You are on page 1of 22

เทคนิคใน Microsoft word 2010

Office 2010 Tip: อ่านอย่างเดียวนะ…ห้ามแก้ไข


สาหรับเอกสารเวิร์ดบ้างครั้ง เมื่อเราส่งให้คนอื่นอ่านหรือตรวจสอบ แล้วไม่ต้องการให้แก้ไข หรือใส่คอมเมนต์
ลงในเอกสารนั้น เราก็สามารถกาหนดค่าป้องกันการแก้ไขได้ โดยทาตามนี้

1.เปิดเอกสารนั้นขึ้นมา

2.แล้วไปที่ริบบอนแท็บ Review แล้วคลิกที่ปุ่ม Restrict Editing

3.จะมีรายการกาหนดค่าออกมาทางด้านขวา โดยอันดับแรกให้คลิกใส่เครื่องหมายถกที่ Limit formatting


to a selection of styles ซึ่งเราสามารถกาหนดค่าต่างๆได้อีกเมื่อคลิกที่ Settings ในหัวข้อนี้

4.ต่อมาคลิกใส่เครื่องหมายถูกที่ Allow only this type of editing in the document เป็นการ


กาหนดค่าลิสต์บ็อกซ์ว่าจะอนุญาตให้พิมพ์อะไรลงได้บ้าง

5.คลิกเลือกกาหนดผู้ที่สามารถแก้ไขเอกสารได้

6.แล้วก็คลิกปุ่ม Yes, Start Enforcing Protection


7.จะมาที่หน้าต่าง Start Enforcing Protection ให้เลือกกาหนดพาสเวิร์ด โดยคลิกที่ Password

8.พิมพ์พาสเวิร์ดลงไปสองครั้ง

9.คลิกปุ่ม OK

10.กลับมาที่เอกสารเราจะเห็นว่าคาสั่งในริบบอนแท็บบางส่วนจะไม่สามารถใช้งานได้

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=77645
นาไฟล์ออฟฟิศ 2010 ที่มีฟอนต์เฉพาะตัว ไปเปิดเครื่องอื่นได้ด้วย

ตามปกติคุณๆ ที่ทางานเอกสารของชุดออฟฟิศ 2010 ซึ่งได้แก่ Word , Excel และ Power Point คุณที่ชอบ
ใช้ฟอนต์ที่สวยงามแปลกไม่เหมือนคนอื่น เพือ่ ให้เอกสารของคุณดูดีดูสวยงาม ซึง่ ฟอนต์เหล่านี้ก็อาจหามาจาก
ที่อื่นๆ มาลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ปัญหาก็คือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไม่มีฟอนต์แบบคุณ ทาให้ไฟล์ของ
คุณ เมื่อเอาไปเปิดที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่มีฟอนต์เหมือนของคุณ จะทาให้ความสวยงามของเอกสารที่คุณ
เคยทาไว้นั้น หายไปหมดสิ้น แถมยังทาให้เค้าโครงเอกสารผิดเพี้ยนไปด้วยเพื่อความไม่ประมาท เมื่อคุณรู้ว่า
จะต้องเอาเอกสารไปเปิดที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น คุณจึงควรแนบฟอนต์พิเศษของคุณไปกับเอกสารก็จะเป็น
การดี ถึงแม้ว่าจะทาให้เอกสารนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นก็ตาม แต่ก็คุ้มค่าที่จะแนบไป

วิธีการตั้งค่าให้แนบฟอนต์ไปกับเอกสารก็มีดังนี้

1. คลิกที่เมนู File > Option > Save

2.ให้คลิกทาเครื่องหมายถูกที่รายการ Embed fonts in the file แล้วคลิก OK

เท่านี้เมื่อคุณเซฟไฟล์เอกสารไมโครซอฟต์ออฟฟิศ 2010 ฟอนต์สวยๆของคุณก็จะแนบไปกับไฟล์ เมื่อเอาไปใช้


กับเครื่องอื่นก็จะไม่มีปัญหาเรื่องฟอนต์อีกต่อไป

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=56063
มาสร้างเอกสาร PDF อย่างง่ายๆ ด้วย Microsoft Office 2010
หลังจากได้ใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Professional Plus 2010 ตั้งแต่ยังเป็นตัว Beta จนปัจจุบัน
เป็นตัวจริงที่วางจาหน่าย ก็มีความรู้สึกที่ดีกับความสามารถหลายๆ อย่างที่มีเพิ่มขึ้นจาก Microsoft Office
2007 มีฟีเจอร์อย่างหนึ่งที่ชอบ ได้แก่การบันทึกไฟล์เป็นฟอร์แมต PDF ได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมที่
เรียกว่า Add-in เข้ามาช่วยเหมือน Microsoft Office 2007 ?และยังสามารถทาการใส่ Password กับไฟล์
PDF ที่สร้างได้ด้วย

วิธีการบันทึกเป็น PDF ของ Microsoft Office 2010 มีขั้นตอนดังนี้

1.ให้เปิดไฟล์ที่ต้องการทาเป็น PDF ขึ้นมา (ในที่นี่ของใช้ไฟล์เวิร์ดเป็นตัวอย่าง) เมื่อเปิด Microsoft Office


Word? ให้คลิกที่เมนู File > Save As เลือกเป็น PDF

2.ในกรณีที่ต้องการใส่ Password เพือ่ ป้องกันการดูข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาติให้คลิก Options? ถ้าไม่


ต้องการใส่ Password ก็ให้คลิก Save ได้เลย

3.เมื่อคลิกที่ Options.. แล้ว จะมาที่หน้าต่าง Options ให้คลิกใส่เครื่องหมายถูกที่ Encrypt the


documentwith a password แล้วคลิก OK
4.ในหน้าต่าง Encrypt PDF Document ให้กรอก Password ความยาวตั้งแต่ 6 – 32 ตัวอักษร เสร็จแล้ว
คลิกOK จากนั้นในหน้าต่าง Save As ให้คลิก Save ก็เป็นเสร็จ คุณก็จะได้ไฟล์ PDF ไว้ใช้งาน

เท่าที่ผมทดลองใช้กับไฟล์ที่เป็นภาษาไทย ก็ไม่มีปัญหากับภาษาไทย ไฟล์ PDF ที่ได้มา เมื่อเอาไปอ่านด้วย


โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF ภาษาไทยก็เป็นปกติ
ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=37042
ลบฉากหลังของภาพในแบบฉบับ MS Office 2010
หลังจากที่ไมโครซอฟต์ได้เปิดตัว MS Office 2010 อย่างเป็นทางการ ท่านผู้ที่ทดลองใช้แล้วจะติดใจในฟีเจอร์
ใหม่ๆ ที่เสริมประสิทธิภาพหลายๆ อย่างเข้ามา ผมขอทาหน้าที่แนะนาฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งทาให้ Microsoft
Office 2010 มีลูกเล่นที่น่าใช้มากขึ้น สาหรับวันนี้ของแนะนาฟีเจอร์ Remove Background ?เป็นตัวแรก

Remove Background เป็นฟีเจอร์หรือเครื่องมือ ที่มาพร้อมกับ Microsoft Office 2010 เป็นเครื่องมือที่ทา


การลบฉากหลังของภาพออก ซึ่งใน Office เวอร์ชันก่อนหน้านี้ก็มีอยู่แล้ว แต่ความสามารถลบฉากที่เป็นสี
เดียวกันเท่านั้น แต่มาเวอร์ชันนี้ มีการจัดการที่ดีความสามารถมากกว่าเดิม โดยฟีเจอร์นี้สามารถใช้กับ
โปรแกรมในชุด Microsoft Office ได้แก่? Microsoft Word , Excel และ PowerPoint

วิธีใช้คาสั่ง Remove Background

1.เปิดโปรแกรมที่ต้องการ ในที่นี่ของใช้ Microsoft Word เป็นตัวอย่าง คลิกที่เมนู Insert เลือก


คาสั่ง Picture

2.เลือกรูปที่ต้องการ เมื่อรูปภาพมาอยู่ที่ Word แล้ว ให้ดับเบิลคลิกที่รูปภาพ


3.จะเห็นว่ามีแท็บ Picture Tools ออกมา ให้คลิกที่คาสั่ง Remove Background ที่อยู่ทางซ้ายมือ

4.รูปภาพที่เราจะลบ Background ออกจะเป็นสีม่วง ซึ่งก็คือ Background ที่จะลบออก บางครั้ง


Background ที่จะลบออก บางส่วนจะเลือกไม่ครบ จะทาให้ภาพออกมาไม่สมบูรณ์ เราก็ยังสามารถแก้ไขโดย
เครื่องมือดังนี้

Mark Areas to Keep – เครื่องมือสาหรับการเลือกบางส่วนของภาพที่ต้องการ


Mark Areas to Remove – เครื่องมือเลือกบางส่วนที่เกินเข้ามา
Delete Mark – ลบส่วนที่ Mark ออก
Discard All Changes – ยกเลิกทั้งหมด
Keep Changes – คาสั่งในการอัพเดท หลังมีการเลือก หรือยกเลิกการเลือก

5.เมื่อแก้ไขรูปภาพเป็นที่พอใจแล้ว ก็ให้คลิกคาสั่ง Keep Changes เป็นเสร็จการลบ Background


ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=40230
แทรกสัญลักษณ์ในเอกสารออฟฟิศ 2010 แบบง่ายๆ
สาหรับผู้ที่ทางานกับเอกสารออฟฟิศ 2010 (Word, Excel, PowerPoint) และชอบที่จะใส่สัญลักษณ์ต่างๆ
เพื่อให้เอกสารของท่านดูดีสวยงาม ในออฟฟิศ 2010 ได้ตอบสนองคุณผู้ใช้ด้วยวิธีการแทรกสัญลักษณ์เหล่านี้
ได้อย่างสะดวกขึ้น ?เพียงแค่เลือกไปที่ริบบอนเมนู Insert แล้วคลิกที่ปุ่ม Symbol ที่อยู่ทางด้านขวา จะมี
สัญลักษณ์แบบต่างๆ แสดงออกมาให้เลือกเป็นจานวน ?20 ตัว ถ้าต้องการเลือกมากกว่านั้น ก็คลิกที่ More
Symbol จะมีหน้าต่างแสดงสัญลักษณ์ออกมาให้เลือกอีกเพียบ

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=58421
ไม่ให้ Office 2010 แปลงแอดเดรสเป็นลิงค์
ปกติถ้าคุณทาเอกสารออฟฟิศ 2010 (Word, Excel, Powerpoint) และได้พิมพ์แอดเดรสหรือพวกอีเมล์ ด้วย
ความฉลาดของออฟฟิศ 2010 โปรแกรมจะแปลงให้เป็นลิงค์ ซึ่งเมื่อเผลอไปคลิกระบบจะวิ่งไปที่เว็บเบาว์เซอร์
ในกณีที่เป็นแอดเดรสของเว็บ และไปที่ Outlook 2010 ในกรณีที่เป็นอีเมล์ เจ้าความฉลาดแบบนี้บางท่าน
อาจไม่ชอบ ต้องการจะยกเลิกก็สามารถทาได้

โดยคลิกเมนู ?File > Options > Proofing > AutoCorrect Options คลิกแท็บ ?AutoFormat As You

Type แล้วคลิกยกเลิกโดยเอาเครื่องหมายถูกออกจากช่อง Internet and network paths with hyperlinks

แล้วคลิก OK

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=57819
ค้นข้อมูลในเอกสารเวิร์ดได้ง่ายๆ ด้วย Navigation Pane
ในชุดออฟฟิศ 2010 มีฟังก์ชันหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาตัวหนึ่ง เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ทางานเอกสารเวิร์ด
ที่เรียกว่า Navigation Pane ?ซึ่งจะเป็นแท็บมุมมองที่แสดงภาพย่อของเอกสารแต่ละหน้าในไฟล์ ที่เรากาลัง
ทางานอยู่ โดยแท็บนี้จะอยู่ทางด้านซ้ายของเอกสาร เพื่อให้เราสามารถเลื่อนเพื่อค้นหาส่วนของเอกสารที่เรา
กาลังทางาน มองหาหรือค้นหาข้อมูลอย่างสะดวกรวดเร็วกว่าการค้นหาข้อมูลในหน้าหลักนอกจากนี้เรายัง
สามารถสั่งค้นหาคาที่อยู่ในเอกสารของเราได้อย่างสะดวก ด้วยการแสดงไฮไลต์เป็นแท็บสีเหลืองบนข้อความที่
ตรงกับคาที่เราค้นหา

การเรียกใช้ฟังก์ชันนี้ก็สามารถทาได้โดย คลิกไปที่ริบบอนเมนู View แล้วคลิกเลือกที่ Navigation Pane แต่


ถ้าจะให้ง่ายไปกว่านั้นอีก ก็เพียงเรากดคีย์ Ctrl + F ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=57834
Mini Translator ฟีเจอร์แปลภาษาของ Office 2010
สาหรับคนไทยด้วยส่วนใหญ่จะมีปัญหากับเรื่องภาษาต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้หาโปรแกรมพจนานุกรมที่
ขายอยู่ทั่วไป มาใช้ ซึ่งจะไม่สะดวกนักในการใช้ คือต้องเปิดโปรแกรมค้างไว้ พร้อมทั้งทางานไมโครซอฟต์
ออฟฟิศ 2010 สลับโปรแกรมกันไปมา ทางไมโครซอฟต์เห็นถึงปัญหานี้ จึงเพิ่มความสะดวกด้วยทูลเล็กๆ
สาหรับแปลภาษาที่เรียกว่า Mini Translator เพียงแค่คุณเลือกคาที่ต้องการแปล โดยเอาเมาส์ไปชี้ไว้ที่คานั้น
สักครู่ก็จะปรากฏคาแปลขึ้นมา

แต่ก่อนที่จะใช้งานทูลนี้คุณต้องไปเปิดการใช้งานและตั้งค่าในโปรแกรมชุดออฟฟิศ 2010 ก่อน ด้วยมีขั้นตอน


ดังนี้

1.คลิกไปที่เมนูริบบอน Review > Translate แล้วเลือก Mini Translator

2.ที่หน้าต่าง Translation Language Options ตรงหัวข้อ Choose Mini Translator Language ให้
คุณคลิกเลือกภาษาที่จะแปลที่ Translate to:

3.เมื่อเลือกได้แล้วก็คลิก OK
ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=56046
พิมพ์ภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นและสะดวกด้วย eType โปรแกรมช่วยสะกด
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่งที่ต้องยอมรับกันว่าใช้งานยากที่สุดคือ คีย์บอร์ด ถ้าหากคุณพิมพ์ดีดไม่เป็นและ
สะกดไม่ค่อยจะถูกละก็ งานพิมพ์จดหมายนัดกินข้าวให้เจ้านายคุณกับชู้สาวอาจจะเป็นหายนะได้

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเป็นนักเรียนหรือว่าเป็นเลขาฯ ที่ต้องพิมพ์เอกสารภาษาอังกฤษส่งงานบ่อยๆ ผมขอแนะนา


โปรแกรมขนาดเล็กๆ แค่ 416 KB ที่มีชื่อว่า eType เป็นโปรแกรม Freeware ที่จะช่วยในการคาดเดาคาศัพท์
ที่เราพิมพ์และแสดงผลออกมาให้ หรือพูดง่ายๆ มันคือ Autocomplete เหมือนใน Google นั้นเอง จุดที่
น่าสนใจกว่านั้นคือ มันมีพจนานุกรมสาหรับแปลภาษาอื่นๆ ได้ด้วย โปรแกรม eType สามารถใช้ง่ายได้กับ
หลายๆ โปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น Notepad หรือพวก Web Base Email คุณสามารถเลือกที่จะปิดหรือ
เปิด eType ได้ด้วยการกดปุ่ม Ctrl-F8
ลักษณะการทางานของ eType นั้น เวลาที่เราพิมพ์ข้อความอะไรเข้าไป 3 ตัวอักษร (ค่ามาตรฐานของ
โปรแกรม) มันจะมีหน้าต่างเล็กๆ สีขาวๆ พร้อมข้อความที่คาดว่าเราจะพิมพ์เข้าไป เป็นผู้ช่วยที่ดีมากถ้าหาก
เราจาเป็นต้องพิมพ์ภาษาอังกฤษบ่อยๆ และเราสะกดไม่ค่อยถูก สาหรับวิธีการสามารถดูจากวิดีโอด้านล่างกัน
ได้ครับ

ใครลองโหลดไปใช้แล้วมีประโยชน์อย่างไร ลองดูนะครับ ผมว่าต้องมีคนชอบมันแน่ๆ

เว็บไซต์ของผู้ผลิต : http://www.etype.com/

ลิงค์ดาวน์โหลดโปรแกรม : http://www.epyte.com/eTypeSetup.exe

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=54549
Backstage View ฟีเจอร์ที่ทาให้ Office 2010 น่าใช้ขึ้น
Backstage View คือฟีเจอร์หนึ่งของ Microsoft Office 2010 ที่แสดงรายละเอียดของไฟล์งานปัจจุบันที่คุณ
ทางานอยู่? สามารถเข้าไปดูได้โดยคลิกที่เมนู File และไปที่หัวข้อ Info ซึ่งจะเห็นรายละเอียดต่างๆ ที่แสดงอยู่
ทางไมโครซอฟต์เรียกว่า Backstage View

แต่นั้นเป็นสิ่งที่ผมรู้มาเมื่อทดลองใช้ Office 2010 ใหม่ๆ ตั้งแต่เป็นเวอร์ชัน Beta มาปัจจุบันเมื่อมีการใช้อย่าง


จริงจัง ก็พบว่าไมโครซอฟต์ไม่ได้สร้าง Backstage View มาแค่นี้ ยังมีหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ วันนี้จะมาแจ้ง
รายละเอียดกันดูว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้างที่ซ่อนอยู่

1.หาไฟล์ที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้น

ปกติเมื่อคุณทางานแค่วันสองวันก็มีไฟล์ผ่านคุณไปไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นสัปดาห์ผ่านไป ผมเชื่อว่าการจดจาชื่อ


และตาแหน่งที่อยู่ของไฟล์ คุณต้องอาจลืมบ้างหล่ะ คราวนี้เมื่อลืมก็ต้องเสียเวลาค้นหาไฟล์กัน Backstage
View ช่วยคุณได้

เพียงคุณไปที่แท็บเมนู File และเลือกคาสั่ง Recent ของโปรแกรมใน Office 2010 คุณจะพบกับรายชื่อไฟล์


ที่คุณใช้มาโดยเรียงจากไฟล์ล่าสุดที่ใช้ไว้อันดับบนสุดทั้งรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ และที่สาคัญคุณสามารถตั้ง
ค่าให้รายขื่อไฟล์ที่คุณได้ใช้ผ่านมาให้มาอยู่ในเมนู File ได้ไฟล์เพื่อความสะดวกไม่ต้องไปหาที่ Recent ก็ได้
โดยคลิกทาเครื่องหมายถูกที่ Quickly access this number of Recent Documents: พร้อมทัง้ คลิก
เลือกจานวนรายชื่อไฟล์ที่จะแสดง
2.กู้ไฟล์ที่ไม่ได้บันทึก

คุณเคยเปิดไฟล์ขึ้นมาทางาน แล้วปิดไปโดยไม่ได้เซฟเพราะคิดว่าไม่ต้องการหรือไม่สาคัญ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ


อยากเซฟเก็บไว้ แต่ได้ปิดโปรแกรมไปแล้ว ไม่ต้องเสียใจ Backstage View ช่วยคุณได้ เพราะมีฟีเจอร์
Recovery ไฟล์มาให้ใช้ด้วย

ให้คุณไปที่แท็บเมนู File และเลือกคาสั่ง Recent คุณจะพบคาสั่ง Recover Unsaved Documents ที่


ด้านล่าง (ใกล้กับ Quickly access this number of Recent Documents:) ให้คุณคลิกที่นี่ โปรแกรมจะ
เปิดโฟลเดอร์UnsavedFiles (C:\Users\augie\AppData\Local\Microsoft\Office\UnsavedFiles) ซึง่
จะมีไฟล์ที่ของคุณอยู่ คุณก็แค่เปิดขึ้นมาใช้งานต่อได้ (แล้วอย่างลืมเซฟไฟล์อีกหล่ะ)
3.สุดยอดคาสั่ง Info

ตามที่ได้กล่าวไว้มาแล้วข้างต้นว่า Backstage View คือฟีเจอร์ที่เอาไว้ดูรายละเอียดของไฟล์ Office 2010 ที่


ทางานอยู่ แต่รายละเอียดมีมากกว่านั้น

ให้คุณไปที่แท็บเมนู File และเลือกคาสั่ง Info ในคอลัมน์ด้านขวาคุณจะเห็นรายละเอียดไฟล์ที่บอกสิ่งต่างๆ


เช่น ขนาดไฟล์ จานวนคา วันที่ไฟล์ถูกสร้างขึ้น แก้ไขครั้งล่าสุด Print ครั้งล่าสุด ใครเป็นผู้สร้างและ ใครเป็นผู้
แก้ไขครั้งล่าสุด ยังมีความสามารถหรือเครื่องมือให้ใช้อีกได้แก่

 Protect Document- เอาไว้จัดการเรื่องการป้องกันไฟล์ที่ทางาน เช่น การใส่ Password ป้องกัน


การเปิด
 Check for Issues- เอาไว้ตรวจเช็ครายละเอียดไฟล์ก่อนที่คุณจะแชร์ไฟล์นี้ให้คนอื่นใช้ว่าการเข้ากัน
ได้หรือไม่ (Compatibility)
 Manage Versions- เป็นการตรวจสอบไฟล์ว่ามีการแก้ไขไฟล์มาก่อนหน้านี้ และจะย้อนกลับไปที่
ตาแหน่งนั้น เช่น การ Autosave ของไฟล์ , หรือปิดไฟล์โดยไม่ได้เซฟ
 Convert- สาหรับเครื่องมือนี้จะปรากฎขึ้น ต่อเมื่อคุณเปิดไฟล์ Office ที่เป็นเวอร์ชันต่ากว่า Office
2010 เพื่อแสดงให้คุณรู้ว่ากาลังใช้งานใน Compatibility Mode คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้แปลงให้
ไฟล์ที่กาลังทางานให้มาอยู่ในฟอร์เม็ตของ Office 2010 ได้
4.หลากหลายในการเซฟข้อมูล

Backstage View ของ Office 2010 เพิ่มความสะดวกสบายในรูปแบบการเซฟข้อมูล ทั้งชนิดของไฟล์และ


สถานที่หรือตาแหน่งที่เก็บไฟล์

เมื่อคุณคลิกที่แท็บเมนู File และเลือกคาสั่ง Save & Send คุณจะพบว่า Office 2010 ให้ความสาคัญใน
เรื่องการเซฟไฟล์มากเกินกว่าปกติทั่วๆไปด้วยซ้า

 Send Using E-mail – Office 2010 สามารถเซฟและส่งไฟล์แนบไปกลับ อี-เมล ได้อย่างสะดวก


พร้อมทั้งไฟล์ที่แนบไปก็สามารถแนบไปในหลายฟอร์แม็ต เช่น ไฟล์พื้นฐานของ Office 2010 , ไฟล์
PDF , ไฟล์ XPS หรือแม้กระทั้งส่งแนบเป็น FAX
 Save to Web ? Concept หลักของ Microsoft Office 2010 ก็คือทางานแบบ On Line ใน
อินเตอร์เน็ต ?ฉะนั้นจึงได้ใส่ฟีเจอร์นี้เข้าไปใน Office 2010 คุณสามารถเซฟข้อมูลของ Office 2010
ของคุณเข้าไปเก็บไว้ในอินเตอร์เน็ต โดยไมโครซอฟต์ได้เตรียมการไว้พร้อมโดยจัดพื้นที่ให้คุณเก็บไฟล์
ของคุณไว้ในโลกของออนไลน์นั้นคือ Windows Live คุณสามารถเซฟไฟล์ไว้ที่ Windows Live ณ ที่
หนึ่ง แต่สามารถเรียกใช้ได้ตลอดทุกเมื่อทุกสถานที่ในโลก ขอให้มีที่ออนไลน์เข้าอินเตอร์เน็ตเป็นพอ
 Save to SharePoint ? หากคุณทางานกับไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์หรือใช้ร่วมกันพื้นที่เว็บของบริษัทของ
คุณ คุณสามารถเปิดและบันทึกไฟล์ จากเพื่อนร่วมงานของคุณได้อย่างละดวกด้วยฟีเจอร์นี้
 Publish as Blog Post ? ฟีเจอร์นี้เหมาะสาหรับ Blogger ทั้งหลาย คุณสามารถส่งไฟล์ของคุณเข้า
ไปใน Blog ส่วนตัวหรือ Blog ภายในในบริษัทของคุณได้ Blogging ที่ซัพพอร์ทฟีเจอร์นี้ก็มี อาทิ เช่น
SharePoint Blog, WordPress, Blogger, Windows Live Spaces, Community Server
 Change File Type ? Office 2010 สามารถเซฟไฟล์ในเป็นฟอร์แม็ตต่างๆ ได้อย่างง่ายได้ ไม่ว่าจะ
เป็น Office ในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ หรือ ไฟล์ Web Page แม้กระทั้ง ไฟล์ของ Openoffice ก็ทาได้
 Create PDF/XPS Document เมื่อกล่าวถึง PDF คุณๆ ทั้งหลายจะรู้จักไฟล์นี้ดี เป็นไฟล์เอกสารที่
ใช้ส่งให้กันทั่วโลก เพราะเป็นไฟล์ที่สามารถใช้งานได้ทุกระบบปฎิบัติการ เมื่อ Office เวอร์ชันก่อน
จะทาไม่ได้ แต่สาหรับ Office 2010 ถึอว่าเป็นเรื่องจิ๊บๆ ส่วน XPS เป็นไฟล์เอกสารรูปแบบหนึ่งที่
พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ เพื่อมาต่อกรกับ PDF แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่เป็นที่นิยมนัก ถ้า
เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ XPS เป็นไฟล์ประเภทเดียวกับไฟล์ PDF นั้นเอง
5.ปรีวิวและพิมพ์ในขั้นตอนเดียว

ใน Office 2010 การแสดงตัวอย่างงานที่พิมพ์และคาสั่งพิมพ์ คุณสามารถเห็นและทาได้ในขั้นตอนเดียว เพียง


แค่คลิกแท็บเมนู File เลือกคาสั่ง Print คุณจะเห็นตัวอย่างเอกสารปรากฏขึ้นทางด้านขวาของหน้าต่าง ซึ่ง
สามารถย่อหรือขยายได้โดยคลิกเครื่องหมาย ลบหรือบวก ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนที่คุณสามารถ
เปลี่ยนแปลงค่าต่างๆ ในการพิมพ์ได้ เมื่อปรับแต่งตามที่ต้องการแล้วก็แค่คลิกที่ปุ่ม Print เพื่อพิมพ์งานของ
คุณ

ที่มา : http://notebookspec.com/web/?p=40254

You might also like