
คําตอบ 3 : 4,5,3,1,2,6
ม
คําตอบ 4 : 4,5,2,1,3,6
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 294
ขอใดไมใชวิธีการหาเวลาพื้นฐาน (เวลาปกติ) โดยการใชนาฬิกาจับเวลา
ิท
คําตอบ 1 : การดึงตัวอยาง
ส
คําตอบ 2 : การหาคาเฉลี่ย
ว น
คําตอบ 3 : การใชกราฟ
ง
คําตอบ 4 : การใชเลขประเมิน
อ ส
ข
ขอที่ : 295
กร
ขอใดไมใชวัตถุประสงคของการพักชั่วคราวของพนักงาน (Relaxation Allowance)
ว
คําตอบ 1 : เพื่อทําใหคนงานฟนตัว
ศ
ิ
คําตอบ 2 : ลดความเหนื่อยลาจากการทํางาน
าว
คําตอบ 3 : ลดเวลาคนงานหยุดงานในชั่วโมงการทํางาน
ภ
คําตอบ 4 : เพื่อใหคนงานทําธุระสวนตัว
ขอที่ : 296
ส
ขอใดไมใชวัตถุประสงคในการกําหนดเวลามาตรฐานในการทํางาน
คําตอบ 1 : เปนขอมูลในการวางแผนการสงมอบสินคา
คําตอบ 2 : เปนขอมูลในการวางแผนการผลิต
คําตอบ 3 : กําหนดมาตรฐานการทํางานของคนงาน
70 of 102
คําตอบ 4 : เปนขอมูลพิจารณาปริมาณวัตถุดิบที่จะซื้อในแตละครั้ง
ขอที่ : 297
เหตุใดจึงแยกงานยอยที่ทําดวยมือออกจากงานยอยที่ทําดวยเครื่องจักร
คําตอบ 1 : เพื่อหาขนาดตัวอยาง
คําตอบ 2 : เพื่อหาเวลามาตรฐานของคนและเครื่องจักร
คําตอบ 3 : เพื่อวัดผลงานของคนงานและเครื่องจักร
ย
คําตอบ 4 : เพื่อกําหนดคาแรงของคนงาน
น่ า
ห
ขอที่ : 298
ำ
การประยุกตนําเอาเทคนิคที่ออกแบบไวไปหาเวลาการทํางานชิ้นหนึ่งสําหรับคนงานที่ทํางานในระดับที่เหมาะสมคือเทคนิคประเภทใด
คําตอบ 1 : การวัดผลงาน
มจ
า้
คําตอบ 2 : การศึกษาวิธีการ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การนําไปใช
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 299
ส ิท
ว น
การวัดผลงานคืออะไร
ง
คําตอบ 1 : การวัดผลงานดวยเครื่องมือวัดที่ถูกตองตามความเหมาะสมของงาน
ส
คําตอบ 2 : การวัดคุณภาพของผลงานดวยการประเมิน
อ
คําตอบ 3 : การวัดคุณภาพของการทํางานที่ดีที่สุด
คําตอบ 4 :
กร ข
การประยุกตนําเอาเทคนิคการออกแบบที่มีไวไปหาเวลาการทํางานชิ้นหนึ่งสําหรับคนงานที่ทํางานในระดับที่เหมาะสม
ขอที่ : 300
ศ
ิ ว
าว
ขอใดไมใชขั้นตอนในการวัดผลงาน
ภ
คําตอบ 1 : เลือกงานที่จะตองการศึกษา
ส
คําตอบ 2 : บันทึกขอมูลของงาน
คําตอบ 3 : ตรวจขอมูลที่เก็บรวบรวมได
คําตอบ 4 : ติดตามผลงานใหดีสมํ่าเสมอ
ขอที่ : 301
ขอใดไมใชหลักการที่ชวยในการแบงงานออกเปนงานยอย
71 of 102
คําตอบ 1 : แยกงานยอยใหเดนชัด
คําตอบ 2 : งานยอยไมจําเปนตองมีระยะเวลาที่สามารถวัดหรือจับได
คําตอบ 3 : จัดกลุมงานยอยใหอยูในงานเดียวกัน
คําตอบ 4 : งานยอยคงที่ควรแยกออกจากงานยอยแปรคา
ขอที่ : 302
อัตราการทํางานที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งคนงานควรจะทําขึ้นอยูกับอะไรบาง
คําตอบ 1 : การทํางานนั้น ตองใชความพยายามมากนอยแคไหน
่ า ย
น
คําตอบ 2 : ตองใชความระมัดระวังอยางไร
ห
คําตอบ 3 : ประสบการณและการฝกอบรมของคนงาน
จ ำ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
303
ในการศึกษาเวลาเราสามารถใชวิธีจับเวลาแบบใด
คําตอบ 1 : เเบบรวมเวลาครั้งเดียว
ิท
คําตอบ 2 : แบบเฉลี่ย
ส
คําตอบ 3 : แบบคงที่
ว น
คําตอบ 4 : แบบผันแปร
ส ง
อ
ขอที่ : 304
ข
นายอุดมตองการหาขนาดตัวอยางของการศึกษาเวลาของงานยอย โดยมีขอมูลการจับเวลาเบื้องตน 5 ครั้งดังนี้คือ 8, 9, 9, 8, 8 นาที ดวยระดับความเชื่อมั่น 95.5% และคาความแมน
กร
ยํา (Precision) ±5% ดังนั้นนายอุดมควรจะตองใชขนาดของตัวอยางของงานยอยนี้เปนเทาไร
ว
คําตอบ 1 : 15
ศ
ิ
คําตอบ 2 : 11
าว
คําตอบ 3 : 6
ภ
คําตอบ 4 : 3
ขอที่ : 305
ส
วิธีการหาเวลาพื้นฐาน (เวลาปกติ) สามารถหาไดกี่วิธีอะไรบาง
คําตอบ 1 : 2 วิธี คือการหาแบบคาเฉลี่ย และ การหาแบบเลขประเมิน
คําตอบ 2 : 1 วิธี คือการหาแบบสุมคา
คําตอบ 3 : 1 วิธี คือการหาแบบจับเวลา
คําตอบ 4 : 3 วิธี คือการหาแบบคาเฉลี่ย การหาแบบเลขประเมิน และ การหาแบบเขียนกราฟ 72 of 102
ขอที่ : 306
จงหาเวลามาตรฐานของการทํางานยอยชนิดหนึ่ง ซึ่งคนงานมีสมรรถนะการทํางาน (Rating Factor) เทากับ 100 % ถาเวลาที่จับไดเปนดังนี้ 12, 13, 12, 13, 12 วินาที และมีเวลา
เผื่อเปน 15% ของเวลาพื้นฐาน (เวลาปกติ)
คําตอบ 1 : 0.238 นาที
คําตอบ 2 : 0.293 นาที
ย
คําตอบ 3 : 0.352 นาที
่ า
คําตอบ 4 : 0.362 นาที
หน
ำ
ขอที่ : 307
จ
ขอใดไมเกี่ยวของในการทําการศึกษาเวลา (Time Study)
คําตอบ 1 : ผูบริหารและหัวหนาคนงาน
า้ ม
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : ลูกคา
คําตอบ 3 : วิธีการทํางานและองคประกอบทางการผลิตของงานที่จะศึกษาเวลา
คําตอบ 4 : คนงาน
ส ิท
น
ขอที่ : 308
ง ว
จงเรียงลําดับขั้นตอนการศึกษาเวลา (Time Study) 1. แบงแยกยอยงาน 2. หาเวลามาตรฐาน 3. วัดและบันทึกเวลา 4. บันทึกขอมูลที่เกี่ยวของ 5. กําหนดจํานวนวัฎจักรที่จะจับเวลา
ส
6. เลือกงาน 7. กําหนดเวลาเผื่อ 8. ประเมินอัตราการทํางาน
อ
คําตอบ 1 : 5,3,6,4,8,1,2,7
ข
คําตอบ 2 :
กร
5,1,6,4,3,8,7,2
คําตอบ 3 : 6,4,1,3,5,8,7,2
ว
คําตอบ 4 : 6,4,1,5,3,8,2,7
ขอที่ : 309
าว ศ
ิ
ภ
ขอใดเปนองคประกอบของระบบการประเมินอัตราการทํางานแบบ เวสติงเฮาส (Westinghouse System of Rating)
ส
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
ความชํานาญงาน
ความพยายาม
ความสม่ําเสมอในการทํางาน
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 311
่ า ย
จากการจับเวลาทํางานของพนักงานคนหนึ่งพบวาใชเวลาเทากับ 15 นาที แตพนักงานคนนี้ถูกประเมินอัตราการทํางานอยูที่ระดับ 120 จากสเกลมาตรฐาน 100 แสดงวา เวลาปกติ
น
(Normal Time) ของพนักงานคนนี้ เทากับเทาไร
ห
คําตอบ 1 : 15 นาที
ำ
คําตอบ 2 : 15.3 นาที
มจ
คําตอบ 3 : 16.2 นาที
า้
คําตอบ 4 : 18 นาที
ขอที่ : 312
ิธ์ ห
ิท
หลังจากจับเวลาการทํางานจริง (Real Time) และประเมินการทํางานในขณะจับเวลาแลว ควรทําอยางไรตอไปในการหาเวลามาตรฐานจากขอมูลนี้
ส
คําตอบ 1 : นําเวลาจริงที่ไดมาหาคาเฉลี่ย แลวบวกดวยเวลาเผื่อ
น
ตรวจสอบจํานวนขอมูลเวลาจริงที่ไดวาเพียงพอตามระดับความเชื่อมั่นและความแมนยําที่กําหนดไวจากนั้นแปลงคาเฉลี่ยของเวลาจริงใหเปนเวลาปกติ (Normal
ว
คําตอบ 2 :
ง
Time) แลวบวกดวยเวลาเผื่อ
ส
คําตอบ 3 : ตรวจสอบจํานวนขอมูลเวลาจริงที่ไดเมื่อมีความเชื่อมั่นเพียงพอ ใหนําเวลาจริงที่ไดแตละตัว บวกดวยเวลาเผื่อ แลวนํามาหาคาเฉลี่ย
อ
คําตอบ 4 : นําเวลาจริงที่ไดมารวมกันแลวแปลงเปนเวลาปกติ (Normal Time) กอนแลวจึงบวกดวยเวลาเผื่อ
ขอที่ : 313
กร ข
ว
พนักงานคนหนึ่งถูกประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน) ที่ระดับ 75 จากสเกลมาตรฐาน 100 แสดงวา
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
าว ศ
ิ
พนักงานคนนี้ทํางานเร็วกวามาตรฐาน
พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานมากกวามาตรฐาน
ส ภ
คําตอบ 3 : พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานนอยกวามาตรฐาน
คําตอบ 4 : พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานไดตามมาตรฐาน
ขอที่ : 314
พนักงานคนหนึ่งถูกประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน) ที่ระดับ 125 จากสเกลมาตรฐาน 100 แสดงวา
คําตอบ 1 : พนักงานคนนี้ทํางานเร็วกวามาตรฐาน
คําตอบ 2 : พนักงานคนนี้ทํางานชากวามาตรฐาน 74 of 102
คําตอบ 3 : พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานมากกวามาตรฐาน
คําตอบ 4 : พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานไดตามมาตรฐาน
ขอที่ : 315
พนักงานคนหนึ่งถูกประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน) ที่ระดับ 100 จากสเกลมาตรฐาน 100 แสดงวา
คําตอบ 1 : พนักงานคนนี้ทํางานเร็วกวามาตรฐาน
คําตอบ 2 : พนักงานคนนี้ทํางานชากวามาตรฐาน
คําตอบ 3 : พนักงานคนนี้ตองมีการปรับปรุงวิธีการทํางาน
่ า ย
น
คําตอบ 4 : พนักงานคนนี้ใชเวลาทํางานไดตามมาตรฐาน
ขอที่ : 316
จ ำ ห
ม
ขอใดคือประโยชนของการประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน)
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ทําใหเห็นภาพรวมในการทํางาน
คําตอบ 2 : ทําใหผูจับเวลาไดรับการฝกฝนในการประเมินอัตราการทํางาน
คําตอบ 3 : ทําใหไดขอมูลเวลาการทํางานพื้นฐานที่ใกลเคียงกับความเปนจริง
ิท
คําตอบ 4 : ทําใหไดรายละเอียดในการทํางานเพื่อการปรับปรุงวิธีการทํางาน
นส
ว
ขอที่ : 317
ง
ขอใดจัดเปนเวลาเผื่อคงที่
คําตอบ 1 : เวลาพูดคุยกับหัวหนางาน
อ ส
ข
คําตอบ 2 : เวลาพักกลางวัน
กร
คําตอบ 3 : เวลาดื่มน้ํา
ว
คําตอบ 4 : เวลาออกกําลังกายกอนเริ่มงาน
ขอที่ : 318
าว ศ
ิ
ภ
ขอใดจัดเปนเวลาเผื่อผันแปร
ส
คําตอบ 1 : เวลาเผื่อพูดคุยกับหัวหนางาน
คําตอบ 2 : เวลาเผื่อเขาหองน้ํา
คําตอบ 3 : เวลาเผื่อดื่มน้ํา
คําตอบ 4 : เวลาเผื่อความเครียดจากการทํางาน
ขอที่ : 320
่ า ย
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง
น
คําตอบ 1 : เวลาเผื่อประกอบดวยเวลาเผื่อคงที่ และเวลาเผื่อผันแปร
ห
คําตอบ 2 : งานที่มีความเมื่อยลามาก จะมีเวลาเผื่อนอยเพื่อใหเวลาการทํางานมาตรฐาน
จ ำ
คําตอบ 3 : เวลาเผื่อเปนการชดเชยเวลาที่เกิดจากความผิดพลาดของขอมูลเวลาในขณะจับเวลา
ม
คําตอบ 4 : เวลาเผื่อเปนการทดแทนความผิดพลาดจากการประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน)
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 321
ตัวเลขเวลาที่อานไดจากนาฬิกาจับเวลาในขณะจับเวลา คือขอใด
ิท
คําตอบ 1 : Basic Time
ส
คําตอบ 2 : Real Time
ว น
คําตอบ 3 : Allowance Time
ง
คําตอบ 4 : Watching Time
อ ส
ข
ขอที่ : 322
กร
ในการหาเวลามาตรฐานตองการขอมูลใดบาง
ว
คําตอบ 1 : เวลาทํางานจริง
ศ
ิ
คําตอบ 2 : การประเมินอัตราการทํางาน
าว
คําตอบ 3 : เวลาเผื่อ
ภ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 323
ส
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง
คําตอบ 1 : ตองบันทึกขอมูลเวลาการทํางานในแบบฟอรมที่เปนมาตรฐานสากล
คําตอบ 2 : ตองบันทึกขอมูลเวลาการทํางานโดยพนักงานที่ทํางานนั้น
คําตอบ 3 : ตองบันทึกขอมูลเวลาในจํานวนที่มากพอสําหรับคาความเชื่อมั่นที่ยอมรับได
76 of 102
คําตอบ 4 : ตองบันทึกขอมูลเวลาจากนาฬิกาจับเวลาที่มีการสอบเทียบแลวเทานั้น
ขอที่ : 324
ถาเวลาปกติ (Normal Time) ในการทํางานเทากับ 10 วินาที และกําหนดใหมีเวลาเผื่อเทากับ 5% จงหาเวลามาตรฐาน
คําตอบ 1 : 10.5 วินาที
คําตอบ 2 : 11.5 วินาที
คําตอบ 3 : 5 วินาที
ย
คําตอบ 4 : 15 วินาที
น่ า
ห
ขอที่ : 325
ำ
จงหาเวลามาตรฐานตอชิ้นงาน จากขอมูลตอไปนี้
มจ
า้
- เวลาเผื่อ ตางๆ (นาที/กะ) ดังนี้ สวนบุคคล = 24 เตรียมงานและเก็บงาน = 4 พักทานกาแฟ = 10 ซอมบํารุงเครื่องจักร = 20 รับใบสั่งงาน = 5
ิธ์ ห
- เวลาปกติ (Normal Time) = 0.650 นาที
- 1 กะ = 8 ชม.
คําตอบ 1 : 0.710 นาที
ส ิท
น
คําตอบ 2 : 0.720 นาที
ง ว
คําตอบ 3 : 0.730 นาที
ส
คําตอบ 4 : 0.740 นาที
ขอ
กร
ขอที่ : 326
ขอใดเปนการวิเคราะหความแปรปรวนที่เกิดขึ้นในขณะจับเวลาการทํางาน
คําตอบ 1 :
ศ
ิ ว
ตัดขอมูลเวลาจริงที่จับไดที่มีคาสูงหรือต่ํากวาขอมูลตัวอื่น ๆ มาก ออก
าว
คําตอบ 2 : การหาคาเฉลี่ยเวลาจริงที่จับไดทั้งหมดแลวจึงนําไปหาเวลามาตรฐาน
คําตอบ 3 : ทําการประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน) ของพนักงานกอนที่จะเริ่มจับเวลา
ส ภ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 327
ขอใดที่ไมควรปฏิบัติในขณะทําการจับเวลาการทํางาน
คําตอบ 1 : จับเวลาการทํางานใหเสร็จกอนแลวจึงทําการประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน)
คําตอบ 2 : วิเคราะหหาจํานวนขอมูลเวลาที่ตองจับตามระดับความเชื่อมั่นและความแมนยําที่กําหนด
คําตอบ 3 : ทดลองพล็อตกราฟเวลาการทํางานที่จับไดดูวามีขอมูลคงที่แลวหรือยัง 77 of 102
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 328
กําหนดเวลาปกติ (Normal Time) เทากับ 15 วินาที ถาเวลาที่อานจากนาฬิกาจับเวลาไดเทากับ 12 วินาที จะสามารถประเมินอัตราการทํางาน (ประสิทธิภาพการทํางาน) ไดเทาไร
คําตอบ 1 : 75 %
คําตอบ 2 : 100 %
คําตอบ 3 : 125 %
ย
คําตอบ 4 : 150 %
น่ า
ห
ขอที่ : 329
ำ
ขอมูลเวลาปกติ (Normal Time) ชุดหนึ่งคือ 7 , 10 , 11 , 8 , 9 , 7 วินาที จงหาเวลามาตรฐาน ถาเวลาเผื่อเทากับ 10%
คําตอบ 1 : 8.66 วินาที
มจ
า้
คําตอบ 2 : 9.53 วินาที
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : 8.53 วินาที
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 330
ส ิท
ว น
ความผิดพลาดในการประเมินอัตราการทํางาน (Rating) เกิดจากขอใด
ง
คําตอบ 1 : ประสบการณในการทํางานของผูประเมิน
ส
คําตอบ 2 : พนักงานพุดคุยในขณะจับเวลา
อ
คําตอบ 3 : พนักงานหยุดทํางานในขณะจับเวลา
คําตอบ 4 :
กร ข
พนักงานออกจากสถานีงานในขณะจับเวลา
ขอที่ : 331
ศ
ิ ว
าว
ถาเวลาทํางานจริงอันหนึ่งเทากับ 10 นาที และเวลามาตรฐานเทากับ 12 นาที จะสรุปไดวาอยางไร
ภ
คําตอบ 1 : Performance = 83%
ส
คําตอบ 2 : Performance = 120%
คําตอบ 3 : Performance = 100%
คําตอบ 4 : Rating Factor นอยกวา 100 ที่สเกลมาตรฐาน 100
ขอที่ : 332
การสุมตัวอยางจับเวลารอบการทํางานมีขอมูลเวลาการทํางานจริงดังนี้ 11 , 10 , 11 , 9 , 10 , 23 , 12 และ 9 วินาที จงหาเวลามาตรฐานที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และคาความผิด
พลาด ±5% กําหนดเวลาเผื่อเทากับ 10% 78 of 102
ขอที่ : 333
จากการสุมงานของพนักงานในโรงงานแหงหนึ่ง เก็บขอมูลเบื้องตนไดดังนี้ ในการบันทึกการสุมงาน จํานวน 240 ครั้ง พบวาคนงานทํางาน 132 ครั้ง เวลาในการทํางานทั้งหมด 48
ย
ชั่วโมง สามารถผลิตชิ้นงานได 3,560 ชิ้น คิดเวลาเผื่อใหพนักงานเปน 14% และประเมินประสิทธิภาพการทํางานใหพนักงานเปน 105% จงหาเวลามาตรฐานในการผลิตชิ้นงานของ
่ า
พนักงานวาเปนเทาไร
คําตอบ 1 : 29.5 วินาที/ชิ้น
หน
ำ
คําตอบ 2 : 32.0 วินาที/ชิ้น
จ
คําตอบ 3 : 18.8 วินาที/ชิ้น
า้ ม
คําตอบ 4 : 24.5 วินาที/ชิ้น
ิธ์ ห
ขอที่ : 334
จากการสุมงานของพนักงานโรงงานแหงหนึ่ง ไดเก็บขอมูลเบื้องตนคือ ทําการบันทึกขอมูลโดยการสุมงาน 340 ครั้ง พบวาพนักงานวางงาน 152 ครั้ง ถาตองการความเชื่อมั่นที่ระดับ
ิท
95% คาความละเอียดแมนยํา ที่บวกลบ 10% จงหาจํานวนครั้งที่เหมาะสมในการสุมงาน (N)
คําตอบ 1 : ประมาณ 80 ครั้ง
นส
ว
คําตอบ 2 : ประมาณ 99 ครั้ง
ส ง
คําตอบ 3 : ประมาณ 218 ครั้ง
อ
คําตอบ 4 : ประมาณ 298 ครั้ง
ขอที่ : 335
กร ข
ว
ขอใดไมใชประโยชนของการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling)
าว ศ
ิ
คําตอบ 1 : ใชประมาณคาเปอรเซ็นตการใชงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณตาง ๆ
คําตอบ 2 : ใชประเมินคาประสิทธิภาพการทํางานของคนงาน
ภ
คําตอบ 3 : ใชประมาณตนทุนทั้งหมดของการผลิตสินคาชนิดหนึ่ง ๆ
ส
คําตอบ 4 : ใชหาเวลามาตรฐานของการทํางานหนึ่ง ๆ
ขอที่ : 336
ในการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) ใชหลักการพื้นฐานของความนาจะเปนในการสุมรวบรวมขอมูลการทํางานและการวางงานของพนักงานคนหนึ่งที่กลึงเพลาเสนผานศูนย
กลาง 5 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร ซึ่งแตละวันทํางานมีเวลาทํางาน 8 ชั่วโมง พบวาจํานวนครั้งที่พนักงานทํางานและวางงานเทากับ 34 และ 6 ครั้ง ตามลําดับ จงหาเปอรเซ็นต
การทํางานและเปอรเซ็นตการวางงานของพนักงานคนนี้ตามลําดับ
79 of 102
คําตอบ 1 : 82.35% และ 17.65% ตามลําดับ
คําตอบ 2 : 17.65% และ 82.35% ตามลําดับ
คําตอบ 3 : 85.00% และ 15.00% ตามลําดับ
คําตอบ 4 : 15.00% และ 85.00% ตามลําดับ
ขอที่ : 337
การสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) ในการจัดชั้นวางสินคาของพนักงานคนหนึ่งในรานคาปลีกแหงหนึ่ง ซึ่งในแตละวันทํางาน พนักงานคนนี้จะทําการจัดชั้นวางสินคาในชวงเชา
ย
ตั้งแตเวลา 8.00 น. ถึง 10.00 น. พบวาจํานวนครั้งที่พนักงานทํางานและวางงานในชวงเวลาดังกลาว คือ 16 และ 4 ครั้ง ตามลําดับ จงหาวาในแตละวันทํางาน พนักงานคนนี้จัดชั้น
่ า
วางสินคา โดยใชเวลาทํางานและมีเวลาวางงาน ตามลําดับ เทาใด
คําตอบ 1 : 96 นาที และ 24 นาที ตามลําดับ
หน
ำ
คําตอบ 2 : 384 นาที และ 96 นาที ตามลําดับ
จ
คําตอบ 3 : 90 นาที และ 30 นาที ตามลําดับ
า้ ม
คําตอบ 4 : 360 นาที และ 120 นาที ตามลําดับ
ิธ์ ห
ขอที่ : 338
การรวบรวมขอมูลการใชเครื่องกลึงเครื่องหนึ่งของโรงงานแหงหนึ่ง ซึ่งแตละวันทํางานมี 8 ชั่วโมงทํางาน พบวาการทํางานของเครื่องกลึงเปนดังนี้ คือ ทํางาน 60 ครั้ง อยูระหวาง
ิท
เตรียมงานโดยพนักงานนําชิ้นงานใสเขาเครื่องกลึง และ/หรือ นําชิ้นงานออกจากเครื่องกลึง 10 ครั้ง และเครื่องกลึงวางงาน 10 ครั้ง จงหาจํานวนครั้งที่ตองทําการสังเกตการณเพื่อเก็บ
ส
ขอมูลการทํางานของเครื่องกลึง เมื่อตองการความแมนยํา (Accuracy) ±10% ที่ระดับความเชื่อมั่น (Confidence Level) 95.5% (z หรือ k = 2)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
955 ครั้ง
2,800 ครั้ง
ง ว น
อ ส
คําตอบ 3 : 5,000 ครั้ง
ข
คําตอบ 4 : 11,200 ครั้ง
ขอที่ : 339
ว กร
ศ
ิ
แผนกผลิตเฟอง (Gear) ของโรงงานแหงหนึ่ง มีคนงาน 8 คน ทําหนาที่ผลิตเฟอง ซึ่งในแตละวันทํางาน 8 ชั่วโมง จากการสุมตัวอยางเพื่อรวบรวมขอมูลการทํางานและวางงานของ
าว
คนงานทั้ง 8 คน พบวาทํางาน 900 ครั้ง วางงาน 100 ครั้ง จงหาเวลาที่คนงานทั้งหมดวางงานในแตละวันทํางานและหาคาความแมนยํา (Accuracy) ที่ระดับความเชื่อมั่น
ภ
(Confidence Level) 95.5%
ส
คําตอบ 1 : 0.8 ± 0.152 ชั่วโมง
คําตอบ 2 : 57.6±1.216 ชั่วโมง
คําตอบ 3 : 7.2 ± 0.152 ชั่วโมง
คําตอบ 4 : 6.4 ± 1.216 ชั่วโมง
ขอที่ : 340
ในการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) โดยสังเกตคนงานหนึ่งคนในหนึ่งเดือนที่ผานมาซึ่งมีวันทํางาน 25 วัน และทํางานวันละ 8 ชั่วโมง พบวาคนงานทํางาน8085of เปอร
102 เซ็นต และ
วางงาน 15 เปอรเซ็นต จงหาเวลาทํางานและเวลาวางงานของคนงานคนนี้ในหนึ่งเดือนที่ผานมา
คําตอบ 1 : เวลาทํางานเทากับ 12,240 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 2,160 นาที
คําตอบ 2 : เวลาทํางานเทากับ 12,000 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,800 นาที
คําตอบ 3 : เวลาทํางานเทากับ 10,800 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,200 นาที
คําตอบ 4 : เวลาทํางานเทากับ 10,200 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,800 นาที
ขอที่ : 341
่ า ย
การศึกษาการทํางานผลิตสินคาชนิดหนึ่ง เพื่อกําหนดเวลามาตรฐานของการผลิตสินคาโดยวิธีการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) โดยสังเกตคนงาน 10 คน ที่ทํางานผลิตสินคา
น
ชนิดนี้ ในเวลาหนึ่งสัปดาห ซึ่งจํานวนครั้งของการสังเกตโดยรวม เทากับ 300 ครั้ง และพบขอมูลดังนี้ เวลาทั้งหมดที่ใชทํางานของคนงาน 10 คน เทากับ 24,000 นาที จํานวนสินคา
ห
ทั้งหมดที่ผลิตได เทากับ 20,000 ชิ้น จํานวนการเตรียมงานทั้งหมด เทากับ 200 ครั้ง เปอรเซ็นตการเตรียมงาน เทากับ 10% เปอรเซ็นตการทํางาน เทากับ 80% เปอรเซ็นตการวาง
ำ
งาน เทากับ 5% เปอรเซ็นตความลาชาที่หลีกเลี่ยงไมได เทากับ 2% เปอรเซ็นตความลาชาที่หลีกเลี่ยงได เทากับ 3% เปอรเซ็นตของประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยในการเตรียมงาน เทา
จ
กับ 90% เปอรเซ็นตของประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยในการทํางาน เทากับ 95% เปอรเซ็นตความลดหยอนในการทํางาน เทากับเปอรเซ็นตความลดหยอนในการเตรียมงาน เทากับ 20%
ม
จงหาเวลามาตรฐานของการเตรียมงานตอครั้ง
า้
คําตอบ 1 : 12.96 นาทีตอการเตรียมงานหนึ่งครั้ง
ิธ์ ห
คําตอบ 2 : 12.00 นาทีตอการเตรียมงานหนึ่งครั้ง
คําตอบ 3 : 10.80 นาทีตอการเตรียมงานหนึ่งครั้ง
ิท
คําตอบ 4 : 10.00 นาทีตอการเตรียมงานหนึ่งครั้ง
นส
ว
ขอที่ : 342
ง
การศึกษาการทํางานผลิตสินคาชนิดหนึ่ง เพื่อกําหนดเวลามาตรฐานของการผลิตสินคาโดยวิธีการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) โดยสังเกตคนงาน 10 คน ที่ทํางานผลิตสินคา
ส
ชนิดนี้ ในเวลาหนึ่งสัปดาห ซึ่งจํานวนครั้งของการสังเกตโดยรวม ไดเทากับ 300 ครั้ง และพบขอมูลดังนี้ เวลาทั้งหมดที่ใชทํางานของคนงาน 10 คน เทากับ 24,000 นาที จํานวน
อ
สินคาทั้งหมดที่ผลิตได เทากับ 20,000 ชิ้น จํานวนการเตรียมงานทั้งหมด เทากับ 200 ครั้ง เปอรเซ็นตการเตรียมงาน เทากับ 10% เปอรเซ็นตการทํางาน เทากับ 80% เปอรเซ็นต
ข
การวางงาน เทากับ 5% เปอรเซ็นตความลาชาที่หลีกเลี่ยงไมได เทากับ 2% เปอรเซ็นตความลาชาที่หลีกเลี่ยงได เทากับ 3% เปอรเซ็นตของประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยในการเตรียมงาน
กร
เทากับ 90% เปอรเซ็นตของประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยในการทํางาน เทากับ 95% เปอรเซ็นตความลดหยอนในการทํางาน เทากับเปอรเซ็นตความลดหยอนในการเตรียมงาน เทากับ
20% จงหาเวลามาตรฐานของการผลิตสินคาตอชิ้น
คําตอบ 1 :
ศ
ิ ว
1.200 นาทีตอชิ้น
าว
คําตอบ 2 : 1.094 นาทีตอชิ้น
คําตอบ 3 : 0.960 นาทีตอชิ้น
ขอที่ : 343 ส
คําตอบ 4 :
ภ 0.912 นาทีตอชิ้น
20% จงหาเวลาทํางานและเวลาวางงานของคนงานทั้ง 10 คน
คําตอบ 1 : เวลาทํางานเทากับ 22,800 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,200 นาที
คําตอบ 2 : เวลาทํางานเทากับ 21,600 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 2,400 นาที
คําตอบ 3 : เวลาทํางานเทากับ 19,200 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,200 นาที
คําตอบ 4 : เวลาทํางานเทากับ 19,200 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 4,800 นาที
ขอที่ : 344
่ า ย
ขอใดไมใชขอดีของการสุมงาน
น
คําตอบ 1 : วัดไดหลายงานในเวลาเดียวกัน
ห
คําตอบ 2 : ใชเวลาและคาใชจายนอยกวา
จ ำ
คําตอบ 3 : สามารถบอกรายละเอียดของงานยอยได
ม
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 345
ในการสุมงาน 100 ครั้งพบวามีเครื่องจักรวางอยู 30 ครั้ง จงคํานวณหาคา N โดยกําหนดความแมนยํา ±5% ภายในชวงความเชื่อมั่น 95 %
ิท
คําตอบ 1 : 84 ตัวอยาง
ส
คําตอบ 2 : 336 ตัวอยาง
ว น
คําตอบ 3 : 420 ตัวอยาง
ง
คําตอบ 4 : 4,735 ตัวอยาง
อ ส
ข
ขอที่ : 346
กร
ในการสุมตัวอยางงาน (Work Sampling) โดยสังเกตคนงานหนึ่งคนในหนึ่งเดือนที่ผานมาซึ่งมีวันทํางาน 25 วัน และทํางานวันละ 8 ชั่วโมง พบวาคนงานทํางาน 90 เปอรเซ็นต และ
ว
วางงาน 10 เปอรเซ็นต จงหาเวลาทํางานและเวลาวางงานของคนงานคนนี้ในหนึ่งเดือนที่ผานมา
ศ
ิ
คําตอบ 1 : เวลาทํางานเทากับ 10,800 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,800 นาที
าว
คําตอบ 2 : เวลาทํางานเทากับ 10,800 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,200 นาที
ภ
คําตอบ 3 : เวลาทํางานเทากับ 10,200 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,800 นาที
ส
คําตอบ 4 : เวลาทํางานเทากับ 10,200 นาที และ เวลาวางงานเทากับ 1,200 นาที
ขอที่ : 347
จากการสุมงานของการผลิตสําหรับการบันทึกของหนึ่งสัปดาห คือ 2400 นาที ไดผลผลิตประจําสัปดาหเทากับ 2000 ชิ้น เปอรเซ็นตเวลาทํางานจากการสุมงานเทากับ 85 % อัตรา
การประเมินการทํางานเทากับ 100 % มีเวลาเผื่อเทากับ 15 % จงหาเวลามาตรฐาน (Standard Time)
คําตอบ 1 : 1.15 นาที/ชิ้น
คําตอบ 2 : 1.17 นาที/ชิ้น 82 of 102
ขอที่ : 348
หากตองการเก็บขอมูลเวลาในการใชงานของเครื่องจักรทั้งหมดของโรงงาน เพื่อประเมินอยางคราว ๆ วาจะทําการซื้อเครื่องจักรเพิ่มหรือไม ควรจะใชเทคนิคการวัดผลงานตัวใดถาตอง
การใหไดขอมูลอยางเร็วและประหยัดงบประมาณที่สุด และขอมูลที่ไดคืออะไร
คําตอบ 1 : การสุมงาน / Machine Utilization
่ า ย
คําตอบ 2 : การสุมงาน / Machine Performance
น
คําตอบ 3 : การศึกษาเวลา / Machine Utilization
ห
คําตอบ 4 : การศึกษาเวลา / Machine Performance
จ ำ
ม
ขอที่ : 349
า้
ถาคนงานทํางาน 8 ชั่วโมงตอวัน จากการสุมงานพบวาวางงาน อยู 15 % ในชวงที่เหลือพบวาอัตราการทํางาน (Rating) เทากับ 90 % แลวไดงาน 840 ชิ้น จงหาเวลามาตรฐาน
ิธ์ ห
(นาทีตอชิ้น) ถากําหนดใหเวลาเผื่อ = 20 % ของ Normal หรือ Basic Time
คําตอบ 1 : 0.48
ิท
คําตอบ 2 : 0.52
ส
คําตอบ 3 : 0.56
น
คําตอบ 4 : 0.60
ง ว
ส
ขอที่ : 350
อ
ขอใดเปนขอเสียของการสุมงานเพื่อใชประมาณสัดสวนการทํางานของคนงาน
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
กร ข
ไมไดรวบรวมรายละเอียดของการทํางานนั้น ๆ
สามารถทําใหคนงานไมเกิดความรูสึกวามีคนคอยตรวจดูการทํางานของตน
คําตอบ 3 :
ศ
ิ ว
สามารถหยุดรวบรวมขอมูลในบางชวงเวลาไดโดยไมเกิดขอผิดพลาด
าว
คําตอบ 4 : ไมจําเปนตองใชนาฬิกาจับเวลาหรือเครื่องมือวัดเวลา
ขอที่ : 351
ส ภ
ขอใดเปนขอดีของการสุมงานเพื่อใชประมาณสัดสวนการทํางานของคนงาน
คําตอบ 1 : ไมเหมาะกับงานที่มีวัฏจักรสั้น
คําตอบ 2 : ไมไดรวบรวมรายละเอียดของการทํางานนั้น ๆ
คําตอบ 3 : ไมสามารถบอกรายละเอียดของงานยอยได
คําตอบ 4 : สามารถหยุดรวบรวมขอมูลในบางชวงเวลาไดโดยไมเกิดขอผิดพลาด
83 of 102
ขอที่ : 352
บริษัทแหงหนึ่งใชเครื่องจักรเปนอุปกรณหลักในการผลิต ซึ่งมีเครื่องจักรทั้งหมด 7 เครื่อง จึงทําการสุมงานเพื่อตรวจสอบชวงการใชงานของเครื่องจักรทั้งหมด การกระทําเชนนี้นาจะ
ทําใหไดขอมูลอะไร
คําตอบ 1 : รายละเอียดการทํางาน
คําตอบ 2 : เวลาการใชงานเครื่องจักร
คําตอบ 3 : กําลังการผลิตของเครื่องจักร
คําตอบ 4 : เวลาการทํางานของคน
่ า ย
น
ขอที่ : 353
ห
บริษัทแหงหนึ่งใชเครื่องจักรเปนอุปกรณหลักในการผลิต ซึ่งมีเครื่องจักรทั้งหมด 10 เครื่อง ถาตองการประเมิน Utilization ของเครื่องจักรที่มีอยูอยางรวดเร็ว ควรใชเทคนิคใดในการ
ำ
วัดผลนี้
จ
คําตอบ 1 : ใช Man - Machine Chart ชวยแสดงขอมูล
า้ ม
คําตอบ 2 : ทําการศึกษาเวลา (Time Study)
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : การสุมงาน
คําตอบ 4 : ใชขอมูลเวลามาตรฐาน
ขอที่ : 354
ส ิท
น
วิธีวัดผลงานที่ใหผลมากที่สุดในการศึกษาการใชเครื่องจักรใหเกิดประโยชน คือวิธีใด
ง ว
คําตอบ 1 : การหาเวลาโดยพรีเทอรมิน
ส
คําตอบ 2 : การหาเวลาโดยใชนาฬิกาจับเวลา
อ
คําตอบ 3 : การสุมงาน
ข
คําตอบ 4 : ขอมูลมาตรฐาน
ขอที่ :
ว กร
ศ
ิ
355
าว
การหาขนาดตัวอยางของเทคนิคการสุมงาน ถาใหระดับความเชื่อมั่น 95.5% ดวยความแมนยํา (Precision) ± 10% ขนาดตัวอยางมีคาเทาใด ถาพบวาเครื่องจักรมีการวางงาน 25%
คําตอบ 1 :
ภ
250
ส
คําตอบ 2 : 400
คําตอบ 3 : 1,200
คําตอบ 4 : 1,600
ขอที่ : 356
จงหาขนาดตัวอยางของการสุมงาน ที่ระดับความเชื่อมั่น 99.73% (3 เทาของคาเบี่ยงเบนมาตรฐาน) คาความแมนยํา (Precision) ± 10% และพบวาเครื่องจักรทํางาน 75 %
คําตอบ 1 : 300 84 of 102
คําตอบ 2 : 675
คําตอบ 3 : 2,025
คําตอบ 4 : 2,700
ขอที่ : 357
ขอใดเปนจุดมุงหมายของการสุมงาน (Work Sampling) ในดานการศึกษาการทํางาน
คําตอบ 1 : สุมหาของเสียหรือของดีเพื่อควบคุมกระบวนการผลิต
คําตอบ 2 : สุมหาเวลาทํางานและเวลาวางหรือเวลารอคอย เพื่อจะไดลดเวลาวางงานลง
่ า ย
น
คําตอบ 3 : เก็บขอมูลแบบสุมเพื่อไปสรางมาตรฐานวิธีการทํางาน
ห
คําตอบ 4 : สุมดูวาพนักงานทํางานมากนอยเพียงไรเพื่อใชประเมินในการขึ้นคาจาง
จ ำ
ม
ขอที่ :
า้
358
ขอใดไมใชขอดีของการสุมงานเมื่อเทียบกับการศึกษาเวลา
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ไมตองใชบุคลากรที่มีความชํานาญในการวัดและบันทึกเวลาทํางาน
คําตอบ 2 : การสุมงานงายและเครียดนอยกวาการศึกษาเวลา
ิท
คําตอบ 3 : ความถูกตองแมนยําในขอมูลมีเทากับการศึกษาเวลา
ส
คําตอบ 4 : ใชศึกษาวัดผลงานของคนงานหลายคนหรือเครื่องจักรหลายเครื่องได ในเวลาเดียวกัน
ขอที่ :
ง ว น
ส
359
อ
จํานวนตัวอยางในการสุมงานเพื่อใหมีขอมูลที่มีคาความเชื่อมั่น 95% เมื่อเปรียบเทียบกับที่ 99.8% ควรเปนอยางไร
ข
คําตอบ 1 : นอยกวา
กร
คําตอบ 2 : มากกวา
ว
คําตอบ 3 : เทากัน
ศ
ิ
คําตอบ 4 : ขึ้นกับคาเปอรเซ็นตคาความผิดพลาดที่ยอมรับได
ขอที่ : 360
ภ าว
ส
จํานวนตัวอยางในการสุมงานเพื่อใหมีขอมูลที่มีคาความเชื่อมั่น 95% เปรียบเทียบกับที่ 97.5% ที่คาความเคลื่อนเทากัน ควรเปนอยางไร
คําตอบ 1 : นอยกวา
คําตอบ 2 : มากกวา
คําตอบ 3 : เทากัน
คําตอบ 4 : ขึ้นกับความแมนยําของการสุม
85 of 102
ขอที่ : 361
ขอมูลที่ไดจากการสุมงานในจํานวนที่สามารถสรางคาความเชื่อมั่นที่ระดับหนึ่งได จะมีการแจกแจงแบบใด
คําตอบ 1 : Normal
คําตอบ 2 : Chi-square
คําตอบ 3 : Exponential
คําตอบ 4 : Poisson
่ า ย
ขอที่ : 362
น
การกําหนดตารางเวลาเขาไปสุมเก็บขอมูลเวลาการทํางานในหนึ่งวันควรทําอยางไร
ห
คําตอบ 1 : ใชเวลาหางกันทุก 10 นาที เชน 8:10 น. 8:20 น. 8:30 น. 8:40 น. 8:50 น. เปนตน เพื่อใหผูสุมงานไมสับสนในเรื่องกําหนดเวลาที่จะเขาไปสุม
จ ำ
คําตอบ 2 : ใชเวลาหางกันทุก 1 ชั่วโมง เชน 8:00 น. 9:00 น. 10:00 น. 11:00 น. 13:00 น. เปนตน เพื่อไมใหผูถูกสุมงานรูตัว
ม
คําตอบ 3 : กําหนดเวลาในการสุมที่มีชวงเวลาไมแนนอนภายใน 1 ชั่วโมง เพื่อประหยัดเวลาในการสุมงาน เชน 8:05 น. 8:17 น. 8:33 น. 8:41 น. 8:57 น. เปนตน
า้
คําตอบ 4 : กําหนดเวลาในการสุมที่มีชวงเวลาไมแนนอนในหนึ่งวันการสุมงาน เชน 8:05 น. 9:17 น. 11:22 น. 14:45 น. 15:56 น. เปนตน
ขอที่ : 363
ิธ์ ห
ิท
ขอใดตอไปนี้ถูกตองในการสุมเก็บขอมูลเวลาการทํางาน
ส
คําตอบ 1 : สมชายสรางตารางเก็บขอมูลโดยใชตัวเลขหนาที่ไดจากการเปดหนังสือ
ว น
คําตอบ 2 : แดงสุมเก็บขอมูลเวลาการทํางานจากการเลือกใบบันทึกเวลาที่เปนขอมูลเกา
ง
คําตอบ 3 : สมศรีเลือกเก็บขอมูลจากพนักงานที่ทํางานชา
ส
คําตอบ 4 : ตอยใหพนักงงานกําหนดเวลาที่จะใหเขามาเก็บขอมูลการทํางาน
ขอ
กร
ขอที่ : 364
ว
ขอใดเปนผลที่ไดจากการสุมงาน
ศ
ิ
คําตอบ 1 : เวลาการผลิตตอชิ้น
าว
คําตอบ 2 : เวลาวางงาน-เวลาทํางาน
ภ
คําตอบ 3 : เปอรเซ็นตการใชประโยชนของคนหรือเครื่องจักร
ส
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 365
ขอใดเปนประโยชนทางตรงที่ไดจากการสุมงาน
คําตอบ 1 : ไดขอมูลที่มีความเชื่อมั่น
คําตอบ 2 : แนวทางในการปรับปรุง Utilization
86 of 102
คําตอบ 3 : เปรียบเทียบการทํางานของคนและเครื่องจักร
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 366
ในการกําหนดเวลาการสุมงานสามารถทําไดโดยวิธีใด
คําตอบ 1 : ใชตาราง Random Number
คําตอบ 2 : ใชการจับฉลาก
คําตอบ 3 : ใชการเปดหนาหนังสือ
่ า ย
น
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 367
จ ำ ห
ม
ขอมูลใดอาจจะพบไดในตารางที่ใชบันทึกการสุมงาน
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : รายละเอียดวิธีการทํางาน
คําตอบ 2 : รายละเอียดการวางงาน
คําตอบ 3 : เวลาการทํางานแบบสุม
ิท
คําตอบ 4 : ขอมูลเวลาการทํางานที่จับได
นส
ว
ขอที่ : 368
ง
ประโยชนของการสุมงานเพื่อวัดผลงาน คือขอใด
คําตอบ 1 : ใชหา Process Effectiveness
อ ส
ข
คําตอบ 2 : ใชหา Defect Rate
กร
คําตอบ 3 : ใชหา Turnover Rate
ว
คําตอบ 4 : ใชหา Yield Rate
ขอที่ : 369
าว ศ
ิ
ภ
การสุมวัดวาเครื่องจักรถูกใชงานหรือไมมากนอยเพียงใดจะใหขอมูลที่คลายกับขอมูลที่พบในตัวเลือกใด
ส
คําตอบ 1 : Time Study
คําตอบ 2 : Activity Chart
คําตอบ 3 : PTS
คําตอบ 4 : Standard Time
ขอที่ : 371
่ า ย
ขอใดเปนจุดประสงคของการทําการสุมงาน
น
คําตอบ 1 : หาเวลาวางและเวลาทํางาน
ห
คําตอบ 2 : หา Utilization
จ ำ
คําตอบ 3 : วัดผลงาน
ม
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 372
การสุมงานหนึ่งพบวามีจํานวนครั้งการทํางาน 90 ครั้งและวางงาน 30 ครั้ง จงหาประสิทธิภาพการทํางาน
ิท
คําตอบ 1 : 75 %
ส
คําตอบ 2 : 90 %
ว น
คําตอบ 3 : 25%
ง
คําตอบ 4 : 10%
อ ส
ข
ขอที่ : 373
กร
งานที่จะถูกบันทึกวาเปนการทํางาน (Work :W) ในการสุมงาน คือขอใด
ว
คําตอบ 1 : เขาหองน้ํา
ศ
ิ
คําตอบ 2 : นั่งพัก
าว
คําตอบ 3 : ขนเศษเหล็ก ไปทิ้ง
ภ
คําตอบ 4 : นําชิ้นงานเขาเครื่องจักร
ขอที่ : 374
ส
งานที่จะถูกบันทึกวาเปนการวางงานในการสุมงาน คือขอใด
คําตอบ 1 : ปรับตั้งเครื่องจักร
คําตอบ 2 : เตรียมงาน
คําตอบ 3 : รอวัสดุ
88 of 102
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
ขอที่ : 375
ถาการสุมงานหนึ่งพบวาเปอรเซ็นตวางงานเทากับ 30 แสดงวาอยางไร
คําตอบ 1 : คนงานวางงาน 30 ครั้ง จากการสุม 120 ครั้ง
คําตอบ 2 : คนงานทํางาน 70 ครั้ง จากการสุม 120 ครั้ง
คําตอบ 3 : คนงานทํางาน 84 ครั้ง จากการสุม 120 ครั้ง
ย
คําตอบ 4 : คนงานวางงาน 70 ครั้งจากการสุม 100 ครั้ง
น่ า
ห
ขอที่ : 376
ำ
ขอใดที่ทําใหความนาเชื่อถือในการสุมงานลดลง
คําตอบ 1 : พนักงานทํางานดวยประสิทธิภาพที่ต่ํา
มจ
า้
คําตอบ 2 : พนักงานตองเปนผูบันทึกขอมูลเองในการขณะสุม
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : พนักงานมีสมรรถภาพในการทํางานต่ํา
คําตอบ 4 : ตารางเวลาการสุมงานเปนแบบสุม
ขอที่ : 377
ส ิท
ว น
อัตราสวนการวางงาน (Idle Ratio) ในการสุมงานหมายถึง ขอใด
ง
คําตอบ 1 : เปนตัวเลขเปอรเซ็นตการวางงาน
ส
คําตอบ 2 : เปนเปอรเซ็นตของอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่วางงานตอจํานวนครั้งสุมทั้งหมด
อ
คําตอบ 3 : เปนตัวเลขแสดงอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่วางงานตอจํานวนครั้งที่ทํางาน
คําตอบ 4 :
กร ข
เปนตัวเลขแสดงอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่วางงานตอจํานวนครั้งสุมทั้งหมด
ขอที่ : 378
ศ
ิ ว
าว
เปอรเซ็นตการทํางานจากการสุมงานหมายถึง ขอใด
ภ
คําตอบ 1 : เปนตัวเลขแสดงอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่ทํางานตอจํานวนครั้งที่วางงาน
ส
คําตอบ 2 : เปนตัวเลขแสดงอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่ทํางานตอจํานวนครั้งสุมทั้งหมด
คําตอบ 3 : เปนตัวเลข 100 เทาของอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่ทํางานตอจํานวนครั้งสุมทั้งหมด
คําตอบ 4 : เปนตัวเลขจํานวนเทาของอัตราสวนระหวางจํานวนครั้งที่ทํางานตอจํานวนครั้งสุมทั้งหมด
ขอที่ : 379
ขอใดถูกตองในการสุมงาน
89 of 102
คําตอบ 1 : ผูสุมงานสามารถออกแบบตารางบันทึกผลการสุมงานไดอยางอิสระ
คําตอบ 2 : ควรแจงใหพนักงานทราบลวงหนาวาจะมีการสุมงานเพื่อปองกันการขาดงาน
คําตอบ 3 : ควรใชเวลาที่แนนอนในการสุมงานเพื่อปองกันพนักงานเดินออกจากที่ทํางาน
คําตอบ 4 : ควรใชตารางบันทึกผลมาตรฐานที่กําหนดโดยองคกรที่รับผิดชอบ
ขอที่ : 380
ระดับความเชื่อมั่นที่ใชโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมในการสุมงานแบบปกติคือขอใด
คําตอบ 1 : CL 95% error ± 1%
่ า ย
น
คําตอบ 2 : CL 95% error ± 5%
ห
คําตอบ 3 : CL 95% error ± 0.5%
จ ำ
คําตอบ 4 : CL 95% error ± 0.05%
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
381
ขอใดเปนจริงสําหรับการสุมงาน
คําตอบ 1 : ความผิดพลาดที่ยอมรับไดไมมีผลตอจํานวนการสุม
ิท
คําตอบ 2 : ขอมูลที่สรางความเชื่อมั่นสูงกวา จะมาจากจํานวนขอมูลที่มากกวา
ส
คําตอบ 3 : ขอดอยของการสุมงานคือไมสามารถนําไปหาประสิทธิภาพการทํางานได
ว น
คําตอบ 4 : การสุมงานควรกระทํากับกลุมที่มีพนักงานจํานวนมากเพื่อใหไดขอมูลจํานวนมาก
ส ง
อ
ขอที่ : 382
ข
ประโยชนของขอมูลที่ไดจากการสุมงาน คือขอใด
กร
คําตอบ 1 : ใชประเมินประสิทธิภาพการทํางาน
ว
คําตอบ 2 : บอกปญหาที่เกิดขึ้นในการทํางาน
ศ
ิ
คําตอบ 3 : บอกแนวทางในการปรับปรุงการทํางาน
าว
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 383
ส ภ
ขอมูลที่ไมจําเปนในการใชการสุมงานหาเวลามาตรฐาน
คําตอบ 1 : การประเมินอัตราการทํางาน
คําตอบ 2 : เปอรเซ็นตเวลาการทํางาน
คําตอบ 3 : จํานวนพนักงานที่สุม
คําตอบ 4 : เวลาทํางานทั้งหมด
90 of 102
ขอที่ : 384
ขอเสียของการสุมงาน คือขอใด
คําตอบ 1 : ใชไดกับงานที่ทําดวยเครื่องจักรเทานั้น
คําตอบ 2 : ไดเวลามาตรฐานที่มีความถูกตองแมนยําต่ํากวาการจับเวลา
คําตอบ 3 : พนักงานที่จะทําการสุมเก็บขอมูลตองไดรับการอบรมอยางดี
คําตอบ 4 : ไมสามารถใชกับงานที่คนทํางานกับเครื่องจักรได
่ า ย
น
ขอที่ : 385
ห
ขอใดอธิบายการสุมงานไดอยางถูกตอง
จ ำ
คําตอบ 1 : การกระทําที่ซ้ํา ๆ กันเปนวัฏจักร
ม
คําตอบ 2 : การกระทําที่สามารถคาดการณการเกิดได
า้
คําตอบ 3 : การกระทําที่ทําซ้ํา ๆ กันและคาดการณการเกิดได
ิธ์ ห
คําตอบ 4 : การกระทําที่ไมสามารถคาดการณการเกิดได
ิท
ขอที่ : 386
ส
ขอใดเปนการนําวิธีการสุมงานไปใชไดอยางถูกตองตามหลักการวัดผลงาน
ว น
คําตอบ 1 : หัวหนางานสุมตรวจสอบวาพนักงานนอนหลับในระหวางงานหรือไม เพื่อใชในการประเมินการทํางานปลายป
ง
คําตอบ 2 : หัวหนางานสุมตรวจสอบวาพนักงานมีความเขาใจในการทํางานตรงกันหรือไม เพื่อใหสามารถผลิตสินคาไดเหมือนกัน
ส
คําตอบ 3 : ฝายซอมบํารุงสุมตรวจสอบวาเครื่องจักรที่มีอยูถูกใชงานมากนอยเพียงไร เพื่อประเมินวาจําเปนตองซื้อเครื่องจักรเพิ่มหรือไม
อ
คําตอบ 4 : ฝายควบคุมคุณภาพสุมตรวจสอบชิ้นงานวาเสียหรือไม เพื่อการยอมรับหรือปฏิเสธชิ้นงาน
กร ข
ว
ขอที่ : 387
ศ
ิ
การสุมงาน 100 ครั้ง พบวาวางงาน 20 ครั้ง แสดงวาเวลาที่ทํางานจริงในหนึ่งวันการทํางานซึ่งมี 8 ชั่วโมง เทากับเทาไร
าว
คําตอบ 1 : 80 นาที
ภ
คําตอบ 2 : 384 นาที
ส
คําตอบ 3 : 160 นาที
คําตอบ 4 : หาไมไดเพราะไมไดบอกเวลาเผื่อ
ขอที่ : 388
จากขอมูลในตาราง การสุมงานของคนงานในหนึ่งวัน หรือ 8 ชั่วโมงการทํางาน พบวาจากการบันทึก 80 ครั้ง เปนการทํางาน 70 ครั้ง และเปนเวลาวางงาน 10 ครั้ง จงหาวา คนงานทํา
งานกี่นาที และวางงานกี่นาที
91 of 102
คําตอบ 1 : คนงานทํางาน 420 นาที และวางงาน 60 นาที
คําตอบ 2 : คนงานทํางาน 400 นาที และวางงาน 40 นาที
คําตอบ 3 : คนงานทํางาน 380 นาที และวางงาน 60 นาที
คําตอบ 4 : คนงานทํางาน 440 นาที และวางงาน 40 นาที
ขอที่ : 389
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 60 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 20% ของจํานวนครั้งการสุม จงหาจํานวนขอมูลที่ตอง
บันทึกจริงเพื่อใหไดขอมูลที่มีความเชื่อมั่น 95% และคาความผิดพลาด ± 5%
่ า ย
คําตอบ 1 : ประมาณ 200
น
คําตอบ 2 : ประมาณ 250
ห
คําตอบ 3 : ประมาณ 350
ำ
คําตอบ 4 : ประมาณ 600
มจ
า้
ขอที่ : 390
ิธ์ ห
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 50 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 15% ของจํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานกําลังทํา
งานอยู จงหาจํานวนขอมูลที่ตองทําการสุมทั้งหมดใหไดขอมูลที่มีความเชื่อมั่นอยางนอย 95% และคาความผิดพลาด ± 5%
ิท
คําตอบ 1 : ประมาณ 100 ครั้ง
ส
คําตอบ 2 : ประมาณ 125 ครั้ง
น
คําตอบ 3 : ประมาณ 170 ครั้ง
ง ว
คําตอบ 4 : ประมาณ 200 ครั้ง
ขอที่ :
อ ส
ข
391
กร
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 120 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 10% ของจํานวนครั้งการสุม จงหาจํานวนขอมูลที่ตอง
ทําการเก็บขอมูลเพิ่มใหไดขอมูลที่มีความเชื่อมั่น 95% และคาความผิดพลาด ± 5%
ว
คําตอบ 1 :
ศ
ิ
10
าว
คําตอบ 2 : 20
คําตอบ 3 : 30
ภ
คําตอบ 4 : ไมตองเก็บขอมูลเพิ่ม
ขอที่ : 392 ส
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 300 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 10% ของจํานวนครั้งการสุม จงหา Utilization ของ
คนงาน
คําตอบ 1 : 90%
คําตอบ 2 : 30% 92 of 102
คําตอบ 3 : 10%
คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอ
ขอที่ : 393
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 300 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 20% ของจํานวนครั้งการสุม ถาชวงเวลาที่เก็บขอมูล
อยูระหวาง 8:00 - 17:00 น. และมีเวลาพักรวม 70 นาที และพบวาสามารถผลิตชิ้นงานได 3,760 ชิ้น จงหาเวลาการผลิตจริงตอชิ้น
คําตอบ 1 : 6 นาทีตอชิ้น
่ า ย
คําตอบ 2 : 1 นาทีตอชิ้น
น
คําตอบ 3 : 0.1 นาทีตอชิ้น
ห
คําตอบ 4 : 0.125 นาทีตอชิ้น
จ ำ
ม
ขอที่ : 394
า้
การสังเกตการทํางานแบบสุมอันหนึ่งพบวาจากจํานวนการสังเกต 30 ครั้ง จํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานไมไดทํางานคิดเปน 15% ของจํานวนครั้งการสุมที่พบวาคนงานกําลังทํา
ิธ์ ห
งานอยู จงหาจํานวนขอมูลที่ตองทําการสุมเพิ่มเพื่อใหไดขอมูลที่มีความเชื่อมั่น 95% และคาความผิดพลาด ± 5%
คําตอบ 1 : 80 ครั้ง
ิท
คําตอบ 2 : 100 ครั้ง
ส
คําตอบ 3 : 120 ครั้ง
น
คําตอบ 4 : 150 ครั้ง
ง ว
ส
ขอที่ : 395
อ
การหาเวลามาตรฐานโดยใชระบบเวลาเคลื่อนไหวที่ทราบลวงหนา (Predetermined Time System, PTS) สามารถใชไดกับงานใด
คําตอบ 1 :
กร ข
งานที่ทําอยูแลวโดยการสังเกตและจดบันทึกการเคลื่อนไหวพื้นฐานที่เกิดขึ้น และงานที่ยังไมเกิดขึ้นแตเราทราบวางานนี้ตองมีการเคลื่อนไหวพื้นฐานอะไรบาง
งานที่มีคนงานหลาย ๆ คนทํางานนั้น เพราะวิธีการทํางานโดยคนงานเหลานั้นอาจจะแตกตางกัน ดังนั้นจึงตองศึกษาวาคนงานแตละคนมีการเคลื่อนไหวมือที่ใชทํางาน
ว
คําตอบ 2 :
ตางกันอยางใด
าว ศ
ิ
งานที่มีคนงานเพียงคนเดียวทํางานนั้น เพราะเปนการจําเพาะวาคนงานคนนั้นจะตองมีวิธีทํางานอยางใด เชน มีการเดินไปทํางานที่จุดใดบางและมีการขนยายชิ้นงาน
คําตอบ 3 :
ไปดวยหรือไม เปนตน
ภ
คําตอบ 4 : งานใด ๆ ก็ไดที่คนงานทุกคนของโรงงานตองทํารวมกันซึ่งการเคลื่อนไหวมือที่ใชทํางานนั้น ๆ จะแตกตางกันจึงตองศึกษาดวยระบบเวลาเคลื่อนไหวที่ทราบลวงหนา
ขอที่ : 396 ส
กรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมแหงหนึ่งตองการผลิตผลิตภัณฑใหมที่มีขั้นตอนการผลิตเหมือนเดิมหรือคลายคลึงกันมากกับขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑเดิม แตผลิตภัณฑใหมอาจจะมี
ขนาดใหญขึ้น โดยโรงงานไดวิเคราะหเวลาทํางานของการผลิตผลิตภัณฑเดิมไวโดยละเอียดแลว อยากทราบวาการหาขอมูลดานเวลาที่ใชในการผลิตผลิตภัณฑใหมนั้นควรทําอยาง
ไรจึงจะไดขอมูลดังกลาวรวดเร็วที่สุด
คําตอบ 1 : ศึกษาเวลาที่ใชทําการผลิตผลิตภัณฑใหมดวยนาฬิกาจับเวลาโดยตรงเพื่อใหไดขอมูลเวลาที่ใชในการทํางานที่ถูกตอง
คําตอบ 2 : ใชขอมูลเวลาที่ไดจากการศึกษาเวลาทํางานของการผลิตผลิตภัณฑเดิมมาประมาณเวลาที่ใชทําการผลิตผลิตภัณฑใหม 93 of 102
ขอที่ : 397
การทํางานบรรจุขวดน้ําหวานขนาด 1000 ซีซี ลงในกลองขนาดเล็กที่สามารถบรรจุขวดน้ําหวานดังกลาวได 6 ขวด ของคนงานคนหนึ่ง พบวาใชเวลาบรรจุขวดน้ําหวาน 18 วินาที ถา
ใหคนงานคนเดิมทําการบรรจุขวดน้ําหวานดังกลาวขางตนจํานวน 24 ขวด ลงในกลองขนาดใหญดวยวิธีการเดิมที่เขาทําอยู จงประมาณเวลาที่คนงานดังกลาวใชในการทํางานนี้
คําตอบ 1 : 18 วินาที
่ า ย
คําตอบ 2 : 36 วินาที
น
คําตอบ 3 : 54 วินาที
ห
คําตอบ 4 : 72 วินาที
จ ำ
ม
ขอที่ : 398
า้
จุดเดนในการใชเวลา PTS เพื่อกําหนดเวลามาตรฐานเมื่อเทียบกับวิธีวัดผลงานวิธีอื่น ๆ
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : การคิดเวลาเผื่อทําไดงายกวาวิธีอื่น ๆ
คําตอบ 2 : ไมตองมีการทําการประเมินการทํางาน (Rating)
ิท
คําตอบ 3 : เปนวิธีที่สะดวกและงายในการใชงานเพราะไมจําเปนตองมีสายการผลิต
ส
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 399
ง ว น
ส
ขอใดตอไปนี้ไมใชการเคลื่อนที่พื้นฐานในขอมูล PTS
คําตอบ 1 : การปลอย (Release)
ขอ
กร
คําตอบ 2 : การลาก (Pull)
ว
คําตอบ 3 : การหยิบ (Grasp)
ศ
ิ
คําตอบ 4 : การเคลื่อนไปถึง (Reach)
ขอที่ : 400
ภ าว
ส
การเคลื่อนไหวที่เกิดจากการรวมการเคลื่อนที่ไปถึง (Reach) การหยิบ (Grasp) และการปลอย (Release) เรียกวาอะไร
คําตอบ 1 : Get
คําตอบ 2 : Put
คําตอบ 3 : Handle
คําตอบ 4 : Position
94 of 102
ขอที่ : 401
ในระบบ PTS นั้น การทํางานที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวพื้นฐานเหมือนกัน จะมีเวลาแตกตางกันขึ้นอยูกับปจจัยตัวใด
คําตอบ 1 : ทักษะในการทํางานของพนักงาน
คําตอบ 2 : สถานที่ทํางาน เชน ความสูงของโตะงาน
คําตอบ 3 : ระยะทางในการเคลื่อนไหว
คําตอบ 4 : สภาพแวดลอม เชน อากาศรอน เย็นแตกตางกัน
่ า ย
ขอที่ : 402
น
ขอใดไมมีในการเคลื่อนไหว ระบบ MTM
ห
คําตอบ 1 : REACH
จ ำ
คําตอบ 2 : TURN
ม
คําตอบ 3 : PREPARE
า้
คําตอบ 4 : GRASP
ขอที่ : 403
ิธ์ ห
ิท
ในระบบ MTM การเคลื่อนวัตถุระยะทาง 6 นิ้วใชสัญลักษณอะไร
ส
คําตอบ 1 : L6A
ว น
คําตอบ 2 : M6S
ง
คําตอบ 3 : PS6
ส
คําตอบ 4 : M6A
ขอ
กร
ขอที่ : 404
ว
RL ในระบบ MTM หมายถึงอะไร
ศ
ิ
คําตอบ 1 : Reload
าว
คําตอบ 2 : Relocated
ภ
คําตอบ 3 : Release
ส
คําตอบ 4 : Realload
ขอที่ : 405
1TMU มีคาเทากับขอใด
คําตอบ 1 : 0.0006 นาที
คําตอบ 2 : 0.000001 ชั่วโมง
95 of 102
คําตอบ 3 : 0.036 วินาที
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 3 ถูก
ขอที่ : 406
MOVE ในระบบ MTM มีคาใกลเคียงตัวใดใน Therblig
คําตอบ 1 : P
คําตอบ 2 :
ย
PP
่ า
คําตอบ 3 : G
น
คําตอบ 4 : TL
ขอที่ : 407
จ ำ ห
ม
EYE TIMES ในระบบ MTM จะสัมพันธกับอะไร
า้
ิธ์ ห
คําตอบ 1 : ระยะหางจากตาและวัตถุ
คําตอบ 2 : มุมที่วัตถุเคลื่อนที่
คําตอบ 3 : การโฟกัสที่วัตถุ
ิท
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 3 ถูก
นส
ว
ขอที่ : 408
ง
Simultaneous Motions ใน MTM ใชเพื่ออะไร
คําตอบ 1 : รวบรวมกิจกรรมตางๆ ไวดวยกัน
อ ส
ข
คําตอบ 2 : รวมเวลาของทั้งสองมือ
กร
คําตอบ 3 : วิเคราะหการทํางานพรอมกันทั้งสองมือ
ว
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 409
าว ศ
ิ
ภ
คาที่ไดจาก MTM เปนเวลาอะไร
ส
คําตอบ 1 : Representative Time
คําตอบ 2 : Normal Time
คําตอบ 3 : Standard Time
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 411
่ า ย
การทํางานบรรจุขวดน้ําหวานขนาด 750 ซีซี ลงในกลองขนาดเล็กที่สามารถบรรจุขวดน้ําหวานดังกลาวได 6 ขวด ของคนงานคนหนึ่ง พบวาใชเวลาบรรจุขวดน้ําหวาน 24 วินาที ถาให
น
คนงานคนเดิมทําการบรรจุขวดน้ําหวานดังกลาวขางตนจํานวน 12 ขวด ลงในกลองขนาดใหญดวยวิธีการเดิมที่เขาทําอยู จงประมาณเวลาที่คนงานใชในการทํางานนี้
ห
คําตอบ 1 : 24 วินาที
ำ
คําตอบ 2 : 36 วินาที
มจ
คําตอบ 3 : 48 วินาที
า้
คําตอบ 4 : 60 วินาที
ขอที่ : 412
ิธ์ ห
ิท
ขอใดเปนขอดีของระบบ PTS
ส
คําตอบ 1 : ระบบ PTS มีเวลาหลายตัวเลขสําหรับการเคลื่อนไหวอยางหนึ่ง ๆ
น
คําตอบ 2 : ตองประเมินหา Rating ของคนงานเพื่อนําไปปรับคาเวลาที่ประมาณไดใหเปนเวลาปกติ
คําตอบ 3 :
ง ว
สามารถใชระบบ PTS หาเวลามาตรฐานสําหรับงานนั้น ๆ กอนที่จะมีการผลิตจริง
ส
คําตอบ 4 : ผูศึกษางานตองฝกฝนการใชระบบ PTS ใหดีจึงจะประยุกตใชไดถูกตอง
ขอ
กร
ขอที่ : 413
ว
ขอใดเปนขอเสียของระบบ PTS
ศ
ิ
คําตอบ 1 : ไมตองประเมินหา Rating ของคนงานเพื่อนําไปปรับคาเวลาที่ประมาณไดใหเปนเวลาปกติ
าว
คําตอบ 2 : ผูศึกษางานตองฝกฝนการใชระบบ PTS ใหดีจึงจะประยุกตใชไดถูกตอง
ภ
คําตอบ 3 : มีเวลาเพียงตัวเลขเดียวสําหรับการเคลื่อนไหวอยางหนึ่ง ๆ โดยไมตองคํานึงวาจะทํางานนั้นที่ใด
ส
คําตอบ 4 : สามารถใชระบบ PTS หาเวลามาตรฐานสําหรับงานนั้น ๆ กอนที่จะมีการผลิตจริง
ขอที่ : 414
จงบอกความหมายของการใส (POSITION) ซึ่งเปนองคประกอบหนึ่งของระบบ PTS
คําตอบ 1 : การตั้งใหตรงตําแหนง
คําตอบ 2 : การเคลื่อนยายสิ่งของ
คําตอบ 3 : การปลอยวัตถุ 97 of 102
คําตอบ 4 : การยกมือไปยังปลายทาง
ขอที่ : 415
จงบอกความหมายของการเคลื่อนไป (REACH) ซึ่งเปนองคประกอบหนึ่งของระบบ PTS
คําตอบ 1 : การปลอยวัตถุ
คําตอบ 2 : การตั้งใหตรงตําแหนง
คําตอบ 3 : การเคลื่อนยายสิ่งของ
ย
คําตอบ 4 : การยกมือไปยังปลายทาง
น่ า
ห
ขอที่ : 416
ำ
จงบอกความหมายของการยาย (MOVE) ซึ่งเปนองคประกอบหนึ่งของระบบ PTS
คําตอบ 1 : การยกมือไปยังปลายทาง
มจ
า้
คําตอบ 2 : การปลอยวัตถุ
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : มือเคลื่อนที่ในขณะที่มีชิ้นงานอยูในมือ
คําตอบ 4 : การตั้งใหตรงตําแหนง
ขอที่ : 417
ส ิท
ว น
จงบอกความหมายของการปลอย (RELEASE) ซึ่งเปนองคประกอบหนึ่งของระบบ PTS
ง
คําตอบ 1 : การเคลื่อนยายสิ่งของ
ส
คําตอบ 2 : การปลอยวัตถุ
อ
คําตอบ 3 : การยกมือไปยังปลายทาง
คําตอบ 4 : การหยิบของใหแนนดวยนิ้ว
กร ข
ขอที่ : 418
ศ
ิ ว
าว
จงบอกความหมายของการหยิบ (GRASP) ซึ่งเปนองคประกอบหนึ่งของระบบ PTS
ภ
คําตอบ 1 : การหยิบของใหแนนดวยนิ้ว
ส
คําตอบ 2 : การยกมือไปยังปลายทาง
คําตอบ 3 : การตั้งใหตรงตําแหนง
คําตอบ 4 : การเคลื่อนยายสิ่งของ
ขอที่ : 419
การหาเวลามาตรฐานโดยใชระบบเวลาเคลื่อนไหวที่ทราบลวงหนา (Predetermined Time System, PTS) ไมสามารถใชไดกับงานใด
98 of 102
คําตอบ 1 : งานที่ทําอยูแลวโดยการสังเกตและจดบันทึกการเคลื่อนไหวพื้นฐานที่เกิดขึ้น
คําตอบ 2 : งานที่มีคนงานหลาย ๆ คนทํางานนั้น และวิธีการทํางานของคนงานเหลานั้นมีความแตกตางกัน
คําตอบ 3 : งานที่ยังไมเกิดขึ้นแตเราทราบวางานนี้ตองมีการเคลื่อนไหวพื้นฐานอะไรบาง
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 420
โรงงานอุตสาหกรรมเสื้อผาสําเร็จรูปแหงหนึ่งตองการผลิตผลิตภัณฑใหมที่มีขั้นตอนการผลิตเหมือนเดิมหรือคลายคลึงกันมากกับขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑเดิม ถาวิศวกรฝายผลิตใช
ย
ระบบเวลาเคลื่อนไหวที่ทราบลวงหนา (Predetermined Time System, PTS) มาหาเวลาที่ใชทําการผลิตผลิตภัณฑใหมจะเหมาะสมหรือไม เพราะอะไร
คําตอบ 1 : ไมเหมาะสม เพราะเปนผลิตภัณฑคนละรุนซึ่งไมมีความเกี่ยวของกัน
น่ า
ห
คําตอบ 2 : ไมเหมาะสม เพราะผลิตภัณฑแตละรุนจะมีความเปนอิสระตอกัน
ำ
คําตอบ 3 : เหมาะสม เพราะขั้นตอนการผลิตเหมือนเดิมจึงทราบการเคลื่อนไหวในขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑใหม
มจ
คําตอบ 4 : เหมาะสม เพราะเปนความรับผิดชอบของวิศวกรฝายผลิต
า้
ิธ์ ห
ขอที่ : 421
งานนําชิ้นงานเขาเครื่องจักรงานหนึ่งพบวาเวลาพื้นฐาน (Basic Time) ขึ้นอยูกับความหนาของชิ้นงาน จากขอมูลการทํางานเดิมพบวาความหนาชิ้นงานที่ 10 , 15 , 20 , 25 มิลลิเมตร
ใชเวลาทํางานพื้นฐาน คือ 6 , 9 , 12 , 15 วินาที ตามลําดับ จงหาเวลามาตรฐานของการทํางานนี้เมื่อชิ้นงานมีความหนา 17 มิลลิเมตร ถาเวลาเผื่อเทากับ 10 %
คําตอบ 1 : 10.2 วินาที
ส ิท
น
คําตอบ 2 : 11.2 วินาที
ง ว
คําตอบ 3 : 12.2 วินาที
ส
คําตอบ 4 : 13.2 วินาที
ขอ
กร
ขอที่ : 422
การนําเสนอขอมูลเวลามาตรฐานทําไดอยางไร
คําตอบ 1 : กราฟ
ศ
ิ ว
าว
คําตอบ 2 : ตาราง
คําตอบ 3 : สูตร
ส ภ
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 423
จากขอมูลเวลามาตรฐานที่กําหนดให งานใดเปนงานผันแปร 1. การขนสง 0.004 นาทีตอฟุต 2. การปรับเกจ 2.340 นาที 3. การตั้งเครื่องอัด 15 นาที 30 นาที 60 นาที ขึ้นกับความ
หนา 4. การบรรจุชิ้นสวนขนาดใหญ 0.15 นาที
คําตอบ 1 : 234
คําตอบ 2 : 123 99 of 102
คําตอบ 3 : 13
คําตอบ 4 : 1
ขอที่ : 424
จากขอมูลเวลามาตรฐานที่กําหนดให งานใดเปนงานคงที่ 1. การนําชิ้นงานเขา 0.005 นาทีตอนิ้ว (ความยาวเสนรอบวง) 2. การปรับเกจ 2.340 นาที 3. การตั้งเครื่องขึ้นรูป 15 นาที
30 นาที 60 นาที 4. การบรรจุชิ้นสวนขนาดใหญ 0.15 นาที
คําตอบ 1 : 24
่ า ย
คําตอบ 2 : 13
น
คําตอบ 3 : 234
ห
คําตอบ 4 : 123
จ ำ
ม
ขอที่ : 425
า้
ถาเวลาทํางาน 1 วันคือ 8 ชั่วโมง เปนชวงเวลาเผื่อการหยุดงานที่ไมสามารถปองกันไดวันละ 10% ถาประสิทธิภาพในการผลิตเทากับ 75% และสามารถผลิตชิ้นงานได 1500 ชิ้นตอ
ิธ์ ห
วัน จงหาอัตราการผลิตของงานนี้
คําตอบ 1 : 4.63 ชิ้นตอนาที
ิท
คําตอบ 2 : 4.63 นาทีตอชิ้น
ส
คําตอบ 3 : 0.216 ชั่วโมงตอนาที
น
คําตอบ 4 : 0.216 ชิ้นตอนาที
ง ว
ส
ขอที่ : 426
อ
ถาเวลาทํางาน 1 วันคือ 8 ชั่วโมง เปนชวงเวลาหยุดงาน 48 นาที ถาประสิทธิภาพในการผลิตเทากับ 75% และมีอัตราการผลิตเทากับ 0.216 นาทีตอชิ้น จะสามารถผลิตชิ้นงานไดกี่
กร ข
ชิ้นตอวัน
คําตอบ 1 : 1,250 ชิ้นตอวัน
ว
คําตอบ 2 : 1,500 ชิ้นตอวัน
าว ศ
ิ
คําตอบ 3 : 1,750 ชิ้นตอวัน
คําตอบ 4 : 2,000 ชิ้นตอวัน
ขอที่ : 427
ส ภ
ถาเวลาทํางาน 1 วันคือ 8 ชั่วโมง เปนชวงเวลาหยุดงาน 48 นาที ถาประสิทธิภาพในการผลิตเทากับ 75% และมีอัตราการผลิตเทากับ 0.216 นาทีตอชิ้น ถาตองการผลิตชิ้นงานใหได
2,000 ชิ้นตองเพิ่มการทํางานลวงเวลาเทาไร
คําตอบ 1 : 108 นาที
คําตอบ 2 : 75 นาที
คําตอบ 3 : 60 นาที
100 of 102
คําตอบ 4 : ไมตองเพิ่ม
ขอที่ : 428
จงคํานวณหา performance ถาพนักงานสามารถผลิตสินคาได 1,000 ชิ้น ภายใน 8 ชั่วโมง เมื่อเวลามาตรฐานของการผลิตชิ้นงานคือ 100 ชิ้นตอชั่วโมง
คําตอบ 1 : 100%
คําตอบ 2 : 112.5%
คําตอบ 3 : 125%
ย
คําตอบ 4 : 150%
น่ า
ห
ขอที่ : 429
ำ
ถาเวลามาตรฐานตอรอบการปมชิ้นงานตอชิ้นเทากับ 1.5 นาที เมื่อตองการปมขึ้นรูปชิ้นงาน 1 ชิ้นใหไดในเวลา 0.172 นาที จะตองใชเครื่องปมกี่เครื่อง
คําตอบ 1 : 7 เครื่อง
มจ
า้
คําตอบ 2 : 8 เครื่อง
ิธ์ ห
คําตอบ 3 : 9 เครื่อง
คําตอบ 4 : 10 เครื่อง
ขอที่ : 430
ส ิท
ว น
ถาเวลาทํางาน 1 วันคือ 8 ชั่วโมง เปนชวงเวลาหยุดงาน 50 นาที ถาประสิทธิภาพในการผลิตเทากับ 80% และมีอัตราการผลิตเทากับ 0.172 นาทีตอชิ้น จะสามารถผลิตชิ้นงานไดกี่
ง
ชิ้นตอวัน
ส
คําตอบ 1 : 1,500 ชิ้นตอวัน
อ
คําตอบ 2 : 2,000 ชิ้นตอวัน
กร ข
คําตอบ 3 : 2,250 ชิ้นตอวัน
คําตอบ 4 : 2,500 ชิ้นตอวัน
ศ
ิ ว
าว
ขอที่ : 431
ถาพบวาการนําชิ้นงานเขาเครื่องจักร (Loading) เปนงานที่ไมขึ้นกับขนาด น้ําหนักและจํานวน ดังนั้นขอใดถูกตอง
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :ส ภ งาน Loading เปนงานผันแปร
งาน Loading เปนงานคงที่
เวลาการทํางานของงาน Loading ไมคงที่
คําตอบ 4 : ขอ 1 2 และ 3 ผิด
ขอที่ : 432
ถาการตรวจวัดชิ้นงานที่มีความหนาตาง ๆ กัน คือ 10 , 12 , 15 และ 20 มิลลิเมตร ใชเวลาในการทํางาน คือ 2.5 , 2.6 , 2.5 และ 2.5 วินาที ตามลําดับ สรุปไดวา101
อยofางไร
102
คําตอบ 1 : งานตรวจวัดชิ้นงานตามขนาดขางตนเปนงานคงที่
คําตอบ 2 : เวลาที่ใชตรวจวัดชิ้นงานความหนา 25 มิลลิเมตร ใชเวลาประมาณ 2.5 วินาที
คําตอบ 3 : งานตรวจวัดชิ้นงานเปนงานผันแปร
คําตอบ 4 : ขอ 2 และ 3 ถูก
ขอที่ : 433
หลังจากทําการปรับปรุงและไดวิธีการทํางานใหมเปนที่เรียบรอยแลว เครื่องมือใดที่จะชวยในการทําใหวิธีการทํางานใหมนั้นมีการใชงานไดอยางถูกตอง
คําตอบ 1 : Process Chart
่ า ย
น
คําตอบ 2 : Job Description
ห
คําตอบ 3 : Work Construction
จ ำ
คําตอบ 4 : Work Instruction
ขอที่ :
า้ ม
ิธ์ ห
434
ถาการตัดชิ้นงานที่มีความหนาตาง ๆ กัน คือ 10 , 12.5 , 15 และ 20 มิลลิเมตร ใชเวลามาตรฐานในการทํางาน เทากับ 15 , 20 , 25 และ 35 วินาที ตามลําดับ จงหาเวลามาตรฐานใน
การตัดชิ้นงานหนา 17.5 มิลลิเมตร
ิท
คําตอบ 1 : 27.5 วินาที
ส
คําตอบ 2 : 30.0 วินาที
น
คําตอบ 3 : 32.5 วินาที
คําตอบ 4 : 40.0 วินาที
ง ว
อ ส
ข
ขอที่ : 435
กร
การดัดแปลงแผนภูมิปฏิบัติงาน (Operation Chart หรือ Left and Right Hand Chart) มาใชเปนแบบฟอรมที่ใชบันทึกขั้นตอนในการปฏิบัติงาน(Standard Practice Sheet) เปน
ตัวอยางของการทําอะไร
คําตอบ 1 :
ศ
ิ ว
Standardization
าว
คําตอบ 2 : Process Design
คําตอบ 3 :
ภ
Project Report
ส
คําตอบ 4 : Prototype
102 of 102