Professional Documents
Culture Documents
การจัดการเรียนรู้ สําหรับการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
เรื่ อง การประยุกต์ อนุพนั ธ์ โดยใช้ กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา
กษิตธร ขวัญละมูล วราภรณ์ จาตนิล และ ธารี รัตน์ ธนัตถ์พาณิ ชย์
1 2 3
บทคัดย่ อ
การวิจยั ครั้งนี้ มีวตั ถุประสงค์เพื่อพัฒนาการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ของนักศึกษาทั้งทางด้าน
ทักษะการเชื่ อมโยงในการสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์ จากปั ญหาในชี วิตจริ งและทักษะการ
แก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ เรื่ อง การประยุกต์อนุ พนั ธ์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ
จอมเกล้าธนบุรี ที่ ได้รับการจัดการเรี ยนรู ้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิ ดของโพลยา
รวมถึ งศึ กษาพฤติ กรรมในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ที่ส่งผลให้นักศึ กษามี พฒั นาการในการ
แก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ในการจัดการเรี ยนรู ้ทางคณิ ตศาสตร์น้ ี นักศึกษาจะได้เรี ยนรู ้กระบวนการ
แก้ปัญหาและกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่ งคําตอบที่ถูกต้องพร้อมทั้ง
คําอธิ บายที่ชดั เจน รวมไปถึ งนักศึกษายังได้มีโอกาสเผชิ ญกับปั ญหาในชี วิตจริ งแล้วลงมื อฝึ กฝน
พร้อมกับเพิ่มเติมประสบการณ์ในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ดว้ ยตนเอง นอกจากนี้ นกั ศึกษายัง
ได้มีส่วนร่ วมในการลงมือแก้ปัญหาเป็ นกลุ่ม ตลอดจนมีส่วนร่ วมในการอภิปรายและนําเสนอผล
การแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ใ นชั้นเรี ย น กลุ่ ม ตัว อย่างที่ ใ ช้ใ นการวิจ ัย ในครั้ งนี้ เป็ นนัก ศึ ก ษา
มหาวิ ท ยาลัย เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้า ธนบุ รี ที่ ไ ด้ล งทะเบี ย นเรี ย นในรายวิ ช า MTH 101
MATHEMATICS I ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 ซึ่ งเป็ นนักศึกษาอาสาสมัครจํานวน 30 คน
ผลการวิจยั พบว่า แผนการจัดการเรี ยนรู ้มีประสิ ทธิ ภาพ 62.22/74.39 และจากการเปรี ยบเทียบผล
คะแนนของแบบทดสอบก่ อ น-หลังเรี ยนของนักศึ กษา เรื่ อง การประยุก ต์อนุ พนั ธ์ ที่ ไ ด้รับการ
จัดการเรี ยนรู ้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิ ดของโพลยา พบว่า นักศึ กษามี ทกั ษะการ
เชื่อมโยงในการสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์จากปัญหาในชีวิตจริ งและทักษะการแก้ปัญหาทาง
คณิ ตศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนยั สําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
คําสํ าคัญ: กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา, ทักษะการเชื่ อมโยงทางคณิ ตศาสตร์ ,
ทักษะการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์, การประยุกต์อนุพนั ธ์
1
นักศึกษาหลักสู ตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2, 3
อาจารย์ประจําภาควิชาคณิ ตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
อีเมล: sicstsaint@gmail.com, waraporn.chat@kmutt.ac.th, tareerat@yahoo.com.
1.2 สมมติฐานในการวิจยั
1. แผนการจัดการเรี ยนรู ้ เรื่ อง การประยุกต์อนุพนั ธ์ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา
มีประสิ ทธิ ภาพตามเกณฑ์ 60/60
2. นักศึ กษาที่ ได้รับการจัดการเรี ยนรู ้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิ ดของโพลยา มี ทกั ษะการ
เชื่อมโยงในการสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์จากปัญหาในชีวิตจริ งเพิ่มขึ้นอย่างมีนยั สําคัญทางสถิติที่ระดับ
0.01
3. นักศึ กษาที่ ได้รับการจัดการเรี ยนรู ้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิ ดของโพลยา มี ทก
ั ษะการ
แก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนยั สําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
2.3 การประเมินผลการเรียนรู้
ในการประเมินผลการเรี ยนรู ้สําหรับการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ เป็ นขั้นตอนหนึ่ งของการจัดการเรี ยนรู ้ที่ทาํ
ให้ผสู ้ อนทราบว่า นักศึกษาได้เรี ยนรู ้และบรรลุตามจุดประสงค์มากน้อยเพียงใด และถือว่าเป็ นสิ่ งสําคัญที่ผสู ้ อน
ทุกคนต้องทราบว่าแต่ละการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ของนักศึกษาจะมีข้ นั ตอนการประเมินผลอย่างไร ไม่ใช่
เพียงแค่ดูผลลัพธ์ของนักศึกษาเพียงเท่านั้น แต่ยงั ต้องคํานึงถึงกระบวนการคิด/ขั้นตอนการคิดในแต่ละขั้นตอนที่
นักศึ กษาได้ทาํ มาด้วย โดย ชาร์ ลส์ เลสเตอร์ และโอดาฟเฟอร์ [6] ได้เสนอแนวทาง/วิธีการประเมินผลการ
แก้ปัญหาไว้ 4 ประการ ได้แก่ 1) การสังเกตและการใช้คาํ ถาม (Observing and Questioning) 2) การใช้ขอ้ มูล
การวัดผลของนักศึกษา (Using Self-Assessment Data from Students) 3) การให้คะแนนแบบรู บริ ก (Rubric
Scoring) และ 4) การใช้แบบทดสอบ (Using Tests)
สําหรับในงานวิจยั ครั้งนี้ ผูว้ ิจยั ใช้การให้คะแนนแบบวิเคราะห์ (Analytic Scoring) ซึ่ งเป็ นการให้คะแนนแบบ
หนึ่งของการให้คะแนนแบบรู บริ ก เพื่อประเมินทักษะการเชื่อมโยงในการสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์ จาก
ปัญหาในชีวิตจริ งและทักษะการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ในการทําความเข้าใจปั ญหาทางคณิ ตศาสตร์ กลยุทธ์
ในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ และการค้นหาคําตอบที่ถูกต้องพร้อมทั้งคําอธิ บายที่ชดั เจนของนักศึกษาก่อน
และหลังได้รับการจัดการเรี ยนรู ้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา เรื่ อง การประยุกต์อนุพนั ธ์
3 วิธีการดําเนินงานวิจยั
3.1 แนวทางในการจัดการเรียนรู้ ทางคณิตศาสตร์
เพื่ อศึ กษาทักษะการเชื่ อมโยงในการสร้ างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์ จากปั ญหาในชี วิตจริ งและทักษะการ
แก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ รวมถึงพฤติกรรมในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ของนักศึ กษาที่ได้รับการจัดการ
เรี ยนรู ้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิ ดของโพลยาผูว้ ิจยั ได้แบ่งการจัดการเรี ยนรู ้ทางคณิ ตศาสตร์ น้ ี
ออกเป็ น 4 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 (คาบเรี ยนที่ 1), ช่วงที่ 2 (คาบเรี ยนที่ 2 - 6), ช่วงที่ 3 (คาบเรี ยนที่ 7 - 11) และ
ช่วงที่ 4 (คาบเรี ยนที่ 12) โดยแต่ละช่วงมีรายละเอียดการจัดการเรี ยนรู ้ทางคณิ ตศาสตร์ดงั ตารางที่ 1
2–3
สอน เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ + สร้างสถานการณ์จาํ ลอง (กลุ่ม)
โจทย์ปัญหา เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ 1 (นํ้ามันปาล์ม)
นําเสนอแนวคิดของปัญหาหน้าชั้นเรี ยน (สุ่ ม)
ทบทวนความรู ้ เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ + สร้างสถานการณ์จาํ ลอง
4–5 โจทย์ปัญหา เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ 2 (นาฬิกาทราย) (กลุ่ม)
นําเสนอแนวคิดของปัญหาหน้าชั้นเรี ยน (สุ่ ม)
ทบทวนความรู ้ เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ + เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
6 โจทย์ปัญหา เรื่ อง อัตราสัมพัทธ์ 3 (สิ นค้าในโกดัง) (เดี่ยว)
7–8
สอน เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุด + สร้างสถานการณ์จาํ ลอง (กลุ่ม)
โจทย์ปัญหา เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด 1 (ช่วยแม่ที)
นําเสนอแนวคิดของปัญหาหน้าชั้นเรี ยน (สุ่ ม)
ทบทวนความรู ้ เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด + สร้างสถานการณ์จาํ ลอง
9 – 10 โจทย์ปัญหา เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด 2 (สร้างอย่างไร...ให้ถูกที่สุด) (กลุ่ม)
นําเสนอแนวคิดของปัญหาหน้าชั้นเรี ยน (สุ่ ม)
ทบทวนความรู ้ เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด + เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
11 โจทย์ปัญหา เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด 3 (โปรโมชัน่ ทัวร์) (เดี่ยว)
4 ผลการศึกษา
ผูว้ ิ จัย ได้ท าํ การเก็บรวบรวมข้อมู ลแล้วนํา มาวิ เ คราะห์ ท้ งั เชิ งปริ มาณและเชิ งคุ ณ ภาพ โดยนํา เสนอผลการ
วิเคราะห์ขอ้ มูล ดังนี้
เรี ยนรู ้ระหว่างการจัดการเรี ยนรู ้ซ่ ึ งอยูใ่ นรู ปค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนจากการทําแบบทดสอบย่อย ครั้งที่ 1 เรื่ อง
อัตราสัมพัทธ์ และ แบบทดสอบย่อยครั้งที่ 2 เรื่ อง ค่าสู งสุ ดและค่าตํ่าสุ ด(E ) และประสิ ทธิ ภาพของแผนการ
1
ระหว่ างการจัดการเรียนรู้
แบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 30 15 202.5
รวม 30 560
หลังการจัดการเรียนรู้
แบบทดสอบหลังเรี ยน 30 30 669.5 74.39
62.22 ส่ วนประสิ ทธิ ภาพของแผนการจัดการเรี ยนรู ้หลังจากการจัดการเรี ยนรู ้ (E ) คิ ดเป็ นร้อยละ 74.39 จะเห็น
2
4.2.2 การทดสอบสมมติฐาน
ในการทดสอบสมมติ ฐานการวิจยั ที่ ว่า นักศึ กษาที่ ได้รับการจัดการเรี ยนรู ้ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตาม
แนวคิดของโพลยา มีทกั ษะการเชื่ อมโยงในการสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์ จากปั ญหาในชี วิตจริ งเพิ่มขึ้น
อย่างมีนยั สําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และทักษะการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนยั สําคัญทางสถิติ
ที่ระดับ 0.01 ผูว้ ิจยั ได้ทดสอบสมมติฐานการวิจยั ด้วยโปรแกรมสําเร็ จรู ป SPSS โดยใช้คาํ สั่ง Paired Sample
T-test ภายใต้สมมติฐานทางสถิติ ที่วา่ H : 𝜇1 = 𝜇2 , H : 𝜇1 < 𝜇2
0 1
คะแนนหลังเรี ยน -
30 10 1.97 8.28 6.32 2.36 14.65 0.000
คะแนนก่อนเรี ยน
คะแนนหลังเรี ยน -
30 30 2 22.32 2.08 4.32 26.40 0.000
คะแนนก่อนเรี ยน
6 ข้ อเสนอแนะจากการทําวิจยั
1) ควรเพิ่มเติ มกิ จกรรมที่ ส่งเสริ มให้ผูเ้ รี ยนพิจารณาความสัมพันธ์ของตัวแปร/ปั จจัยต่ าง ๆ ที่ มีความ
หลากหลาย เช่น ปัญหาที่มีความสัมพันธ์ท่ีใช้สมบัติทางตรี โกณมิติ
2) ควรเพิ่ มเติ มความหลากหลายของลักษณะปั ญหา เพื่ อที่ จะสามารถสังเกตพฤติ กรรมการแก้ปัญหา
การเลือกใช้กลยุทธ์ของผูเ้ รี ยนในปัญหาที่แตกต่างกัน
3) ผูส้ อนควรมีบทบาทในการกระตุน้ สําหรับการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ของผูเ้ รี ยนในแต่ละด้านทั้ง
ทางด้านการทําความเข้าใจปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ด้านการเลือกใช้กลยุทธ์ในการแก้ปัญหาทางคณิ ตศาสตร์ ด้าน
การสร้างแบบจําลองทางคณิ ตศาสตร์ จากปั ญหาในชี วิตจริ ง และด้านการค้นหาคําตอบได้อย่างถูกต้องพร้อมทั้ง
คําอธิ บายที่ชดั เจน