Professional Documents
Culture Documents
แนวทางการใช้ยาปฎิชีวนะ2
2
From a project to a national program
การอักเสบแบบติด การอักเสบแบบไม่ติด
เชื้อ เชื้อ
ติดเชื้อ
ติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ
ไวรัส ภูมิแพ้ โรค SLE
• ยาสเตียรอยด์ (Steriods)
• ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่ส
ยา
เตียรอยด์ (NSAIDs)
ปฏิชีวนะ
ไม่ใช้ยา
ปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะเป็น
“ยาอันตราย”
ความหมายที่ 1:
ยาปฏิชีวนะเป็นยาอันตราย
ตาม พรบ. ยา
8
ยาปฏิชีวนะเป็น
“ยาอันตราย”
• ยาอันตราย(
คำเตือน(
1.ห้ามใช้ในผู้ป่วยแพ้ยานี้(
2.ยานี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้และเป็นอันตรายถึงตาย
ได้(
3.หากเกิดอาการผื่นแดง ระคายเคืองหรือบวมให้หยุด
ยาและปรึกษาแพทย์(
ยาปฏิชีวนะเป็น
“ยาอันตราย”
อันตรายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ(
(
1. แพ้ยา(
2. อาการข้างเคียงจากการใช้ยา(
3. เชื้อดื้อยา(
(
Antibiotic Associated Colitis (AAC)
11
ที่มา: Slides บรรยายโดย ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล
อาการไม่พึง
ประสงค์
12
ที่มา: Slides บรรยายโดย ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล
การใช้ยาปฏิชีวนะ
อย่างไม่เหมาะสม
เกิดขึ้นบ่อยมาก<
14
ที่มา: Slides บรรยายโดย ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล
Inappropriate use of antibiotics in
teaching hospitals ที่มา: Slides บรรยายโดย ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล
91%
15
Hogerzeil HV. Promoting rational prescribing: An international perspective. Br J Clin Pharmac. 1995;39:1-6
การใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ =
การทำร้ายครอบครัวและคนรอบข้าง
u เชื้อดื้อยาแบ่งตัว และถ่ายทอดจากคนหนึ่งสู่คน
อื่น ๆ ได้ ผ่านทางการไอ จาม การกิน และการสัมผัส
u ผู้มีความเสี่ยงสูงจากการติดเชื้อดื้อยา
u เด็ก
u คนแก่
u คนที่เป็นเบาหวาน
u คนที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำหรือบกพร่อง
16
Mariana bridi: นางแบบชาว
บราซิล
17
ปรับปรุงจาก: Slide บรรยายโดย นพ.เชิดศักดิ์ มาศมหิ
เสียชีวิตในวัยเพียง 20 ปี...เพราะ
เชื้อดื้อยา
แพทย์ตัดมือและเท้าทั้งสอง
ข้าง ของนางแบบชาวบราซิล
(พยายามที่จะรักษาชีวิตเธอ
ไว้ แต่ไม่สำเร็จ)
18
Antibiotics smart use
• โรคติดเชื้อเฉียบพลันทางเดินหายใจส่วนบน(
• โรคท้องร่วงเฉียบพลัน(
• บาดแผล(
โรคติดเชื้อทางเดิน
• สาเหตุกหายใจส่วนบน
ารติดเชื้อ(
– 80% จากไวรัส(
– 20% จากแบคทีเรีย( ส่วนใหญ่จึงไม่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ7
• กรณีที่ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ(
– อาการดังนี้ ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ มีน้ำมูกมาก จามบ่อย
เสียงแหบ ตาแดง มีผื่นตามตัว แผลในปาก ถ่าย
เหลวไอโดยตรวจไม่พบอาการโรคปอดอักเสบ (
– ไข้สูง > 38๐c ร่วมกับอาการข้างต้น หมายถึง ติดเชื้อ
ไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยาฆ่าเชื้อ (
(
(
ขนาดและวิธีให้ยาฆ่าเชื้อ2
โรคติดเชื้อทางเดิน
หายใจส่วนบน
• กรณีที่ควรใช้ยาปฏิชีวนะ: คอหอยและทอนซิลอักเสบ(
– ไข้สูง เจ็บคอมาก มีจุดขาวที่ทอนซิล ต่อมน้ำเหลืองใต้
คอโต ลิ้นไก่บวมแดง มีจุดเลือดออกที่เพดานปาก(
– ยาที่ควรใช้: penicillin V, amoxicillin, roxithromycin
10 วัน(
(
โรคติดเชื้อทางเดิน
หายใจส่วนบน
• กรณีที่อาจให้ยาปฏิชีวนะ: หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ(
– มีไข้ ปวดหู โดยเฉพาะหลังจากเป็นหวัด หมายถึงติด
เชื้อในหูชั้นกลาง(
– การติดเชื้อในหูชั้นกลางมักดีขึ้นใน 72 ชั่วโมง เพราะ
ฉะนั้น ใน3วันแรกจึงไม่จำเป็นต้องให้ยา แต่หาก
พ้น3วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นจึงทานยาฆ่าเชื้อ(
ขนาดและวิธีให้ยา
ฆ่าเชื้อ
• Penicillin V2
– ผู้ใหญ่ 500 มก. วันละ 2-3 ครั้ง(
– เด็ก 25-50 มก./กก./วัน วันละ 2-3 ครั้ง(
• Amoxicillin2
– ผู้ใหญ่ 500 มก. วันละ 3 ครั้ง(
– เด็ก 25-50 มก./กก./วัน วันละ 3 ครั้ง หากเป็นไซนัส
อักเสบให้ 80-90 มก./กก./วัน วันละ 2-3 ครั้ง(
ขนาดและวิธีให้ยา
ฆ่าเชื้อ
• Erythromycin 2
– เด็ก 5-8 มก./กก./วัน วันละ 2 ครั้ง(
2
QUIZ
ข้อควรรู้
• การมีน้ำมูกหรือเสมหะข้น หรือสีเขียวเหลืองไม่ได้บ่งชี้ว่า
ต้องทานยาฆ่าเชื้อ (
• อาการไข้สูงเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าต้องทานยาฆ่า
เชื้อ เพราะอาจเป็นโรคอื่นได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือด
ออก(
โรคท้องร่วง
เฉียบพลัน
• โรคท้องร่วง หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลวจำนวนอย่าง
น้อย 3 ครั้งหรือถ่ายมีมูกปนเลือดหรือเป็นน้ำ อย่างน้อย
1 ครั้ง(
• ผู้ป่วยที่มอี าเจียนเป็นอาการเด่นมักหมายถึงอาหารเป็น
พิษ ไม่ใช่ติดเชื้อจึงไม่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ(
โรคท้องร่วง
เฉียบพลัน
• การให้ยาฆ่าเชื้อควรให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการร่วมดังนี้(
– ไข้สูง > 38๐c 2
– อุจจาระเป็นมูกหรือมีเลือดปนเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือ ตรวจ
พบWBC RBCในอุจจาระ(
• ยาฆ่าเชื้อที่ควรใช้คือ norfloxacin2
– ผู้ใหญ่ 400 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน(
– เด็กอาจให้ co-trimoxazole2
ข้อควรรู้
• เป้าหมายสำคัญที่สุดในการรักษาไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ แต่
เป็นการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนที่สูญเสียไปกับ
อุจจาระ(
• ยาบางตัวไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีท้องร่วง ได้แก่ buscopan,
imodium, lomotil เป็นต้น(
• การให้ activated charcoal หรือ ultracarbon สามารถให้ได้
ไม่เป็นพิษ ราคาถูกและช่วยลดความกังวลใจแก่ผู้ป่วย
โดยทาน 1-2 เม็ด วันละ 2-4 ครั้ง(
บาดแผล
• แผลที่ยังไม่ติดเชื้อ คือ บาดแผลที่มาถึงรพ.ภายใน6ชั่วโมง(
• แผลสะอาด หมายถึง(
– บาดแผลเปิดที่มีขอบเรียบสามารถล้างทำความสะอาดง่าย(
– ไม่มีเนื้อตาย(
– บาดแผลที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ แต่ล้างออกได้ง่าย(
– แผลที่ไม่ได้เปื้อนสิ่งแปลกปลอมที่ติดเชื้อสูง เช่น น้ำคลอง ดิน
มูลสัตว์ เป็นต้น(
(
บาดแผล
• บาดแผลที่มีโอกาสติดเชื้อสูง(
– บาดแผลที่ถูกวัตถุทิ่มเป็นรูยากแก่การทำความสะอาดได้ทั่วถึง(
– บาดแผลที่มีเนื้อตายเป็นบริเวณกว้าง(
– บาดแผลที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ ที่ล้างได้ไม่หมด(
– บาดแผลที่สัมผัสเชื้อโรคมาก เช่น ดิน น้ำคลอง เหล็กมีสนิม มูลสัตว์
เป็นต้น(
– บาดแผลจากการบดอัด(
– แผลที่เท้า(
– แผลขอบไม่เรียบ(
– แผลผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือโอกาสติดเชื้อง่าย เช่น เบาหวาน เป็นต้น(
(
บาดแผล
ยาฆ่าเชื้อให้ในกรณีที่แผลมีโอกาสติดเชื้อสูงเท่านั้น และ
เป็นการให้เพื่อการป้องกันการติดเชื้อ ยาที่ควรใช้(
• Dicloxacillin
– ผู้ใหญ่ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง 2 วัน(
– เด็ก 25-50 มก. วันละ 4 ครั้ง 2 วัน(
• Clindamycin
– ผู้ใหญ่ 150-300 มก. วันละ 4 ครั้ง 2 วัน(
– เด็ก 8-25 มก./กก./วัน วันละ 4 ครั้ง 2 วัน(
ข้อควรรู้
• ในการชะล้างแผลที่สกปรกเป็นร่องลึกควรใช้ syringe
10-40 cc. ฉีดล้างบริเวณแผลให้ทั่วถึง แค่ scrub อย่างเดียว
ไม่ได้(
• ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำยาฆ่าเชื้อใดๆลงในบาดแผล เพราะไม่
ลดโอกาสติดเชื้อและ อาจทำลายเนื้อเยื่อในแผลให้แผล
หายช้าลง(
• ทุกครั้งที่ผู้ป่วยมาทำแผลต้องสังเกตแผลเสมอว่ามีการ
อักเสบหรือไม่(
(
ข้อควรรู้
• การตัดไหม(
– กรณีแผลที่หน้า ตัดไหม 5 วัน(
– แผลทีข่ ้อพับ ตัดไหม 10-14 วัน(
– แผลอื่นๆ ตัดไหม 7 วัน(
บุคลากรทางการแพทย์.
คนไข้ และประชาชนทั่วไป.
The end